เป็นหนี้ชีวิต ที่เรากับแฟนก่อร่วมกัน แต่..เราจะสู้ไปด้วยกัน

เราอายุ 29 แฟนอายุ 25 เจอกันครั้งแรกทางอินเตอร์เนท ด้วยความทำงานสายเดียวกัน แฟนทำงานโฟรแมน เราเป็นแอดมินไซต์งานก่อสร้าง ก็ทำให้คุยกันรู้เรื่อง จึงนัดเจอกัน และคุยกันถูกปากถูกคอ ด้วยความที่ต่างคนต่างไม่มีใครจึงคบกันเป็นแฟนเรื่อยมา ตลอดเวลาที่คบเราทำอะไร ไปไหน ไปด้วยกันตลอดมา ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยทะเลาะ กัน มีการวางแผนอนาคตร่วมกัน คิดถึงวันแต่งงาน คิดจะมีลูกด้วยกัน ในอีก 2 ปีข้างหน้า เรามีนิสัยเหมือนกันคือทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง หาเงินซื้อของที่อยากได้เอง ตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใครและแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ให้ได้มากที่สุด ผ่านไป 7 เดือน
        จุดเริ่มต้นของเรา “เราท้องค่ะ” วินาทีแรกเข่าทรุด เหมือนในละครเลยค่ะ มีลูกในขณะที่เรายังไม่พร้อม งานก็ยังไม่มั่นคง และแผนที่เราคิดไว้มันอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ตอนนี้เค้ามาแล้ว ยังไงเราก็ต้องเลี้ยงเค้า แฟนจึงบอกทางบ้านว่าเรามีลูก ที่บ้านแฟนเราก็เครียด เพราะเค้าก็มีหนี้สิน คงจะหาค่าสินสอดมาให้ไม่ได้ เราจึงคุยกับแฟนว่าจะช่วยกันหาเงินมาเป็นค่าสินสอดให้แม่เรา ตอนนั้นเราไม่ได้บอกแม่เราว่าท้อง เพราะสังคมต่างจังหวัด ลูกท้องก่อนแต่ง ชาวบ้านก็นินทากันไปต่างๆ นานา เราจึงบอกแม่เราว่า ที่บ้านแฟนจะมาคุยเรื่องแต่งงาน แม่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราก็อายุเยอะแล้ว มีเวลาเตรียมตัวไม่เกิน2 เดือน เพราะกลัวท้องใหญ่ เรากับแฟนทำทุกวิถีทาง กู้สินเชื่อ บัตรเครดิต แต่ด้วยความที่เงินเดือนทั้งเราและแฟนแค่หมื่นต้น ๆ จึงได้วงเงินไม่สูงมาก จึงตัดสินใจกู้นอกระบบเพิ่ม ร่วมเป็นเงินที่เราหาทั้งหมด 180,000 บาท เมื่องานแต่งผ่านไปด้วยดี หลังจากงานแต่ประมาณ 2 อาทิตย์เราจึงบอกแม่ว่าเราท้อง แม่ไม่ได้ว่าอะไร
           ผ่านไปประมาณ 4 เดือน เกิดมีเลือดออกทางช่องคลอดหมอบอกว่า รกเกาะต่ำ มีภาวะแท้งคุกคาม ห้ามทำงานหนัก ไม่งั้น อาจแท้งได้ จึงคุยกับแฟนและตัดสินใจออกจากงาน แฟนทำงานคนเดียว เราออกไปขายเสื้อผ้าตามตลาดบ้าง ในวันที่ไปไหว ส่วนหนี้สินมีทยอยใช้ไปบ้าง แต่ก็จ่ายได้แค่ดอกในบางเดือน หรือจ่ายล่าช้าในบางเดือน เราฝากครรภ์ฟรีกประกันสังคม กับโรงพยาบาลเอกชนค่ะเนื่องจากใกล้บ้านบ้าน ตั้งใจไว้ว่า ถ้าใกล้กำหนดคลอด จะกลับไปคลอดที่บ้านเกิดเรา ร.พ. รัฐบาล เพราะคงไม่มีเงินมาจ่ายหากคลอด ร.พ. เอกชน ตอน 34 สัปดาห์ เนื่องจากน้ำคร่ำรั่ว ปากมดลูกเปิด 3 เซนต์ หมอบอกจำเป็นต้องทำคลอดเลย เพราะเด็กอาจติดเชื้อ ตอนนั้นทำอะไรไม่ทันแล้วค่ะ กลัวว่าถ้าไปคลอดรัฐบาล แล้วน้องยังไม่ถึงกำหนด เค้าไม่แข็งแรงแน่นอน และน้ำหนักครรภ์แค่ 7 โล หมอบอกน้ำหนักเด็กประมาณ 2 กิโล เลยตัดสินใจกับแฟนว่า ยังไงต้องให้ลูกอยู่ในที่ๆดีและปลอดภัยที่สุด คลอดที่เอกชนเลยค่ะ น้องคลอด 1990 กรัมค่ะ หมอบอกว่าอาการไม่ค่อยดี น้องปอดไม่แข็งแรง หายใจเองไม่ได้ ต้องอยู่ ไอซียู ประมาณ 4 วัน ฉีดยากระตุ้นปอด มีสายให้น้ำเกลือ ระโยระยางเต็มไปหมด ตอนนั้นบอกหมอแค่ทำไงก็ได้ให้น้องอยู่ ยอมเสียค่าใช้จ่ายค่ะ สรุปน้องออก ร.พ.หลังเรา 1 วัน ค่าใช้จ่ายในการคลอดและน้องประมาณ 50,000 บาท เป็นหนี้เพิ่มค่ะ
            หลังจากนั้นเราเลี้ยงน้องเองได้ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น ระหว่างนั้นก็สมัครงานผ่านอินเตอร์เนท จนได้งาน ตอนนั้นงานอะไรก็ทำค่ะ จึงเอาน้องไปให้แม่เราเลี้ยงที่ต่างจังหวัด และเรากลับมาทำงานทันที ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรงเต็มที แต่หากแฟนทำงานคนเดียวต่อไป หนี้ก็ไม่ได้ใช้ เพราะค่าใช้จ่ายของน้องที่ต้องเพิ่มมากขึ้นทุกวันอีก ไหนจะดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ตอนนี้เราทำงานได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว น้องตอนนี้ 3 เดือนแล้ว แข็งแรงดีเป็นลำดับ อาจเพราะอยู่ต่างจังหวัด อาการและสภาพแวดล้อมไม่ได้เลวร้ายเหมือน กทม. น้องจึงไม่เป็นอะไรหลังจากออกจากร.พ. เงินเดือนแค่หมื่นกว่าๆ กับแฟน 2 คน กว่าจะใช้หนี้หมด 2 แสนกว่า คงใช้เวลา 2-3 ปี เพราะค่ากิน ค่าน้ำมัน ค่านม ค่าแพมเพิสลูก และค่าผ่อนรถยนต์ที่เราซื้อก่อนจะคบกับแฟนอีก 1 คัน เพราะตอนนั้นเราทำงานไปด้วย และหารายได้พิเศษขายของตามตลาดไปด้วย จึงตัดสินใจซื้อรถไว้ทำมาหากินค่ะ
             ประเด็นที่เล่ามาทั้งหมด คือ เราอยากปลดหนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ อยากทำงานเพิ่มหลังเลิกงาน ด้วยทางที่เราถนัดคือ ขายของตลาดนัด  เราถนัดขายเสื้อผ้ามือสอง แต่ตอนนี้ไม่มีผ้าที่จะเอาไปขายแล้วค่ะ ของตัวเองก็โล๊ะจนหมดตู้ ที่ใส่ไปทำงานทุกวันก็มือสอง ตามตลาด ตัวไม่กี่สิบบาท  จึงขอความร่วมมือ พี่ๆ เพื่อน ๆ ที่อยากโล๊ะตู้เสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าผู้ใหญ่ ชุดทำงาน หรือชุดอะไรก็ได้ เราขอเหมาซื้อเพื่อมาขายต่อ แต่ขอราคาไม่แพงนะค่ะ เพราะทุนที่เราจะไปซื้อก็ไม่กี่บาท เรานำไปขายต่อเดี๋ยวนี้ก็ได้ราคาถูกมากค่ะ ไม่อยากเอาเปรียบคนที่มาซื้อด้วยค่ะ หรือใครอยากบริจาคเราก็ไม่ขัดศรัทธาค่ะ เพราะถึงขายไม่หมด ขายไม่ได้ เราก็นำไปบริจาคต่อให้เด็ก หรือ ลูกคนงานเขมรที่เค้าไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใส่ที่ไซต์งานก่อสร้างของแฟนค่ะ

ที่มาตั้งกระทู้
1.อยากเล่าประสบการณ์ ความอดทน การต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคของเรากับแฟนค่ะ
2.ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ค่ะ เราอยากมีรายได้เพิ่มเพื่อปลดหนี้ และสร้างครอบครัวให้แข็งแรงค่ะ
3.ความรักจะชนะทุกสิ่งอย่างค่ะ เรากับแฟนรักกันมากขึ้นทุกวัน ให้กำลังใจกันและกันตลอดมา เวลาที่คบกันอาจไม่ใช่ตัวแปร อยู่ที่ทุกวันนี้เรารักกันดีแล้วก็พอค่ะ
4.ให้กำลังใจคนที่มีหนี้ค่ะ ช่องทางหาเงินมีมากมาย อยู่ที่เราจะทำ หรือจะรอเวลาให้นี้มันพอกพูน ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปค่ะ
ป.ล. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่