เคยมีคนบอกไว้ว่าถ้ามีเงิน ระหว่างของที่อยากได้ กับ การแลกซื้อประสบการณ์ จะเลือกอย่างไหน?
จขกท เป็นแฟนบอลไทยครับ โดยเฉพาะปลาทูที่ตอนนี้ไม่ค่อยคะนองเท่าไร 55
หลายเดือนก่อน มีแพลนที่คิดว่าจะไปญี่ปุ่นอีกสักครั้ง หลังจากที่คราวก่อนไปเที่ยวโตเกียวและเมืองรอบๆ มา ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักๆ
ของทริปนี้ ที่จริงแล้ว..
ผมได้วางแผนไว้ว่าจะตามไปเชียร์ ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกม ACL ที่จะพบกับ กัมบะ โอซาก้า ทริปเปิ้ลแชมป์ของญี่ปุ่นในฤดูกาลที่ผ่านมา
หลังจากจัดแจง ซื้อตั๋วเกมนี้ได้ ผ่านทางเวปของทีมกัมบะ โอซาก้า ที่เปิดขายล่วงหน้า ในราคา 2100 เยน (โซนหลังประตูทีมเยือน)
ถอยกล้องตัวใหม่สำหรับทริปนี้เลยทีเดียว กะว่าจะได้มีภาพสวยๆ มารีวิว ตอบแทนชาวพันทิปกับเขาบ้าง
ถอยเสื้อบุรีรัมย์ เวอร์ชั่น ACL มาใส่ (ทั้งๆ ที่ จขกท เป็นแฟนปลาทู 55)
พอถึงวันแข่งปรากฎว่า....ฝนตกหนักมากกกกกกกกกก
ภาพนี้ถ่ายบนสถานีรถโมโนเรล ก่อนที่จะต้องควักเงิน 400 เยนเพื่อซื้อเสื้อกันฝนที่ขายอยู่ตรงทางออกสถานี ใจหนึ่งก็คิดว่า เอาไงดีหว่า เปียกแน่ๆ
กล้องล่ะ กล้องใหม่ด้วยยยยยยยย เปียกแน่ๆ
หมดกัน เสื้อบุรีรัมย์ที่ซื้อมา รูปสวยๆ ที่จะมาถ่าย T_T
แต่ยังไง ผมก็ได้เข้าไปชมเกมนั้นทั่งๆ ที่ฝนตกกระหน่ำนั่นล่ะครับ ได้เจอกับแฟนเซราะกราวที่ขนกันมาจากเมืองไทย และคนไทยที่นั่นที่เข้าไปเชียร์กันพอสมควร
บอกตามตรงว่าวินาทีที่ กัมบะ ยิงนำ ผมไม่ได้ดูหรอก เพราะมัวแต่สาละวนกับการเก็บของไม่ให้เปียกฝน พอเงยหน้ามาอีกที โดนนำไปซะแล้ว
ก่อนที่ครึ่งหลัง เจ้าอุ้มจะยิงฟรีคิกสุดสวย ทำให้ลืมเรื่องฝนไปเลยทีเดียว 55555
----------------------------------------------------------------------------------
อารัมภบทมาพอสมควร จริงๆ นอกจากแมทช์ตามไปดูบุรีรัมย์แล้ว ผมยังวางแผนว่าจะตามไปสัมผัส J-League อีกสักแมทช์ หลังจากสองปีก่อนเคยเข้าไปดูเกมในบ้านของเอฟซีโตเกียว ที่ชินจูกุ มาแล้ว แมทช์นั้น โดนคาชิมา แอทเลอร์ ถล่มเละ 1-4 (ถ้าจำไม่ผิด)
ก่อนมา ก็ลองสำรวจดูว่า มีแมทช์ในเขตแถวๆ โอซาก้าที่พอจะไปได้ไหม และก็พบว่า วันอาทิตย์ มีเกมเจลีกที่เมืองโกเบนี่เอง ใกล้ๆ จากโอซาก้าไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ
เรามาโกเบ โดยเดินทางด้วยชินคันเซ็นจากเกียวโต เพราะคืนก่อนหน้านั้น ผมแวะค้างที่เกียวโตมาก่อน จากเกียวโตมาลงที่สถานี ชินโกเบ
บอลเตะห้าโมงเย็น เรามีเวลาเหลือๆ ในเมื่อมาถึงโกเบแล้ว ก็ต้องมาลองเนื้อโกเบสิครับ
เห็นรูปนี้ อยู่ในสถานีชินโกเบ เรามาไม่ผิดแน่ ที่นี่บ้านของ Vissel Kobe ชัวร์...
จากสถานีชินโกเบ เรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Sannomiya เพื่อไปชิมเนื้อโกเบที่ร้าน Steak Land กันครับ
เดินหาป้ายนี้ ไม่ยากครับ ยังไงก็เจอ ไปก่อนสิบเอ็ดโมง ต่อคิวแปปเดียวก็ได้เข้าร้านแล้วครับ
มีเมนู พร้อมราคา อยู่หน้าร้าน ชุด Lunch Set ราคาย่อมเยาพอสมควร กระเป๋าไม่ฉีก ว่างั้นเหอะ ฮาาาา
เนื้อพร้อม!!!
เซฟพร้อม!!!
ขอหม่ำก่อนละคร้าบบบบบ
ก็อร่อยตามประสาคนชอบกินเนื้อละครับ ร้านนี้ไปทานแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่เมืองไทย เพราะมักจะได้เจอพี่ๆ น้องๆ คนไทยแวะเวียนกันมาครับ
ต่อจากนี้เราก็ออกสำรวจเมืองโกเบกันสักหน่อย
ตามความทรงจำ นอกเหนือจากเนื้อโกเบอันขึ้นชื่อแล้ว สิ่งที่ผมจำได้เกี่ยวกับเมืองนี้คือ เมื่อ 20 ปีก่อน มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นกับเมืองนี้
แผ่นดินไหวคราวนั้น ได้ทำลายบ้านเมือง และคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคนเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่า จากซากปรักหักพัง ตอนนั้น ผ่านมา 20 ปี โกเบก็พลิกฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจริงๆ
บริเวณสถานี Sannomiya
หลังจากอิ่มแล้ว ก็ออกตระเวณไปเที่ยวในเมืองโกเบ เริ่มจาก China Town เมืองโกเบ
จากนั้นก็ไปเที่ยวกันต่อที่บริเวณท่าเรือโกเบ
ที่บริเวณนี้ มีพิพิธภัณฑฺ์อันปังแมนด้วย รับรองว่าเดินตามอันปังแมนไปไม่มีหลง...
ทีนี้จากตรงนี้เราก็เตรียมที่จะไปสนาม Noevir Stadium ซึ่งเป็นรังเหย้าของ Vissel Kobe กันแล้วครับ จากท่าเรือผมนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่
สถานี Shin Nagata ซึ่งจากที่อ่านมาจากในเวปของทีม จะเดินไปสนามเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง....
แต่....
พอผมไปถึงกลับหาทางไปสนามไม่เจอซะอย่างนั้น แถมไม่มีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอกเลยว่า จะมีบอลแข่งแถวๆ นั้น....
หนทางอยู่ที่ปาก สำหรับนักเดินทาง อาศัยถามลุงยามแถวๆ สถานีได้ความว่า ให้ไปลงที่สถานี Misaki Koen เลยต้องนั่งรถไฟย้อนกลับไป
แต่จากข้อมูลที่หามา ที่สถานี Shin Nagata เป็นที่ตั้งของหุ่นยักษ์ หมายเลข 28 (Tetsujin) ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด นักเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ท่านเป็นชาวโกเบ เลยมีการสร้างหุ่นยักษ์ขึ้นที่นี่
และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงสถานี Misaki Koen เข้าเรื่องตามรีวิวสักทีครับ 555
พาไปดูเกม J-League : Vissel Kobe Vs Tokyo FC
เห็นป้ายนี้ในสถานี แปลว่าเรามาถูกทางแล้ว !!!!
หนทางหลังจากนั้นก็เดินตามคลื่นมหาชนไปครับ รับรองเจอสนามแน่ๆ แนะนำว่าถ้าใครไป หาซื้อของกินก่อนไปถึงสนามนะครับ จะถูกกว่าบริเวรสนาม
และก็ ในสนามห้ามขวด และกระป๋อง จะมีแก้วให้รินใส่เครื่องดื่มเข้าไปนะครับ
มีป้ายรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 1995 ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 20 ปีของเหตุการณ์นั่นเองครับ
สนาม Novier แห่งนี้เคยเป็นสังเวียนแข้งในเกมฟุตบอลโลก 2002 มาแล้ว
วันนี้เจ้าบ้าน Vissel Kobe เปิดบ้านพบกับ Tokyo FC
บรรยากาศในสนาม ฝั่งเจ้าบ้านมากันเต็มสนามทีเดียวครับ อ่อ ลืมบอกไป ว่าฝั่งที่ผมนั่งเป็นโซนฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ราคา 3700 เยน
ฝั่งของทีมเยือนจะอยู่หลังประตูอีกฝั่ง มาเยอะมาก แถมก่อนเกม ยังร้องเพลง You'll never walk alone ด้วย สงสัยจะเป็นเพลงประจำสโมสร
ภายในสนามมีร้านค้า แต่ราคาก็แอบแพงนิดหน่อย
เกมนี้ Tokyo ออกนำไปก่อน จากนั้น Vissel มีโอกาสตีเสมอจาก ลูกจุดโทษ แต่โชคร้ายที่ยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตู
ก่อนที่ครึ่งหลัง Tokyo FC จะมาได้อีกลูก และจบเกมด้วยความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้าน 0-2
จบเกม นักเตะเจ้าบ้านก็เดินมาขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์
ตามด้วยมัสคอตของทีม
บอลจบ ก็ได้เวลากลับโอซาก้าล่ะครับ
ลาก่อน Vissel Kobe ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก....
ตอนออกจากสนาม การระบายคนออกจากสนามที่นีทำได้รวดเร็วมาก ออกมาแล้วก็ต่อรถไฟใต้ดินได้เลย มีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกอยู่ตามทาง
ก่อนที่เราจะมาขึ้นรถไฟ JR ที่ Sannomiya เพื่อกลับไปเช้กอินเข้าที่พัก ถือว่าภารกิจในการตะลุยคันไซของผมได้มาถึงจุดที่เรียกว่า ทำตามความฝันได้สำเร็จไปอีกก้าวหนึ่ง การได้มีประสบการณ์ตามมาเชียร์ทีมตัวแทนจากประเทศไทยนอกบ้าน
ได้มาสัมผัสลีกที่ได้ชื่อว่ามีการบริหารจัดการดีที่สุดในเอเชียถึงที่
ย้อนกลับไปที่คำถามข้างบน ระหว่างของที่อยากได้ กับ การแลกซื้อประสบการณ์
คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับ ว่า ผมเลือกอย่างไหน....
ขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิวแรกนะครับ เขียนบรรยายไม่ค่อยเก่งเท่าไรนัก มีโอกาสจะรีวิวอีก เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ สมาชิกนะครับ
[CR] พาไปดูเกม J-League : Vissel Kobe Vs Tokyo FC
จขกท เป็นแฟนบอลไทยครับ โดยเฉพาะปลาทูที่ตอนนี้ไม่ค่อยคะนองเท่าไร 55
หลายเดือนก่อน มีแพลนที่คิดว่าจะไปญี่ปุ่นอีกสักครั้ง หลังจากที่คราวก่อนไปเที่ยวโตเกียวและเมืองรอบๆ มา ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักๆ
ของทริปนี้ ที่จริงแล้ว..
ผมได้วางแผนไว้ว่าจะตามไปเชียร์ ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกม ACL ที่จะพบกับ กัมบะ โอซาก้า ทริปเปิ้ลแชมป์ของญี่ปุ่นในฤดูกาลที่ผ่านมา
หลังจากจัดแจง ซื้อตั๋วเกมนี้ได้ ผ่านทางเวปของทีมกัมบะ โอซาก้า ที่เปิดขายล่วงหน้า ในราคา 2100 เยน (โซนหลังประตูทีมเยือน)
ถอยกล้องตัวใหม่สำหรับทริปนี้เลยทีเดียว กะว่าจะได้มีภาพสวยๆ มารีวิว ตอบแทนชาวพันทิปกับเขาบ้าง
ถอยเสื้อบุรีรัมย์ เวอร์ชั่น ACL มาใส่ (ทั้งๆ ที่ จขกท เป็นแฟนปลาทู 55)
พอถึงวันแข่งปรากฎว่า....ฝนตกหนักมากกกกกกกกกก
ภาพนี้ถ่ายบนสถานีรถโมโนเรล ก่อนที่จะต้องควักเงิน 400 เยนเพื่อซื้อเสื้อกันฝนที่ขายอยู่ตรงทางออกสถานี ใจหนึ่งก็คิดว่า เอาไงดีหว่า เปียกแน่ๆ
กล้องล่ะ กล้องใหม่ด้วยยยยยยยย เปียกแน่ๆ
หมดกัน เสื้อบุรีรัมย์ที่ซื้อมา รูปสวยๆ ที่จะมาถ่าย T_T
แต่ยังไง ผมก็ได้เข้าไปชมเกมนั้นทั่งๆ ที่ฝนตกกระหน่ำนั่นล่ะครับ ได้เจอกับแฟนเซราะกราวที่ขนกันมาจากเมืองไทย และคนไทยที่นั่นที่เข้าไปเชียร์กันพอสมควร
บอกตามตรงว่าวินาทีที่ กัมบะ ยิงนำ ผมไม่ได้ดูหรอก เพราะมัวแต่สาละวนกับการเก็บของไม่ให้เปียกฝน พอเงยหน้ามาอีกที โดนนำไปซะแล้ว
ก่อนที่ครึ่งหลัง เจ้าอุ้มจะยิงฟรีคิกสุดสวย ทำให้ลืมเรื่องฝนไปเลยทีเดียว 55555
----------------------------------------------------------------------------------
อารัมภบทมาพอสมควร จริงๆ นอกจากแมทช์ตามไปดูบุรีรัมย์แล้ว ผมยังวางแผนว่าจะตามไปสัมผัส J-League อีกสักแมทช์ หลังจากสองปีก่อนเคยเข้าไปดูเกมในบ้านของเอฟซีโตเกียว ที่ชินจูกุ มาแล้ว แมทช์นั้น โดนคาชิมา แอทเลอร์ ถล่มเละ 1-4 (ถ้าจำไม่ผิด)
ก่อนมา ก็ลองสำรวจดูว่า มีแมทช์ในเขตแถวๆ โอซาก้าที่พอจะไปได้ไหม และก็พบว่า วันอาทิตย์ มีเกมเจลีกที่เมืองโกเบนี่เอง ใกล้ๆ จากโอซาก้าไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ
เรามาโกเบ โดยเดินทางด้วยชินคันเซ็นจากเกียวโต เพราะคืนก่อนหน้านั้น ผมแวะค้างที่เกียวโตมาก่อน จากเกียวโตมาลงที่สถานี ชินโกเบ
บอลเตะห้าโมงเย็น เรามีเวลาเหลือๆ ในเมื่อมาถึงโกเบแล้ว ก็ต้องมาลองเนื้อโกเบสิครับ
เห็นรูปนี้ อยู่ในสถานีชินโกเบ เรามาไม่ผิดแน่ ที่นี่บ้านของ Vissel Kobe ชัวร์...
จากสถานีชินโกเบ เรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Sannomiya เพื่อไปชิมเนื้อโกเบที่ร้าน Steak Land กันครับ
เดินหาป้ายนี้ ไม่ยากครับ ยังไงก็เจอ ไปก่อนสิบเอ็ดโมง ต่อคิวแปปเดียวก็ได้เข้าร้านแล้วครับ
มีเมนู พร้อมราคา อยู่หน้าร้าน ชุด Lunch Set ราคาย่อมเยาพอสมควร กระเป๋าไม่ฉีก ว่างั้นเหอะ ฮาาาา
เนื้อพร้อม!!!
เซฟพร้อม!!!
ขอหม่ำก่อนละคร้าบบบบบ
ก็อร่อยตามประสาคนชอบกินเนื้อละครับ ร้านนี้ไปทานแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่เมืองไทย เพราะมักจะได้เจอพี่ๆ น้องๆ คนไทยแวะเวียนกันมาครับ
ต่อจากนี้เราก็ออกสำรวจเมืองโกเบกันสักหน่อย
ตามความทรงจำ นอกเหนือจากเนื้อโกเบอันขึ้นชื่อแล้ว สิ่งที่ผมจำได้เกี่ยวกับเมืองนี้คือ เมื่อ 20 ปีก่อน มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นกับเมืองนี้
แผ่นดินไหวคราวนั้น ได้ทำลายบ้านเมือง และคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคนเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่า จากซากปรักหักพัง ตอนนั้น ผ่านมา 20 ปี โกเบก็พลิกฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจริงๆ
บริเวณสถานี Sannomiya
หลังจากอิ่มแล้ว ก็ออกตระเวณไปเที่ยวในเมืองโกเบ เริ่มจาก China Town เมืองโกเบ
จากนั้นก็ไปเที่ยวกันต่อที่บริเวณท่าเรือโกเบ
ที่บริเวณนี้ มีพิพิธภัณฑฺ์อันปังแมนด้วย รับรองว่าเดินตามอันปังแมนไปไม่มีหลง...
ทีนี้จากตรงนี้เราก็เตรียมที่จะไปสนาม Noevir Stadium ซึ่งเป็นรังเหย้าของ Vissel Kobe กันแล้วครับ จากท่าเรือผมนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่
สถานี Shin Nagata ซึ่งจากที่อ่านมาจากในเวปของทีม จะเดินไปสนามเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง....
แต่....
พอผมไปถึงกลับหาทางไปสนามไม่เจอซะอย่างนั้น แถมไม่มีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอกเลยว่า จะมีบอลแข่งแถวๆ นั้น....
หนทางอยู่ที่ปาก สำหรับนักเดินทาง อาศัยถามลุงยามแถวๆ สถานีได้ความว่า ให้ไปลงที่สถานี Misaki Koen เลยต้องนั่งรถไฟย้อนกลับไป
แต่จากข้อมูลที่หามา ที่สถานี Shin Nagata เป็นที่ตั้งของหุ่นยักษ์ หมายเลข 28 (Tetsujin) ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด นักเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ท่านเป็นชาวโกเบ เลยมีการสร้างหุ่นยักษ์ขึ้นที่นี่
และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงสถานี Misaki Koen เข้าเรื่องตามรีวิวสักทีครับ 555
เห็นป้ายนี้ในสถานี แปลว่าเรามาถูกทางแล้ว !!!!
หนทางหลังจากนั้นก็เดินตามคลื่นมหาชนไปครับ รับรองเจอสนามแน่ๆ แนะนำว่าถ้าใครไป หาซื้อของกินก่อนไปถึงสนามนะครับ จะถูกกว่าบริเวรสนาม
และก็ ในสนามห้ามขวด และกระป๋อง จะมีแก้วให้รินใส่เครื่องดื่มเข้าไปนะครับ
มีป้ายรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 1995 ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 20 ปีของเหตุการณ์นั่นเองครับ
สนาม Novier แห่งนี้เคยเป็นสังเวียนแข้งในเกมฟุตบอลโลก 2002 มาแล้ว
วันนี้เจ้าบ้าน Vissel Kobe เปิดบ้านพบกับ Tokyo FC
บรรยากาศในสนาม ฝั่งเจ้าบ้านมากันเต็มสนามทีเดียวครับ อ่อ ลืมบอกไป ว่าฝั่งที่ผมนั่งเป็นโซนฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ราคา 3700 เยน
ฝั่งของทีมเยือนจะอยู่หลังประตูอีกฝั่ง มาเยอะมาก แถมก่อนเกม ยังร้องเพลง You'll never walk alone ด้วย สงสัยจะเป็นเพลงประจำสโมสร
ภายในสนามมีร้านค้า แต่ราคาก็แอบแพงนิดหน่อย
เกมนี้ Tokyo ออกนำไปก่อน จากนั้น Vissel มีโอกาสตีเสมอจาก ลูกจุดโทษ แต่โชคร้ายที่ยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตู
ก่อนที่ครึ่งหลัง Tokyo FC จะมาได้อีกลูก และจบเกมด้วยความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้าน 0-2
จบเกม นักเตะเจ้าบ้านก็เดินมาขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์
ตามด้วยมัสคอตของทีม
บอลจบ ก็ได้เวลากลับโอซาก้าล่ะครับ
ลาก่อน Vissel Kobe ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก....
ตอนออกจากสนาม การระบายคนออกจากสนามที่นีทำได้รวดเร็วมาก ออกมาแล้วก็ต่อรถไฟใต้ดินได้เลย มีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกอยู่ตามทาง
ก่อนที่เราจะมาขึ้นรถไฟ JR ที่ Sannomiya เพื่อกลับไปเช้กอินเข้าที่พัก ถือว่าภารกิจในการตะลุยคันไซของผมได้มาถึงจุดที่เรียกว่า ทำตามความฝันได้สำเร็จไปอีกก้าวหนึ่ง การได้มีประสบการณ์ตามมาเชียร์ทีมตัวแทนจากประเทศไทยนอกบ้าน
ได้มาสัมผัสลีกที่ได้ชื่อว่ามีการบริหารจัดการดีที่สุดในเอเชียถึงที่
ย้อนกลับไปที่คำถามข้างบน ระหว่างของที่อยากได้ กับ การแลกซื้อประสบการณ์
คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับ ว่า ผมเลือกอย่างไหน....
ขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิวแรกนะครับ เขียนบรรยายไม่ค่อยเก่งเท่าไรนัก มีโอกาสจะรีวิวอีก เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ สมาชิกนะครับ