ได้รับข้อความ FWD มาว่า
---------------------------
"เรียน ทุกคน
สรรพากร ออกประกาศใหม่ 20 มค.58 เรื่องการเปิดบัญชีร่วมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร บัญชีเล่นหุ้น การถือที่ดินในหลายชื่อร่วมกัน คณะนักศึกษาเปิดบัญชีเพื่อกลุ่มของตน ฯลฯ
ให้ถือเป็นหน่วยภาษีในรูป ห้างหุ้นส่วนสามัญ
ผลคือ บัญชีร่วมเหล่านี้ต้องเสียภาษี และเมื่อเอาเงินในบัญชีมาให้เจ้าของ จะถือว่าเป็นส่วนแบ่งกำไรที่ต้องเสียภาษีอัตราก้าวหน้าอีกครั้ง
และสรรพากรบางคนตีความว่าบัญชีร่วมของสามีภรรยา หรือพ่อลูก ก็เข้าข่ายนี่ => ดอกเบี้ยที่เกิด = กำไร ฯลฯ...
ทั้งนี้สรรพากรจะให้เริ่มต้องรายงาน ณ สิ้น มีค. เป็นครั้งแรก ถ้าใครปิดบัญชีร่วมทิ้งก่อนสิ้นมีค. ก็รอดไป
จึงแนะนำให้
1. ปิดบัญชีร่วมทุกชนิด (ถ้าทำได้) ก่อนสิ้น มีค.58 ถ้าทำไม่ได้ให้เหลือเงินให้น้อยที่สุดไว้ก่อน
2. ถ้าต้องการมีบัญชีลักษณะนี้ต่อไป ให้ไปเปิดบัญชีใหม่ชื่อเดียว แล้วใช้วิธีมอบอำนาจแทน
(มีบางธนาคารทำแบบนี้ได้ บางธนาคารเช่น BBL ไม่ยอมทำ แต่กรุงไทยยอม เป็นต้น) เช่น
- เปิดบัญชีใหม่ โดยใช้ชื่อบัญชี นาย ก.
- นาย ก. กำหนดอำนาจเซ็นต์ ว่า ก. หรือ ข. ลงนามคนเดียว หรือ
ก.และข.ลงนามร่วมกัน (แล้วแต่เราอยากได้แบบไหน)
เมื่อทำแบบนี้ จะถือว่าบัญชีเป็นบัญชีของนาย ก. คนเดียว (เพียงแต่อำนาจเซ็นต์ก็จะเป็นอย่างที่เราต้องการได้) ไม่ถือเป็นบัญชีร่วม
ข้อเสียคือ ถ้า ข. มีเช็คชื่อ ก. ก็จะสามารถเอาเข้าบัญชีนี้ แล้วรีบถอนออกไป โดย ก.อาจไม่รู้เรื่องได้
ลองตรวจดูครับว่าข้อมูลนี้จริงไหม"
-----------------
ข่าวลือในไลน์เกี่ยวกับ สรรพากรนี้ มั่วหรือเปล่าครับ
---------------------------
"เรียน ทุกคน
สรรพากร ออกประกาศใหม่ 20 มค.58 เรื่องการเปิดบัญชีร่วมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร บัญชีเล่นหุ้น การถือที่ดินในหลายชื่อร่วมกัน คณะนักศึกษาเปิดบัญชีเพื่อกลุ่มของตน ฯลฯ
ให้ถือเป็นหน่วยภาษีในรูป ห้างหุ้นส่วนสามัญ
ผลคือ บัญชีร่วมเหล่านี้ต้องเสียภาษี และเมื่อเอาเงินในบัญชีมาให้เจ้าของ จะถือว่าเป็นส่วนแบ่งกำไรที่ต้องเสียภาษีอัตราก้าวหน้าอีกครั้ง
และสรรพากรบางคนตีความว่าบัญชีร่วมของสามีภรรยา หรือพ่อลูก ก็เข้าข่ายนี่ => ดอกเบี้ยที่เกิด = กำไร ฯลฯ...
ทั้งนี้สรรพากรจะให้เริ่มต้องรายงาน ณ สิ้น มีค. เป็นครั้งแรก ถ้าใครปิดบัญชีร่วมทิ้งก่อนสิ้นมีค. ก็รอดไป
จึงแนะนำให้
1. ปิดบัญชีร่วมทุกชนิด (ถ้าทำได้) ก่อนสิ้น มีค.58 ถ้าทำไม่ได้ให้เหลือเงินให้น้อยที่สุดไว้ก่อน
2. ถ้าต้องการมีบัญชีลักษณะนี้ต่อไป ให้ไปเปิดบัญชีใหม่ชื่อเดียว แล้วใช้วิธีมอบอำนาจแทน
(มีบางธนาคารทำแบบนี้ได้ บางธนาคารเช่น BBL ไม่ยอมทำ แต่กรุงไทยยอม เป็นต้น) เช่น
- เปิดบัญชีใหม่ โดยใช้ชื่อบัญชี นาย ก.
- นาย ก. กำหนดอำนาจเซ็นต์ ว่า ก. หรือ ข. ลงนามคนเดียว หรือ
ก.และข.ลงนามร่วมกัน (แล้วแต่เราอยากได้แบบไหน)
เมื่อทำแบบนี้ จะถือว่าบัญชีเป็นบัญชีของนาย ก. คนเดียว (เพียงแต่อำนาจเซ็นต์ก็จะเป็นอย่างที่เราต้องการได้) ไม่ถือเป็นบัญชีร่วม
ข้อเสียคือ ถ้า ข. มีเช็คชื่อ ก. ก็จะสามารถเอาเข้าบัญชีนี้ แล้วรีบถอนออกไป โดย ก.อาจไม่รู้เรื่องได้
ลองตรวจดูครับว่าข้อมูลนี้จริงไหม"
-----------------