เนื่องจากวันก่อนผมไปงานเกียวกัยบการศึกษามา เป็นเวทีนำเสนอระดับชาติของโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา
ซึ่งงานนี้ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ของการศึกษามาร่วมงานด้วย และช่วงต้นๆ ก็ได้มีการชื้แจงเกี่ยวกับ
1.ร่าง พรบ. การศึกษา ฉบับใหม่
2.การพักผ่อนของ สทศ.
ผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าใดนักเพราะเหน็ดหนื่อยจากการเดินทาง จึงนั่งหลับไปเป็นช่วงๆ แต่พอจับใจความได้ว่า
- จะมีการลดกิจกรรมที่ซ้ำซ้อน ลดการสอบที่ไม่จำเป็น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426496605
- ลดการประเมิน การทำเอกสาร วิทยฐานะ ของครู(คืนครูให้กับนักเรียน)
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNakEzTVRFMU53PT0=
- จำกัดจำนวน นักเรียนต่อห้อง (ผลสืบเนื่องคือมีห้องเพิ่มขึ้นแน่ๆ)
http://www.thairath.co.th/content/489399
และที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ไม่ใช่ผลสำหรวจแต่อย่างใด แต่เป็นความเห็นของผมเอง ประสบการณ์ของผมเอง และผมเจอมากับตัวเองตลอดระยะเวลา สามปี ที่ผ่านมา
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า การลดกิจกรรมที่ซ้ำซ้อน ถือเป็นเรื่องดี แต่ที่ไม่ดีคือ คาบเรียนเท่าเดิม ใช่หรือไม่ที่ คุณอดหลับอดนอน ตี 1 ตี 2 เพื่อทำการบ้าน ใช่อยู่ที่จำกัดคาบเรียนวันละไม่เกิน 8 คาบเรียน แต่ความจริงคือ คาบเรียนละ 50 นาที นั่นหมายความว่าวันหนึ่ง พวกผมต้องนั่งอยู่ในห้องเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง และ ท่านทั้งหลายรู้หรือไม่ ว่า
นโยบายลดการบ้าน ของท่านทั้งหลายนั้น ไร้ประโยชน์มาก เพราะยังไงซะก็ต้องทำแบบฝึกหัด อะไรต่อมิอะไร บลา บลา บลา วันหนึ่งมี 8 คาบ ครูก็ให้งานมันทั้ง 8 คาบเลย แล้วปัญหามันคืออะไรหละครับ ทำไมหนังสือพิมพ์ถึงพาดหัวข่าวว่า เด็กไทยสมองกลวงอยู่ฉอดๆแบบนี้
จะบอกให้นะครับ สาเหตุที่พวกเราย่ำอยู่กับที่คือ
1. พวกเราไม่มีเวลาแม้กระทั้งจะวิ่งจากอาคารชั้น 4 ลงมาเข้าห้องน้ำ ที่ใต้อาคาร เพราะ ครูเข้าคาบต่อคาบ บางทีครูไม่เข้าคาบก็นั่งปั่นงานกันหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยิ่งตอน ม.4 นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ วิชาพื้นฐานทั้งหลายทั้งแหล่เนี่ย ต้องเอามามัดไว้ ม.4 กันหมด ตายสิครับ ชีทกองสุมท่วมหัว จะบอกให้นะครับที่ พวกผมไม่ส่งงาน มีเหตุผลนะครับ เหตุผลที่ครูหลายๆคนไม่เคยจะรู้ด้วยซ้ำไป (ขอเก็บไว้เล่าตอนท้ายครับ) ประเด็นคือ พวกผม ไม่มีเวลาที่จะใช้ความคิด ไม่มีเวลาที่จะตกอยู่ท่ามกลางห้วงความคิดเลย เพราะถ้าพวกคุณเห็นพวกผมว่างเมื่อไหร่ก็จะหารกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ มาให้ทำกันตลอด ผลคืออะไรครับ
คิดไม่เป็นไงครับ วิเคราะห์ไม่มีตรรกะไงครับ โดนหลอกไงครับ (น้ำแช่เท้าดีท๊อก เชื่อไปได้ยังไง) (หินพลังวิญญาณ เชื่อไปได้ยังไง อันเป็นร้อย กินข้าวได้ตั้งสองมื้อเลยนะครับรู้ไหม) และที่แย่ที่สุด คืออะไรรู้ไหมครับ อนาคตไม่มีจุดหมายไง
อนาคตฉันจะเป็นอะไรยังคิดไม่ออกเลย ไร้แรงบันดาลใจ เพราะอะไรครับ เพราะเราสร้างไม่เป็นไง รับตลอดคิดไม่เป็น อัลกอริทึม
การคาดการสถิติเชิงเส้นอัตราส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอัตราก้าวหน้า รู้จักกันไหมครับ คุณพยายามจะเอาอะไรไม่รู้ให้ผมเรียน
วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เอามาทำไมครับ เข้าคาบไปก็พับกระดาษส่งมั่งหละ ทำงานประดิษฐ์ส่งบ้างหละ จะบอกอะไรให้นะครับ ถ้าผมจะเรียน กอท. ผมไปเรียนสายอาชีพแล้วครับ เรียนวิทย์-คณิต ดนตรีเอามาทำไมครับ นาฏศิลป์ เอามาทำไมครับ ถ้าให้เลือกลง จะไม่ว่าสักคำเลยครับ แต่นี่มาบังคับเรียน ไม่เรียนก็ติด 0 ติด ร เพื่ออะไรครับ ผมถามว่าเพื่ออะไร รู้ไว้นะครับ ถ้าผมสนใจ ผมจะไปเรียนเอง
สรุปประเด็นคือ หนึ่งให้พวกผมเลือกบ้างว่าจะเรียนอะไร จะลงอะไร ให้ผมได้แบ่งเวลาบ้างว่าจะทำอะไรตอนไหน ผมจะได้หัดใช้ชีวิตด้วยตนเอง เข้าใจครับ ว่าถ้าปล่อยอย่างนี่บางคนอาจจะขาดวินัย เชื่อเถอะครับ ไม่เกินเทอมหรอก เขาจะรู้เอง และจะปรับปรุงตัวเขาเองครับ ก็ถ้าเขาจะเป็นอย่างนั้นไม่ปรับปรุงตัว ก็ปล่อยให้ล่มจมไปเถอะครับ
ให้เวลาผมบ้าง ให้ได้คิด ได้ทำอะไรตามความฝัน ให้พวกเราได้ตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยตนเองบ้าง
ปล. จากประสบการณ์การทำวิจัย ในระยะเวลา สามปีตอนอยู่ ม.ปลายนี้ ผมสารภาพว่า ผมยอมโดดบางรายวิชา เพื่อจะมาทำงานวิจัยของผมให้คืบหน้าไปกว่าที่เป็นอยู่บ้าง แต่ รวมๆแล้ว ผมแทบไม่มีเวลาทำวิจัยเลย ผมใช้เวลากว่า 2 ปีในการเอาเวลาก่อนกลับบ้าน (30นาทีหลังเลิกเรียน) เวลานอน (ผมนอนวันละ ไม่เกิน 4 ชั่วโมง) มาทำงานวิจัย และงานวิจัยที่ผมทำก็เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ รายละเอียดชีวิตวิจัยผมตามลิ้งเลยนะครับ
http://pantip.com/topic/33183810
ป.ลิง ขอแท็กหว้ากอ เพราะเป็นห้องที่ผมสถิตนะครับ
แท็กการเรียน เพราะ น่าจะเกี่ยวกะเรื่องนี้
[กระทู้บ่นไร้สาระ] บ่นๆ กับการศึกษาไทยที่กำลังแก้อยู่ ขอแสดงมุมมอง สะท้อนปัญหาการศึกษา จากผู้อยู่ในระบบ (จากผมเอง)
ภาพจาก http://www.thinsiam.com/
ซึ่งงานนี้ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ของการศึกษามาร่วมงานด้วย และช่วงต้นๆ ก็ได้มีการชื้แจงเกี่ยวกับ
1.ร่าง พรบ. การศึกษา ฉบับใหม่
2.การพักผ่อนของ สทศ.
ผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าใดนักเพราะเหน็ดหนื่อยจากการเดินทาง จึงนั่งหลับไปเป็นช่วงๆ แต่พอจับใจความได้ว่า
- จะมีการลดกิจกรรมที่ซ้ำซ้อน ลดการสอบที่ไม่จำเป็น http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426496605
- ลดการประเมิน การทำเอกสาร วิทยฐานะ ของครู(คืนครูให้กับนักเรียน) http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNakEzTVRFMU53PT0=
- จำกัดจำนวน นักเรียนต่อห้อง (ผลสืบเนื่องคือมีห้องเพิ่มขึ้นแน่ๆ) http://www.thairath.co.th/content/489399
และที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ไม่ใช่ผลสำหรวจแต่อย่างใด แต่เป็นความเห็นของผมเอง ประสบการณ์ของผมเอง และผมเจอมากับตัวเองตลอดระยะเวลา สามปี ที่ผ่านมา
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า การลดกิจกรรมที่ซ้ำซ้อน ถือเป็นเรื่องดี แต่ที่ไม่ดีคือ คาบเรียนเท่าเดิม ใช่หรือไม่ที่ คุณอดหลับอดนอน ตี 1 ตี 2 เพื่อทำการบ้าน ใช่อยู่ที่จำกัดคาบเรียนวันละไม่เกิน 8 คาบเรียน แต่ความจริงคือ คาบเรียนละ 50 นาที นั่นหมายความว่าวันหนึ่ง พวกผมต้องนั่งอยู่ในห้องเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง และ ท่านทั้งหลายรู้หรือไม่ ว่า นโยบายลดการบ้าน ของท่านทั้งหลายนั้น ไร้ประโยชน์มาก เพราะยังไงซะก็ต้องทำแบบฝึกหัด อะไรต่อมิอะไร บลา บลา บลา วันหนึ่งมี 8 คาบ ครูก็ให้งานมันทั้ง 8 คาบเลย แล้วปัญหามันคืออะไรหละครับ ทำไมหนังสือพิมพ์ถึงพาดหัวข่าวว่า เด็กไทยสมองกลวงอยู่ฉอดๆแบบนี้
ภาพจาก http://drama-addict.com/
จะบอกให้นะครับ สาเหตุที่พวกเราย่ำอยู่กับที่คือ
1. พวกเราไม่มีเวลาแม้กระทั้งจะวิ่งจากอาคารชั้น 4 ลงมาเข้าห้องน้ำ ที่ใต้อาคาร เพราะ ครูเข้าคาบต่อคาบ บางทีครูไม่เข้าคาบก็นั่งปั่นงานกันหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยิ่งตอน ม.4 นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ วิชาพื้นฐานทั้งหลายทั้งแหล่เนี่ย ต้องเอามามัดไว้ ม.4 กันหมด ตายสิครับ ชีทกองสุมท่วมหัว จะบอกให้นะครับที่ พวกผมไม่ส่งงาน มีเหตุผลนะครับ เหตุผลที่ครูหลายๆคนไม่เคยจะรู้ด้วยซ้ำไป (ขอเก็บไว้เล่าตอนท้ายครับ) ประเด็นคือ พวกผม ไม่มีเวลาที่จะใช้ความคิด ไม่มีเวลาที่จะตกอยู่ท่ามกลางห้วงความคิดเลย เพราะถ้าพวกคุณเห็นพวกผมว่างเมื่อไหร่ก็จะหารกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ มาให้ทำกันตลอด ผลคืออะไรครับ คิดไม่เป็นไงครับ วิเคราะห์ไม่มีตรรกะไงครับ โดนหลอกไงครับ (น้ำแช่เท้าดีท๊อก เชื่อไปได้ยังไง) (หินพลังวิญญาณ เชื่อไปได้ยังไง อันเป็นร้อย กินข้าวได้ตั้งสองมื้อเลยนะครับรู้ไหม) และที่แย่ที่สุด คืออะไรรู้ไหมครับ อนาคตไม่มีจุดหมายไง อนาคตฉันจะเป็นอะไรยังคิดไม่ออกเลย ไร้แรงบันดาลใจ เพราะอะไรครับ เพราะเราสร้างไม่เป็นไง รับตลอดคิดไม่เป็น อัลกอริทึม การคาดการสถิติเชิงเส้นอัตราส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอัตราก้าวหน้า รู้จักกันไหมครับ คุณพยายามจะเอาอะไรไม่รู้ให้ผมเรียน
วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เอามาทำไมครับ เข้าคาบไปก็พับกระดาษส่งมั่งหละ ทำงานประดิษฐ์ส่งบ้างหละ จะบอกอะไรให้นะครับ ถ้าผมจะเรียน กอท. ผมไปเรียนสายอาชีพแล้วครับ เรียนวิทย์-คณิต ดนตรีเอามาทำไมครับ นาฏศิลป์ เอามาทำไมครับ ถ้าให้เลือกลง จะไม่ว่าสักคำเลยครับ แต่นี่มาบังคับเรียน ไม่เรียนก็ติด 0 ติด ร เพื่ออะไรครับ ผมถามว่าเพื่ออะไร รู้ไว้นะครับ ถ้าผมสนใจ ผมจะไปเรียนเอง
สรุปประเด็นคือ หนึ่งให้พวกผมเลือกบ้างว่าจะเรียนอะไร จะลงอะไร ให้ผมได้แบ่งเวลาบ้างว่าจะทำอะไรตอนไหน ผมจะได้หัดใช้ชีวิตด้วยตนเอง เข้าใจครับ ว่าถ้าปล่อยอย่างนี่บางคนอาจจะขาดวินัย เชื่อเถอะครับ ไม่เกินเทอมหรอก เขาจะรู้เอง และจะปรับปรุงตัวเขาเองครับ ก็ถ้าเขาจะเป็นอย่างนั้นไม่ปรับปรุงตัว ก็ปล่อยให้ล่มจมไปเถอะครับ
ให้เวลาผมบ้าง ให้ได้คิด ได้ทำอะไรตามความฝัน ให้พวกเราได้ตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยตนเองบ้าง
ปล. จากประสบการณ์การทำวิจัย ในระยะเวลา สามปีตอนอยู่ ม.ปลายนี้ ผมสารภาพว่า ผมยอมโดดบางรายวิชา เพื่อจะมาทำงานวิจัยของผมให้คืบหน้าไปกว่าที่เป็นอยู่บ้าง แต่ รวมๆแล้ว ผมแทบไม่มีเวลาทำวิจัยเลย ผมใช้เวลากว่า 2 ปีในการเอาเวลาก่อนกลับบ้าน (30นาทีหลังเลิกเรียน) เวลานอน (ผมนอนวันละ ไม่เกิน 4 ชั่วโมง) มาทำงานวิจัย และงานวิจัยที่ผมทำก็เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ รายละเอียดชีวิตวิจัยผมตามลิ้งเลยนะครับ http://pantip.com/topic/33183810
ป.ลิง ขอแท็กหว้ากอ เพราะเป็นห้องที่ผมสถิตนะครับ
แท็กการเรียน เพราะ น่าจะเกี่ยวกะเรื่องนี้