สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ การลงทุนสไตล์ของผมเองนะครับ
เริ่มจากประวัติก่อน ผมเอง เป็นพนักงานเงินเดือน ที่พอมีเวลาเปิดดูหน้าซื้อขายได้บ้าง มีความรู้ด้านการลงทุนอยู่พอตัว
ท้าวความนิดนึง เนื่องจากก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปีที่แล้ว ผมเองเคยเข้ามาในตลาดแล้วรอบนึงในฐานะมือใหม่ เริ่มต้นที่ทุน 20,000 บาท เป็นบัญชี cash balance บอกได้เลยว่า เงิน 20,000 กับการลงทุนในหุ้นนั้น มันน้อยจริงๆ ซื้อไม่กี่ตัวเงินก็หมดแล้ว อีกทั้งเจอค่าคอมขึ้นต่ำ ที่ทำให้กำไรหดหายไปเยอะทีเดียว รูปแบบการลงทุนจึงต้องเปลี่ยนไปเน้นหุ้นที่ใช้เงินน้อย ผลตอบแทนสูง จึงหันไปซื้อหุ้น DW แทนหุ้นทั่วไป
//หลายคนคงรู้จักอยู่แล้วว่า DW เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน ส่วนคนที่ไม่รู้จัก ลอง Search อ่านกระทู้ใน pantip ดูก็ได้//
แม้ว่าจะเสี่ยงแค่ไหน แต่ช่วงนั้น ในระยะเวลาไม่กี่เดือนผมก็ทำกำไรจากมันได้เกือบ 5,000 (ประมาณ 25% ของ port เลยทีเดียว) แต่แล้วความโลภก็เข้าครอบงำ และความมั่นใจคิดว่าตัวเองเก่ง จึงลงเงินเพิ่มไปอีก 10,000 และก็ยังเล่นแนวเดิม คือ เน้น DW อย่างเดียว
แต่ความโชคดีนั้นไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป เมื่อผมเดาผิดทางรวมทั้งการไม่ยอมแพ้โดยซื้อถัวเฉลี่ยเข้าไป จากเจ็บนิดๆ กลายมาเป็นเข้าเนื้อ เพียงไม่กี่วันเท่านั้น จาก port ประมาณ 37,000 กลับลดลงเหลือ 25,000 ผมแทบสิ้นหวัง และหมดกำลังใจในการเล่นหุ้นไปมาก
ผมขายทิ้งหมด แล้วกลับมาถามตัวเองว่าที่เล่นแนวนี้มันใช่แล้วหรือ ที่ต้องเสียเวลาและเครียดอย่างนี้ จึงตัดสินใจพัก และเอาเวลาเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
เวลาผ่านไป ประมาณ 1 ปี ที่ได้กลับไปทำงานและเคลียร์ปัญหาชีวิต จนวันหนึ่ง ไปเจอข้อมูลว่า มี Broker ที่สามารถซื้อขายโดยไม่มีค่าคอมขั้นต่ำ
ผมดีใจมากที่จะได้ซื้อหุ้น วันละ 100-200 หุ้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าคอม จึงได้เปิด port Cash Balance กับ Broker ใหม่
ผมได้วางแผนการลงทุนไว้ โดยเริ่มจากเงินเริ่มต้น 5000 และค่อยๆเพิ่มทุกเดือน เดือนละ 2000-3000 ค่อยๆ มีเงินซื้อหุ้นได้เรื่อยๆ จนปัจจุบันครบ 1 ปีพอดี
ในช่วงแรกนั้น ก็ยังติดนิสัยเดิม ซื้อ DW มาเล่นอยู่ แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
DW ในปัจจุบัน เล่นยากกว่าสมัยก่อนมาก Price Maker เคี้ยวและมี Tactic มากมาย จึงเลิกเล่น DW ถาวร แล้วหันไปเน้นซื้อหุ้นต่ำ10 แทน
ผมเน้นซื้อหุ้นที่ PE ต่ำ ผลประกอบการดี มีปันผลดี ซึ่งเป็นโชคดีในวิกฤติที่ช่วงเริ่มซื้อของผมนั้นมีการปฏิวัติรัฐบาล ทำให้ผมได้หุ้นบางตัวมาในราคาถูก
หุ้นบางตัวที่ซื้อ ค่อยโตขึ้นเรื่อยๆ ตามผลการดำเนินงานของบริษัท บางตัวก็ซื้อไปตาม Cycle ของตลาด บางตัวก็ซื้อตามข่าว และบางตัวก็ซื้อตาม กราฟ Technic ซึ่งมีคำพูดสำคัญ ที่ผมใช้เป็นคติสอนใจในการลงทุนของผมเช่น
"ซื้อด้วยเหตุผลอะไร ขายด้วยเหตุผลนั้น" ซื้อตามข่าว หมดข่าวก็ขาย ซื้อด้วยกราฟ trend เปลี่ยนก็ขาย ซื้อด้วยปัจจัยพื้นฐาน พื้นฐานเปลี่ยนก็ขาย
"คิดต่าง แต่อย่าไปขวางโลก" ถ้ามันจะลงก็อย่าไปสวนทางมัน ใช้เวลาพิจาณาเพื่อหาจุดต่ำสุดก่อน
"ซื้อถูก ขายแพง จึงได้กำไร" โดยพยายามหาจุดเข้าซื้อที่ถูกที่สุดในตอนนั้นไว้ก่อน ก็จะได้เห็น port สีเขียวๆ สบายตา สบายใจ

**port เมื่อหลายเดือนก่อน
แต่ก็อย่างที่เห็นในรูปแรกด้านบนนั้นแหละครับ 1 ปี ที่ผ่านมา เจอเหตุการณ์แปลกๆ มากมายที่ทำให้กำไรที่ควรจะได้ หายในไม่กี่วัน แต่ก็ยังยืนอยู่เหนือ SET นิดหน่อย เดี๋ยวต่อไป Port โตขึ้น ลงทุนมากขึ้น แรงกดดันก็คงเพิ่มขึ้นก็ยังไม่แน่ใจว่า จะรักษาระดับกำไรแบบนี้ได้นานแค่ไหน
ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านการแชร์ประสบการณ์ของผมนะครับ
ระยะเวลา 1 ปี กับการเข้ามาตลาดเป็นครั้งที่ 2
เริ่มจากประวัติก่อน ผมเอง เป็นพนักงานเงินเดือน ที่พอมีเวลาเปิดดูหน้าซื้อขายได้บ้าง มีความรู้ด้านการลงทุนอยู่พอตัว
ท้าวความนิดนึง เนื่องจากก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปีที่แล้ว ผมเองเคยเข้ามาในตลาดแล้วรอบนึงในฐานะมือใหม่ เริ่มต้นที่ทุน 20,000 บาท เป็นบัญชี cash balance บอกได้เลยว่า เงิน 20,000 กับการลงทุนในหุ้นนั้น มันน้อยจริงๆ ซื้อไม่กี่ตัวเงินก็หมดแล้ว อีกทั้งเจอค่าคอมขึ้นต่ำ ที่ทำให้กำไรหดหายไปเยอะทีเดียว รูปแบบการลงทุนจึงต้องเปลี่ยนไปเน้นหุ้นที่ใช้เงินน้อย ผลตอบแทนสูง จึงหันไปซื้อหุ้น DW แทนหุ้นทั่วไป
//หลายคนคงรู้จักอยู่แล้วว่า DW เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน ส่วนคนที่ไม่รู้จัก ลอง Search อ่านกระทู้ใน pantip ดูก็ได้//
แม้ว่าจะเสี่ยงแค่ไหน แต่ช่วงนั้น ในระยะเวลาไม่กี่เดือนผมก็ทำกำไรจากมันได้เกือบ 5,000 (ประมาณ 25% ของ port เลยทีเดียว) แต่แล้วความโลภก็เข้าครอบงำ และความมั่นใจคิดว่าตัวเองเก่ง จึงลงเงินเพิ่มไปอีก 10,000 และก็ยังเล่นแนวเดิม คือ เน้น DW อย่างเดียว
แต่ความโชคดีนั้นไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป เมื่อผมเดาผิดทางรวมทั้งการไม่ยอมแพ้โดยซื้อถัวเฉลี่ยเข้าไป จากเจ็บนิดๆ กลายมาเป็นเข้าเนื้อ เพียงไม่กี่วันเท่านั้น จาก port ประมาณ 37,000 กลับลดลงเหลือ 25,000 ผมแทบสิ้นหวัง และหมดกำลังใจในการเล่นหุ้นไปมาก
ผมขายทิ้งหมด แล้วกลับมาถามตัวเองว่าที่เล่นแนวนี้มันใช่แล้วหรือ ที่ต้องเสียเวลาและเครียดอย่างนี้ จึงตัดสินใจพัก และเอาเวลาเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
เวลาผ่านไป ประมาณ 1 ปี ที่ได้กลับไปทำงานและเคลียร์ปัญหาชีวิต จนวันหนึ่ง ไปเจอข้อมูลว่า มี Broker ที่สามารถซื้อขายโดยไม่มีค่าคอมขั้นต่ำ
ผมดีใจมากที่จะได้ซื้อหุ้น วันละ 100-200 หุ้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าคอม จึงได้เปิด port Cash Balance กับ Broker ใหม่
ผมได้วางแผนการลงทุนไว้ โดยเริ่มจากเงินเริ่มต้น 5000 และค่อยๆเพิ่มทุกเดือน เดือนละ 2000-3000 ค่อยๆ มีเงินซื้อหุ้นได้เรื่อยๆ จนปัจจุบันครบ 1 ปีพอดี
ในช่วงแรกนั้น ก็ยังติดนิสัยเดิม ซื้อ DW มาเล่นอยู่ แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
DW ในปัจจุบัน เล่นยากกว่าสมัยก่อนมาก Price Maker เคี้ยวและมี Tactic มากมาย จึงเลิกเล่น DW ถาวร แล้วหันไปเน้นซื้อหุ้นต่ำ10 แทน
ผมเน้นซื้อหุ้นที่ PE ต่ำ ผลประกอบการดี มีปันผลดี ซึ่งเป็นโชคดีในวิกฤติที่ช่วงเริ่มซื้อของผมนั้นมีการปฏิวัติรัฐบาล ทำให้ผมได้หุ้นบางตัวมาในราคาถูก
หุ้นบางตัวที่ซื้อ ค่อยโตขึ้นเรื่อยๆ ตามผลการดำเนินงานของบริษัท บางตัวก็ซื้อไปตาม Cycle ของตลาด บางตัวก็ซื้อตามข่าว และบางตัวก็ซื้อตาม กราฟ Technic ซึ่งมีคำพูดสำคัญ ที่ผมใช้เป็นคติสอนใจในการลงทุนของผมเช่น
"ซื้อด้วยเหตุผลอะไร ขายด้วยเหตุผลนั้น" ซื้อตามข่าว หมดข่าวก็ขาย ซื้อด้วยกราฟ trend เปลี่ยนก็ขาย ซื้อด้วยปัจจัยพื้นฐาน พื้นฐานเปลี่ยนก็ขาย
"คิดต่าง แต่อย่าไปขวางโลก" ถ้ามันจะลงก็อย่าไปสวนทางมัน ใช้เวลาพิจาณาเพื่อหาจุดต่ำสุดก่อน
"ซื้อถูก ขายแพง จึงได้กำไร" โดยพยายามหาจุดเข้าซื้อที่ถูกที่สุดในตอนนั้นไว้ก่อน ก็จะได้เห็น port สีเขียวๆ สบายตา สบายใจ
**port เมื่อหลายเดือนก่อน
แต่ก็อย่างที่เห็นในรูปแรกด้านบนนั้นแหละครับ 1 ปี ที่ผ่านมา เจอเหตุการณ์แปลกๆ มากมายที่ทำให้กำไรที่ควรจะได้ หายในไม่กี่วัน แต่ก็ยังยืนอยู่เหนือ SET นิดหน่อย เดี๋ยวต่อไป Port โตขึ้น ลงทุนมากขึ้น แรงกดดันก็คงเพิ่มขึ้นก็ยังไม่แน่ใจว่า จะรักษาระดับกำไรแบบนี้ได้นานแค่ไหน
ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านการแชร์ประสบการณ์ของผมนะครับ