สวัสดีครับบบบ เพื่อนๆชาวบลูทุกคน ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าแอบซุ่มมานานมากๆๆๆในห้องนี้ นึกอยากไปเที่ยวไหนก็คิดถึงบลูตลอด ฮ่าๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกที่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะทำ แต่เนื่องจากเพิ่งสอบเสร็จแล้วรู้สึกว่างๆ บวกกับ อยากแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆบ้าง ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้ขึ้นครับรีวิวนี้ดองไว้ค่อนข้างนาน อาจจะมีจำรายละเอียดได้ไม่หมดทั้งเรื่องราคาสินค้าและสถานที่ ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้ะครับ ^^
ทริปนี้มันเริ่มมาจากการบนอันไร้สาระของผมเองครับ คือผมเคยไปสิงคโปร์มาแล้วตอนม5 ตอนนั้นก็อ่านเจอในหนังสือว่าถ้าไปน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ตึกซันเทคเอามือไปแตะแล้วเดินวนสามรอบอธิษฐานแล้วจะเป็นจริง แต่ไอเราาาามันชอบล้ำไง ดันไปพูดว่าถ้าเป็นจริงจะกลับมาที่นี่อีกรอบ แหมมม บนซะ ดีน้ะไม่ไปบนที่แถบยุโรปไม่งั้นน้ะฉหแน่ๆ 5555 พอคำอธิษฐานเป็นจริงที่ว่าขอให้สอบติดมหาวิทยาลัย ก็เริ่มคิดจะมาแก้บนที่สิงคโปร์ตั้งแต่ปี1แต่จนแล้วจนรอดก็เพิ่งมาได้โอกาสและเวลาอันเหมาะสมตอนปี3!!! แหมจะจบอยู่ละเพิ่งจะไปแก้ฮ่าๆ เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ เกริ่นมาซะเยอะคือตอนนั้นแอร์เอเซียปล่อยโปรออกมาพอดี ไอเราก็ลองเข้าไปจองเล่นๆเพราะไม่คิดว่ามันจะถูกขนาดนี้!!!!! ได้ตั๋วมาราคา3777บาท!!!!!!!ไป-กลับ กรุงเทพสิงคโปร์ เลยไม่ได้โหลดกระเป๋าครับ แบกเป้ขึ้นเครื่องไปใบเดียว ก็เลยชวนเพื่อนไปด้วยคนนึงครับตอนแรกกะไปคนเดียวแล้วแต่กลัวเหงาอะกลัวไม่มีคนถ่ายรูปให้ฮ่าๆพอจองตั๋วเครื่องบินได้แล้วเรียบร้อย สถานที่ต่อไปที่ต้องหาก็คือ สถานที่ซุกหัวนอนครับ ที่ต้องบอกว่าที่ซุกหัวนอนเพราะว่า การไปต่างประเทศแค่มีที่ซุกหัวนอนก็พอไม่ต้องหรูหราอะไรมาก แค่สะอาด ปลอดภัยเป็นอันใช้ได้ เริ่มแรกก็มาหาอ่านจากเพื่อนๆในห้องบลูนี่แหละครับ ที่แรกที่ได้ก็เป็นโฮสเทลที่อยู่ย่านไชน่าทาวน์ที่มีหมีเยอะๆอะจำชื่อไม่ได้ 5555 แต่... ก็ยังไม่ถูกใจฮ่าๆ ไหนบอกแค่ที่ซุกหัวนอนไง! โหยก็ขอเลือกนิดนึงเส่ จนไปเจอ @Bunc hostel เป็นโฮสเทลที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ดูจากรีวิวแล้วเค้าบอกสะอาดปลอดภัยราคาโอเคก็เลยเอาวะ ลองดู มันจะเป็นห้องนอนรวมชายหญิง 16เตียงเป็นเตียงสองชั้น ชั้นล่างนอนสองคนชั้นบนนอนคนเดียว ถ้าเป็นเตียงล่างจะประมาณ700 ผมนอนสองคนสองคืน ก็1400หารสองคนก็คนละ700 ประมาณนี้ครับแล้วแต่เลทในช่วงนั้นด้วยน้ะครับ รู้สึกเตียงบนจะแพงกว่าแต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ราคานี้มีอาหารเช้าด้วยน้ะครับ ก็เป็นสไตล์ฝรั่งครับ กาแฟ ขนมปัง คอนเฟรก นม ก็พอประหยัดได้ไป1มื้อ ....ได้ตั๋วแล้ว ได้ที่นอนแล้ว ราคารวมทั้งสิ้น 4477!!! จากนั้นก็ไปโล้ดดดดดดดดดดดดดด
ช่วงที่ผมไปเป็นเดือนสิงหาคมครับ ช่วงหน้าฝนพอดีเลย แต่ถามว่าแคร์ไหม! ก็แคร์บ้างTT กลัวไม่ได้เที่ยว 555 แต่ก็ไหนๆแล้วไปเที่ยวทั้งที่ไม่มีอุปสรรคก็ไม่ใช่การเดินทางสิครับบบบบ ทริปนี้ผมแลกเงินไปเพียง 5000บาทไทยน้ะครับ เงิน5000นี้ใช้ที่สิงคโปร์เท่านั้นค่าใช้จ่ายที่ดอนเมืองและบนเครื่องไม่รวมในนี้น้ะครับ และในทริปนี้ผมใช้บริการ โรมมิ่ง 3G กับ AIS น้ะครับ 3วัน 900บาทหมดปัญหาอินเทอร์เน็ตรั่ว
ตี4ครึ่งโดยประมาณถึงสนามบินดอนเมืองครับ เนื่องจากเครื่องออก 6โมง ไปเคาร์เตอร์เช็คอินแอร์เอเซีย อื้อออหือออออ คนหรอนั่นไปไหนกันนนนนนน โอ่ยยยยยยยยย ไม่ไหวๆเลยเดินออกมานอกสนามบินมันจะมีเคาร์เตอร์เช็คอินด้วยตัวเองอยู่ ก็เลยลองดู กดตามๆที่เค้าสั่ง ก็ได้ตั๋วมาเรียบร้อยครับ ไม่ถึง5นาทีเลย สบายๆมาเป้ใบเดียวก็เงี้ย อิอิ เดินผ่านแถวอันยาวเหยียด ก็อยากจะยักไหล่มองบน แต่ไม่ดีกว่า5555 มาถึงหน้าประตูแล้วครับ
พอเดินเข้าไปเอ้าลืมเอาใบตม. เข้ามา หึ้ยยเลยรีบเดินออกไปเอาแล้วก็เขียนพอผ่านตม.เข้ามาก็พอเจอ Duty free และร้านอาหารมากๆ
แต่ตอนนั้นยังเช้าอยู่มากเลยยังไม่หิว ก็เลยไปแวะไปดื่มกาแฟที่สตาร์บัคสักหน่อยยย
นั่งดื่มไปอัพรูปไป ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วครับบบบไปขึ้นเครื่องกันดีกว่าอิอิ
เหินฟ้าาาาาไปแล้ววววพอเครื่องขึ้นก็เกือบๆ7โมงกว่าๆ ชักเริ่มหิว ก็เลยซื้ออาหารทานสักหน่อย
จำไม่ได้ว่ามันเรียกว่าเมนูอะไร แต่รสชาติใช้ได้เลย
ทานเสร็จเขียนใบตม.ของสิงคโปร์ งีบได้แปบเดียวเราก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติชางฮีประเทศสิงคโปร์แล้วครับ เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าประเทศไทย1ชม.
เดินไปตม. ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยโดนถามแค่ว่า เครื่องที่เรานั่งมา Fight อะไร อาจเป็นเพราะลายมือจขกท.เอง ฮ่าๆ จากนั้นก็เดินไปซื้อ บัตร EZ-LINK เป็นบัตรโดยสารทั้งรถไฟและรถเมล์ครับ ราคาบัตร EZ-Link 12 SGD แต่เราไม่สามารถใช้ได้ทั้ง 12 SGD เพราะว่าในเงินจำนวน 12 SGD จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
เงินค่าบัตร 5 SGD
ค่าโดยสาร 7 SGD เงินจำนวนนี้คือจำนวนเงินที่เราสามารถใช้เป็นค่าโดยสารได้จริง
ผมเลยเติมไปอีก 10 เหรียญ จากนั้นก็ ไปเลยยยยยยยยยยยลุยยยยยยยยยย สิงคโปร์จ๋าาาา คิดถึงจังงง อิอิอิ
เนื่องด้วยโฮสเทลอยู่ย่านLittle India จึงต้องนั่งรถไฟฟ้าไป โดยดูจากรีวิวเค้าบอกนั่งรถไฟฟ้าไปลง Little India ออกประตู... จำไม่ได้ครับขออภัย แล้วก็ขึ้นรถเมล์สายนี้ไปต่อประมาณ3-4ป้าย เราก็ลงทุนนั่งจดหมายเลขสถานีมาเลยว่าต้องลงตรงนี้จะผ่านสถานีอะไรบ้าง แหม๊ะ!!! ยังอุส่าหลงน้ะ เห้ยยยยย หลงแล้วไงอะ นี่คือนั่งเลยหรอ ตูว่าตูดูดีแล้ว้นะ โอ้ยยยตอนนั้นใจสั่นเลย เอาไงวะ ไปไงละเลยเดินย้อนกลับไปแล้วก็เปิดแผนที่ดู เห็นป้ายชื่อโฮสเทลเล็กๆโอ้ยยยดีใจน้ำตาจะไหลก็เลยเดินๆตามแผนที่ไปผ่านซอยนั้นซอยนี้ เห้ยยย เจอแล้ววววววววววววววววว
นี่เป็นเพียงด้านหลังน้ะครับ รูปด้านหน้าถ่ายไว้วันกลับแฮ่ๆ เข้าไปถึงก็ไปเช็คอินครับ เนื่องจากจองกับทาง Agoda ไว้ จึงแค่ยื่นใบจอง ก็เป็นอันเรียบร้อยด้านในประมาณนี้ครับบริเวณล้อบบี้และโต๊ะทานอาหารเช้ารวมตอนนี้ไม่มีคนครับ สงสัยจะออกไปเที่ยวกันหมด
ไปเช็คอินประมาณ เที่ยง แต่เขาบอก สามารถเช็คอินได้ บ่ายสาม ก็เลยขอฝากของบางส่วนไว้ที่ห้องเก็บของที่โฮสเทลครับ ปลอดภัยหายห่วงครับ แต่ก็ยังมีแอบใจตุ้มๆต่อมๆอยู่ดี แต่เนื่องด้วยกฎระเบียบบ้านเค้าค่อนข้างแข็งแรงเราจึงพยายามปลอบใจตัวเอง 5555 จากนั้นก็เดินทางไปยังห้าง People's Park เพื่อซื้อบัตรเข้า Universal และ Gardens by the bay เมื่อเข้ามาในตัวห้าง Poeple's Park แล้วก็มองหาร้านสีเขียวๆ ที่เขียนว่า Sea Wheel Travel อยู่ชั้น3 คนไทยเค้าแนะนำที่นี่ครับเนื่องจากถูกกว่าซื้อหน้าประตูราคาก็ตามนี้ครับ
ขอบคุณรูปภาพจากกระทู้นี้ครับ[CR]Review Singapore Backpack Trip 3 วัน 2 คืน : เที่ยวสิงคโปร์ ใครๆก็ไปเองได้... #Day1
ซื่อบัตรเสร็จหมดเงินกันไปคนละ84เหรียญครับ แต่ก็สบายตัวละ ที่เหลือก็ใช้ค่ากินกับเดินทางอย่างเดียวว อิอิทริปนี้ไม่ช้อปน้ะครับ ไม่ใช่ทาง555
จากนั้นก็ว่าจะไปหาอะไรทางครับ เดินออกมาข้างนอก เอ้าาาา ฝนตกTT หาไรกินในห้างก็ได้ ก็เลย ลงมาฟ้าดฟู้ดชั้นล่างครับ ก็ได้มากันคนละอย่าง น้ำ1ขวดกินด้วยกัน เก็บขวดไว้แล้วไปหากรอกเอา น้ำสำคัญกับเราจริงๆครับในต่างประเทศ แพงไปไหนนน 5555
ของจขกทเป็นข้าวมันไก่(สิงคโปร์)
ส่วนของเพื่อนเป็นบะหมี่เป็ด จำราคาไม่ได้ ขออภัยงามๆ แฮ่ๆ
กินเสร็จก็เดินทางไปตึกซันเทคซิตี้เป็นตึกเพื่อไปจุดประสงค์แรกของการมาที่นี่ ต้องไปให้ได้ก่อนเมอร์ไลอ้อนอีกน้ะคิดดู 55555 แต่พอไปถึง!!! มันปิดดดด ห้ะะะอะไรน้ะ ปิดดดดดดดด เพราะฝนตก โอ้ยยยยยย ไม่เอาสิTT เลยเดินวนรอในห้างนั่นละนั่งรอนอนรอเดินรอ ประมาณ 2 ชั่วโมงได้
นั่งหาที่เที่ยวอื่นไปพลางๆมองไปข้างนอกเห้ย ฝนหยุดแล้ววว สวรรค์เปิดทางข้าาา ฮ่าๆๆๆ สำเร็จ!!!
ที่นี่ตอนกลางคืนจะมีการแสดงแสงสีของน้ำพุด้วยน้ะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ2ทุ่ม แต่ลองเช็คอีกทีก็ได้ครับ เพื่อความชัวเสร็จจากการมาทำตามจุดประสงค์เราก็สบายละ ไปไหนก็ได้โตแล้ว #ผิด 555 จากซันเทตซิตี้เราก็เดินทางไปยังเจ้า เมอไลอ้อนนนนน จำไม่ได้ว่าต้องนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีไหนแต่จำได้ว่ารถไฟฟ้ามันไม่โผล่เมอไลอ้อนเลย มันต้องเดินไปอีกนิดหน่อยพอสมควรเดินไปเรื่อยๆ
แล้วก็เจอรูปปั้นเด็กกกระโดดน้ำ เลยขอแชะภาพสักหน่อย
โฟกัสที่รูปเด็กกระโดดน้ำน้ะครับ ฮ่าๆ ไม่ใช่ไอสองตัวนี่!! เดินไปเรื่อยๆก็ไปเจอรถขายไอติมครับ คนเยอะมากกกกกก
ตอนแรกมันเยอะกว่านี้น้ะครับ 555 ซึ่งแน่นอน เมื่อคนกินเยอะ เราก็ขอลองบ้าง เป็นไอติมธรรมดาครับ ห่อขนมปังฟาร์มเฮ้าบ้านเรา แต่แปลก ทำไมมันอร่อย 5555
1เหรียญเท่านั้นครับ
พอแวะซื้อไอติมก็เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้วววววว ตัวแม่แห่ง สิงคโปร์
คนค่อนข้างเยอะน้ะครับ
Selfie กับ ตัวแม่ซะหน่อยยยเสร็จจาก เมอไลอ้อน ก็รู้สึกค่อนข้างเพลียครับ แล้วตอนนั้นก็เริ่มมืดแล้วด้วย เนื่องจากก่อนมาสิงคโปร์นอนไปแค่สามชั่วโมงจึงหมดแรงกลับ เลยกลับโอสเทลเพื่อไปจัดการเช็คอิน ตอนนั้นอยากจะล้มตัวลงนอนจะแย่แล้ววววว เมื่อยมากๆ พอไปถึงโรงแรมก็ไปเช้คอินและเก็บของ
ห้องนอนจะเป็นแบบนี้ครับ แต่ละคนจะเปิดไฟที่เตียงของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่นครับ
เตียงผมอยู่ริมขวาในสุดเลยครับ นี่สภาพเตียงครับ
เก็บของเสร็จก็ไปอาบน้ำครับ แนะนำสำหรับคนที่ไป2คนน้ะครับ ให้สลับกันไปเพื่อจะได้เฝ้าของครับ นี่แหละคือข้อดีของการไปสองคน
แต่ถ้าไปคนเดียวก็ไม่ยากครับ เอาแค่ของมีค่าติดตัวไปครับ เช่นพาสปอร์ต โทรศัพท์ ไอแพด กระเป๋าตังค์เป็นต้น ห้องน้ำสภาพดีครับ สะอาด ไม่แย่ครับ
มุมแปรงฟัน เสริมหล่อ
ห้องอาบน้ำครับ
ไปครั้งนี้ได้เพื่อนชาวอิตาลีคนนึงครับ น่ารักมากครับ มาเที่ยวกับแฟน ผมสองคนเดินเข้าห้องไปอย่าเงอะๆงะๆ เค้าก็เข้ามาช่วยอธิบายการเปิดไฟต่างๆให้ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร
หมด1วันแล้วหลับเป็นตาย
[CR] เที่ยวสิงคโปร์ งบ10000 แต่ใช้ไม่ถึงหมื่น!!!!!!!!!!
ทริปนี้มันเริ่มมาจากการบนอันไร้สาระของผมเองครับ คือผมเคยไปสิงคโปร์มาแล้วตอนม5 ตอนนั้นก็อ่านเจอในหนังสือว่าถ้าไปน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ตึกซันเทคเอามือไปแตะแล้วเดินวนสามรอบอธิษฐานแล้วจะเป็นจริง แต่ไอเราาาามันชอบล้ำไง ดันไปพูดว่าถ้าเป็นจริงจะกลับมาที่นี่อีกรอบ แหมมม บนซะ ดีน้ะไม่ไปบนที่แถบยุโรปไม่งั้นน้ะฉหแน่ๆ 5555 พอคำอธิษฐานเป็นจริงที่ว่าขอให้สอบติดมหาวิทยาลัย ก็เริ่มคิดจะมาแก้บนที่สิงคโปร์ตั้งแต่ปี1แต่จนแล้วจนรอดก็เพิ่งมาได้โอกาสและเวลาอันเหมาะสมตอนปี3!!! แหมจะจบอยู่ละเพิ่งจะไปแก้ฮ่าๆ เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ เกริ่นมาซะเยอะคือตอนนั้นแอร์เอเซียปล่อยโปรออกมาพอดี ไอเราก็ลองเข้าไปจองเล่นๆเพราะไม่คิดว่ามันจะถูกขนาดนี้!!!!! ได้ตั๋วมาราคา3777บาท!!!!!!!ไป-กลับ กรุงเทพสิงคโปร์ เลยไม่ได้โหลดกระเป๋าครับ แบกเป้ขึ้นเครื่องไปใบเดียว ก็เลยชวนเพื่อนไปด้วยคนนึงครับตอนแรกกะไปคนเดียวแล้วแต่กลัวเหงาอะกลัวไม่มีคนถ่ายรูปให้ฮ่าๆพอจองตั๋วเครื่องบินได้แล้วเรียบร้อย สถานที่ต่อไปที่ต้องหาก็คือ สถานที่ซุกหัวนอนครับ ที่ต้องบอกว่าที่ซุกหัวนอนเพราะว่า การไปต่างประเทศแค่มีที่ซุกหัวนอนก็พอไม่ต้องหรูหราอะไรมาก แค่สะอาด ปลอดภัยเป็นอันใช้ได้ เริ่มแรกก็มาหาอ่านจากเพื่อนๆในห้องบลูนี่แหละครับ ที่แรกที่ได้ก็เป็นโฮสเทลที่อยู่ย่านไชน่าทาวน์ที่มีหมีเยอะๆอะจำชื่อไม่ได้ 5555 แต่... ก็ยังไม่ถูกใจฮ่าๆ ไหนบอกแค่ที่ซุกหัวนอนไง! โหยก็ขอเลือกนิดนึงเส่ จนไปเจอ @Bunc hostel เป็นโฮสเทลที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ดูจากรีวิวแล้วเค้าบอกสะอาดปลอดภัยราคาโอเคก็เลยเอาวะ ลองดู มันจะเป็นห้องนอนรวมชายหญิง 16เตียงเป็นเตียงสองชั้น ชั้นล่างนอนสองคนชั้นบนนอนคนเดียว ถ้าเป็นเตียงล่างจะประมาณ700 ผมนอนสองคนสองคืน ก็1400หารสองคนก็คนละ700 ประมาณนี้ครับแล้วแต่เลทในช่วงนั้นด้วยน้ะครับ รู้สึกเตียงบนจะแพงกว่าแต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ราคานี้มีอาหารเช้าด้วยน้ะครับ ก็เป็นสไตล์ฝรั่งครับ กาแฟ ขนมปัง คอนเฟรก นม ก็พอประหยัดได้ไป1มื้อ ....ได้ตั๋วแล้ว ได้ที่นอนแล้ว ราคารวมทั้งสิ้น 4477!!! จากนั้นก็ไปโล้ดดดดดดดดดดดดดด
ช่วงที่ผมไปเป็นเดือนสิงหาคมครับ ช่วงหน้าฝนพอดีเลย แต่ถามว่าแคร์ไหม! ก็แคร์บ้างTT กลัวไม่ได้เที่ยว 555 แต่ก็ไหนๆแล้วไปเที่ยวทั้งที่ไม่มีอุปสรรคก็ไม่ใช่การเดินทางสิครับบบบบ ทริปนี้ผมแลกเงินไปเพียง 5000บาทไทยน้ะครับ เงิน5000นี้ใช้ที่สิงคโปร์เท่านั้นค่าใช้จ่ายที่ดอนเมืองและบนเครื่องไม่รวมในนี้น้ะครับ และในทริปนี้ผมใช้บริการ โรมมิ่ง 3G กับ AIS น้ะครับ 3วัน 900บาทหมดปัญหาอินเทอร์เน็ตรั่ว
ตี4ครึ่งโดยประมาณถึงสนามบินดอนเมืองครับ เนื่องจากเครื่องออก 6โมง ไปเคาร์เตอร์เช็คอินแอร์เอเซีย อื้อออหือออออ คนหรอนั่นไปไหนกันนนนนนน โอ่ยยยยยยยยย ไม่ไหวๆเลยเดินออกมานอกสนามบินมันจะมีเคาร์เตอร์เช็คอินด้วยตัวเองอยู่ ก็เลยลองดู กดตามๆที่เค้าสั่ง ก็ได้ตั๋วมาเรียบร้อยครับ ไม่ถึง5นาทีเลย สบายๆมาเป้ใบเดียวก็เงี้ย อิอิ เดินผ่านแถวอันยาวเหยียด ก็อยากจะยักไหล่มองบน แต่ไม่ดีกว่า5555 มาถึงหน้าประตูแล้วครับ
พอเดินเข้าไปเอ้าลืมเอาใบตม. เข้ามา หึ้ยยเลยรีบเดินออกไปเอาแล้วก็เขียนพอผ่านตม.เข้ามาก็พอเจอ Duty free และร้านอาหารมากๆ
แต่ตอนนั้นยังเช้าอยู่มากเลยยังไม่หิว ก็เลยไปแวะไปดื่มกาแฟที่สตาร์บัคสักหน่อยยย
นั่งดื่มไปอัพรูปไป ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วครับบบบไปขึ้นเครื่องกันดีกว่าอิอิ
เหินฟ้าาาาาไปแล้ววววพอเครื่องขึ้นก็เกือบๆ7โมงกว่าๆ ชักเริ่มหิว ก็เลยซื้ออาหารทานสักหน่อย
จำไม่ได้ว่ามันเรียกว่าเมนูอะไร แต่รสชาติใช้ได้เลย
ทานเสร็จเขียนใบตม.ของสิงคโปร์ งีบได้แปบเดียวเราก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติชางฮีประเทศสิงคโปร์แล้วครับ เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าประเทศไทย1ชม.
เดินไปตม. ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยโดนถามแค่ว่า เครื่องที่เรานั่งมา Fight อะไร อาจเป็นเพราะลายมือจขกท.เอง ฮ่าๆ จากนั้นก็เดินไปซื้อ บัตร EZ-LINK เป็นบัตรโดยสารทั้งรถไฟและรถเมล์ครับ ราคาบัตร EZ-Link 12 SGD แต่เราไม่สามารถใช้ได้ทั้ง 12 SGD เพราะว่าในเงินจำนวน 12 SGD จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
เงินค่าบัตร 5 SGD
ค่าโดยสาร 7 SGD เงินจำนวนนี้คือจำนวนเงินที่เราสามารถใช้เป็นค่าโดยสารได้จริง
ผมเลยเติมไปอีก 10 เหรียญ จากนั้นก็ ไปเลยยยยยยยยยยยลุยยยยยยยยยย สิงคโปร์จ๋าาาา คิดถึงจังงง อิอิอิ
เนื่องด้วยโฮสเทลอยู่ย่านLittle India จึงต้องนั่งรถไฟฟ้าไป โดยดูจากรีวิวเค้าบอกนั่งรถไฟฟ้าไปลง Little India ออกประตู... จำไม่ได้ครับขออภัย แล้วก็ขึ้นรถเมล์สายนี้ไปต่อประมาณ3-4ป้าย เราก็ลงทุนนั่งจดหมายเลขสถานีมาเลยว่าต้องลงตรงนี้จะผ่านสถานีอะไรบ้าง แหม๊ะ!!! ยังอุส่าหลงน้ะ เห้ยยยยย หลงแล้วไงอะ นี่คือนั่งเลยหรอ ตูว่าตูดูดีแล้ว้นะ โอ้ยยยตอนนั้นใจสั่นเลย เอาไงวะ ไปไงละเลยเดินย้อนกลับไปแล้วก็เปิดแผนที่ดู เห็นป้ายชื่อโฮสเทลเล็กๆโอ้ยยยดีใจน้ำตาจะไหลก็เลยเดินๆตามแผนที่ไปผ่านซอยนั้นซอยนี้ เห้ยยย เจอแล้ววววววววววววววววว
นี่เป็นเพียงด้านหลังน้ะครับ รูปด้านหน้าถ่ายไว้วันกลับแฮ่ๆ เข้าไปถึงก็ไปเช็คอินครับ เนื่องจากจองกับทาง Agoda ไว้ จึงแค่ยื่นใบจอง ก็เป็นอันเรียบร้อยด้านในประมาณนี้ครับบริเวณล้อบบี้และโต๊ะทานอาหารเช้ารวมตอนนี้ไม่มีคนครับ สงสัยจะออกไปเที่ยวกันหมด
ไปเช็คอินประมาณ เที่ยง แต่เขาบอก สามารถเช็คอินได้ บ่ายสาม ก็เลยขอฝากของบางส่วนไว้ที่ห้องเก็บของที่โฮสเทลครับ ปลอดภัยหายห่วงครับ แต่ก็ยังมีแอบใจตุ้มๆต่อมๆอยู่ดี แต่เนื่องด้วยกฎระเบียบบ้านเค้าค่อนข้างแข็งแรงเราจึงพยายามปลอบใจตัวเอง 5555 จากนั้นก็เดินทางไปยังห้าง People's Park เพื่อซื้อบัตรเข้า Universal และ Gardens by the bay เมื่อเข้ามาในตัวห้าง Poeple's Park แล้วก็มองหาร้านสีเขียวๆ ที่เขียนว่า Sea Wheel Travel อยู่ชั้น3 คนไทยเค้าแนะนำที่นี่ครับเนื่องจากถูกกว่าซื้อหน้าประตูราคาก็ตามนี้ครับ
ขอบคุณรูปภาพจากกระทู้นี้ครับ[CR]Review Singapore Backpack Trip 3 วัน 2 คืน : เที่ยวสิงคโปร์ ใครๆก็ไปเองได้... #Day1
ซื่อบัตรเสร็จหมดเงินกันไปคนละ84เหรียญครับ แต่ก็สบายตัวละ ที่เหลือก็ใช้ค่ากินกับเดินทางอย่างเดียวว อิอิทริปนี้ไม่ช้อปน้ะครับ ไม่ใช่ทาง555
จากนั้นก็ว่าจะไปหาอะไรทางครับ เดินออกมาข้างนอก เอ้าาาา ฝนตกTT หาไรกินในห้างก็ได้ ก็เลย ลงมาฟ้าดฟู้ดชั้นล่างครับ ก็ได้มากันคนละอย่าง น้ำ1ขวดกินด้วยกัน เก็บขวดไว้แล้วไปหากรอกเอา น้ำสำคัญกับเราจริงๆครับในต่างประเทศ แพงไปไหนนน 5555
ของจขกทเป็นข้าวมันไก่(สิงคโปร์)
กินเสร็จก็เดินทางไปตึกซันเทคซิตี้เป็นตึกเพื่อไปจุดประสงค์แรกของการมาที่นี่ ต้องไปให้ได้ก่อนเมอร์ไลอ้อนอีกน้ะคิดดู 55555 แต่พอไปถึง!!! มันปิดดดด ห้ะะะอะไรน้ะ ปิดดดดดดดด เพราะฝนตก โอ้ยยยยยย ไม่เอาสิTT เลยเดินวนรอในห้างนั่นละนั่งรอนอนรอเดินรอ ประมาณ 2 ชั่วโมงได้
นั่งหาที่เที่ยวอื่นไปพลางๆมองไปข้างนอกเห้ย ฝนหยุดแล้ววว สวรรค์เปิดทางข้าาา ฮ่าๆๆๆ สำเร็จ!!!
ที่นี่ตอนกลางคืนจะมีการแสดงแสงสีของน้ำพุด้วยน้ะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ2ทุ่ม แต่ลองเช็คอีกทีก็ได้ครับ เพื่อความชัวเสร็จจากการมาทำตามจุดประสงค์เราก็สบายละ ไปไหนก็ได้โตแล้ว #ผิด 555 จากซันเทตซิตี้เราก็เดินทางไปยังเจ้า เมอไลอ้อนนนนน จำไม่ได้ว่าต้องนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีไหนแต่จำได้ว่ารถไฟฟ้ามันไม่โผล่เมอไลอ้อนเลย มันต้องเดินไปอีกนิดหน่อยพอสมควรเดินไปเรื่อยๆ
แล้วก็เจอรูปปั้นเด็กกกระโดดน้ำ เลยขอแชะภาพสักหน่อย
โฟกัสที่รูปเด็กกระโดดน้ำน้ะครับ ฮ่าๆ ไม่ใช่ไอสองตัวนี่!! เดินไปเรื่อยๆก็ไปเจอรถขายไอติมครับ คนเยอะมากกกกกก
ตอนแรกมันเยอะกว่านี้น้ะครับ 555 ซึ่งแน่นอน เมื่อคนกินเยอะ เราก็ขอลองบ้าง เป็นไอติมธรรมดาครับ ห่อขนมปังฟาร์มเฮ้าบ้านเรา แต่แปลก ทำไมมันอร่อย 5555
1เหรียญเท่านั้นครับ
พอแวะซื้อไอติมก็เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้วววววว ตัวแม่แห่ง สิงคโปร์
คนค่อนข้างเยอะน้ะครับ
Selfie กับ ตัวแม่ซะหน่อยยยเสร็จจาก เมอไลอ้อน ก็รู้สึกค่อนข้างเพลียครับ แล้วตอนนั้นก็เริ่มมืดแล้วด้วย เนื่องจากก่อนมาสิงคโปร์นอนไปแค่สามชั่วโมงจึงหมดแรงกลับ เลยกลับโอสเทลเพื่อไปจัดการเช็คอิน ตอนนั้นอยากจะล้มตัวลงนอนจะแย่แล้ววววว เมื่อยมากๆ พอไปถึงโรงแรมก็ไปเช้คอินและเก็บของ
ห้องนอนจะเป็นแบบนี้ครับ แต่ละคนจะเปิดไฟที่เตียงของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่นครับ
เตียงผมอยู่ริมขวาในสุดเลยครับ นี่สภาพเตียงครับ
เก็บของเสร็จก็ไปอาบน้ำครับ แนะนำสำหรับคนที่ไป2คนน้ะครับ ให้สลับกันไปเพื่อจะได้เฝ้าของครับ นี่แหละคือข้อดีของการไปสองคน
แต่ถ้าไปคนเดียวก็ไม่ยากครับ เอาแค่ของมีค่าติดตัวไปครับ เช่นพาสปอร์ต โทรศัพท์ ไอแพด กระเป๋าตังค์เป็นต้น ห้องน้ำสภาพดีครับ สะอาด ไม่แย่ครับ
มุมแปรงฟัน เสริมหล่อ
ห้องอาบน้ำครับ
ไปครั้งนี้ได้เพื่อนชาวอิตาลีคนนึงครับ น่ารักมากครับ มาเที่ยวกับแฟน ผมสองคนเดินเข้าห้องไปอย่าเงอะๆงะๆ เค้าก็เข้ามาช่วยอธิบายการเปิดไฟต่างๆให้ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร
หมด1วันแล้วหลับเป็นตาย