Review จัดกระเป๋าเดินทางตะลุยเที่ยว 20 วัน: ทริปยาวครั้งแรกในชีวิต
ท่องแดนชวา (อินโดนีเซีย) – ทักทายสิงโตพ่นน้ำ (สิงคโปร์) – เดินเล่นย่ำเมืองศิลปะ (มะละกา-ปีนัง: มาเลเซีย)
การเดินทางท่องเที่ยวยาวนานครั้งแรกในชีวิต 20 วัน กับการผจญภัยต่างแดนของ 2 สาว
มีคำถามมากมาย ทั้งโปรแกรมการเดินทาง สภาพอากาศ งบประมาณ แต่สำหรับสาวๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องวางแผน คือ จะจัดกระเป๋าเดินทางอย่างไร ให้ไม่หนักเกินไป ไม่หลายใบเกินเหตุ และไม่ลืมอุปกรณ์เสริมความงามเต็มกำลัง(ที่เหลือ) อย่าให้ได้ขายหน้า
สาวไทยใจกล้าต้องงามทั้งหน้าตา และจิตใจ อิอิ
Review นี้ เป็นการเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองล้วนๆ ใช้หลักตัวกู มากกว่าตรรกะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า…หลังจากวางแผนท่องเที่ยวกันแล้ว เราก็มาจัดกระเป๋ากันนนนนนน
เรามีความตั้งใจว่า จะมีกระเป๋าสิริรวมแล้วไม่เกิน 3 ใบ (ใบเล็ก ใบน้อยที่ซ้อนอยู่ ไม่นับนะ สาวๆ เข้าใจกันใช่มั้ย???)
ข้อที่ 1 เลือกกระเป๋าคู่ชีวิต
ใบแรกเราเลือกกระเป๋าเป้ ขนาด 45+10 ลิตร (มีกุญแจล็อคก็ดีนะ เตรียมสายล็อคจักรยานไปด้วย ถ้าต้องนั่งรถไฟในการเดินทาง)
เพราะสะดวกในการเดินทาง ต่อให้เจอบันไดก็ไม่หวั่น หลักการจัดของเราคือ เอาของหนักๆ ไว้ข้างบน ส่วนช่องล่างเป็นของที่ไม่หนักมาก เพราะถ้าเอาของหนักไว้ช่องล่างจะยิ่งถ่วงน้ำหนักลงไปที่ก้น
ตามด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าแบบถืออีก 1 ใบ เจ้าใบนี้ใส่ของที่ยัดในเป้ไม่ได้ (ไม่มีหลักการอะไรทั้งนั้น) แต่มาคิดได้ตอนหลังว่า
เราน่าจะเลือกเสื้อผ้าที่ใช้ในวันแรกๆ มาใส่ในเจ้าใบเล็กนี้ จะได้ไม่ต้องรื้อ กระจุยกระจาย (ทันมั้ยเนี้ยยยยย)
ใบสุดท้าย กระเป๋าสะพายคู่ชีพ ไปด้วยกันทุกที ทุกเวลา
จริงๆ แอบมีกระเป๋าใบเล็กอีกใบ แต่ตอนขึ้นเครื่องยัดรวมไปกับใบอื่นก่อน (เราใช้ Ocean Pack เพราะกันได้ทุกสภาพอากาศ)
เจ้าใบนี้สำคัญมาก มันคือ “กระเป๋าเสบียง” เพื่อใส่ของนานาจิปาถะ ในการเดินทางไปเที่ยวกับเราค่ะ เช่น ขนม กล้องถ่ายรูป สมุดบันทึก ไกด์บุ๊กฯ
สิ่งสำคัญ เราคิดว่ากระเป๋าทุกใบ (จริงๆ อยากรวมรองเท้าด้วย) ถ้าเป็นของแบรนด์เนม (ถูกแพงไม่ว่ากันนะ) ขอให้เป็นของแท้
ป้องกันไว้ก่อน บางประเทศอาจจะซีเรียสเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นะคะ
ข้อที่ 2 เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
เรามีหลักการประจำตัวว่า ฉันจะเอาเสื้อผ้าที่พร้อมสละสมบัติ ไปให้มากที่สุด นั้นคือ ชุดเน่าๆ ใส่แล้วพร้อมทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่กระเป๋า
และลดน้ำหนักระหว่างการเดินทาง
เรามีเสื้อผ้าไปแค่ครึ่งทริป คือประมาณ 10 วัน เพราะจากประสบการณ์ จะต้องมีการซื้อเสื้อผ้าท้องถิ่นเพิ่มเสมอ และถ้าได้หยุดพักที่ไหนเกิน 1 คืน เราจะเอาเสื้อผ้ามาซักทันที (อย่าลืมพกไม้แขวนกับที่หนีบผ้าไปด้วยนะคะ 1-2 อันไม่เปลืองพื้นที่หรอกคะ) ส่วนชุดข้างในของสาวๆ สำหรับเราต้องเรียกว่าโกยกันไปเลยคะ เพราะหาที่ตาก (ที่ซักมีอยู่แล้ว) ยากมากกกกกกกกก บางที่มันไม่เหมาะสมจริงๆ นะ
(สาวๆ ซื้อ กกน.กระดาษ หรือราคาถูกๆ ที่ตลาดนัดก็ได้นะ เชื่อเถอะ คุ้ม!!)
สิ่งสำคัญ อย่าลืมชุดว่ายน้ำนะคะ เดินกันเหนื่อยๆ ได้กลับมาแช่น้ำ มันมีความสุขที่สุดเลยหละ และอย่าลืมศึกษาวัฒนธรรมของประเทศที่เราจะไป เช่น ที่อินโดนีเซีย ผู้หญิงควรมีกระโปรงยาว หรือผ้าถุง และผ้าคลุมหัว เพื่อเข้าศาสนสถานค่ะ
ข้อที่ 3 รองเท้า เลือกผิดชีวิตพัง
เรามีรองเท้าไป 3 คู่ แต่ทุกคู่ต้องผ่านการทดลองใส่เดิน เดิน เดิน และก็เดิน มาแล้วว่าไม่กัดกันใช่มั้ย?
เพราะเราต้องอยู่กันไปอีกนานนะคะ จะไปซื้อใหม่นี้เสียดายเงินสุดๆ
คู่แรก เป็นคู่โปรด ใส่เดินเล่นสวยงามจากเมืองไทย ไปไกลถึงเดินเล่นได้ทุกเมือง แถมปั่นจักรยานก็ยังไหว
คู่ที่สอง รองเท้าผ้าใบมือสอง 60 บาท (ภูมิใจมาก) เอาไว้ใส่ตะลุยฝุ่น เน่าแล้วทิ้งเลย สบายใจ!!
คู่สุดท้าย รองเท้าแตะ ใส่ได้ทุกโอกาสที่เหมาะสม ในที่พัก ไปหาข้าวกิน ริมทะเล ข้างสระว่ายน้ำ ตามอัธยาศัยเลยค่ะ
ข้อที่ 4 เครื่องสำอาง และอุปกรณ์อาบน้ำ
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความเยอะของแต่ละคน สำหรับเรา “กระเป๋าหนักไม่ว่า หน้าต้องสวย” ก็ยอมแบกกันไป แต่พยายามแบ่งใส่ขวดเล็กๆ ค่ะ
เราเป็นพวกชอบใช้แล้วทิ้งจะคำนวณเลยว่าเอาไปแบบใช้หมดพอดี เพื่อไม่แบกกลับมาสร้างขยะในประเทศค่ะ (ยิ่งพูดยิ่งแย่เนอะ!)
เรามีรหัสในการจัดของชุดนี้แบบไม่ให้ลืม คือ “อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน สระผม แต่งหน้า…” คือเราจะนึกเหตุการณ์จริงที่เราต้องทำทุกวัน เรียงลำดับแล้วค่อยๆ หยิบของที่ละอย่างเข้ากระเป๋า ใช้ได้ดีเลย ส่วนน้อยมากที่จะลืมของ ส่วนใหญ่จะหยิบไปเกินมากกว่า ><’
สิ่งสำคัญ พยายามเตรียมของชุดนี้แยกจากที่ใช้ประจำนะคะ เพราะถ้ามาหยิบตอนก่อนออกเดินทาง สติจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวค่ะ
และที่สำคัญครีมกันแดดทั้งหน้า-ตัว แป้งเด็ก แป้งเย็น ผ้าเปียก ควรเตรียมแยกไว้ในกระเป๋าใบเล็ก (เราเรียกว่า “กระเป๋าเสบียง”)
เพื่อติดตัวไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ด้วยนะ
ข้อที่ 5 อุปกรณ์ป้องกันตัว
ฟังดูน่ากลัวมาก ความจริงคือ ยา กับอุปกรณ์ป้องกันแดด ฝุ่น ฝน และลมหนาว ซึ่งเราต้องศึกษาสภาพอากาศของประเทศที่เราจะไปไว้ก่อนนะ
เริ่มต้นที่ยาชนิดต่างๆ ตัวเองคงรู้ดีที่สุด ว่าเราต้องมียาอะไรไปบ้าง สำหรับเราก็เป็นยาพื้นที่ฐาน ปวดหัว ลดไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย
ปวดเมื่อย ทำแผล
และยาสำหรับโรคประจำตัว เพราะการไปหาซื้อยาในต่างประเทศมันยากมาก ไม่มีใครเขาอิสรเสรีในการเข้าถึงยาเหมือนคนไทยนะคะ
เพราะฉะนั้นเตรียมไปค่ะ จบ!!
อุปกรณ์ป้องกันแดด ฝุ่น ฝน และลมหนาว ข้อนี้ต้องศึกษาข้อมูลดีๆ เลยนะ ไม่เตรียมไปนี้มีความเสี่ยงต่ออาการป่วยสูงมาก
การเดินทางครั้งนี้ เราน่าจะได้เจอทุกสภาพอากาศที่กล่าวมา เราเลยจัดเต็มทั้งหมวก ร่ม เสื้อกันฝน (เอา Rain Cover .ใส่ให้กระเป๋าด้วยนะ) ผ้าปิดปาก เสื้อแจ็คเก็ต ถุงเท้า บอกเลยว่าครบมาก
สิ่งสำคัญ พวกอุปกรณ์ทำแผล หรือยาทาแก้ปวด ยาดม อย่าลืมแยกใส่ไว้ในกระเป๋าเสบียงนะคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ
จะได้หยิบออกมาใช้ได้เลย
ขอเพิ่มอีกข้อ เป็น Tip จากเพื่อสาวร่วมเดินทาง เธอให้เตรียมเสบียงแบบธัญพืชอัดแท่ง ถั่ว ขนม ติดไปด้วย
เพราะบางวันเราต้องออกกันแต่เช้า ไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น อาหารเช้าจากที่พักคงเตรียมให้ไม่ทัน มีไว้ก็ป้องกันความหิวได้นะ
ข้อที่ 6 อุปกรณ์ช่วยชีวิต(ให้ดีขึ้น) สำหรับคนยุคใหม่
ข้อนี้เป็นอวัยวะที่ 33 34 35 และลำดับต่อๆ ไปค่ะ เพื่อนๆ ลองพิจารณาดูเองนะ ว่าอะไรเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
สิ่งที่เราเตรียมไป คือ กล้องถ่ายรูปแบบ Mirror less, แบตเตอรี่ 2 ก้อน, ที่ชาร์ตแบต, Power Bank, ปลั๊กสามตา,
ปลั๊ก Universal (สำคัญมากปลั๊กเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก!!), Notebook (ของเรามันเครื่องเล็กมาก เอาไปปั่นงานบางเวลา),
สมุดบันทึก (ควรมีนะ อย่างน้อยก็ได้ให้เวลากับตัวเอง นั่งลงจดโน้นนี้นั้นบ้าง), ไกด์บุ๊ก, หนังสืออ่านเล่น,
โทรศัพท์สำรองสำหรับใส่ซิมของประเทศนั้นๆ, กระติ๊กน้ำ (เท่ห์ๆ จะดีมาก ถ่ายรูปสวย)
ข้อที่ 7 กระเป๋าเงิน และ Passport
มีคำแนะนำจากหลายคนให้แบ่งเงินเป็นหลายๆ ส่วน แยกใส่กระเป๋าหลายๆ ใบ เวลาหายจะได้ไม่หายทั้งหมด แต่สำหรับเรา
ถ้าแยกเยอะ เราสับสนแน่ๆ มึนเลยหละว่าเงินฉันอยู่ไหนนนนนนนน เราเลยมีวิธีจัดการแบบง่ายๆ คือ มีกระเป๋าเงินสำหรับใช้ในระเวลาสั้นๆ 1 ใบ ใส่กระเป๋าสะพายไว้ (เหมือนใช้ชีวิตปกตินั้นหละ)
และอีก 1 ใบ เป็นเงินส่วนที่เหลือ (ก้อนใหญ่กว่า) ใส่กระเป๋าคาดแบนๆ แล้วคาดไว้ใต้เสื้อติดตัวไว้เลย
คืองานนี้ ไม่กรีดเสื้อฉัน แกไม่ได้เงินฉันหรอก แง่ง!!
สำหรับ Passport เราเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย แต่ใส่ถุงซิปไว้นะ เผื่อฝนตกค่ะ และสำเนาไว้ 5 ใบ แยกใส่ไว้ในกระเป๋าต่างๆ ที่พกมา
แถมมีรูปในโทรศัพท์ ใน E-mail กลัวหายสุดๆ คือ ไม่พร้อมกลายเป็นแรงงานข้ามชาตินะคะ เค้าจะกลับบ้าน ปล่อยเค้าไปนะ T_T
ข้อที่ 8 เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
อันนี้เหมือนไม่สำคัญนะ แต่มีผลต่อสภาพจิตใจสูงมาก เคยเจอหลายคนเล่าว่า จะออกเดินทางอยู่แล้ว แม่โทรศัพท์มาถามว่า
“เอาพระไปหรือเปล่าลูก”
ถึงแม้คุณจะไม่ได้ซื้อตั๋วให้ท่าน แต่เชื่อเหอะ พกไปค่ะ ท่านหาที่นั่งไปกับเราได้
จะศาสนาไหน ลัทธิใด เครื่องรางของขลัง หรือจะรูปคนรัก พกไปแต่พองาม ไม่เป็นที่น่ากลัวสำหรับผู้พบเห็น
สำหรับเรามีเพิ่มเติม คือ ตุ๊กตาหมีพูห์ เอาไปเป็นเพื่อนคุยตอนเหงา และให้เป็นนายแบบถ่ายรูปแทนเรา
เพราะเจ้าของหน้าไม่ค่อยผ่าน ถ่ายมาเยอะๆ เพื่อนจะพานไม่อยากดูรูปเอา
สุดท้าย ของใช้จิปาถะอื่นๆ ตามความบ้าหอบฟางของแต่ละคนนะคะ ยากจะคาดเดาค่ะ
....
...
..
.
ถ้ากระเป๋าพร้อมแล้ว ใจก็พร้อม กายก็พร้อม เราก็…ออกเดินทางกันได้เลยยยยยยยยยยย
แล้วมารอ…ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการจัดกระเป๋าเดินทางค่ะ
^_____^
Review จัดกระเป๋าเดินทางตะลุยเที่ยว 20 วัน: ทริปยาวครั้งแรกในชีวิต
ท่องแดนชวา (อินโดนีเซีย) – ทักทายสิงโตพ่นน้ำ (สิงคโปร์) – เดินเล่นย่ำเมืองศิลปะ (มะละกา-ปีนัง: มาเลเซีย)
การเดินทางท่องเที่ยวยาวนานครั้งแรกในชีวิต 20 วัน กับการผจญภัยต่างแดนของ 2 สาว
มีคำถามมากมาย ทั้งโปรแกรมการเดินทาง สภาพอากาศ งบประมาณ แต่สำหรับสาวๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องวางแผน คือ จะจัดกระเป๋าเดินทางอย่างไร ให้ไม่หนักเกินไป ไม่หลายใบเกินเหตุ และไม่ลืมอุปกรณ์เสริมความงามเต็มกำลัง(ที่เหลือ) อย่าให้ได้ขายหน้า
สาวไทยใจกล้าต้องงามทั้งหน้าตา และจิตใจ อิอิ
Review นี้ เป็นการเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองล้วนๆ ใช้หลักตัวกู มากกว่าตรรกะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า…หลังจากวางแผนท่องเที่ยวกันแล้ว เราก็มาจัดกระเป๋ากันนนนนนน
เรามีความตั้งใจว่า จะมีกระเป๋าสิริรวมแล้วไม่เกิน 3 ใบ (ใบเล็ก ใบน้อยที่ซ้อนอยู่ ไม่นับนะ สาวๆ เข้าใจกันใช่มั้ย???)
ข้อที่ 1 เลือกกระเป๋าคู่ชีวิต
ใบแรกเราเลือกกระเป๋าเป้ ขนาด 45+10 ลิตร (มีกุญแจล็อคก็ดีนะ เตรียมสายล็อคจักรยานไปด้วย ถ้าต้องนั่งรถไฟในการเดินทาง)
เพราะสะดวกในการเดินทาง ต่อให้เจอบันไดก็ไม่หวั่น หลักการจัดของเราคือ เอาของหนักๆ ไว้ข้างบน ส่วนช่องล่างเป็นของที่ไม่หนักมาก เพราะถ้าเอาของหนักไว้ช่องล่างจะยิ่งถ่วงน้ำหนักลงไปที่ก้น
ตามด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าแบบถืออีก 1 ใบ เจ้าใบนี้ใส่ของที่ยัดในเป้ไม่ได้ (ไม่มีหลักการอะไรทั้งนั้น) แต่มาคิดได้ตอนหลังว่า
เราน่าจะเลือกเสื้อผ้าที่ใช้ในวันแรกๆ มาใส่ในเจ้าใบเล็กนี้ จะได้ไม่ต้องรื้อ กระจุยกระจาย (ทันมั้ยเนี้ยยยยย)
ใบสุดท้าย กระเป๋าสะพายคู่ชีพ ไปด้วยกันทุกที ทุกเวลา
จริงๆ แอบมีกระเป๋าใบเล็กอีกใบ แต่ตอนขึ้นเครื่องยัดรวมไปกับใบอื่นก่อน (เราใช้ Ocean Pack เพราะกันได้ทุกสภาพอากาศ)
เจ้าใบนี้สำคัญมาก มันคือ “กระเป๋าเสบียง” เพื่อใส่ของนานาจิปาถะ ในการเดินทางไปเที่ยวกับเราค่ะ เช่น ขนม กล้องถ่ายรูป สมุดบันทึก ไกด์บุ๊กฯ
สิ่งสำคัญ เราคิดว่ากระเป๋าทุกใบ (จริงๆ อยากรวมรองเท้าด้วย) ถ้าเป็นของแบรนด์เนม (ถูกแพงไม่ว่ากันนะ) ขอให้เป็นของแท้
ป้องกันไว้ก่อน บางประเทศอาจจะซีเรียสเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นะคะ
ข้อที่ 2 เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
เรามีหลักการประจำตัวว่า ฉันจะเอาเสื้อผ้าที่พร้อมสละสมบัติ ไปให้มากที่สุด นั้นคือ ชุดเน่าๆ ใส่แล้วพร้อมทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่กระเป๋า
และลดน้ำหนักระหว่างการเดินทาง
เรามีเสื้อผ้าไปแค่ครึ่งทริป คือประมาณ 10 วัน เพราะจากประสบการณ์ จะต้องมีการซื้อเสื้อผ้าท้องถิ่นเพิ่มเสมอ และถ้าได้หยุดพักที่ไหนเกิน 1 คืน เราจะเอาเสื้อผ้ามาซักทันที (อย่าลืมพกไม้แขวนกับที่หนีบผ้าไปด้วยนะคะ 1-2 อันไม่เปลืองพื้นที่หรอกคะ) ส่วนชุดข้างในของสาวๆ สำหรับเราต้องเรียกว่าโกยกันไปเลยคะ เพราะหาที่ตาก (ที่ซักมีอยู่แล้ว) ยากมากกกกกกกกก บางที่มันไม่เหมาะสมจริงๆ นะ
(สาวๆ ซื้อ กกน.กระดาษ หรือราคาถูกๆ ที่ตลาดนัดก็ได้นะ เชื่อเถอะ คุ้ม!!)
สิ่งสำคัญ อย่าลืมชุดว่ายน้ำนะคะ เดินกันเหนื่อยๆ ได้กลับมาแช่น้ำ มันมีความสุขที่สุดเลยหละ และอย่าลืมศึกษาวัฒนธรรมของประเทศที่เราจะไป เช่น ที่อินโดนีเซีย ผู้หญิงควรมีกระโปรงยาว หรือผ้าถุง และผ้าคลุมหัว เพื่อเข้าศาสนสถานค่ะ
ข้อที่ 3 รองเท้า เลือกผิดชีวิตพัง
เรามีรองเท้าไป 3 คู่ แต่ทุกคู่ต้องผ่านการทดลองใส่เดิน เดิน เดิน และก็เดิน มาแล้วว่าไม่กัดกันใช่มั้ย?
เพราะเราต้องอยู่กันไปอีกนานนะคะ จะไปซื้อใหม่นี้เสียดายเงินสุดๆ
คู่แรก เป็นคู่โปรด ใส่เดินเล่นสวยงามจากเมืองไทย ไปไกลถึงเดินเล่นได้ทุกเมือง แถมปั่นจักรยานก็ยังไหว
คู่ที่สอง รองเท้าผ้าใบมือสอง 60 บาท (ภูมิใจมาก) เอาไว้ใส่ตะลุยฝุ่น เน่าแล้วทิ้งเลย สบายใจ!!
คู่สุดท้าย รองเท้าแตะ ใส่ได้ทุกโอกาสที่เหมาะสม ในที่พัก ไปหาข้าวกิน ริมทะเล ข้างสระว่ายน้ำ ตามอัธยาศัยเลยค่ะ
ข้อที่ 4 เครื่องสำอาง และอุปกรณ์อาบน้ำ
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความเยอะของแต่ละคน สำหรับเรา “กระเป๋าหนักไม่ว่า หน้าต้องสวย” ก็ยอมแบกกันไป แต่พยายามแบ่งใส่ขวดเล็กๆ ค่ะ
เราเป็นพวกชอบใช้แล้วทิ้งจะคำนวณเลยว่าเอาไปแบบใช้หมดพอดี เพื่อไม่แบกกลับมาสร้างขยะในประเทศค่ะ (ยิ่งพูดยิ่งแย่เนอะ!)
เรามีรหัสในการจัดของชุดนี้แบบไม่ให้ลืม คือ “อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน สระผม แต่งหน้า…” คือเราจะนึกเหตุการณ์จริงที่เราต้องทำทุกวัน เรียงลำดับแล้วค่อยๆ หยิบของที่ละอย่างเข้ากระเป๋า ใช้ได้ดีเลย ส่วนน้อยมากที่จะลืมของ ส่วนใหญ่จะหยิบไปเกินมากกว่า ><’
สิ่งสำคัญ พยายามเตรียมของชุดนี้แยกจากที่ใช้ประจำนะคะ เพราะถ้ามาหยิบตอนก่อนออกเดินทาง สติจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวค่ะ
และที่สำคัญครีมกันแดดทั้งหน้า-ตัว แป้งเด็ก แป้งเย็น ผ้าเปียก ควรเตรียมแยกไว้ในกระเป๋าใบเล็ก (เราเรียกว่า “กระเป๋าเสบียง”)
เพื่อติดตัวไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ด้วยนะ
ข้อที่ 5 อุปกรณ์ป้องกันตัว
ฟังดูน่ากลัวมาก ความจริงคือ ยา กับอุปกรณ์ป้องกันแดด ฝุ่น ฝน และลมหนาว ซึ่งเราต้องศึกษาสภาพอากาศของประเทศที่เราจะไปไว้ก่อนนะ
เริ่มต้นที่ยาชนิดต่างๆ ตัวเองคงรู้ดีที่สุด ว่าเราต้องมียาอะไรไปบ้าง สำหรับเราก็เป็นยาพื้นที่ฐาน ปวดหัว ลดไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย
ปวดเมื่อย ทำแผล
และยาสำหรับโรคประจำตัว เพราะการไปหาซื้อยาในต่างประเทศมันยากมาก ไม่มีใครเขาอิสรเสรีในการเข้าถึงยาเหมือนคนไทยนะคะ
เพราะฉะนั้นเตรียมไปค่ะ จบ!!
อุปกรณ์ป้องกันแดด ฝุ่น ฝน และลมหนาว ข้อนี้ต้องศึกษาข้อมูลดีๆ เลยนะ ไม่เตรียมไปนี้มีความเสี่ยงต่ออาการป่วยสูงมาก
การเดินทางครั้งนี้ เราน่าจะได้เจอทุกสภาพอากาศที่กล่าวมา เราเลยจัดเต็มทั้งหมวก ร่ม เสื้อกันฝน (เอา Rain Cover .ใส่ให้กระเป๋าด้วยนะ) ผ้าปิดปาก เสื้อแจ็คเก็ต ถุงเท้า บอกเลยว่าครบมาก
สิ่งสำคัญ พวกอุปกรณ์ทำแผล หรือยาทาแก้ปวด ยาดม อย่าลืมแยกใส่ไว้ในกระเป๋าเสบียงนะคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ
จะได้หยิบออกมาใช้ได้เลย
ขอเพิ่มอีกข้อ เป็น Tip จากเพื่อสาวร่วมเดินทาง เธอให้เตรียมเสบียงแบบธัญพืชอัดแท่ง ถั่ว ขนม ติดไปด้วย
เพราะบางวันเราต้องออกกันแต่เช้า ไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น อาหารเช้าจากที่พักคงเตรียมให้ไม่ทัน มีไว้ก็ป้องกันความหิวได้นะ
ข้อที่ 6 อุปกรณ์ช่วยชีวิต(ให้ดีขึ้น) สำหรับคนยุคใหม่
ข้อนี้เป็นอวัยวะที่ 33 34 35 และลำดับต่อๆ ไปค่ะ เพื่อนๆ ลองพิจารณาดูเองนะ ว่าอะไรเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
สิ่งที่เราเตรียมไป คือ กล้องถ่ายรูปแบบ Mirror less, แบตเตอรี่ 2 ก้อน, ที่ชาร์ตแบต, Power Bank, ปลั๊กสามตา,
ปลั๊ก Universal (สำคัญมากปลั๊กเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก!!), Notebook (ของเรามันเครื่องเล็กมาก เอาไปปั่นงานบางเวลา),
สมุดบันทึก (ควรมีนะ อย่างน้อยก็ได้ให้เวลากับตัวเอง นั่งลงจดโน้นนี้นั้นบ้าง), ไกด์บุ๊ก, หนังสืออ่านเล่น,
โทรศัพท์สำรองสำหรับใส่ซิมของประเทศนั้นๆ, กระติ๊กน้ำ (เท่ห์ๆ จะดีมาก ถ่ายรูปสวย)
ข้อที่ 7 กระเป๋าเงิน และ Passport
มีคำแนะนำจากหลายคนให้แบ่งเงินเป็นหลายๆ ส่วน แยกใส่กระเป๋าหลายๆ ใบ เวลาหายจะได้ไม่หายทั้งหมด แต่สำหรับเรา
ถ้าแยกเยอะ เราสับสนแน่ๆ มึนเลยหละว่าเงินฉันอยู่ไหนนนนนนนน เราเลยมีวิธีจัดการแบบง่ายๆ คือ มีกระเป๋าเงินสำหรับใช้ในระเวลาสั้นๆ 1 ใบ ใส่กระเป๋าสะพายไว้ (เหมือนใช้ชีวิตปกตินั้นหละ)
และอีก 1 ใบ เป็นเงินส่วนที่เหลือ (ก้อนใหญ่กว่า) ใส่กระเป๋าคาดแบนๆ แล้วคาดไว้ใต้เสื้อติดตัวไว้เลย
คืองานนี้ ไม่กรีดเสื้อฉัน แกไม่ได้เงินฉันหรอก แง่ง!!
สำหรับ Passport เราเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย แต่ใส่ถุงซิปไว้นะ เผื่อฝนตกค่ะ และสำเนาไว้ 5 ใบ แยกใส่ไว้ในกระเป๋าต่างๆ ที่พกมา
แถมมีรูปในโทรศัพท์ ใน E-mail กลัวหายสุดๆ คือ ไม่พร้อมกลายเป็นแรงงานข้ามชาตินะคะ เค้าจะกลับบ้าน ปล่อยเค้าไปนะ T_T
ข้อที่ 8 เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
อันนี้เหมือนไม่สำคัญนะ แต่มีผลต่อสภาพจิตใจสูงมาก เคยเจอหลายคนเล่าว่า จะออกเดินทางอยู่แล้ว แม่โทรศัพท์มาถามว่า
“เอาพระไปหรือเปล่าลูก”
ถึงแม้คุณจะไม่ได้ซื้อตั๋วให้ท่าน แต่เชื่อเหอะ พกไปค่ะ ท่านหาที่นั่งไปกับเราได้
จะศาสนาไหน ลัทธิใด เครื่องรางของขลัง หรือจะรูปคนรัก พกไปแต่พองาม ไม่เป็นที่น่ากลัวสำหรับผู้พบเห็น
สำหรับเรามีเพิ่มเติม คือ ตุ๊กตาหมีพูห์ เอาไปเป็นเพื่อนคุยตอนเหงา และให้เป็นนายแบบถ่ายรูปแทนเรา
เพราะเจ้าของหน้าไม่ค่อยผ่าน ถ่ายมาเยอะๆ เพื่อนจะพานไม่อยากดูรูปเอา
สุดท้าย ของใช้จิปาถะอื่นๆ ตามความบ้าหอบฟางของแต่ละคนนะคะ ยากจะคาดเดาค่ะ
....
...
..
.
ถ้ากระเป๋าพร้อมแล้ว ใจก็พร้อม กายก็พร้อม เราก็…ออกเดินทางกันได้เลยยยยยยยยยยย
แล้วมารอ…ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการจัดกระเป๋าเดินทางค่ะ
^_____^