ชวนมา Review Anime Winter 2015 ที่พึ่งจบไปกันครับ

ซีซั่นแรกของปีจบไปแล้ว อนิเมซีซั่นใหม่ก็เริ่มทยอยฉายกันแล้ว
มารีวิวอนิเมที่ตัวเองดูจบไปซีซั่นก่อนกันครับ



ของซีซั่นนี้ผมดูจบไปอยู่ไม่กี่เรื่อง ตามนี้ครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดองอยู่ : Nanatsu no Taizai, Sailor Moon (ยังไม่จบ)


The Rolling Girls (6.5/10)


เป็นเรื่องของเด็กสาว 4 คน ที่มารวมกลุ่ม ทำหน้าที่ออกเดินทางไปช่วยผู้คนตามคำขอ แทน "ฮีโร่" ที่ตัวนางเอกนับถือซึ่งบาดเจ็บอยู่

การดำเนินเรื่อง ก็จะแบ่งเป็นบทๆ ไป โดยมีฉากเป็นประเทศญี่ปุ่นตามสถานที่ต่างๆ ทั้งโตเกียว เกียวโต ฮิโรชิมะ ฯลฯ

เป็นเรื่องที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าดูจบไปได้ยังไง เนื้อเรื่องมั่วโคตรๆ จะบอกว่าพล็อตหลักแทบไม่มีเลยก็ได้ งานภาพช่วงตอนท้ายๆ ก็เผามาก เผาโคตรๆ ตัวเอกแต่ละคนก็บทไม่ได้โดดเด่น กลับกันที่บทเด่นจะเป็นตัวละครที่พวกตัวเอกไปช่วยเหลือ (ซึ่งก็แทบไม่ได้ช่วยอะไร) ในแต่ละบทมากกว่า

ส่วนตัวมีดีอยู่แค่เพลงเพราะ กับฉากบู๊ที่ทำได้สนุกจริงๆ


Anime de Wakaru Shinryounaika (7/10 >> ยังไม่จบ)


อนิเมสั้นตอนละ 5 นาทีที่ดัดแปลงมาจากมังงะ Manga de Wakaru Shinryounaika เป็นเรื่องที่ให้ความรู้เกื่ยวกับอาการป่วยทางจิตต่างๆ เช่น อาการนกเขาไม่ขัน พวกโลลิค่อน โรคนอนไม่หลับ ฯลฯ พร้อมมุกตลกฮาๆ เสื่อมๆ ครับ ดูเพลินๆ แถมได้ความรู้อีกต่างหาก


Dog Days'' (7/10)


ภาค 3 ของอนิเมแนวผจญภัยแฟนตาซี + หูสัตว์ ด้านเนื้อเรื่องดูดีกว่าภาค 2 ส่วนด้านเซอร์วิสรู้สึกว่าจะน้อยกว่า แต่มาแต่ละครั้ง โหดกว่าอนิเมเซอร์วิสหลายๆ เรื่องอีก

ยังเป็นเรื่องที่ดูเพลินๆ ได้เหมือนเดิม โดยภาคนี้กระจายบทไปที่ตัวละครรองๆ + ตัวละครใหม่ซะเยอะ จนตัวเอกอย่างพวกผู้กล้า และหมาชมพูไม่เด่นเลย


Kantai Collection (7.5/10 >> เฉพาะตอน 6 ให้ 10/10 )


อนิเมโปรโมทเกมที่แต่เดิมก็มีคนเล่น(ป่วย)เยอะอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่จับเอาเรือรบญี่ปุ่นมาแปลงเป็นสาวน้อย แล้วดำเนินเรื่องอ้างอิงตามเกม (และประวัติศาสตร์จริง)

เนื้อเรื่องจะมีทั้งเรื่อยเปื่อย ปนๆ กับช่วงที่มีเนื้อหาจริงจัง โดยผมจะชอบตรงช่วงที่เฮฮาปาร์ตี้กันมากกว่า ด้านงานภาพทำได้โอเคดี ฉากที่ใช้ 3D ก็ใช้ได้

พอดูจนจบแล้ว ในฐานะที่ตัวผมก็ป่วยเรือ ก็รู้สึกว่ามันไว้โปรโมทเกมจริงๆ คือถ้าไม่ได้เป็นผู้การป่วยเรืออยู่ก่อนแล้ว หรือชอบสาวๆ แนว Mecha-musume  ผมว่าดูเรื่องนี้ไม่น่าจะสนุกเท่าไรนะ

แต่ยังไงแฟนๆ เกมนี้ก็เยอะอยู่แล้ว ก็เลยมีประกาศซีซั่น 2 ไปเรียบร้อย

ปล. เพลงเปิด Miiro เพราะดี ฟังสนุกด้วย


Log Horizon 2 (8/10)


อนิเมแนวหลุดเข้าไปในเกมออนไลน์ภาคต่อ เนื้อเรื่องช่วง 3-4 ตอนแรก ดูงงๆ ข้ามไปมา แต่หลังจากนั้นก็กลับมาคล้ายๆ ภาคแรก

สิ่งที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นการร่วมสู้แบบ Party หรือรวมทีมกันไป Raid Boss ซึ่งให้อารมณ์แบบดูคนกำลังเล่นเกมออนไลน์สุดๆ ดูเพลินมากๆ แต่พอวนมาเข้าเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวกับสู้มอนสเตอร์แล้ว รู้สึกมันหนืดๆ กว่าภาคแรกจนชวนง่วงชอบกล มีช่วงท้ายๆ จนถึงตอนจบนี่แหละ ที่น่าติดตามมาก แถมจบอย่างค้างคาจนอยากที่จะดูต่อเร็วๆ เลย

ยังไม่มีประกาศภาค 3 เพราะเห็นว่าทำทันนิยายแล้ว ก็รอกันอีกยาวๆ ครับ


Saenai Heroine no Sodatekata (8.5/10)


ทีแรกจะไม่ดูเรื่องนี้ เพราะเรื่องย่อ + แนวเรื่องที่คิดว่าเป็นฮาเร็มสงครามอวยดาดๆ ทั่วไป แต่พอลองเอามาดูจริงๆ แล้วสนุกกว่าที่คิดเยอะ สนุกมากด้วย (แต่สาวๆ ดูคงไม่สนุกมั้ง?) แถมเท่าที่เข้ากระทู้สปอยล์ มีหลายคนเลยที่ไม่ได้ชอบแนวฮาเร็ม แต่ก็ดูเรื่องนี้สนุกเหมือนกัน

เป็นเรื่องของพระเอกที่เป็นโอตาคุ ที่ต้องการรวมกลุ่มสร้างเซอร์เคิลขึ้นมา เพื่อสร้างเกมจีบสาว ที่มีเพื่อนสาวแสนจืดจางในชีวิตจริง เป็นต้นแบบนางเอกในเกม

ตัวเรื่องก็ดำเนินไปโดยแบ่งเป็น 3 ช่วง ให้สาวๆ แต่ละคนมีบทเด่น (แต่นางเอกหลักจืดจาง คาโต้ เมกุมิมีบทแทรกมาทั้งเรื่องอย่างจืดๆ?) คาแรคเตอร์สาวๆ แต่ละคนมีเสน่ห์ซะจนเลือกอวยกันแทบไม่ถูก เซอร์วิสก็ทำออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง ดึงดูดสายตามาก จะมีก็แค่ของมิจิรุ ที่รู้สึกจะเน้นมุมภาพเซอร์วิสมากไปหน่อย

จะบอกว่าเป็นอนิเมฮาเร็มเซอร์วิสที่แปลกๆ นิดนึงก็ได้ เพราะไม่เห็นมีสงครามกองอวยเลย คงเพราะนางเอกมันล็อกไว้อย่างจืดจางอยู่แล้วด้วย แถมเป็นแนวฮาเร็มเซอร์วิส ที่ตบมุกตัวเองได้เจ็บแสบดีด้วย


Shigatsu wa Kimi no Uso (9.5/10)


อนิเมดราม่านักดนตรี ความสนุกครึ่งหลังขึ้นๆ ลงๆ ตามโทนเนื้อเรื่อง ดราม่าของแต่ละคนไม่น้อยไม่มากเกินไปนัก อนิเมทำออกมาให้คนดูอินไปกับตัวละครได้ดี

นางเอกทั้ง 2 คนของเรื่องนี้ ผมชอบทั้งคู่เลย โดยเฉพาะตัวละครเพื่อนสมัยเด็กอย่างสึบากิ เป็นความสัมพันธ์แบบถึงใกล้ชิดที่สุด แต่กลับเหมือนห่างไกลที่สุด

ส่วนคาโอรินั้น ครึ่งหลังมาบทน้อยไปหน่อย ไปเน้นตรงดราม่าแทน แต่ผมชอบความมีพลัง ความพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง แต่ก็ต้องการที่พึ่งพิงอย่างคาโอริเหมือนกัน

ส่วนไฮไลท์ที่เพลงประกอบ ยังคงระดับความเพราะเหมือนช่วงแรก ไม่ตกลงไปเลย

ตอนจบขัดใจกับการเล่นภาพของอนิเมนิดหน่อย แต่นับว่าเป็นเรื่องที่จบสวย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ไม่ Happy Ending เท่าไร เรื่องนึงเลย

ปล. พึ่งเห็นว่าเรื่องนี้ใน MAL ได้ #14 เลยแฮะ สมควรแล้วล่ะ


Death Parade (9.9/10)


เป็นอนิเมตลกที่มี OP ดักควายที่สุดในซีซั่น เป็นเรื่องที่ต่อยอดมาจาก Death Billiard ที่เป็นอนิเมจาก Anime Mirai 2013 การดำเนินเรื่องจะเป็นแบบให้คน 2 คนมาเล่นเกมแข่งกัน โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน เนื้อหาของเรื่องนี้ค่อนข้างหนักหัวซักหน่อย ใครที่อยากดูเรื่องที่ผ่อนคลายให้ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยครับ (ถึงจะมีตอนฮาอยู่ตอนนึงก็เถอะ)

เฉพาะด้านเนื้อหา ผมว่าเป็นเรื่องที่เนื้อหาดีมากๆ เรื่องนึงเลย โดยจะเกี่ยวกับ "ชีวิต" ซะส่วนใหญ่ อนิเมช่วงแรกๆ ก็ทำเป็นแบบจบไปเป็นเคสๆ ไป แต่ในแต่ละเคสก็มีเรื่องให้คนที่ดูได้มาถกกันอยู่เรื่อยๆ แถมแอบวางโครงเรื่องหลักไว้เรื่อยๆ ทุกตอนด้วย

งานภาพอาจไม่ได้สวยงามอะไรนัก แต่ค่อนข้างเนี้ยบ ไม่มีเผา ที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้คือการสื่อความหมายออกมาทางสีหน้าของตัวละคร ที่ทำให้คนดูเข้าถึงอารมณ์ตัวละครนั้นๆ ได้ดี เพลงประกอบก็เข้ากับเนื้อเรื่อง ที่เจ๋งสุดคือเพลงปิด Last Theater ของ Noisy Cell ที่ขึ้นมาแต่ละทีนี่ ขนลุก กระชากอารมณ์มากๆ

ตอนจบของเรื่องนี้เป็นปลายเปิด เอาไว้ให้คนดูได้ขบคิดกันต่อ แต่ก็ไม่ได้เปิดซะจนเหมือนไม่มีบทสรุป

ส่วนตัวอยากให้ 10 คะแนนนะ เพราะเป็นแนวเนื้อหาหนักที่ทำออกมาได้ดีในหลายๆ ด้านเลย แต่มีจุดขัดใจอยู่นิดหน่อยตรงช่วงเดคิมแสดงอาการนี่ล่ะ มันดูฝืนๆ แปลกๆ แถมขัดกับคาแรคเตอร์ยังไงไม่รู้

เป็นเรื่องนึงที่ผมอยากแนะนำให้ลองดูกันครับ อาจไม่จำป็นต้องใช้กฏ 3 ตอน ดูแค่ตอนแรกตอนเดียวก็น่าจะรู้กันแล้วล่ะว่าอยากดูต่อรึเปล่า

ปล. ขออวยนิดนึง อันนี้เอามาให้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกดู
ใน MAL เรื่องนี้ ตอนนี้อยู่ที่ #82 ส่วนคะแนนของทาง niconico(เฉพาะตอนจบ) ก็ทำได้ดีมากเรื่องนึงเลย

ของคนอื่นเป็นไงกันบ้างครับ? ไม่ต้องเขียนยาวแบบผม เอาแค่คะแนนก็ได้นะ