[HowTo] แชร์ประสบการณ์เปิดกิจการร้านซ่อมคอมฯ ทำอย่างไรให้อยู่รอด...

ขอแชร์ประสบการณ์เปิดร้านคอมฯ ครบรอบ 1 ปีพอดีครับ....พอดีตอบไว้ในกระทู้หนึ่ง แต่ไหนๆ ก็เขียนแล้ว เอามาตั้งใหม่ใส่รายละเอียดเพิ่มนิดหน่อย แชร์กันเลยดีกว่า

เล่า Background ให้ฟังนิดหน่อยครับ
ผมได้คอมฯ เล่นเครื่องแรกตอนอายุประมาณ 15 ขวบ (Cylix 6x86 166Mhz Ram 16MB HDD 1.6GB) เป็นเครื่องครูเลยครับ รื้อเล่น ถอดไปถอดมาเล่นกับเพื่อนจนพัง

เข้าวงการจริงๆ จังๆ ตอนอายุ 17 ไปเป็นพนักงานขายเกมส์ ขายอุปกรณ์คอมฯ Part-time ที่พันทิป 3 ปี ฟอร์จูนทาว์น 3 ปี และก็ครูพักลักจำ ไปเล่นกับร้านคอมแถวนั้น ช่วยเขาทำ หยิบนู้นนี่นั้น ถามมั่ง เผือกมั่ง จนพอมีความรู้เรื่อง hardware ครับ

เรียนสาย IT (คอมฯ ธุรกิจ) เรียนไปทำงานไปจนจบ ป.ตรี ทำงานประจำที่แรกเป็น Programmer บริษัทเอกชนด้านก่อสร้างขนาดใหญ่ 1 ปี, เป็นพนักงาน IT รัฐวิสาหกิจ 3 ปี - เจ้าหน้าที่แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี - Com. Service Eng. อีก 1 ปี แต่ไม่เคยห่างจากวงการคอมไปไหน ก็ยังคงรับงานซ่อมให้คนในบริษัท คนรู้จักเรื่อยมาครับ นับแล้วก็เกือบๆ 20 ปีครับ ที่อยู่กับคอมพิวเตอร์

ปัจจุบันลาออกมาเปิดร้านคอมฯ เดือนนี้ครบ 1 ปีพอดีครับ ทิศทางตัวเลขผลการดำเนินงานต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดี คาดว่าปีที่สองนี้จะคืนทุนได้ ตอนนี้ขยายกิจการตั้งเป็นบริษัท ให้บริการ MA, เป็นตัวแทนจำหน่าย, ในเช่าเครื่องคอมฯ และอุปกรณ์ครับ

-ประเด็นแรก  คลาสสิกสุดๆ "ทำเลที่ตั้ง และ กลุ่มลูกค้า"
ผมได้ทำเลเป็นอาคารพาณิชย์สร้างใหม่ในกลางชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านธรรมดา หมู่บ้านจัดสรรโครงการหรู คอนโด มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-กลาง ตลาด ร้านค้าขายสินค้าแทบจะทุกชนิดรวมอยู่ที่นี่หมด มีร้านซ่อมคอมเจ้าที่หลักๆ เป็นร้านขนาดเล็กอยู่ 3-4 ร้านครับ
ฉะนั้นกลุ่มลุกค้า ทำเลที่ตั้งมันเลือกโดยตัวของมันเองอยู่แล้วครับ

-เปิดตัว...หาเอกลักษณ์...สร้างความต่าง...
พอรู้กลุ่มลูกค้าแล้ว (กลุ่มลูกค้าผมคือ ทุกกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นครับ)  รู้คู่แข่งแล้ว อย่างแรกเลยคือทำยังไงให้แตกต่างจากคู่แข่ง ผมเลือกที่จะทำร้านให้ใหญ่กว่า   มีสินค้าขายมากกว่า (คือมีทั้ง Hardware และอุปกรณ์ต่อพ่วงครบวงจร) ผมทำป้ายโฆษณาบนตึกขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 2.5x2 เมตร สร้าง LOGO ของร้านเป็นสัญลักษณ์ให้จำง่าย วางป้ายโป๊ะไฟริมทางให้รถผ่านไปมาเห็น (ไม่ได้เกะกะทางเท้ามากครับ ทางเทศกิจให้ผ่าน)

ตกแต่งร้านให้ดูดี "น่าเชื่อถือ" ทั้งภายในภายนอก มีส่วนรับรองลูกค้า ลูกค้าสามารถนั่งดูเราทำงานได้เลย ไม่มีแอบไปทำหลังร้าน หรือให้วางเครื่องแล้วไล่กลับบ้าน นอกจากกรณีลงโปรแกรมใหม่ใช้เวลานานจะให้ลูกค้าทิ้งเบอร์ไว้

จัดร้านดียังไงก็ไม่พอครับ ต้องทำยังไงก็ได้ให้คน "รู้จัก" ร้านคอมฯ ของเราก่อนครับ หมายถึงการ ”สร้างการรับรู้” ให้กลุ่มเป้าหมายของเรารู้ว่ามีร้านคอมเปิดใหม่อยู่ตรงนี้ ทำอะไรบ้าง เปิดกี่โมง ปิดกี่โมง มี Promotion อะไรบ้างผมใช้วิธีการจ้างเด็กแจกใบปลิวครับ แจกไป 2 พันกว่าใบใช้เวลาแจก 3 วัน

-จัดการต้นทุน...เพิ่มรายได้...บริหารความเสี่ยง
เนื่องจากเราเป็นร้านเล็กเพิ่งเกิด แน่นอนว่าการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ต้องพึ่งพา Distributer เจ้าใหญ่ๆ ในตลาดก่อน แต่อย่างที่รู้กันในวงการว่า Hardware Margin บางมากๆๆ การหาตลาดรอง หรือ Connection ต่างๆ ก็ต้องมา

คนในวงการจะรู้ดีครับว่า HDD ราคาดีๆ หาได้ที่ไหน RAM หาได้จากใคร MB ต้องสั่งจากใคร แต่ถ้าไม่รู้จักใครเลย ก็ต้องเอา Volume เข้าช่วยหรือใช้วิธีแบบผมคือ “ขายแบบมีค่าบริการ” แต่ต้องบอกลูกค้าให้ทราบนะครับ เช่น MB ราคาหน้าเว็บ 1,800 บาท ผมจะบอกลูกค้าว่า ราคา 1,800 แต่มีค่าเปลี่ยน  300 นะครับ ค่าลง Drivers 100 ครับ เป็นต้น...แค่นี้คุณก็จะได้ Margin เพิ่มอีกหลาย % เพราะค่าบริการ ไม่มีต้นทุน (หรือมีแต่น้อยมากครับ)

ในด้านการบริหารความเสี่ยงจากการขาย Hardware ผมจะไม่เอาสินค้าประเภท low end user มาขายเลย ถึงรู้ว่ามันได้กำไรดี แต่ในด้านของปัญหาจากตัวสินค้า คุณภาพสินค้าที่ต่ำกว่าพวก Mass ทั่วไป หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการวิ่งเครม สำหรับผมคิดว่ามันไม่คุ้มครับ รวมถึงภาพลักษณ์ของร้านด้วย ไม่อยากให้ลูกค้าไปพูดต่อว่า “ซื้อของร้านนี้ปัญหาเยอะจัง” ผมเน้นของที่เป็น Mass มากกว่า ยี่ห้อดีหน่อย ปัญหาจุกจิกน้อย เปิดร้านมา 1 ปี ผมเครมสินค้าที่ขายไม่ถึง 1% ครับ

แน่นอนว่าต้องมีลูกค้าถามว่า เอาสเป็กนี้ให้ร้านโน้นตีราคาได้ 7 พัน แต่ทำไมร้านผมตีให้ 8 พันกว่า ต้องอธิบายยาวเหมือนกันว่าต่างกันตรงไหน บางทีก็เสียโอกาสการขายเหมือนกัน แต่คุ้มครับ

การขายมือสอง นี่แหละพระเอก นิยามของ High Risk High Return อย่างแท้จริง
ได้ของมาได้อย่างไร???  อย่าไปหวังได้ของจากในเว็บดังเลยครับ ในเว็บนั้นของดีๆ ไม่เคยถึงมือเราหรอก ที่มาของผมคือได้จากการซื้อจากลูกค้าโดยตรงเลยครับ ลูกค้ามาอัพเกรดเครื่องชิ้นไหนเขาไม่เอาก็ขอกันตรงๆ หรือขอซื้อราคาถูก, ของรับจำนำแล้วหลุด, ของยกมาขายเองเลยหน้าร้าน    ของมือสองร้านผมไม่ได้มีขายตลอด แต่ลูกค้าประจำจะรู้ว่าถ้ามี คือคุณภาพดีจริงๆ ตอนนี้เลยมีคิวสั่งจองไว้เยอะเลยครับ ทั้ง Monitor, MB, HDD รวมถึง Notebook และ คอมชุดด้วย หาของส่งลูกค้าไม่ทันเลยทีเดียว

นี่เป็นการแชร์วิธีการกว้างๆ ของผมละกันครับ แต่หลักการสำคัญที่ผมอยากให้คนที่คิดจะทำร้านคอมฯ หรือทำไปแล้วท่องไว้คือ  
*** คุณต้อง ไม่มั่ว ไม่โกง ไม่ตุกติก และคุณต้องรับผิดชอบเต็มที่ทั้งสินค้าและบริการที่คุณขาย***

ขึ้นชื่อว่าร้านคอมฯ ลูกค้า ตราหน้าแล้วครับว่าคุณขี้โกง
...ร้านคุณต้องไม่ให้เขาด่าแบบนี้

ขึ้นชื่อว่าร้านคอมฯ ลูกค้า ตราหน้าแล้วครับว่าคุณต้องพูดภาษาเอเลี่ยน (ภาษาคอม)
...คุณต้องอธิบายให้เขาเข้าใจเป็นภาษาคนที่เขาเข้าใจ

ขึ้นชื่อว่าร้านคอมฯ ลูกค้า ตราหน้าแล้วครับว่าคุณต้องหน้าบูด หน้าบึ้ง พูดเสียงแข็งๆ พูดไม่มีหางเสียงเหมือนปวดขี้ตอนทะเลาะกับเมีย
...ยิ้มเข้าไว้ครับ "ได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน"

ขึ้นชื่อว่าร้านคอมฯ ลูกค้า ตราหน้าแล้วครับว่าคุณต้องดีแต่ขาย ไม่รับผิดชอบ เครื่องเสียเครื่องพังก็โทษลูกค้าเล่นไม่เป็น
... รับผิดชอบให้เต็มที่ครับ อย่าให้ลูกค้ารู้สึกแย่ หรือด่าเราตอนเขาเดินออกจากร้านเป็นอันขาด เพราะอย่าลืมว่าคุณเปิดร้านใน "ชุมชน" ต่อให้มีลูกค้าชมคุณเป็นร้อยคน แต่ถ้ามีลูกค้าด่าคุณสักคนเดียวเพราะไม่พอใจในสินค้าหรือบริการของคุณ ผลเสียที่ตามมาคุณไม่มีทางเดาได้หรอก....

ยาวไปหน่อย แต่อยากให้มีร้านคอมดีๆ เกิดขึ้นมากๆ ครับ "ร้านคอมเปิดง่าย แต่จะอยู่ให้นานมันยาก..."

แถมด้วยงบการเงินหน่อยครับ

เฉพาะกิจการร้านคอมฯ ไม่รวมส่วนของบริษัทที่ตั้งใหม่ มีค่าใช้จ่ายรวมงบลงทุนทั้งหมด รวมค่าสินค้า ในปี 2557 (มี.ค.-ธ.ค.) 7xx,xxx บาท ขาดทุนสุทธิ 12x,xxx บาท คิดเป็นขาดทุน 18% กว่าๆ  ไม่มี Hidden Cost ครับ ไม่มีพนักงงาน ผมทำเองคนเดียวทั้งหมด คาดว่าไตรมาสสามปี 58 จะคืนทุนได้ทั้งหมดครับ

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่