เหตุเกิดที่ ซอยรามคำแหง193 เวลาประมาณ17.00น
ขออธิบายความเป็นมาก่อนนะคะ  คนโพสเป็นลูกสาวผู้เสียหาย
คุณแม่มีสามีใหม่ และย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ ซอยรามคำแหง193 สามีแม่เป็นยามที่หมู่บ้านเบณจรงค์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับซอยที่พัก
คนร้ายคือคนที่เป็นยามที่หมู่บ้านเดียวกันและพักห้องเช่าที่เดียวกัน ตอนเกิดเหตุ แม่และสามีกลับจากทำงานไปที่ห้องพักในซอย รามคำแหง193
เมียคนร้ายนั่งอยู่หน้าทางเข้าห้องพักท่าทางเหมือนเมายา มองหน้าแม่แล้วด่าว่า อีแก่มองหน้ากูทำไม ผัวด่ากูว่าติดยานะอีแก่ แล้วด่าทอไม่หยุด
แล้วจึงโทรเรียกสามีมาทำร้ายร่างกายสามีแม่จนสลบ เสร็จแล้วก็กำลังจะทำร้ายแม่ คนแถวนั้นจึงเรียกมูลนิธิร่มไทรมา คนร้ายหนีไป แม่โทรหาเราว่าโดนตี
และกำลังไปโรงพยาบาล  ไปถึงโรงพยาบาลนพรัตน์ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าสิทธิรักษาบัตรทองอยู่ที่แพทย์ปัญญาไม่รับรักษาให้ไปที่แพทย์ปัญญา เราไปถึงจึงแจ้งทางโรงพยาบาลว่าเราจะจ่ายเงินสดให้รักษาเลยแต่ทางโรงพยาบาลนพรัตน์ไม่ยอมรับบอกเราว่าไม่เกี่ยวกับเงิน คนเข้ารักษาเต็มให้ไปที่แพทย์ปัญญา เราจึงพาคนไข้ไปที่แพทย์ปัญญา จนรักษาเสร็จก็พาแม่และสามีไปแจ้งความ ที่ สน.มีนบุรี ทาง ร้อยเวรรับแจ้ง แล้วต่อว่าเราว่าทำไมไม่มาแจ้งความตั้งแต่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถจับคนร้ายได้แล้วต้องรอหมายจับก่อน เสร็จจากโรงพักเราก็พาแม่ไปเก็บของที่ห้องพัก ตำรวจก็ตามไปด้วย เข้าบ้านตอนเกือบตีสอง ตอนเช้าเราก็ขับรถไม่ส่งแม่ทำงาน แม่ทำงานเป็นแม่บ้านในหมู่บ้านเบณจรงค์ ก็เจอคนร้ายมายืนเป็นยามอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน
เราจึงโทรแจ้งตำราจว่าคนร้ายยังอยู่ มาทำงานปกติ  โทรไปบอกที่ สน ทางตำรวจบอกว่าเดี๋ยวจะดำเนินการให้
อยากสอบถามเพื่อนๆว่า
คนร้ายยังอยู่ไม่หนี แถมบอกว่าไม่กลัวตำรวจ เราต้องรอให้เค้ามาทำร้ายอีกหรือตำรวจจึงจะจับ
แจ้งความคดีทำร้ายร่างกาย ถือเป็นคดีอะไร อาญา หรือไม่  ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร และเราควรทำอย่างไร
คนร้ายสองคนผัวเมียเคยต้องคดีค้ายาและติดคุกมาแล้ว ทางตำรวจจะทำอย่างไรได้บ้าง
ทางตำรวจให้ใบรายงานประจำวันเป็นหลักฐานและใบนำส่งผู้บาดเจ็บหรือศพให้แพทย์ตรวจชันสูตรไปส่งที่ โรงพยาบาลแพทย์ปัญญามา