พอดีวันนี้เลื่อนฟีดในเฟซบุคไปเจอข่าวมุ้ย เลือกไม่จับใบดำใบแดง และสมัครไปเป็นทหารเลย



ข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://sport.sanook.com/142497/


เลื่อนลงมาดูคอมเมนท์เราก็เจอคอมเมนท์นี้ขึ้นท็อปเมนท์อยู่




"พวกที่ด่ามุ้ย ผมขอพูดนะครับ คุณเห่อนักเตะใหม่แล้วลืมคนที่เคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศหรือทำให้คนไทยมีความสุข เช่น กีรติ ,ดัสกร ลีซอ ,สมปอง ซึ่งเป็นนักเตะที่พวกเกรียนฟุตบอลด่ากันเยอะ แล้วผมก็อยากรู้ถ้าในอนาคต มีนักเตะใหม่ ๆ มาแทน คุณจะมาด่า พวก ชนาธิป . เกริกฤทธิ์ ,ชัปปุยส์ ไหม"

‪#‎มิตรสหายท่านหนึ่ง‬

เราเห็นวว่าน่าสนใจดีเลยแสดงความเห็นเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุค และขออนุญาติยกมาแปะในพันทิปด้วย

---

คห.นี้น่าคิด และมีส่วนที่ชวนคล้อยตาม แต่ก็ยังผิดประเด็นอยู่บางส่วน

ปัจจัยที่สำคัญมากคือ ยุคสมัย

ทำไมนักเตะแบบซิโก้ ปิยะพงษ์ ถึงไม่เคยเจอด่าแบบสาดเสียเทเสีย อาจเพราะ

สมัยนั้นคำว่า "ฟุตบอลอาชีพ". ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขนาดนี้ อาชีพนักกีฬา คืออาชีพเสริมด้วยซ้ำ นักเตะบางคนเป็นทหาร ตำรวจ นักเตะบางคนเป็นพนักงานบริษัท แต่แบ่งเวลามาเป็นนักเตะด้วย ลำพังหวังพึ่งค่าเหนื่อยจากการเป็นนักเตะอย่างเดียว บอกได้แค่ ไม่มีกินแน่นอน

นั่นหมายความไปถึง ความที่ฟุตบอลยังเป็นแค่กีฬาประเภทหนึ่งที่คนไทยให้ความสนใจในระดับการละเล่นเพื่อความบันเทิง เป็นกีฬาระดับชาติ ฟุตบอลทีมชาติไทยโด่งดังมากก็จริง แต่ให้มองหาคนมานั่งดูฟุตบอลสโมสร 1,000 คนต่อเกมยังยาก

ทำให้ไม่มีใครใส่ใจจะมานั่งวิจารณ์ฟอร์มผู้เล่น "ในสมัยนั้น" อย่างจริงจังแบบตอนนี้

ต่อมา และเทคโนโลยีการสื่อสาร

นี่เป็นยุคที่ "เมื่อคุณพูดทุกคนจะได้ยิน" เมื่อก่อน เราอาจเคยนั่งด่าตะวัน ศรีปานแบบสาดเสียเทเสียอยู่บ้าน แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน นอกจากคนในครอบครัวเรา นั่นทำให้นักเตะในสมัยก่อน จึงมักถูกยกไว้ให้มองเห็นแต่ภาพดีๆ ทั้งที่เขาอาจจะมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ทางอาชีพเช่นกัน แต่มันไม่ได้ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย

คนในยุคนี้ก็แค่มีพฤติกรรมของยุคสมัย ยุคแห่งการวิจารณ์ แสดงความเห็น ไม่แปลกที่มีคนแสดงความเห็นมากมาย ทั้งดีและไม่ดี เพราะฉะนั้น การวิจารณ์และเปรียบเทียบ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
เรามาทันยุคพีคของทีมชาติไทยแข่งเอเชียนเกมของปีเตอร์วิธ แต่ยุคที่เรามาตามบอลไทยจริงจัง คือตอนลีซอกลับจากคริสตัลพาเลซ เลยผูกพันกับพี่ซอ พี่โก้พอสมควร

พี่โก้ยุคพีคนี่ ตอนนั้นเป็นชัปปุยส์+เจ เลย
เพราะเป็นขวัญใจแฟนบอล เป็นคนสร้างความมหัศจรรย์ เป็นตัวความหวัง
ลงสนามทีไรแฟนบอลอุ่นใจ เอาไปขู่คนอื่นได้เลย
"เรามีดัสกรนะ"

สมัยนั้น V-league กับ S-league กำลังดัง ยังเคยมีความคิดว่า ลีกอื่นเค้าจะดึงนักเตะไทยเก่งๆไปหมด ยุคของลีซอ ดัสกร คือ ยุคที่บอลลีกไทยเฟื่องฟูอย่างมากในยุคแรก นักเตะมีค่าเหนื่อยมหาศาล นักเตะไทยถูกใจตลาดอาเซียนมากจนอยากซื้อตัว อัดค่าเหนื่อยเป็นแสนๆเพื่อแย่งตัวไปร่วมทีม

แต่แล้วก็ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากรุ่นนั้นบอลไทยก็เงียบไปอีกครั้ง และกลับมารุ่งเรืองอีกรอบในยุค อุ้ม ธีราทร (ยุคนี้เราไม่ได้ตามแล้ว ขอเอาชื่ออุ้มนำแล้วกันนะคะ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นคนดังที่สุดของรุ่น)

นักเตะแบบอุ้มเอง ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นแบ็คคนหนึ่งที่แกร่งที่สุดในภูมิภาค ก็ยังเคยถูกกระแสแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์มากมาย ไม่ว่าใครก็ Nobody's Perfect

ปัญหามันมีทั้งจากพฤติกรรมนักเตะเอง และ ความพอใจที่แตกต่างกันของแฟนบอลด้วย

คือพฤติกรรมของแฟนบอลมันก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
นักเตะก็ต้องพยายามปรับตัวให้ได้ รวมทั้งแฟนบอลเองก็ด้วย
เหนืออื่นใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความ Respect นั่นแหละ

วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ก็เคารพซึ่งกันและกันด้วย
ไม่มีใครดีไปได้ตลอดกาล และไม่มีใครเลวไปตลอดกาลเหมือนกัน

เราชอบคำพูด เจ ชนาธิป นะ จำไม่ได้แม่นๆ แต่เจมันก็พูดทำนองนี้
เจมันเป็นเด็กที่โตมาพร้อมรุ่นพี่ๆ เป็นเด็กที่อยู่ในวงการตั้งแต่เด็กๆมากๆ
เจมันก็เคยบอกประมาณว่า

"หากอนาคตผมฟอร์มไม่ดีแบบเดิม แล้วผมต้องมาเจอสิ่งที่พี่ๆเจออยู่ตอนนี้
ผมคงเสียใจมากแน่ๆ"

คือวันนี้ เจมันดัง มันเป็นขวัญใจ มองไปก็เหมือนกับสิ่งที่พี่มันเคยเห็นรุ่นพี่มันได้รับ วันนี้มีคนชม เกิดวันหน้ามันจะต้องมาถูกด่าแบบเดียวกัน มันก็คงเสียใจมากเหมือนกัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลานั่นแหละ

‪#‎ดัสกรก็เช่นกัน‬



หมายเหตุ : ข้อมูลนักเตะในยุคนั้นหากมีตรงไหนผิดพลาดเราขออภัยล่วงหน้านะคะ เราไม่ได้ตามบอลไทยมานานมาก เอาความรู้เก่ามาเขียนหมดเลย ผิดบอกเราดีๆก็ได้นะ ไม่ดุนะ เรากลัว 5555555

ส่วนอันนี้เป็นความเห็นจากแฟนเพจเรา



ซึ่งก็หมายความว่ามันเป็นเรื่องปกติจริงๆ
เพียงแต่ในยุคนี้ดูเหมือนรุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก ยังอยากให้ทุกคนยึดเรื่อง Respect กันอยู่
คือติเพื่อก่อจริงๆ ไม่ใช่ด่ากันแบบสาดเสียเทเสีย รู้ว่าห้ามกันยาก และไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราหมด
แต่ก็ยังอยากให้เป็นแบบนั้นอยู่ดี
แม้จะเป็นความเห็นที่ดูเป็นคนโลกสวยก็ตามทีเถอะ