ดิฉันเป็นคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามาในเมืองหลวง เริ่มตั้งแต่เรียนมหาลัย จบ และปัจจุบันทำงาน
ก่อนมาสัญญากับพ่อแม่ว่า จะทำงานที่นี่แค่ 3 ปี แล่วจะกลับบ้าน ตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยแสงสี ด้วยความเป็นห่วงของพ่อแม่ แม่จะโทรทุกเช้า-เย็น ดิฉันรักครอบครัวมาก ไม่อยากให้เค้าลำบาก เริ่มทำงานกลางปี 2555 พยายามเก็บเงิน ต้นปี 57 เก็บเงินได้เล็กน้อย ดาวรถเก๋งเก่าๆให้พ่อ คันหนึ่ง และเงินอีกส่วน ดาวคอนโด ทำให้มีภาระ ผ่อนรถพ่อและผ่อนคอนโด พอมาต้นปี 58 แม่เริ่มพูด คิดถึง เป็นห่วง ทุกครั้งที่ฟัง น้ำตาไหล ด้วยความเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ดิฉันก็คิดไม่ออกว่าจะทำไง กลับไปหางานทำที่บ้าน จะพอป่อนรถ ผ่อนคอนโดมั้ย ก็เลยประกาศขายคอนโดไปแต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เข้าใจว่าขายยาก...วันนี้แม่ก็โทรมาเหมือนทุกวัน แต่ วันนี้พูดแปลก พูดเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ บอกเลยตอนนี้ ดิฉันอยากทิ้งทุกอย่างที่เมืองนี้ ทิ้งแล้วกลับไปอยู่ไปดูแลพ่อแม่ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายดีมั้ย? ...........อยากทราบความคิดเป็นของเพื่อนๆในพันทิปคะ...
ทิ้งทุกอย่างในเมืองหลวง กลับบ้านเกิด
ก่อนมาสัญญากับพ่อแม่ว่า จะทำงานที่นี่แค่ 3 ปี แล่วจะกลับบ้าน ตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยแสงสี ด้วยความเป็นห่วงของพ่อแม่ แม่จะโทรทุกเช้า-เย็น ดิฉันรักครอบครัวมาก ไม่อยากให้เค้าลำบาก เริ่มทำงานกลางปี 2555 พยายามเก็บเงิน ต้นปี 57 เก็บเงินได้เล็กน้อย ดาวรถเก๋งเก่าๆให้พ่อ คันหนึ่ง และเงินอีกส่วน ดาวคอนโด ทำให้มีภาระ ผ่อนรถพ่อและผ่อนคอนโด พอมาต้นปี 58 แม่เริ่มพูด คิดถึง เป็นห่วง ทุกครั้งที่ฟัง น้ำตาไหล ด้วยความเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ดิฉันก็คิดไม่ออกว่าจะทำไง กลับไปหางานทำที่บ้าน จะพอป่อนรถ ผ่อนคอนโดมั้ย ก็เลยประกาศขายคอนโดไปแต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เข้าใจว่าขายยาก...วันนี้แม่ก็โทรมาเหมือนทุกวัน แต่ วันนี้พูดแปลก พูดเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ บอกเลยตอนนี้ ดิฉันอยากทิ้งทุกอย่างที่เมืองนี้ ทิ้งแล้วกลับไปอยู่ไปดูแลพ่อแม่ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายดีมั้ย? ...........อยากทราบความคิดเป็นของเพื่อนๆในพันทิปคะ...