“วิ่ง วิ่ง วิ่งไป ไอ้เทิด วิ่งไป....”
28 มี.ค. ที่บ้านเวลาเย็น
หนึ่งในทีมงานของโหมโรง เดอะ มิวสิคัล โทรมาบอกว่า “พี่พรุ่งนี้มีซ้อมใหญ่ มาดูป่าว”
29 มี.ค. เวลา 19.00 น. โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
แม้จะงงๆ กับทิศทางเพราะไม่ได้เดินทางมาสยามสแควร์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมาก แต่ในที่สุดผมได้มายืนอยู่หน้าโรงละครใหม่ล่าสุดของประเทศไทย ที่กำลังจะเปิดการแสดง “โหมโรง เดอะ มิวสิคัล” ในวันที่ 4 เมษายนนี้
เวลา 19.30 น.
แม้บัตรเข้าชมจะระบุรอบ 19.30 น. แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ต้องเลื่อนเวลาการแสดงไปเล็กน้อย และประตูก็ยังไม่เปิด แน่นอนไม่มีใครบ่น เพราะรอบนี้เป็นรอบซ้อมใหญ่ ทุกคนรักโหมโรง และที่สำคัญ
“ฟรี”
ราว 20.00 น.
ได้ที่นั่งพร้อมแล้ว รอเพียงอีกไม่กี่นาที ละครก็จะเปิดโรงแล้ว
เวลา 23.30 น.
ละครจบด้วยความรู้สึกอิ่มเอมมาก ชอบ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสดูละครเรื่องนี้ ที่สำคัญ จะต้องไปดูเก็บรายละเอียดอย่างน้อยก็อีกสักครั้งแน่นอน
เอาล่ะ!! มารีวิวกันเบา ๆ ดีกว่า
โหมโรง เดอะ มิวสิคัล - พวกเขาพร้อมแล้ว คนไทย...พร้อมหรือยัง
ถ้าหากจะต้องให้คะแนน บอกตรง ๆ ให้ไม่ได้ครับ เพราะ
1. นี่เป็นรอบซ้อมใหญ่ ยังมีอะไรขลุกขลักอยู่บ้าง
2. เนื่องจากละครเวทีเป็นการเล่นสด แต่ละรอบอาจไม่เหมือนกัน 100% ดังนั้นการให้คะแนนอาจไม่เหมาะเท่าไหร่นะ และ
3. ผมมีอคติครับ หากคะแนนเต็มสิบผมให้มากกว่าสืบ หากคะแนนเต็มร้อยผมให้มากกว่าร้อยแน่นอน
ดังนั้นแทนที่จะให้คะแนน ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า หาโอกาสไปดูเถอะครับ อยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ
ถึงแม้จะเป็นรอบซ้อมใหญ่ แต่นักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุกคนเอาจริงครับ หากจะมีขลุกขลักบ้างก็นิดๆ หน่อย เช่น การเลื่อนฉาก การเก็บฉาก เสียงวิทยุสื่อสารที่ดังออกมาจากทีมงาน ส่วนการแสดงของตัวละคร 99% และหากแสดงไปอีกหลายๆ รอบ น่าจะเกิน 100 ครับ อย่างคุณผู้พันของเรานี่ ผมว่ายังไม่อินเต็มที่นะ ยังขาดอยู่นิดๆ
อยากจะบอกว่า เพราะโหมโรงฉบับภาพยนตร์ทำไว้ดีมาก โดยเฉพาะในด้านลำดับการเล่าเรื่อง พอมาฉบับละครเพลง ผมเข้าใจว่าเขาคงทดลองวางลำดับเรื่องใหม่หลายๆ อย่างแล้ว แต่คงทำได้ไม่ดีที่สุดเท่ากับการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ สำหรับคนที่เคยดูภาพยนตร์มา เมื่อมาดูละครก็จะรีเฟอร์ได้เกือบจะทันทีแหละครับ ที่แตกต่างกันก็คือความสดจากคนที่มาแสดงให้เห็นจริงๆ และเล่นดนตรีกันจริงๆ ฉาดดวลระนาดก็ของจริง ตรงนี้ทำได้เยี่ยมมากครับ
พาร์ทดนตรีและการร้องต้องบอกได้เลยว่าเฟอร์เฟค ทั้งการนำดนตรีไทยมาผสานกับดนตรีฝรั่ง อย่างฉากเปียโนกับระนาด การได้ดูสดๆ แบบนี้อินมากครับ
กลับมาที่การเล่าเรื่อง แน่นอนเมื่อเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ก็จะเป็นลักษณะ เล่าชีวิตของศรในวัยเด็ก กับท่านครูวัยบั้นปลายในยุคเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ช่วงที่เรียกน้ำตาได้มากที่สุดก็คือ ในช่วงเวลาของท่านครูครับ เนื้อหาดราม่าคั้นใจมาก ตัวละครอย่าง “เปี๊ยก” และ “เทิด” ออกมาแย่งซีนเรียกอารมณ์ได้ไม่แพ้ฉากของท่านครูกับผู้พัน ส่วนศรในวัยเด็กและวัยหนุ่มก็มี “ทิว” ที่เรียกเสียงหัวเราะได้แทบทุกฉาก เชื่อว่าทุกคนจะรัก ศรน้อย กับทิวน้อย กันครับ
อ่อ...ยังมีอีกสิ่งที่ชอบมากๆ แต่ก็กลัวมากๆ เช่นกันคือ การแสดงที่ล้อเลียนหรือท้าทาย “ท่านผู้นำในยุคนั้น” คือ มันร่วมสมัยจนเกรงว่า “ท่านผู้นำ” ในยุคนี้จะเรียกไปเข้าค่ายน่ะสิครับ หวังว่าท่านผู้นำในยุคนี้จะแยกแยะได้นะครับว่าอะไรควรไม่ควร
สำหรับรอบซ้อมใหญ่นี้อาจจะยังมีผิดพลาดให้เห็นบ้าง อารมณ์บางฉากยังขาดอยู่อีกนี๊ดดดดดดนึง (ไม่บอกว่าฉากไหน) แต่เราจะทำเป็นไม่เห็นครับ เพราะผมมั่นใจว่า เมื่อเปิดแสดงจริง นักแสดงทุกคนจะสามารถเค้นออกมาได้เกิน 100 %แน่นอน
เพราะฉะนั้น ในวันนี้ หลังจากที่ได้ดูซ้อมใหม่แล้ว ผมคงบอกได้แค่ว่า
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และเสียง ที่ยังคงดังกังวานอยู่ในจิตใจของคนรักดนตรีทุกคน
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะแสดงให้เห็นว่า ความเป็นอารยะ ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หากแต่จะต้องเกิดขึ้นจากรากฐานที่หยั่งรากลึกลงไปในแผ่นดินไทย
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะแสดงให้เห็นความงดงามในศิลปวัฒนธรรมไทย ที่สามารถสอดคล้องประสานเข้ากับศิลปะ และดนตรีของชนชาติอื่นๆ บนโลกนี้ได้อย่างทัดเทียมกัน
หลายคนเชื่อว่า หากมีโอกาสก็อยากให้คนต่างชาติได้มาดู ได้มาเห็น ประเทศเดียวในโลกที่สามารถเอา "ระนาดเอก" สามารถใช้เครื่องดนตรีไทย ขึ้นมาบรรเลงบทเพลงสดๆ บนเวทีละครได้ แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว เราคงต้องถามกลับกับคนไทยมากกว่าว่า
พร้อมเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ที่จะมาดูละครเวทีเรื่องนี้ "โหมโรง เดอะ มิวสิคัล" แล้วหรือยังครับ
หมายเหตุ การเลือกที่นั่ง
โซน A2 แถว G และ H / โซน B2 แถว I,J และ K
เป็นที่นั่งที่ดีที่สุด ที่จะดูได้อย่างทั่วถึงทั้งฉากอย่างสบายตาครับ
แถว I กับ แถว Q ติดทางเดินครับ เหมาะสำหรับคนขายาว
ที่นั่งไม่สบายเหมือนโรงภาพยนตร์นะครับ และถ้าใครขี้หนาว จะเตรียมผ้าห่ม หรือเสื้อกันหนาวก็ไม่ผิดกติกาครับ
ทางไปจอง
http://www.thaiticketmajor.com/performance/performance-detail.php?sid=2686
อยากจะบอกว่าตอนนี้เขาเริ่มจัดกิจกรรมการตลาด สามารถรับส่วนลดซื้อบัตรเข้าชมแล้ว ลองไปดูกันด้วยนะครับ
แอบหวังเล็กๆ
อยากให้ผู้ใหญ่ใจดี มาสปอนเซอร์จัดรอบการกุศล เปิดโอกาสให้เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ไทยที่อาจจะขาดโอกาส ได้มาดู "โหมโรง เดอะ มิวสิคัล" ครับ
[ซ้อมใหญ่] โหมโรง เดอะ มิวสิคัล "ไร้ราก...ก็ไร้แผ่นดิน"
28 มี.ค. ที่บ้านเวลาเย็น
หนึ่งในทีมงานของโหมโรง เดอะ มิวสิคัล โทรมาบอกว่า “พี่พรุ่งนี้มีซ้อมใหญ่ มาดูป่าว”
29 มี.ค. เวลา 19.00 น. โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
แม้จะงงๆ กับทิศทางเพราะไม่ได้เดินทางมาสยามสแควร์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมาก แต่ในที่สุดผมได้มายืนอยู่หน้าโรงละครใหม่ล่าสุดของประเทศไทย ที่กำลังจะเปิดการแสดง “โหมโรง เดอะ มิวสิคัล” ในวันที่ 4 เมษายนนี้
เวลา 19.30 น.
แม้บัตรเข้าชมจะระบุรอบ 19.30 น. แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ต้องเลื่อนเวลาการแสดงไปเล็กน้อย และประตูก็ยังไม่เปิด แน่นอนไม่มีใครบ่น เพราะรอบนี้เป็นรอบซ้อมใหญ่ ทุกคนรักโหมโรง และที่สำคัญ “ฟรี”
ราว 20.00 น.
ได้ที่นั่งพร้อมแล้ว รอเพียงอีกไม่กี่นาที ละครก็จะเปิดโรงแล้ว
เวลา 23.30 น.
ละครจบด้วยความรู้สึกอิ่มเอมมาก ชอบ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสดูละครเรื่องนี้ ที่สำคัญ จะต้องไปดูเก็บรายละเอียดอย่างน้อยก็อีกสักครั้งแน่นอน
เอาล่ะ!! มารีวิวกันเบา ๆ ดีกว่า
โหมโรง เดอะ มิวสิคัล - พวกเขาพร้อมแล้ว คนไทย...พร้อมหรือยัง
ถ้าหากจะต้องให้คะแนน บอกตรง ๆ ให้ไม่ได้ครับ เพราะ
1. นี่เป็นรอบซ้อมใหญ่ ยังมีอะไรขลุกขลักอยู่บ้าง
2. เนื่องจากละครเวทีเป็นการเล่นสด แต่ละรอบอาจไม่เหมือนกัน 100% ดังนั้นการให้คะแนนอาจไม่เหมาะเท่าไหร่นะ และ
3. ผมมีอคติครับ หากคะแนนเต็มสิบผมให้มากกว่าสืบ หากคะแนนเต็มร้อยผมให้มากกว่าร้อยแน่นอน
ดังนั้นแทนที่จะให้คะแนน ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า หาโอกาสไปดูเถอะครับ อยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ
ถึงแม้จะเป็นรอบซ้อมใหญ่ แต่นักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุกคนเอาจริงครับ หากจะมีขลุกขลักบ้างก็นิดๆ หน่อย เช่น การเลื่อนฉาก การเก็บฉาก เสียงวิทยุสื่อสารที่ดังออกมาจากทีมงาน ส่วนการแสดงของตัวละคร 99% และหากแสดงไปอีกหลายๆ รอบ น่าจะเกิน 100 ครับ อย่างคุณผู้พันของเรานี่ ผมว่ายังไม่อินเต็มที่นะ ยังขาดอยู่นิดๆ
อยากจะบอกว่า เพราะโหมโรงฉบับภาพยนตร์ทำไว้ดีมาก โดยเฉพาะในด้านลำดับการเล่าเรื่อง พอมาฉบับละครเพลง ผมเข้าใจว่าเขาคงทดลองวางลำดับเรื่องใหม่หลายๆ อย่างแล้ว แต่คงทำได้ไม่ดีที่สุดเท่ากับการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ สำหรับคนที่เคยดูภาพยนตร์มา เมื่อมาดูละครก็จะรีเฟอร์ได้เกือบจะทันทีแหละครับ ที่แตกต่างกันก็คือความสดจากคนที่มาแสดงให้เห็นจริงๆ และเล่นดนตรีกันจริงๆ ฉาดดวลระนาดก็ของจริง ตรงนี้ทำได้เยี่ยมมากครับ
พาร์ทดนตรีและการร้องต้องบอกได้เลยว่าเฟอร์เฟค ทั้งการนำดนตรีไทยมาผสานกับดนตรีฝรั่ง อย่างฉากเปียโนกับระนาด การได้ดูสดๆ แบบนี้อินมากครับ
กลับมาที่การเล่าเรื่อง แน่นอนเมื่อเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ก็จะเป็นลักษณะ เล่าชีวิตของศรในวัยเด็ก กับท่านครูวัยบั้นปลายในยุคเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ช่วงที่เรียกน้ำตาได้มากที่สุดก็คือ ในช่วงเวลาของท่านครูครับ เนื้อหาดราม่าคั้นใจมาก ตัวละครอย่าง “เปี๊ยก” และ “เทิด” ออกมาแย่งซีนเรียกอารมณ์ได้ไม่แพ้ฉากของท่านครูกับผู้พัน ส่วนศรในวัยเด็กและวัยหนุ่มก็มี “ทิว” ที่เรียกเสียงหัวเราะได้แทบทุกฉาก เชื่อว่าทุกคนจะรัก ศรน้อย กับทิวน้อย กันครับ
อ่อ...ยังมีอีกสิ่งที่ชอบมากๆ แต่ก็กลัวมากๆ เช่นกันคือ การแสดงที่ล้อเลียนหรือท้าทาย “ท่านผู้นำในยุคนั้น” คือ มันร่วมสมัยจนเกรงว่า “ท่านผู้นำ” ในยุคนี้จะเรียกไปเข้าค่ายน่ะสิครับ หวังว่าท่านผู้นำในยุคนี้จะแยกแยะได้นะครับว่าอะไรควรไม่ควร
สำหรับรอบซ้อมใหญ่นี้อาจจะยังมีผิดพลาดให้เห็นบ้าง อารมณ์บางฉากยังขาดอยู่อีกนี๊ดดดดดดนึง (ไม่บอกว่าฉากไหน) แต่เราจะทำเป็นไม่เห็นครับ เพราะผมมั่นใจว่า เมื่อเปิดแสดงจริง นักแสดงทุกคนจะสามารถเค้นออกมาได้เกิน 100 %แน่นอน
เพราะฉะนั้น ในวันนี้ หลังจากที่ได้ดูซ้อมใหม่แล้ว ผมคงบอกได้แค่ว่า
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และเสียง ที่ยังคงดังกังวานอยู่ในจิตใจของคนรักดนตรีทุกคน
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะแสดงให้เห็นว่า ความเป็นอารยะ ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หากแต่จะต้องเกิดขึ้นจากรากฐานที่หยั่งรากลึกลงไปในแผ่นดินไทย
พวกเขาพร้อมแล้ว...ที่จะแสดงให้เห็นความงดงามในศิลปวัฒนธรรมไทย ที่สามารถสอดคล้องประสานเข้ากับศิลปะ และดนตรีของชนชาติอื่นๆ บนโลกนี้ได้อย่างทัดเทียมกัน
หลายคนเชื่อว่า หากมีโอกาสก็อยากให้คนต่างชาติได้มาดู ได้มาเห็น ประเทศเดียวในโลกที่สามารถเอา "ระนาดเอก" สามารถใช้เครื่องดนตรีไทย ขึ้นมาบรรเลงบทเพลงสดๆ บนเวทีละครได้ แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว เราคงต้องถามกลับกับคนไทยมากกว่าว่า
พร้อมเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ที่จะมาดูละครเวทีเรื่องนี้ "โหมโรง เดอะ มิวสิคัล" แล้วหรือยังครับ
หมายเหตุ การเลือกที่นั่ง
โซน A2 แถว G และ H / โซน B2 แถว I,J และ K
เป็นที่นั่งที่ดีที่สุด ที่จะดูได้อย่างทั่วถึงทั้งฉากอย่างสบายตาครับ
แถว I กับ แถว Q ติดทางเดินครับ เหมาะสำหรับคนขายาว
ที่นั่งไม่สบายเหมือนโรงภาพยนตร์นะครับ และถ้าใครขี้หนาว จะเตรียมผ้าห่ม หรือเสื้อกันหนาวก็ไม่ผิดกติกาครับ
ทางไปจอง
http://www.thaiticketmajor.com/performance/performance-detail.php?sid=2686
อยากจะบอกว่าตอนนี้เขาเริ่มจัดกิจกรรมการตลาด สามารถรับส่วนลดซื้อบัตรเข้าชมแล้ว ลองไปดูกันด้วยนะครับ
แอบหวังเล็กๆ
อยากให้ผู้ใหญ่ใจดี มาสปอนเซอร์จัดรอบการกุศล เปิดโอกาสให้เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ไทยที่อาจจะขาดโอกาส ได้มาดู "โหมโรง เดอะ มิวสิคัล" ครับ