อย่าเข้าใจผิดกัน ห้ามยินดีรับเงินทอง เพราะนำมาสู่ความโลภ
ถ้าไม่ยินดีแต่รับตามที่เขาให้ และไม่เป็นเจ้าของโดยการฝากธนาคารอันเป็นส่วนตัว
ย่อมไม่โลภ แม้จะมีเงินทองเต็มห้อง เมื่อไม่โลภ ย่อมไม่มีราคะ(ความกำหนัด)ในเงินทอง
เมื่อไม่มีราคะ ย่อมไม่โทสะ ย่อมไม่มีโมหะ คือ ไม่มีความกำหนัด ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ตามพุทธวจนะ ว่า
ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ อันใด, อันนี้แล เราเรียกว่า นิพพาน(พระอรหันต์).
ห้ามภิกษุยินดีรับเงินทอง ไม่ได้ห้ามรับเงินรับทอง
ถ้าไม่ยินดีแต่รับตามที่เขาให้ และไม่เป็นเจ้าของโดยการฝากธนาคารอันเป็นส่วนตัว
ย่อมไม่โลภ แม้จะมีเงินทองเต็มห้อง เมื่อไม่โลภ ย่อมไม่มีราคะ(ความกำหนัด)ในเงินทอง
เมื่อไม่มีราคะ ย่อมไม่โทสะ ย่อมไม่มีโมหะ คือ ไม่มีความกำหนัด ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ตามพุทธวจนะ ว่า
ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ อันใด, อันนี้แล เราเรียกว่า นิพพาน(พระอรหันต์).