ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่ให้ประชาชนถือสัญชาติได้พร้อมกันสองสัญชาติได้ ดังนั้นจึงมีคนมากมายที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียต้องการที่จะเป็นพลเมืองออสเตรเลียอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการจะได้สัญชาติออสเตรเลียนั้นมีอยู่ 3 วิธี
โดยกำเนิด
โดยกำเนิดจากการมีพ่อหรือแม่ถือสัญชาติออสเตรเลียหรือถือพีอาร์ ณ วันที่ถือกำเนิด ถ้าเด็กเกิดที่ต่างประเทศก็สามารถขอสัญชาติได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย Australian Citizenship Act, 2007 นั่นก็คือต้องเกิดจากพ่อหรือแม่ที่ถือสัญชาติออสเตรเลียและเด็กจะต้องมีช่วงเวลาในชีวิตที่ใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี
โดยการสมัครขอสัญชาติ
คนที่ถือสัญชาติอื่นๆสามารถขอสัญชาติออสเตรเลียได้แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
เป็นผู้ที่ถือพีอาร์ของออสเตรเลีย
อายุ 16 ปีขึ้นไป
พำนักอยู่ในออสเตรเลียอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี โดยระหว่างนี้ออกนอกประเทศรวมกันไม่เกิน 12 เดือน และเป็นพีอาร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยใน 12 เดือนนี้ออกนอกประเทศรวมกันแล้วไม่เกิน 90 วัน
ต้องมีความประพฤติดี
มีความรู้พื้นฐานทางภาษาอังกฤษ
มีความรู้เพียงพอในเรื่องสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองออสเตรเลีย
โดยการอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่เกิดจนอายุครบ 10 ปี
ในกรณีเด็กที่เกิดที่ออสเตรเลียโดยพ่อหรือแม่ไม่ได้ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียหรือถือพีอาร์แต่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียมาตั้งแต่เกิดจบอายุครบ 10 ปีจะสามารถขอมีสัญชาติออสเตรเลียได้
เด็กที่เกิดในออสเตรเลียจากพ่อแม่ที่ไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียจะไม่ได้สัญชาติออสเตรเลียโดยกำเนิดหากแต่ถือตามสัญชาติพ่อแม่ เช่นเด็กที่เกิดที่ออสเตรเลียโดยพ่อแม่เป็นคนไทยที่ถือวีซ่าอื่นๆที่ไม่ใช่พีอาร์หรือไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลีย เด็กจะได้สัญชาติไทยตามพ่อแม่ แต่ถ้าเด็กเกิดและเติบโตที่ออสเตรเลีย มีการใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นหลักตลอดระยะเวลา 10 ปีแรกเด็กจะสามารถขอสัญชาติออสเตรเลียได้หลังจากอายุครบ 10 ปี
การที่คนต่างชาติจะขอสัญชาติออสเตรเลียนั้นจะได้มีคุณสมบัติเบื้องต้นคือพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาแล้วอย่างน้อย 4 ปีไม่ว่าจะถือวีซ่าอะไรก็ตาม ยกเว้นวีซ่า Bridging E และจะต้องถือพีอาร์มาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน ในระยะเวลา 4 ปีนี้จะต้องมีการเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลียไปไม่เกิน 12 เดือน และ ไม่เกิน 90 วันในรอบ 12 เดือนล่าสุดก่อนสมัครขอสัญชาติ
ขั้นตอนการสมัครมี 4 ขั้นตอนหลักดังนี้
ตรวจสอบว่าสามารถขอสัญชาติได้หรือยัง
รวบรวมเอกสารสำหรับประกอบใบสมัคร
ทำสำเนาเอกสารและรับรองเอกสารให้เรียบร้อย
ยื่นใบสมัคร
ตรวจสอบว่าสามารถขอสัญชาติได้หรือยัง
การตรวจสอบระยะเวลาว่าจะสามารถสมัครขอสัญชาติออสเตรเลียได้หรือยัง สามารถโทรศัพท์ไปตรวจสอบถามได้หรือคำนวณด้วยตัวเองได้จากที่นี่ ในการคำนวณว่ามีสิทธิขอสัญชาติได้หรือยังจะคำนวณจากวันที่สำคัญดังนี้
Permanent Residence Date – คือวันที่เราได้รับอนุมัติวีซ่าถาวร แต่ถ้าหากได้รับวีซ่าถาวรตอนอยู่นอกประเทศออสเตรเลียให้ระบุวันแรกที่เดินทางมาถึงออสเตรเลียด้วยวีซ่าถาวร
Intended Lodgement Date – วันที่ต้องการจะยื่นแบบฟอร์มขอสัญชาติ
Lawful Residence Date – ถ้าได้วีซ่าก่อนเดินทางมาถึงออสเตรเลียให้นับวันที่เดินทางมาถึง หากได้วีซ่าขณะที่อยู่ที่ออสเตรเลียแล้วให้นับเอาวันที่วีซ่าอนุมัติเป็นสำคัญ Lawful Residence หมายถึงการอยู่ในประเทศออสเตรเลียอย่างถูกกฎหมาย เช่น หากถูกจำคุก ระยะเวลาระหว่างจำคุกถือว่าเป็น Unlawful Residence และเมื่อพ้นโทษแล้วจึงจะกลับมาเป็นการอยู่อย่างถูกกฎหมายตามเดิม
Periods when you have been outside of Australia – ระยะเวลาที่คุณเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 4 ปีนี้ หากคุณถือ e-Visa ที่แทนวีซ่า RRV(Resident Return Visa) ที่หมดอายุไปแล้ว หรือว่าถือ Bridging Visa ไม่ว่าประเภทใดๆก็ตาม หรือในระหว่างยื่นขอวีซ่าถาวรคุณได้เดินทางออกจากออสเตรเลียไปด้วยวีซ่าชั่วคราวที่ถืออยู่ ณ ขณะนั้น ให้ติดต่อหมายเลข 131 880 ก่อนสมัครขอสัญชาติเพราะอาจต้องวิเคราะห์กรณีของคุณเสียก่อน
คู่มือการสอบ
เมื่อคำนวณแล้วว่ามีสิทธิ์สมัครขอสัญชาติออสเตรเลีย คุณควรสั่งหนังสือคู่มือการสอบขอสัญชาติออสเตรเลียมาอ่านเพื่อเตรียมตัวทำข้อสอบ สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องภาษา อาจดาวน์โหลดเอกสารที่เป็นภาษาไทยมาอ่านก่อนเพื่อให้เข้าใจในเบื้องต้น จากนั้นแนะนำให้อ่านเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้คุ้นเคยกับคำศัพท์ต่างๆในเวลาสอบ
ดาวน์โหลดเนื้อหาในส่วนที่ออกสอบ(ภาษาไทย)
http://www.citizenship.gov.au/learn/cit_test/test_resource/_pdf/thai-test.pdf?keepThis=true&TB_iframe=true&height=650&width=950&caption=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88(ไฟล์ PDF ขนาด 3.9MB)
คุณสามารถสั่งหนังสือและดีวีดีข้อมูลในการสอบสัญชาติมาฝึกฝนที่บ้าน หรือดูดีวีดีผ่านทาง YouTube หรือดาวน์โหลดหนังสือเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ(และภาษาอื่นๆ) รวมไปถึงการทดลองทำแบบทดสอบได้
http://www.citizenship.gov.au/learn/cit_test/test_resource/?keepThis=true&TB_iframe=true&height=650&width=950&caption=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88
รวบรวมเอกสารสำหรับประกอบใบสมัคร
เอกสารที่ต้องเตรียมคือ
ฟอร์มหมายเลข 1300t สำหรับกรณีทั่วไปซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
หากต้องการยื่นออนไลน์ในกรณีทั่วไปใช้ฟอร์มหมายเลข 1300t เช่นกัน ที่นี่ การกรอกฟอร์มออนไลน์ คุณสามารถบันทึกข้อมูลได้ตลอด หลังจากการบันทึกข้อมูลครั้งแรก ระบบจะให้หมายเลขประจำตัวมาให้เพื่อคุณจะสามารถใช้ในการเปิดแบบฟอร์มออนไลน์ของคุณภายหลัง หากยังไม่ได้ยื่นฟอร์ม
เอกสารประกอบแบบฟอร์มที่สำเนาและรับรองสำเนาโดยเจพีเรียบร้อยแล้ว และแปลโดย NAATI หากต้นฉบับเป็นภาษาอื่นนอกเหนือไปจากภาษาอังกฤษ
หลักฐานในการยืนยันตัวตน – เช่น ใบขับขี่ของออสเตรเลีย หรือพาสปอร์ต หรือเอกสารจาก UNHCR บัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารอื่นๆที่มีรูปถ่ายและลายมือชื่อ
หลักฐานยืนยันที่อยู่ – เช่นใบแจ้งหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าโทรศัพท์ หรือจดหมายจากทางธนาคาร หรือสัญญาเช่าบ้าน
หลักฐานการเกิดและการเปลี่ยนชื่อ – ได้แก่ใบเกิด หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนชื่อ เช่นใบทะเบียนสมรส หรือใบหย่า (หากต้องใช้)
หลักฐานการมีตัวตนในสังคม – รูปถ่ายขนาดเดียวกับรูปพาสปอร์ต หนึ่งรูป และแบบฟอร์มที่เซ็นต์โดยผู้ถือสัญชาติออสเตรเลียและอยู่ในรายชื่อผู้ที่สามารถเซ็นต์รับรองได้
หลักฐานในการเข้าประเทศออสเตรเลีย – พาสปอร์ตทั้งเก่าและใหม่ หรือเอกสารการเดินทางมายังประเทศออสเตรเลีย
หากต้องการสมัครให้ลูกอายุต่ำกว่า 16 ปีด้วย ต้องเตรียมเอกสารของลูกดังนี้
ใบเกิดหรือทะเบียนบ้านที่ระบุรายละเอียดของพ่อแม่ด้วย
พาสปอร์ตหรือเอกสารการเดินทาง
ใบเปลี่ยนชื่อ ถ้ามี
รูปถ่ายขนาดรูปติดพาสปอร์ต 1 ใบ และแบบฟอร์มที่เซ็นต์โดยผู้ถือสัญชาติออสเตรเลียและอยู่ในรายชื่อผู้ที่สามารถเซ็นต์รับรองได้
ยื่นใบสมัคร
เมื่อเอกสารพร้อมแล้วขั้นตอนต่อไปคือการยื่นใบสมัคร ในการยื่นใบสมัครนั้นทำได้ 3 ทางดังนี้
กรอกใบสมัครออนไลน์ สำหรับผู้สมัครที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ไม่ได้ขอส่วนลดหรือยกเว้นค่าสมัคร
ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์ ส่งไปยังสำนักงานซิติเซ่นใกล้บ้าน ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10
ยื่นใบสมัครที่สำนักงานซิติเซ่นใกล้บ้าน ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10 (ที่ซิดนีย์อยู่ที่ ชั้น 4 เลขที่ 26 Lee Street ติดกับสำนักงานอิมมิเกรชั่น)
การยื่นใบสมัครขณะที่ผู้สมัครอยู่นอกประเทศออสเตรเลีย จะต้องยื่นทางไปรษณีย์เท่านั้น พร้อมแนบเอกสารประกอบใบสมัครที่ได้รับการรับรองสำเนาอย่างถูกต้องแล้ว การชำระค่าสมัครจะต้องชำระด้วยบัตรเครดิต หรือเช็คธนาคารสั่งจ่ายเป็นเงินเหรียญออสเตรเลียเท่านั้น ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10
หลักฐานสำคัญที่ต้องแนบไปกับใบสมัครคือ
แบบฟอร์มหมายเลข 1300t ที่สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ หรือกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้ที่นี่
รูปถ่าย 2 ใบหน้าเต็มตามขนาดที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์ม สามารถถ่ายได้ตามไปรษณีย์หรือร้านถ่ายรูปทั่วไปโดยอย่าลืมแจ้งว่าเป็นการถ่ายรูปประกอบใบสมัครซิติเซ่น เพราะรูปถ่ายที่ใช้สำหรับการณ์ต่างๆจะมีขนาดและระยะใกล้แตกต่างกัน รูปถ่ายนี้จะต้องเซ็นต์รับรองข้างหลังภาพโดยบุคคลที่ถือสัญชาติออสเตรเลียที่รู้จักคุณมาเกินกว่า 1 ปีและมีอาชีพตามรายการในแบบฟอร์ม 1300t หน้า 9
หลักฐานประกอบใบสมัครตัวจริงพร้อมสำเนาที่รับรองโดยเจพีดังนี้
หลักฐานยืนยันตัวตน เช่น ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ต
หลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น ใบแจ้งยอดบัญชีจากธนาคาร ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟที่เป็นชื่อคุณ
หากสมัครในประเทศออสเตรเลียและหลักฐานเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษจะต้องแปลให้เรียบร้อยโดยหน่วยงาน NAATI เท่านั้น
ค่าสมัครจำนวน $260
หลังจากยื่นใบสมัครแล้วจะได้รับจดหมาย/อีเมล์แจ้งวันเวลาสอบ ซึ่งในวันสอบจะต้องนำหลักฐานที่ยื่นประกอบใบสมัครตัวจริงไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย หากสมัครออนไลน์จะต้องเตรียมฟอร์มหมายเลข 1195 Identity declaration ไปด้วยในวันสอบพร้อมทั้งรูปถ่ายดังกล่าวข้างต้น
การสอบ
เมื่อไปถึงสถานที่สอบ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลในแบบฟอร์มและหลักฐานประกอบเพื่อความถูกต้อง จากนั้นจะทำการถ่ายรูปคุณและถ่ายเอกสารพาสปอร์ตและใบขับขี่ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นคุณจึงจะได้เข้าไปทำบททดสอบ
ในการทดสอบจะมีอยู่ 3 วิธีคือ Standard Test, Assisted Test และ Course-based Test
Standard Test
เป็นการสอบบนคอมพิวเตอร์ซึ่งคุณจะมีเวลาในการทำข้อสอบ 20 ข้อ เป็นเวลา 45 นาที เจ้าหน้าที่จะอธิบายการทำข้อสอบคร่าว คำถามแต่ละข้อจะมีตัวเลือก 3 ตัวเลือกให้เลือกตอบ ระหว่างการตอบคำถามคุณสามารถกลับมาตอบหรือทบทวนคำถามก่อนหน้านั้นได้ตลอดเวลา ก่อนหมดเวลา 10 นาทีสุดท้ายระบบจะแจ้งเตือนให้คุณได้ทราบ อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือจะแสดงในหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้คุณได้ทราบตลอดเวลาว่าเหลือเวลาเท่าไหร่ เมื่อมั่นใจว่าตอบครบทุกข้อแล้วให้กดปุ่ม Submit เพื่อสิ้นสุดการทำข้อสอบ คอมพิวเตอร์จะรายงานผลการสอบให้คุณได้ทราบทันทีซึ่งถ้าทำข้อสอบได้ 75 เปอร์เซ็นต์(15ข้อ)ขึ้นไปถึงจะถือว่าสอบผ่าน
เจ้าหน้าที่อาจช่วยอ่านคำถามและตัวเลือกให้ หากคุณไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ ไม่รู้หนังสือหรือมีความบกพร่องทางร่างกายหรือปัญญาทำให้ไม่อาจทำข้อสอบด้วยตัวเองได้
Assisted Test
เป็นการสอบคล้ายๆ Standard Test ที่เป็นการทดสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ แต่มีเวลาในการทำข้อสอบนานถึง 90 นาที ในการจะสอบแบบ Assisted Test นี้ได้ คุณจะต้องผ่านการเรียนภาษาอังกฤษกับ AMEP (Adult Migrant English Program) เป็นเวลาอย่างน้อย 400 ชั่วโมงและมีจดหมายรับรองจากทาง AMEP ว่าระดับการอ่านภาษาอังกฤษของคุณนั้นอาจทำให้คุณทำการทดสอบไม่ได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ
การขอสัญชาติออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่ให้ประชาชนถือสัญชาติได้พร้อมกันสองสัญชาติได้ ดังนั้นจึงมีคนมากมายที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียต้องการที่จะเป็นพลเมืองออสเตรเลียอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการจะได้สัญชาติออสเตรเลียนั้นมีอยู่ 3 วิธี
โดยกำเนิด
โดยกำเนิดจากการมีพ่อหรือแม่ถือสัญชาติออสเตรเลียหรือถือพีอาร์ ณ วันที่ถือกำเนิด ถ้าเด็กเกิดที่ต่างประเทศก็สามารถขอสัญชาติได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย Australian Citizenship Act, 2007 นั่นก็คือต้องเกิดจากพ่อหรือแม่ที่ถือสัญชาติออสเตรเลียและเด็กจะต้องมีช่วงเวลาในชีวิตที่ใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี
โดยการสมัครขอสัญชาติ
คนที่ถือสัญชาติอื่นๆสามารถขอสัญชาติออสเตรเลียได้แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
เป็นผู้ที่ถือพีอาร์ของออสเตรเลีย
อายุ 16 ปีขึ้นไป
พำนักอยู่ในออสเตรเลียอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี โดยระหว่างนี้ออกนอกประเทศรวมกันไม่เกิน 12 เดือน และเป็นพีอาร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยใน 12 เดือนนี้ออกนอกประเทศรวมกันแล้วไม่เกิน 90 วัน
ต้องมีความประพฤติดี
มีความรู้พื้นฐานทางภาษาอังกฤษ
มีความรู้เพียงพอในเรื่องสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองออสเตรเลีย
โดยการอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่เกิดจนอายุครบ 10 ปี
ในกรณีเด็กที่เกิดที่ออสเตรเลียโดยพ่อหรือแม่ไม่ได้ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียหรือถือพีอาร์แต่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียมาตั้งแต่เกิดจบอายุครบ 10 ปีจะสามารถขอมีสัญชาติออสเตรเลียได้
เด็กที่เกิดในออสเตรเลียจากพ่อแม่ที่ไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียจะไม่ได้สัญชาติออสเตรเลียโดยกำเนิดหากแต่ถือตามสัญชาติพ่อแม่ เช่นเด็กที่เกิดที่ออสเตรเลียโดยพ่อแม่เป็นคนไทยที่ถือวีซ่าอื่นๆที่ไม่ใช่พีอาร์หรือไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลีย เด็กจะได้สัญชาติไทยตามพ่อแม่ แต่ถ้าเด็กเกิดและเติบโตที่ออสเตรเลีย มีการใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นหลักตลอดระยะเวลา 10 ปีแรกเด็กจะสามารถขอสัญชาติออสเตรเลียได้หลังจากอายุครบ 10 ปี
การที่คนต่างชาติจะขอสัญชาติออสเตรเลียนั้นจะได้มีคุณสมบัติเบื้องต้นคือพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาแล้วอย่างน้อย 4 ปีไม่ว่าจะถือวีซ่าอะไรก็ตาม ยกเว้นวีซ่า Bridging E และจะต้องถือพีอาร์มาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน ในระยะเวลา 4 ปีนี้จะต้องมีการเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลียไปไม่เกิน 12 เดือน และ ไม่เกิน 90 วันในรอบ 12 เดือนล่าสุดก่อนสมัครขอสัญชาติ
ขั้นตอนการสมัครมี 4 ขั้นตอนหลักดังนี้
ตรวจสอบว่าสามารถขอสัญชาติได้หรือยัง
รวบรวมเอกสารสำหรับประกอบใบสมัคร
ทำสำเนาเอกสารและรับรองเอกสารให้เรียบร้อย
ยื่นใบสมัคร
ตรวจสอบว่าสามารถขอสัญชาติได้หรือยัง
การตรวจสอบระยะเวลาว่าจะสามารถสมัครขอสัญชาติออสเตรเลียได้หรือยัง สามารถโทรศัพท์ไปตรวจสอบถามได้หรือคำนวณด้วยตัวเองได้จากที่นี่ ในการคำนวณว่ามีสิทธิขอสัญชาติได้หรือยังจะคำนวณจากวันที่สำคัญดังนี้
Permanent Residence Date – คือวันที่เราได้รับอนุมัติวีซ่าถาวร แต่ถ้าหากได้รับวีซ่าถาวรตอนอยู่นอกประเทศออสเตรเลียให้ระบุวันแรกที่เดินทางมาถึงออสเตรเลียด้วยวีซ่าถาวร
Intended Lodgement Date – วันที่ต้องการจะยื่นแบบฟอร์มขอสัญชาติ
Lawful Residence Date – ถ้าได้วีซ่าก่อนเดินทางมาถึงออสเตรเลียให้นับวันที่เดินทางมาถึง หากได้วีซ่าขณะที่อยู่ที่ออสเตรเลียแล้วให้นับเอาวันที่วีซ่าอนุมัติเป็นสำคัญ Lawful Residence หมายถึงการอยู่ในประเทศออสเตรเลียอย่างถูกกฎหมาย เช่น หากถูกจำคุก ระยะเวลาระหว่างจำคุกถือว่าเป็น Unlawful Residence และเมื่อพ้นโทษแล้วจึงจะกลับมาเป็นการอยู่อย่างถูกกฎหมายตามเดิม
Periods when you have been outside of Australia – ระยะเวลาที่คุณเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 4 ปีนี้ หากคุณถือ e-Visa ที่แทนวีซ่า RRV(Resident Return Visa) ที่หมดอายุไปแล้ว หรือว่าถือ Bridging Visa ไม่ว่าประเภทใดๆก็ตาม หรือในระหว่างยื่นขอวีซ่าถาวรคุณได้เดินทางออกจากออสเตรเลียไปด้วยวีซ่าชั่วคราวที่ถืออยู่ ณ ขณะนั้น ให้ติดต่อหมายเลข 131 880 ก่อนสมัครขอสัญชาติเพราะอาจต้องวิเคราะห์กรณีของคุณเสียก่อน
คู่มือการสอบ
เมื่อคำนวณแล้วว่ามีสิทธิ์สมัครขอสัญชาติออสเตรเลีย คุณควรสั่งหนังสือคู่มือการสอบขอสัญชาติออสเตรเลียมาอ่านเพื่อเตรียมตัวทำข้อสอบ สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องภาษา อาจดาวน์โหลดเอกสารที่เป็นภาษาไทยมาอ่านก่อนเพื่อให้เข้าใจในเบื้องต้น จากนั้นแนะนำให้อ่านเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้คุ้นเคยกับคำศัพท์ต่างๆในเวลาสอบ
ดาวน์โหลดเนื้อหาในส่วนที่ออกสอบ(ภาษาไทย) http://www.citizenship.gov.au/learn/cit_test/test_resource/_pdf/thai-test.pdf?keepThis=true&TB_iframe=true&height=650&width=950&caption=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88(ไฟล์ PDF ขนาด 3.9MB)
คุณสามารถสั่งหนังสือและดีวีดีข้อมูลในการสอบสัญชาติมาฝึกฝนที่บ้าน หรือดูดีวีดีผ่านทาง YouTube หรือดาวน์โหลดหนังสือเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ(และภาษาอื่นๆ) รวมไปถึงการทดลองทำแบบทดสอบได้ http://www.citizenship.gov.au/learn/cit_test/test_resource/?keepThis=true&TB_iframe=true&height=650&width=950&caption=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88
รวบรวมเอกสารสำหรับประกอบใบสมัคร
เอกสารที่ต้องเตรียมคือ
ฟอร์มหมายเลข 1300t สำหรับกรณีทั่วไปซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
หากต้องการยื่นออนไลน์ในกรณีทั่วไปใช้ฟอร์มหมายเลข 1300t เช่นกัน ที่นี่ การกรอกฟอร์มออนไลน์ คุณสามารถบันทึกข้อมูลได้ตลอด หลังจากการบันทึกข้อมูลครั้งแรก ระบบจะให้หมายเลขประจำตัวมาให้เพื่อคุณจะสามารถใช้ในการเปิดแบบฟอร์มออนไลน์ของคุณภายหลัง หากยังไม่ได้ยื่นฟอร์ม
เอกสารประกอบแบบฟอร์มที่สำเนาและรับรองสำเนาโดยเจพีเรียบร้อยแล้ว และแปลโดย NAATI หากต้นฉบับเป็นภาษาอื่นนอกเหนือไปจากภาษาอังกฤษ
หลักฐานในการยืนยันตัวตน – เช่น ใบขับขี่ของออสเตรเลีย หรือพาสปอร์ต หรือเอกสารจาก UNHCR บัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารอื่นๆที่มีรูปถ่ายและลายมือชื่อ
หลักฐานยืนยันที่อยู่ – เช่นใบแจ้งหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าโทรศัพท์ หรือจดหมายจากทางธนาคาร หรือสัญญาเช่าบ้าน
หลักฐานการเกิดและการเปลี่ยนชื่อ – ได้แก่ใบเกิด หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนชื่อ เช่นใบทะเบียนสมรส หรือใบหย่า (หากต้องใช้)
หลักฐานการมีตัวตนในสังคม – รูปถ่ายขนาดเดียวกับรูปพาสปอร์ต หนึ่งรูป และแบบฟอร์มที่เซ็นต์โดยผู้ถือสัญชาติออสเตรเลียและอยู่ในรายชื่อผู้ที่สามารถเซ็นต์รับรองได้
หลักฐานในการเข้าประเทศออสเตรเลีย – พาสปอร์ตทั้งเก่าและใหม่ หรือเอกสารการเดินทางมายังประเทศออสเตรเลีย
หากต้องการสมัครให้ลูกอายุต่ำกว่า 16 ปีด้วย ต้องเตรียมเอกสารของลูกดังนี้
ใบเกิดหรือทะเบียนบ้านที่ระบุรายละเอียดของพ่อแม่ด้วย
พาสปอร์ตหรือเอกสารการเดินทาง
ใบเปลี่ยนชื่อ ถ้ามี
รูปถ่ายขนาดรูปติดพาสปอร์ต 1 ใบ และแบบฟอร์มที่เซ็นต์โดยผู้ถือสัญชาติออสเตรเลียและอยู่ในรายชื่อผู้ที่สามารถเซ็นต์รับรองได้
ยื่นใบสมัคร
เมื่อเอกสารพร้อมแล้วขั้นตอนต่อไปคือการยื่นใบสมัคร ในการยื่นใบสมัครนั้นทำได้ 3 ทางดังนี้
กรอกใบสมัครออนไลน์ สำหรับผู้สมัครที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ไม่ได้ขอส่วนลดหรือยกเว้นค่าสมัคร
ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์ ส่งไปยังสำนักงานซิติเซ่นใกล้บ้าน ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10
ยื่นใบสมัครที่สำนักงานซิติเซ่นใกล้บ้าน ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10 (ที่ซิดนีย์อยู่ที่ ชั้น 4 เลขที่ 26 Lee Street ติดกับสำนักงานอิมมิเกรชั่น)
การยื่นใบสมัครขณะที่ผู้สมัครอยู่นอกประเทศออสเตรเลีย จะต้องยื่นทางไปรษณีย์เท่านั้น พร้อมแนบเอกสารประกอบใบสมัครที่ได้รับการรับรองสำเนาอย่างถูกต้องแล้ว การชำระค่าสมัครจะต้องชำระด้วยบัตรเครดิต หรือเช็คธนาคารสั่งจ่ายเป็นเงินเหรียญออสเตรเลียเท่านั้น ตรวจสอบที่อยู่ได้ที่ฟอร์ม 1300t หน้า 10
หลักฐานสำคัญที่ต้องแนบไปกับใบสมัครคือ
แบบฟอร์มหมายเลข 1300t ที่สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ หรือกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้ที่นี่
รูปถ่าย 2 ใบหน้าเต็มตามขนาดที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์ม สามารถถ่ายได้ตามไปรษณีย์หรือร้านถ่ายรูปทั่วไปโดยอย่าลืมแจ้งว่าเป็นการถ่ายรูปประกอบใบสมัครซิติเซ่น เพราะรูปถ่ายที่ใช้สำหรับการณ์ต่างๆจะมีขนาดและระยะใกล้แตกต่างกัน รูปถ่ายนี้จะต้องเซ็นต์รับรองข้างหลังภาพโดยบุคคลที่ถือสัญชาติออสเตรเลียที่รู้จักคุณมาเกินกว่า 1 ปีและมีอาชีพตามรายการในแบบฟอร์ม 1300t หน้า 9
หลักฐานประกอบใบสมัครตัวจริงพร้อมสำเนาที่รับรองโดยเจพีดังนี้
หลักฐานยืนยันตัวตน เช่น ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ต
หลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น ใบแจ้งยอดบัญชีจากธนาคาร ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟที่เป็นชื่อคุณ
หากสมัครในประเทศออสเตรเลียและหลักฐานเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษจะต้องแปลให้เรียบร้อยโดยหน่วยงาน NAATI เท่านั้น
ค่าสมัครจำนวน $260
หลังจากยื่นใบสมัครแล้วจะได้รับจดหมาย/อีเมล์แจ้งวันเวลาสอบ ซึ่งในวันสอบจะต้องนำหลักฐานที่ยื่นประกอบใบสมัครตัวจริงไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย หากสมัครออนไลน์จะต้องเตรียมฟอร์มหมายเลข 1195 Identity declaration ไปด้วยในวันสอบพร้อมทั้งรูปถ่ายดังกล่าวข้างต้น
การสอบ
เมื่อไปถึงสถานที่สอบ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลในแบบฟอร์มและหลักฐานประกอบเพื่อความถูกต้อง จากนั้นจะทำการถ่ายรูปคุณและถ่ายเอกสารพาสปอร์ตและใบขับขี่ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นคุณจึงจะได้เข้าไปทำบททดสอบ
ในการทดสอบจะมีอยู่ 3 วิธีคือ Standard Test, Assisted Test และ Course-based Test
Standard Test
เป็นการสอบบนคอมพิวเตอร์ซึ่งคุณจะมีเวลาในการทำข้อสอบ 20 ข้อ เป็นเวลา 45 นาที เจ้าหน้าที่จะอธิบายการทำข้อสอบคร่าว คำถามแต่ละข้อจะมีตัวเลือก 3 ตัวเลือกให้เลือกตอบ ระหว่างการตอบคำถามคุณสามารถกลับมาตอบหรือทบทวนคำถามก่อนหน้านั้นได้ตลอดเวลา ก่อนหมดเวลา 10 นาทีสุดท้ายระบบจะแจ้งเตือนให้คุณได้ทราบ อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือจะแสดงในหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้คุณได้ทราบตลอดเวลาว่าเหลือเวลาเท่าไหร่ เมื่อมั่นใจว่าตอบครบทุกข้อแล้วให้กดปุ่ม Submit เพื่อสิ้นสุดการทำข้อสอบ คอมพิวเตอร์จะรายงานผลการสอบให้คุณได้ทราบทันทีซึ่งถ้าทำข้อสอบได้ 75 เปอร์เซ็นต์(15ข้อ)ขึ้นไปถึงจะถือว่าสอบผ่าน
เจ้าหน้าที่อาจช่วยอ่านคำถามและตัวเลือกให้ หากคุณไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ ไม่รู้หนังสือหรือมีความบกพร่องทางร่างกายหรือปัญญาทำให้ไม่อาจทำข้อสอบด้วยตัวเองได้
Assisted Test
เป็นการสอบคล้ายๆ Standard Test ที่เป็นการทดสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ แต่มีเวลาในการทำข้อสอบนานถึง 90 นาที ในการจะสอบแบบ Assisted Test นี้ได้ คุณจะต้องผ่านการเรียนภาษาอังกฤษกับ AMEP (Adult Migrant English Program) เป็นเวลาอย่างน้อย 400 ชั่วโมงและมีจดหมายรับรองจากทาง AMEP ว่าระดับการอ่านภาษาอังกฤษของคุณนั้นอาจทำให้คุณทำการทดสอบไม่ได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ