สวัสดีเพื่อนๆพันทิปที่แวะเข้ามาชมกระทู้รีวิวกระทู้แรกในชีวิตของจขกท.ทุกคนนะคะ ก่อนอื่นเลยขออรัมภบทเล็กน้อยค่ะ
คือเรื่องมีอยู่ว่า จขกท. และเพื่อนๆเนี่ยแพลนว่าจะไปเที่ยวหลังเรียนจบกับเพื่อนๆ ก็อยากจะพักผ่อนบ้าง หลังเรียนหนักมาสี่ปีเต็มอ่ะเนอะ เราก็ตกลงกันว่าอยากจะไป “เกาะล้าน” เป็นเวลา 2วัน 1 คืน โดยส่วนตัว จขกท. เองก็ไม่เคยไปมาก่อน และก็อยากไปนานแล้ว(ก่อนที่ทะเลจะไม่สวยซะก่อน อิอิ) ทีนี้เราก็ทำการบ้านกันอยู่ 2-3วันค่ะ นั่งไล่อ่านกระทู้ ดูรีวิว แบบที่เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็คงกำลังทำอยู่ อ้อ!! ลืมบอกว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงเดือน มีนาคม ปี 2015 นะคะ
ประเด็นหลักๆของการวางแผนมีอยู่ 2 ประเด็นเท่านั้นคือ การแพลนเที่ยว และ ที่พัก นั่งอ่านรีวิวจนตาลายเลยจ้า โดยทริปของเรานี้ เน้นเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยงบประมานที่จำกัด รัดเข็มขัดสุดๆ ซึ่งข้อจำกัดคืองบที่ใช้ต้องไม่เกิน 1,500 บาท (บอกก่อนว่ามีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ จขกท. แอนด์เดอะแก๊ง เกือบไม่ได้ไปนะ แต่สุดท้ายเราก็ก้าวผ่านมาได้ อิอิ) สุดท้ายเราทั้ง 6 คน ก็ตกลงปลงใจ ว่าจะจองและจ่ายมัดจำที่พักที่ บ้านต้นไผ่ เพราะที่นี่ตอบโจทย์เราที่สุดค่ะ เราจองเป็นห้องเตียงคู่ 3 เตียง ห้องใหญ่ไปค่ะ ราคาอยู่ที่3,000 บาท นี่คือราคาในวันปกติ(จ-ศ)นะคะ เพราะถ้า ส.-อา ไม่แน่ใจว่าจะสนนราคาเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ โดยจุดเด่นของบ้านต้นไผ่คือ มีรถมอเตอไซด์ให้เราใช้ฟรีๆ 2 คัน น้ำมันไม่อั้น (เอาตรงๆเพื่อนๆคงใช้ไม่เกินครึ่งถังกันหรอกค่ะ) มีอาหารเช้าเป็นAmerican Breakfast ไม่อั้น และสุดท้ายคือมีบริการรับส่งจากท่าหน้าบ้าน เดี๋ยวจะมีภาพให้ดูตอนท้ายนะคะ มาเริ่มทริปของเราเลยดีกว่า..
เราเดินทางจากศาลายาด้วยรถเมล์ 515 ใช้เวลาประมาน 50 นาทีถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปถึงอนุสฯก็ราวๆ 8.30 ค่ะ แล้วเราก็ไปขึ้นรถตู้ ที่ข้างห้างเซนจูรี่ค่ารถคนละ 100 บาทค่ะ ตามรูปเลย
จำได้ว่าใช้เวลารอรถตู้ประมาน 2 ชม.ได้มั้งเพคะ คือเลทมากกกกก อาจจะเพราะรถติด(มั้ง)ค่ะ พอไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายที่พัทยา ก็ราวๆบ่ายโมง เวลาก็เลทจากแพลนไปเยอะเหมือนกันค่ะ ทำให้เราต้องขึ้นเรือรอบบ่าย 2 โมงค่ะ นี่เป็นรอบเรือค่ะ
ระหว่างรอเราก็ไปหาข้าวทานกันก่อนค่ะเพราะโคตรๆจะหิวค่ะ จากนั้นก็ขึ้นเรือไปยังท่าหน้าบ้านค่ะ ค่าเรือ 30 บาทต่อคน แต่ถ้าใช้รีบและมีทุนทรัพย์มากกกก ก็มีบริการสปีดโบ๊ทนะเจ้าคะราคาก็แพงกว่าหลายเท่า แล้วแต่เพื่อนๆสะดวกจ้า แนะนำว่าเพื่อนๆไม่ต้องไปยืนต่อคิวที่อาคารผู้โดยสารนะคะ เดินมาขึ้นเรือและจ่ายเงินได้เลยค่ะเพราะมีค่าเท่ากัน
บรรยากาศบนเรือก็ประมาณนี้ค่ะ นั่งกันชิวๆครึ่งชม.ก็ถึงเกาะล้านค่ะ
พอเรามาถึงเราก็โทรบอกให้เค้าออกมารับค่ะ โดยมากที่พักที่นี่จะมีบริการรับ-ส่งลูกค้าที่เข้าพักจากท่าเรือไปยังบ้านพักอยู่แล้วค่ะ และแถ่น แทน แทนนน นี่คือบ้านพักของพวกเราค่ะ บ้านต้นไผ่ นี่เป็นบริเวณหน้าบ้านค่ะ
พวกเราได้รถฟรี2คัน และเช้าเพิ่ม 1 คนค่ะราคา300 บาท พร้อมกับแผนที่บริวณเกาะ จากพักผ่อนให้หายเหนื่อยสักพักก็ได้เวลาออกเดินทางตามแผนที่ค่ะเราเลือกไปชม(เกือบ)ทุกหาดค่ะเริ่มที่ หาดตายาย , หาดนางนวล, หาดตาแหวน และ นอนพักเดินเล่นที่หาดสุดท้าย หาดแสม ซึ่งเป็นหาดที่คลื่นแรงที่สุดและหินกรวดมีขนาดใหญ่ที่สุดค่ะ แนะนำว่าใครจะเล่นน้ำให้ไปหาดตาแหวนค่ะ เพราะเนื้อทรายจะละเอียด และมีร้านอาหารมากที่สุดนะก๊ะ แต่พวกเราอยากแหวกแนว ไม่ชอบคนเยอะ เลยเลือกมาที่นี่ ราคาเตียงก็สนนราคาที่ 30 บาทต่อเตียงค่ะ ตอนที่ จขกท.ไป คนไม่ค่อยมีเลยค่ะ สงบมากๆ มีนักท่องเที่ยวนับคนได้ค่ะ
จากที่พวกเราก็ชมหาดจนทั่วแล้วก็เริ่มหิวค่ะ เราเลือกไปรับประทานอาหารเย็นกันที่ร้าน “ครัวเฉลียงลม” เป็นร้านที่โด่งดังนรีวิว ใครมาเกาะล้านต้องไป เราก็ลองดูๆ ปรากฏว่าบรรยากาศดีมากๆเลยค่ะที่นั่งจะมีหลายแบบให้เลือกมีทั้งนั่งติดขอบหาด หรือนั่งในซุ้มที่จัดไว้ มีเพลงเพราะๆเบาๆเคล้าบรรยากาศริมทะเล ลมทะเลเคลื่อนผ่านตัว สบายและฟินกับบรรยากาศสุดๆ แต่เกือบทั้งร้านคนที่มานี่มาเป็นคู่หมดเลยค่ะ (เราหาได้แคร์ไม่ แม้จะเป็นแก๊งชะนี 6 คน เราก็สนุกสนานเฮฮาของเราได้นิเนอะ) ส่วนเรื่องรสชาติอาหารถ้าถาม จขกท. นะคะ ก็พื้นๆค่ะ มีทั้งอร่อย และ ธรรมดาแล้วแต่เมนูลองเลือกกันดูนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้ลงรูปอาหารเลย เพราะหิวจัดค่ะ ฟาดเรียบบบบบบ ภายในพริบตา เก็บภาพมานิดหน่อยเพราะมืดมากและไม่อยากใช้แฟลชค่ะ เดี๋ยวเสียบรรยากาศ
พออิ่มหนำสำราญก็ถึงเวลากลับที่พักค่ะ พวกเราก็นั่งปาร์ตี้กันต่อในห้องพักค่ะ มีขนมนมเนยมาทานเพียบ แล้วที่เราแนะนำค่ะคือ โรตี ร้านตรงข้าม 7-11 อร่อย ยกนิ้วเลยค่ะ ราคาไม่แพงรู้สึก โรตีนมธรรมดาจะ 20 บาท ประมาณนี้ จากนั้นเราก็นัดกันตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้นไม่ทันได้อาบน้ำค่ะ แค่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เราก็ออกมาแว๊นเพื่อไปแตะขอบฟ้า เอ้ยยยย ไม่ใช่!! ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ แต่มีเหตุการณ์หลงทางยังหาเจอ หลงเธอสิเธอทน ไม่ใช่!!!! ค่ะเราหาจุดชมวิวบ่เจอเจ้าข่าเราเลยมาแช๊ะภาพที่แลนมาร์คนี่แทน
แล้วก็มาดูพระอาทิตย์ที่ท่าหน้าบ้านพร้อมกับแช๊ะภาพเก็บเป็นที่ระทึก ตอนเช้าๆ อากาศดีมากๆค่ะ สดชื่นสุดๆเลย
จากนั้นเราก็ไปเล่นน้ำทะเลที่หาดตาแหวนค่ะ
จากนั้นก็กลับมาอาบน้ำและทานอาหารเช้าที่บ้านพัก ก่อนจะเกลือกกลิ้งไปมาพร้อมๆกับเก็บกระเป๋าเพื่อกลับ เราเชคเอาท์11 โมงมีรถไปส่งที่ท่าหน้าบ้าน แต่เรือจากท่าไปยังฝั่งมีรอบ บ่ายโมงค่ะ เราถึงตัดสินใจเดินเล่นร้านของฝากและทานขนมหวานที่ร้านไอศกรีมเกล็ดหิมะ นี่บรรยากาศในร้านค่ะ
ก็มาแวะตามรีวิวในพันทิปอีกเช่นเคยค่ะ ราคาอยู่ที่ถ้วยละ 59 บาทค่ะ อร่อยลื้มมม ในร้านก็เป็นร้านโล่งๆตกแต่งหน้ารักดีค่ะ ตามภาพเลย รูป พอถึงเวลาเราก็ไปขึ้นเรือที่ท่าหน้าบ้านค่ะ แป๊บเดียวเรือก็ออกพอถึงฝั่งเราก็ขอแช๊ะภาพเป็นที่ระทึก ถือเป็น signsture ใครมาพัทยาไม่ได้ถ่ายภาพมุมนี้เค้าถือว่าไม่ได้มาเราก็เอาซะหน่อยเพราะขามารีบค่ะร้อนด้วยเลยไม่ได้ถ่ายรูป
ปล.รูปนี้กว่าจะได้มาตากล้องจำเป็นที่เราไปสะกิดมา เกือบโดนรถชนค่ะ เพราะรถรับผู้โดยสารขับไปมา ต้องขอขอบคุณพี่มากๆค่า จากนั้นเราก็นั่งรถกลับ กทม.กันค่า มีวินรถตู้ที่อาคารผู้โดยสารค่ะ เราก็ซื้อตั๋วแล้วรอขึ้นรถอยู่บนรถพวกเราก็หลับเป็นตายค่ะ
สิริรวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป
-ค่าที่พัก 3000 บาท
-ค่าเช่ารถ 300 บาท
-ค่ารถ515 23*6= 138 ,ค่ารถตู้ไปกลับ 200*6=1200,ค่าเรือไปกลับ 60*6=360,ค่ารถตู้กลับศาลายา 30*5=150 รวมค่าเดินทาง 1,848 บาท
-ค่าขนมและจิปาถะ 600 บาท
-ค่าอาหารค่ำที่ครัวเฉลียงลม 1,500 บาท
รวมค่าใช้จ่าย(ไม่นับค่าของฝากและโปสการ์ดที่พวกเราซื้อแยกของใครของมันนะคะ) = 7,248 บาท เฉลี่ยคนละ 1,208 บาท ค่ะ ถือว่าไม่เกินงบค่ะ
แม้การเดินทางของพวกเราจะสิ้นสุดลงแต่ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ค่ะ ขอบคุณพวกแกที่เดินทางเคียงข้างมาตลอดสี่ปีในรั้วมหาลัย ต่อจากนี้แต่ละคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วอย่าลืมการเดินทางที่แสนพิเศษของพวกเรานะ
[CR] สะพายเป้ไปเที่ยวทะเลกัน ณ เกาะล้าน
คือเรื่องมีอยู่ว่า จขกท. และเพื่อนๆเนี่ยแพลนว่าจะไปเที่ยวหลังเรียนจบกับเพื่อนๆ ก็อยากจะพักผ่อนบ้าง หลังเรียนหนักมาสี่ปีเต็มอ่ะเนอะ เราก็ตกลงกันว่าอยากจะไป “เกาะล้าน” เป็นเวลา 2วัน 1 คืน โดยส่วนตัว จขกท. เองก็ไม่เคยไปมาก่อน และก็อยากไปนานแล้ว(ก่อนที่ทะเลจะไม่สวยซะก่อน อิอิ) ทีนี้เราก็ทำการบ้านกันอยู่ 2-3วันค่ะ นั่งไล่อ่านกระทู้ ดูรีวิว แบบที่เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็คงกำลังทำอยู่ อ้อ!! ลืมบอกว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงเดือน มีนาคม ปี 2015 นะคะ
ประเด็นหลักๆของการวางแผนมีอยู่ 2 ประเด็นเท่านั้นคือ การแพลนเที่ยว และ ที่พัก นั่งอ่านรีวิวจนตาลายเลยจ้า โดยทริปของเรานี้ เน้นเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยงบประมานที่จำกัด รัดเข็มขัดสุดๆ ซึ่งข้อจำกัดคืองบที่ใช้ต้องไม่เกิน 1,500 บาท (บอกก่อนว่ามีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ จขกท. แอนด์เดอะแก๊ง เกือบไม่ได้ไปนะ แต่สุดท้ายเราก็ก้าวผ่านมาได้ อิอิ) สุดท้ายเราทั้ง 6 คน ก็ตกลงปลงใจ ว่าจะจองและจ่ายมัดจำที่พักที่ บ้านต้นไผ่ เพราะที่นี่ตอบโจทย์เราที่สุดค่ะ เราจองเป็นห้องเตียงคู่ 3 เตียง ห้องใหญ่ไปค่ะ ราคาอยู่ที่3,000 บาท นี่คือราคาในวันปกติ(จ-ศ)นะคะ เพราะถ้า ส.-อา ไม่แน่ใจว่าจะสนนราคาเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ โดยจุดเด่นของบ้านต้นไผ่คือ มีรถมอเตอไซด์ให้เราใช้ฟรีๆ 2 คัน น้ำมันไม่อั้น (เอาตรงๆเพื่อนๆคงใช้ไม่เกินครึ่งถังกันหรอกค่ะ) มีอาหารเช้าเป็นAmerican Breakfast ไม่อั้น และสุดท้ายคือมีบริการรับส่งจากท่าหน้าบ้าน เดี๋ยวจะมีภาพให้ดูตอนท้ายนะคะ มาเริ่มทริปของเราเลยดีกว่า..
เราเดินทางจากศาลายาด้วยรถเมล์ 515 ใช้เวลาประมาน 50 นาทีถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปถึงอนุสฯก็ราวๆ 8.30 ค่ะ แล้วเราก็ไปขึ้นรถตู้ ที่ข้างห้างเซนจูรี่ค่ารถคนละ 100 บาทค่ะ ตามรูปเลย
จำได้ว่าใช้เวลารอรถตู้ประมาน 2 ชม.ได้มั้งเพคะ คือเลทมากกกกก อาจจะเพราะรถติด(มั้ง)ค่ะ พอไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายที่พัทยา ก็ราวๆบ่ายโมง เวลาก็เลทจากแพลนไปเยอะเหมือนกันค่ะ ทำให้เราต้องขึ้นเรือรอบบ่าย 2 โมงค่ะ นี่เป็นรอบเรือค่ะ
ระหว่างรอเราก็ไปหาข้าวทานกันก่อนค่ะเพราะโคตรๆจะหิวค่ะ จากนั้นก็ขึ้นเรือไปยังท่าหน้าบ้านค่ะ ค่าเรือ 30 บาทต่อคน แต่ถ้าใช้รีบและมีทุนทรัพย์มากกกก ก็มีบริการสปีดโบ๊ทนะเจ้าคะราคาก็แพงกว่าหลายเท่า แล้วแต่เพื่อนๆสะดวกจ้า แนะนำว่าเพื่อนๆไม่ต้องไปยืนต่อคิวที่อาคารผู้โดยสารนะคะ เดินมาขึ้นเรือและจ่ายเงินได้เลยค่ะเพราะมีค่าเท่ากัน
พอเรามาถึงเราก็โทรบอกให้เค้าออกมารับค่ะ โดยมากที่พักที่นี่จะมีบริการรับ-ส่งลูกค้าที่เข้าพักจากท่าเรือไปยังบ้านพักอยู่แล้วค่ะ และแถ่น แทน แทนนน นี่คือบ้านพักของพวกเราค่ะ บ้านต้นไผ่ นี่เป็นบริเวณหน้าบ้านค่ะ
จากที่พวกเราก็ชมหาดจนทั่วแล้วก็เริ่มหิวค่ะ เราเลือกไปรับประทานอาหารเย็นกันที่ร้าน “ครัวเฉลียงลม” เป็นร้านที่โด่งดังนรีวิว ใครมาเกาะล้านต้องไป เราก็ลองดูๆ ปรากฏว่าบรรยากาศดีมากๆเลยค่ะที่นั่งจะมีหลายแบบให้เลือกมีทั้งนั่งติดขอบหาด หรือนั่งในซุ้มที่จัดไว้ มีเพลงเพราะๆเบาๆเคล้าบรรยากาศริมทะเล ลมทะเลเคลื่อนผ่านตัว สบายและฟินกับบรรยากาศสุดๆ แต่เกือบทั้งร้านคนที่มานี่มาเป็นคู่หมดเลยค่ะ (เราหาได้แคร์ไม่ แม้จะเป็นแก๊งชะนี 6 คน เราก็สนุกสนานเฮฮาของเราได้นิเนอะ) ส่วนเรื่องรสชาติอาหารถ้าถาม จขกท. นะคะ ก็พื้นๆค่ะ มีทั้งอร่อย และ ธรรมดาแล้วแต่เมนูลองเลือกกันดูนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้ลงรูปอาหารเลย เพราะหิวจัดค่ะ ฟาดเรียบบบบบบ ภายในพริบตา เก็บภาพมานิดหน่อยเพราะมืดมากและไม่อยากใช้แฟลชค่ะ เดี๋ยวเสียบรรยากาศ
พออิ่มหนำสำราญก็ถึงเวลากลับที่พักค่ะ พวกเราก็นั่งปาร์ตี้กันต่อในห้องพักค่ะ มีขนมนมเนยมาทานเพียบ แล้วที่เราแนะนำค่ะคือ โรตี ร้านตรงข้าม 7-11 อร่อย ยกนิ้วเลยค่ะ ราคาไม่แพงรู้สึก โรตีนมธรรมดาจะ 20 บาท ประมาณนี้ จากนั้นเราก็นัดกันตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้นไม่ทันได้อาบน้ำค่ะ แค่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เราก็ออกมาแว๊นเพื่อไปแตะขอบฟ้า เอ้ยยยย ไม่ใช่!! ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ แต่มีเหตุการณ์หลงทางยังหาเจอ หลงเธอสิเธอทน ไม่ใช่!!!! ค่ะเราหาจุดชมวิวบ่เจอเจ้าข่าเราเลยมาแช๊ะภาพที่แลนมาร์คนี่แทน
จากนั้นเราก็ไปเล่นน้ำทะเลที่หาดตาแหวนค่ะ
จากนั้นก็กลับมาอาบน้ำและทานอาหารเช้าที่บ้านพัก ก่อนจะเกลือกกลิ้งไปมาพร้อมๆกับเก็บกระเป๋าเพื่อกลับ เราเชคเอาท์11 โมงมีรถไปส่งที่ท่าหน้าบ้าน แต่เรือจากท่าไปยังฝั่งมีรอบ บ่ายโมงค่ะ เราถึงตัดสินใจเดินเล่นร้านของฝากและทานขนมหวานที่ร้านไอศกรีมเกล็ดหิมะ นี่บรรยากาศในร้านค่ะ
สิริรวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป
-ค่าที่พัก 3000 บาท
-ค่าเช่ารถ 300 บาท
-ค่ารถ515 23*6= 138 ,ค่ารถตู้ไปกลับ 200*6=1200,ค่าเรือไปกลับ 60*6=360,ค่ารถตู้กลับศาลายา 30*5=150 รวมค่าเดินทาง 1,848 บาท
-ค่าขนมและจิปาถะ 600 บาท
-ค่าอาหารค่ำที่ครัวเฉลียงลม 1,500 บาท
รวมค่าใช้จ่าย(ไม่นับค่าของฝากและโปสการ์ดที่พวกเราซื้อแยกของใครของมันนะคะ) = 7,248 บาท เฉลี่ยคนละ 1,208 บาท ค่ะ ถือว่าไม่เกินงบค่ะ
แม้การเดินทางของพวกเราจะสิ้นสุดลงแต่ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ค่ะ ขอบคุณพวกแกที่เดินทางเคียงข้างมาตลอดสี่ปีในรั้วมหาลัย ต่อจากนี้แต่ละคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วอย่าลืมการเดินทางที่แสนพิเศษของพวกเรานะ