ก๊อปประวัติจากเวปวิกิพีเดียมาให้อ่านกันค่ะ
วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันเอพริลฟูล (อังกฤษ:
April Fool's Day) เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ซึ่งวันที่ 1 เมษายนนี้มิใช่วันหยุดราชการ แต่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และเฉลิมฉลองเป็นวันที่หลายคนจะเล่นมุขตลกและความเขลาทุกแบบ วันนี้เป็นวันแห่งการสำราญ หรือมิฉะนั้นก็มุขตลก การหลอกลวง และการแกล้งอื่นๆ ที่มีระดับการตบตาต่างๆ กัน กับเพื่อน สมาชิกครอบครัว ครูอาจารย์ เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
เดิม เด็กฝรั่งเศสและอิตาลี (ซึ่งอาจรวมผู้ใหญ่ด้วย เมื่อเหมาะสม) ติดปลากระดาษบนหลังของอีกฝ่ายเมื่อเป็นการตบตา และตะโกน "april fish!" (ปลาเมษา) ในภาษาท้องถิ่นของตน
การเชื่อมโยงระหว่างวันที่ 1 เมษายนกับความเขลาเก่าแก่ที่สุดที่มีบันทึกสามารถพบได้ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า การฟื้นฟูวันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีผลต่อการสร้างสรรค์วันดังกล่าว แต่ทฤษฎีนี้มิได้อธิบายการอ้างถึงก่อนหน้านั้น
ต้นกำเนิด
ต้นเค้าของวันเมษาหน้าโง่มีเทศกาลฮิลาเรียของโรมัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมและเทศกาลคนโง่ในสมัยกลาง จัดขึ้นวันที่ 28 ธันวาคม และยังคงเป็นวันซึ่งมีการเล่นตลกอยู่ในประเทศที่พูดภาษาสเปน
ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ "ตำนานของแม่ชีของพระ" (Nun's Priest's Tale) ซึ่งเรื่องมีขึ้น "Syn March bigan thritty dayes and two"[1] นักวิชาการสมัยใหม่เชื่อว่ามีความผิดพลาดในการทำสำเนาในเอกสารเขียนต้นฉบับเท่าที่มีอยู่ และชอเซอร์แท้จริงแล้วเขียนว่า "Syn March was gon"[2] ดังนั้น วลีนี้เดิมจึงหมายถึง 32 วันหลังเดือนเมษายน คือ 2 พฤษภาคม[3] วันครบรอบการหมั้นระหว่างสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษกับแอนน์แห่งโบฮีเมีย ซึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1381 ผู้อ่านกลับเข้าใจผิดว่าวลีนี้หมายถึง "32 มีนาคม" หรือ 1 เมษายน ในตำนานของชอเซอร์ ไก่ตัวผู้ที่หลงตัวเองถูกสุนัขจิ้งจอกตบตา
ในสมัยกลาง วันขึ้นปีใหม่เฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 มีนาคมในเมืองยุโรปส่วนมาก[4] ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศสเป็นวันหยุดนานหนึ่งสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายน[5][6] นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า วันเมษาหน้าโง่ถือกำเนิดขึ้นเพราะผู้ที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ล้อคนที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่วันอื่น[5] การใช้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่นั้นพบทั่วไปในฝรั่งเศสเมื่อถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16[3] และวันนี้ได้รับมาอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1564 โดยกฤษฎีการูสิยอง (Edict of Roussillon)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อยากจะเล่าให้ฟังเผื่อเป็นแนวทางให้คนที่ไม่กล้าเอ่ยปากบอกรักใคร
เพื่อนคนนึงมาเล่าให้เพื่อนเราฟังว่า มันไม่กล้าขอคนที่มันแอบชอบเป็นแฟน กลัวผญเค้าจะปฏิเสธ แล้วจะไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อน
ก็เลยยุให้ขึ้นสเตตัสบอกรักลอยๆ แล้วชวนคนนั้นไปทานข้าวเย็นในวันที่ 1 เมษาเลย ผชมันก็ทำตามที่เพื่อนบอกนะคะ
กะว่าถ้าแป้กก็ให้ตีมึนไปว่า อ้าว..รู้ทันด้วยหรอว่าวันนี้วันอำแห่งชาติ April fool's day แก้เขินไป อะไรทำนองนี้
ปรากฏว่าหลังจากวันนั้นควงกันกระหนุงกระหนิงเป็นแฟนกันจนปัจจุบันนี้เลยค่ะ 5555+ นึกแล้วก็น่ารักดี
ดีนะที่ผญไม่ปฎิเสธ หรือแกล้งอำต่อ..
อยากรู้ว่าใครเคยมีประสบการณ์วันเมษาหน้าโง่แบบฮาๆ น่ารักๆ หรือหน้าแตกกันบ้างไหม...
แชร์มาเลยค่ะ อยากฟัง

(ดูจากชื่อไอดีก็น่าจะรู้นะคะว่าอิฉันขาเผือก แฮร่....)
เพิ่ม ปล. มาตั้งกระทู้ดักไว้ เพื่อเตือนตัวเองและคนที่ได้มาอ่านผ่านตา เผื่อพรุ่งนี้จะโดนอำ หรือจะอำใครก็อย่าเล่นกันหนักนักนะคะ
อ่านข่าวอะไรยังไง ก่อนกดแชร์ก็ระวังจะเงิบกันด้วยเน้อ... อย่าอำแรงนะ เดี๋ยวเค้าตั้งตัวไม่ทัน ^^
พรุ่งนี้ให้โกหกได้ 1 วัน จะอำอะไรกันดี คิดไว้รึยังคะ หรือใครเคยโดนอำมาแชร์ด่วน April Fool's Day : วันเมษาหน้าโง่ 1 เมษา
วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันเอพริลฟูล (อังกฤษ: April Fool's Day) เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ซึ่งวันที่ 1 เมษายนนี้มิใช่วันหยุดราชการ แต่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และเฉลิมฉลองเป็นวันที่หลายคนจะเล่นมุขตลกและความเขลาทุกแบบ วันนี้เป็นวันแห่งการสำราญ หรือมิฉะนั้นก็มุขตลก การหลอกลวง และการแกล้งอื่นๆ ที่มีระดับการตบตาต่างๆ กัน กับเพื่อน สมาชิกครอบครัว ครูอาจารย์ เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
เดิม เด็กฝรั่งเศสและอิตาลี (ซึ่งอาจรวมผู้ใหญ่ด้วย เมื่อเหมาะสม) ติดปลากระดาษบนหลังของอีกฝ่ายเมื่อเป็นการตบตา และตะโกน "april fish!" (ปลาเมษา) ในภาษาท้องถิ่นของตน
การเชื่อมโยงระหว่างวันที่ 1 เมษายนกับความเขลาเก่าแก่ที่สุดที่มีบันทึกสามารถพบได้ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า การฟื้นฟูวันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีผลต่อการสร้างสรรค์วันดังกล่าว แต่ทฤษฎีนี้มิได้อธิบายการอ้างถึงก่อนหน้านั้น
ต้นกำเนิด
ต้นเค้าของวันเมษาหน้าโง่มีเทศกาลฮิลาเรียของโรมัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมและเทศกาลคนโง่ในสมัยกลาง จัดขึ้นวันที่ 28 ธันวาคม และยังคงเป็นวันซึ่งมีการเล่นตลกอยู่ในประเทศที่พูดภาษาสเปน
ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ "ตำนานของแม่ชีของพระ" (Nun's Priest's Tale) ซึ่งเรื่องมีขึ้น "Syn March bigan thritty dayes and two"[1] นักวิชาการสมัยใหม่เชื่อว่ามีความผิดพลาดในการทำสำเนาในเอกสารเขียนต้นฉบับเท่าที่มีอยู่ และชอเซอร์แท้จริงแล้วเขียนว่า "Syn March was gon"[2] ดังนั้น วลีนี้เดิมจึงหมายถึง 32 วันหลังเดือนเมษายน คือ 2 พฤษภาคม[3] วันครบรอบการหมั้นระหว่างสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษกับแอนน์แห่งโบฮีเมีย ซึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1381 ผู้อ่านกลับเข้าใจผิดว่าวลีนี้หมายถึง "32 มีนาคม" หรือ 1 เมษายน ในตำนานของชอเซอร์ ไก่ตัวผู้ที่หลงตัวเองถูกสุนัขจิ้งจอกตบตา
ในสมัยกลาง วันขึ้นปีใหม่เฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 มีนาคมในเมืองยุโรปส่วนมาก[4] ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศสเป็นวันหยุดนานหนึ่งสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายน[5][6] นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า วันเมษาหน้าโง่ถือกำเนิดขึ้นเพราะผู้ที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ล้อคนที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่วันอื่น[5] การใช้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่นั้นพบทั่วไปในฝรั่งเศสเมื่อถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16[3] และวันนี้ได้รับมาอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1564 โดยกฤษฎีการูสิยอง (Edict of Roussillon)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อยากจะเล่าให้ฟังเผื่อเป็นแนวทางให้คนที่ไม่กล้าเอ่ยปากบอกรักใคร
เพื่อนคนนึงมาเล่าให้เพื่อนเราฟังว่า มันไม่กล้าขอคนที่มันแอบชอบเป็นแฟน กลัวผญเค้าจะปฏิเสธ แล้วจะไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อน
ก็เลยยุให้ขึ้นสเตตัสบอกรักลอยๆ แล้วชวนคนนั้นไปทานข้าวเย็นในวันที่ 1 เมษาเลย ผชมันก็ทำตามที่เพื่อนบอกนะคะ
กะว่าถ้าแป้กก็ให้ตีมึนไปว่า อ้าว..รู้ทันด้วยหรอว่าวันนี้วันอำแห่งชาติ April fool's day แก้เขินไป อะไรทำนองนี้
ปรากฏว่าหลังจากวันนั้นควงกันกระหนุงกระหนิงเป็นแฟนกันจนปัจจุบันนี้เลยค่ะ 5555+ นึกแล้วก็น่ารักดี
ดีนะที่ผญไม่ปฎิเสธ หรือแกล้งอำต่อ..
อยากรู้ว่าใครเคยมีประสบการณ์วันเมษาหน้าโง่แบบฮาๆ น่ารักๆ หรือหน้าแตกกันบ้างไหม...
แชร์มาเลยค่ะ อยากฟัง
เพิ่ม ปล. มาตั้งกระทู้ดักไว้ เพื่อเตือนตัวเองและคนที่ได้มาอ่านผ่านตา เผื่อพรุ่งนี้จะโดนอำ หรือจะอำใครก็อย่าเล่นกันหนักนักนะคะ
อ่านข่าวอะไรยังไง ก่อนกดแชร์ก็ระวังจะเงิบกันด้วยเน้อ... อย่าอำแรงนะ เดี๋ยวเค้าตั้งตัวไม่ทัน ^^