ก่อนอื่นต้องขอกราบสวัสดีสมาชิกพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิต ไม่เคยเขียนเล่าประสบการณ์ หรือแม้แต่แชร์ความประทับใจใดๆมาก่อน ทั้งๆที่เคยอ่านกระทู้ของท่านอื่นๆมานับไม่ถ้วน หากการนำเสนอเรื่องราวในครั้งนี้ ทั้งด้วยเรื่องการใช้ถ้อยคำหรือใช้ภาษาไม่ถูกต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
“เรา” สองสามีภรรยา เพิ่งแต่งงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว เราเพิ่งจะได้มีโอกาส “หาความสุข” ใส่ตัว เราหาที่พักสบายๆ เงียบสงบ ได้ใช้เวลาที่ดีด้วยกันอย่างคุ้มค่าที่สุด หาที่พักมากมาย จนแล้วจนรอด เจอกระทู้ที่รีวิวโรงแรมนี้จากพันทิป มันตรงสเป็คเรามาก สงบอย่างที่เราต้องการ แต่ จขกท ที่เราอ่านนั้น รูปที่ลงค่อนข้างเก่าเราเองก็ค่อนข้างลังเล กลัวจะผิดหวัง ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมดูราคาใน เว็ปไซต์ของโรงแรมมัลดีฟ บีช รีสอร์ทบ้าง อโกด้าบ้าง Booking.com บ้าง แล้วก็ตัดสินใจจองเลยค่ะ เราต้องบอกก่อนนะคะว่าเราสองคนไม่เคยพักโรงแรมราคาหลักพัน อย่างนี้มาก่อน พักแบบ Low cost มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้มันพิเศษไงค่ะ^^ ส่วนใหญ่จะเก็บตังค์ไว้เพื่อกินกับเที่ยว แต่เนื่องด้วยที่เราสำนึกในบุญคุณของเจ้าของโรงแรมในการมีส่วนร่วมการฮันนีมูนของเราค่ะ ประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ
โรงแรมมัลดีฟ บีช รีสอร์ท (Maldives Beach Resort) ตั้งอยู่ริมหาดเจ้าหลาว - แหลมเสด็จ จังหวัดจันทบุรี การเดินทางสะดวกสบาย ถนนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆขยายสี่เลนส์ เราสองคนเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้ใช้รถยนต์ พอเรามาถึงขนส่งจันทบุรี เราพยายามหารถที่ต่อไปหาดแหลมเสด็จ ปรากฏว่าไม่มีรถประจำทางผ่านเส้นนั้นเลย (ใจสั่นนิดๆ มองหน้ากัน ใจเกือบสลาย) เราไม่มีทางเลือกจึงต้องหารถรับจ้างไม่ประจำทางไปส่ง เพื่อนๆแถวนั้นคงจะรู้จักรถประเภทนี้ดี แถวนี้เขาเรียกรถสองแถวนี้ว่า “รถมาสด้า” รุ่นเก่าๆคันเล็กๆ ไปส่งถึงแหล่ไม่ถึงแหล่ก็ไม่รู้ ขาไป 300 บาท แต่อย่าลืมขอเบอร์ลุงไว้นะคะ เพราะวันกลับเราต้องเรียกลุงมารับ ราคาก็เท่ากันค่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึงที่หมายค่ะ ตอนมาถึงนี่โล่งใจมาก ไม่เก่าเหมือนที่คิด รอดตายแล้ว^^;
พอมาถึงเราไม่รีรอที่จะมาสำรวจพื้นที่สำหรับการเดินเล่นของเราในวันรุ่งขึ้นค่ะ มาดูบรรยากาศโดยรอบกันเลยดีกว่าค่ะ บางรูปอาจจะไม่ชัดนะคะ เพราะถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือน่ะคะ

ป้ายหน้าโรงแรม บรรยากาศยามค่ำคืนค่ะ
มุมเล็กๆน่ารัก เพลินตาดีค่ะ
มาดูห้องนอนเราดีกว่าค่ะ โรแมนติกสุดๆ
มุนนั่งเล่นน่ารักดีค่ะ กว้างมากนอนได้อีกคนเลย
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องกันค่ะ
ภายในตู้เสื้อผ้านะคะ
ตู้เย็นเล็ก พร้อมน้ำเปล่าฟรี 2 ขวดค่ะ
แก้วสองใบวางบนชั้นหลังตู้เย็น
มาแอบส่องห้องน้ำกันดีก่า สะอาดสะอ้านน่าใช้ดีค่ะ
มาดูระเบียงหลังห้องกันดีกว่าค่ะ น่านั่งเคล้าบรรยากาศสุดๆ
ได้เวลาสำรวจพื้นที่กันแล้วค่ะ พรุ่งนี้เราจะได้ตัดสินใจถูกว่าไปเที่ยวไหนกันดี ตามมากันเลย
เดินออกมาหน้าโรงแรมก็เจอกับถนนหนทางที่สะอาด ถนนกว้างขวางดีค่ะ มีทางสำหรับจักรยานด้วย กิ๊บเก๋ยูเรก้ามากค่ะ
เดินจากหน้าโรงแรมมาทางซ้ายมือก็เจอป้ายบอกทาง สถานที่ต่างๆ มากมายทีเดียวค่ะ เดินผ่านป้ายมาเรื่อยๆ จนถึงแต่ละจุด ระยะทางที่เราเดิน ถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ประมาณ 800-900 เมตรเท่านั้นเองค่ะ

ปิดท้ายการเดินเล่นด้วยรูปสามีค่ะ
หิวแล้วๆ เดินซะเหนื่อยเลย ได้เพลาดินเนอร์แล้วสินะ มาดูกันค่ะว่ามื้อนี้เราเลือกเมนูอะไรมาทานกันบ้าง ย้ำแค่สองคนค่ะ เรากินกันสองคนจริงๆ
เมนูแรกยำหอยนางรม ทีเด็ดอยู่ที่ เขานำเครื่องเคียงทุกอย่างผสมคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน(ยกเว้นผักนะจ๊ะ) ให้รสชาดและกลิ่นหอมของสมุนไพรซึมเข้าไปในหอย รสชาดมันคนละเรื่องกันเลยระหว่างแยกเครื่องเคียงมาน่ะคะ อร่อยเหาะ
มาดูจานต่อไปกันเลย กุ้งแช่น้ำปลาค่ะ เนื้อกุ้งหวาน สดมากค่ะ น้ำจิ้มซีฟูดส์ที่นี่รสชาดเจ็บปวด ถึงใจถึงอารมณ์ซีฟูดส์ HD กันเลยทีเดียว
เมนูนี้ ลาบปลาทะเลดิบค่ะ เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นและอาหารอีสาน รวมๆคือ กับแกล้มนั่นเองค่ะ
เมนูนี้ก็ออกแนวกับแกล้มค่ะ ลาบหมูอีสาน ผักเคียง สดมากค่ะ
จานนี้อร่อยไม่ธรรมดา เหมาะสำหรับผู้สูงวัย คือ กระเทียมย่าง พร้อมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวครบรส กระเทียมหอมมากๆค่ะ
ทานข้าวก็คงจะขาดข้าวไม่ได้ ขอนำเสนอข้าวผัดปลาเค็ม อธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่า อูมามิมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
และเมนูสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ขนมปังหน้าหมู เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม อร่อยไม่ปราณีใคร
ยิ่งดูรูปยิ่งหิวค่ะ ไปหาอะไรกินดีกว่า ฟริ้ว......
ทริปนี้ยังไม่จบน๊า ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย มีต่อนะจ๊ะ
[CR] สะพายเป้ฮันนีมูน ณ “มัลดีฟ บีช รีสอร์ท” ประทับใจไม่รู้ลืม
พอมาถึงเราไม่รีรอที่จะมาสำรวจพื้นที่สำหรับการเดินเล่นของเราในวันรุ่งขึ้นค่ะ มาดูบรรยากาศโดยรอบกันเลยดีกว่าค่ะ บางรูปอาจจะไม่ชัดนะคะ เพราะถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือน่ะคะ
ป้ายหน้าโรงแรม บรรยากาศยามค่ำคืนค่ะ
มุมเล็กๆน่ารัก เพลินตาดีค่ะ
มาดูห้องนอนเราดีกว่าค่ะ โรแมนติกสุดๆ
มุนนั่งเล่นน่ารักดีค่ะ กว้างมากนอนได้อีกคนเลย
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องกันค่ะ
ภายในตู้เสื้อผ้านะคะ
ตู้เย็นเล็ก พร้อมน้ำเปล่าฟรี 2 ขวดค่ะ
แก้วสองใบวางบนชั้นหลังตู้เย็น
มาแอบส่องห้องน้ำกันดีก่า สะอาดสะอ้านน่าใช้ดีค่ะ
มาดูระเบียงหลังห้องกันดีกว่าค่ะ น่านั่งเคล้าบรรยากาศสุดๆ
ได้เวลาสำรวจพื้นที่กันแล้วค่ะ พรุ่งนี้เราจะได้ตัดสินใจถูกว่าไปเที่ยวไหนกันดี ตามมากันเลย
เดินออกมาหน้าโรงแรมก็เจอกับถนนหนทางที่สะอาด ถนนกว้างขวางดีค่ะ มีทางสำหรับจักรยานด้วย กิ๊บเก๋ยูเรก้ามากค่ะ
เดินจากหน้าโรงแรมมาทางซ้ายมือก็เจอป้ายบอกทาง สถานที่ต่างๆ มากมายทีเดียวค่ะ เดินผ่านป้ายมาเรื่อยๆ จนถึงแต่ละจุด ระยะทางที่เราเดิน ถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ประมาณ 800-900 เมตรเท่านั้นเองค่ะ
ปิดท้ายการเดินเล่นด้วยรูปสามีค่ะ
หิวแล้วๆ เดินซะเหนื่อยเลย ได้เพลาดินเนอร์แล้วสินะ มาดูกันค่ะว่ามื้อนี้เราเลือกเมนูอะไรมาทานกันบ้าง ย้ำแค่สองคนค่ะ เรากินกันสองคนจริงๆ
เมนูแรกยำหอยนางรม ทีเด็ดอยู่ที่ เขานำเครื่องเคียงทุกอย่างผสมคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน(ยกเว้นผักนะจ๊ะ) ให้รสชาดและกลิ่นหอมของสมุนไพรซึมเข้าไปในหอย รสชาดมันคนละเรื่องกันเลยระหว่างแยกเครื่องเคียงมาน่ะคะ อร่อยเหาะ
มาดูจานต่อไปกันเลย กุ้งแช่น้ำปลาค่ะ เนื้อกุ้งหวาน สดมากค่ะ น้ำจิ้มซีฟูดส์ที่นี่รสชาดเจ็บปวด ถึงใจถึงอารมณ์ซีฟูดส์ HD กันเลยทีเดียว
เมนูนี้ ลาบปลาทะเลดิบค่ะ เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นและอาหารอีสาน รวมๆคือ กับแกล้มนั่นเองค่ะ
เมนูนี้ก็ออกแนวกับแกล้มค่ะ ลาบหมูอีสาน ผักเคียง สดมากค่ะ
จานนี้อร่อยไม่ธรรมดา เหมาะสำหรับผู้สูงวัย คือ กระเทียมย่าง พร้อมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวครบรส กระเทียมหอมมากๆค่ะ
ทานข้าวก็คงจะขาดข้าวไม่ได้ ขอนำเสนอข้าวผัดปลาเค็ม อธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่า อูมามิมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
และเมนูสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ขนมปังหน้าหมู เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม อร่อยไม่ปราณีใคร
ยิ่งดูรูปยิ่งหิวค่ะ ไปหาอะไรกินดีกว่า ฟริ้ว......
ทริปนี้ยังไม่จบน๊า ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย มีต่อนะจ๊ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น