...ล่าสุดรัฐบาลพม่าตัดสินใจใช้ ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ Production Sharing Contracts (PSCs) ในการให้บริษัทลงทุนจากต่างประเทศสำรวจหาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเบงกอล...
ตามความตกลง PSCs 4 ฉบับ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลพม่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุนกับหุ้นส่วนต่างประเทศ และร่วมเป็นเจ้าของน้ำมันดิบและก๊าซ ธรรมชาติที่ผลิตได้ รวมทั้งร่วมแบกรับความเสี่ยงในการลงทุน
ทันทีที่มีการเซ็นความตกลงทั้ง 4 ฉบับ รัฐบาลพม่าได้รับเงินโบนัสเป็นค่าเซ็นสัญญา (Signature Bonus) รวมเป็นเงิน 82.4 ล้านดอลลารน์ กับอีก 3.7 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าข้อมูลต่างๆ หรือ Data Fee จากบริษัทคู่สัญญา ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในทางปฏิบัติในการเซ็นความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจน้ำมันดิบและก๊าซ...
... การเซ็นสัญญาแบบร่วมผลิตเป็นที่นิยมใช้กันในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย และถึงแม้ว่าทั้งสัญญาแบบ PSCs และสัญญาแบบให้สัมปทานแก่ต่างชาติ จะนำไปสู่การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเช่นเดียวกันก็ตาม แต่สัญญาแบบร่วมผลิตจะทำให้เจ้าของประเทศได้เป็นเจ้าของทรัพยากรที่ค้นพบ และได้ส่วนแบ่งเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งยังได้ทั้งค่าภาคหลวง กับรายได้จากการจัดเก็บภาษีอีกด้วย ต่างไปจากระบบสัมปทานที่บริษัทผู้ลงทุนเป็นเจ้าของปิโตรเลียม ส่วนเจ้าของประเทศจะได้รับประโยชน์เฉพาะค่าภาคหลวงกับภาษี แต่ข้อดีก็คือ ไม่ต้องร่วมแบกรับความเสี่ยงใดๆ ในการลงทุน...
ดร.เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เขียนเปรียบเทียบระบบสัมปทานปิโตรเลียมกับระบบแบ่งปันผลผลิต เอาไว้อย่างย่นย่อว่า
ระบบสัมปทานเป็นรูปแบบที่ให้สิทธิเอกชนเข้ามาสำรวจและผลิตในแผ่นดินและผืนน้ำของเรา และเมื่อพบแล้วเอกชนผู้ขุดเจาะก็จะมีสิทธิในผลผลิตปิโตรเลียมทั้งหมดที่ผลิตได้ ซึ่งหากประเทศเราจะนำมาใช้ในประเทศ เราก็ต้องไปซื้อมาในราคาตลาดโลก หรืออ้างอิงตลาดโลกตามที่ตกลงกัน ส่วนรัฐก็จะได้ส่วนแบ่งค่าภาคหลวงและภาษีเป็นการตอบแทน
ส่วนระบบแบ่งปันผลผลิตนั้น เมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมได้ก็จะแบ่งผลผลิตดังกล่าวตามสัดส่วนที่ตกลงกัน ผลผลิตส่วนหนึ่งก็จะเป็นของประเทศ ซึ่งอาจจะนำไปขายในราคาใดก็ได้ แล้วแต่การบริหารจัดการของประเทศนั้น ส่วนเอกชนก็นำส่วนแบ่งที่ได้ไปขายให้กับใครก็ได้แล้วแต่จะตัดสินใจเช่นกัน...
อ่านฉบับเต็มได้ที่
http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000035889
ปอลอลิง . พม่ากับไทย ณ. ปัจจุบัน ก็เกือบจะเหมือนกัน แต่ดูแล้วพม่าเห็นแก่ประโยนช์ชาติและประชาชน มากกว่าเรา (มั้ง)
ปอลอลิง 2 . ตัวอย่างรอบๆประเทศเราที่ผลิตปิโตรเลียม ก็มีให้เห็นแล้วว่าเขาเลือกใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งพอจะสรุปและเชื่อได้ว่า
มันย่อมดีกว่าระบบสัมปทาน อย่างแน่นอน
ปอลอลิง 3 . แล้วเรายังมัวรออะไรอยู่อีกละครับ ไม่ต้องศึกษาแล้วครับ ฟันทอมไปเลย ครับเจ้านายยยยยยยยยยย
รู้ยัง!พม่าล้ำหน้าไทย เซ็นต่างชาติ ร่วมแบ่งปันผลผลิตปิโตรเลียม ... แล้วนะจะบอกให้
...ล่าสุดรัฐบาลพม่าตัดสินใจใช้ ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ Production Sharing Contracts (PSCs) ในการให้บริษัทลงทุนจากต่างประเทศสำรวจหาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเบงกอล...
ตามความตกลง PSCs 4 ฉบับ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลพม่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุนกับหุ้นส่วนต่างประเทศ และร่วมเป็นเจ้าของน้ำมันดิบและก๊าซ ธรรมชาติที่ผลิตได้ รวมทั้งร่วมแบกรับความเสี่ยงในการลงทุน ทันทีที่มีการเซ็นความตกลงทั้ง 4 ฉบับ รัฐบาลพม่าได้รับเงินโบนัสเป็นค่าเซ็นสัญญา (Signature Bonus) รวมเป็นเงิน 82.4 ล้านดอลลารน์ กับอีก 3.7 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าข้อมูลต่างๆ หรือ Data Fee จากบริษัทคู่สัญญา ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในทางปฏิบัติในการเซ็นความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจน้ำมันดิบและก๊าซ...
... การเซ็นสัญญาแบบร่วมผลิตเป็นที่นิยมใช้กันในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย และถึงแม้ว่าทั้งสัญญาแบบ PSCs และสัญญาแบบให้สัมปทานแก่ต่างชาติ จะนำไปสู่การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเช่นเดียวกันก็ตาม แต่สัญญาแบบร่วมผลิตจะทำให้เจ้าของประเทศได้เป็นเจ้าของทรัพยากรที่ค้นพบ และได้ส่วนแบ่งเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งยังได้ทั้งค่าภาคหลวง กับรายได้จากการจัดเก็บภาษีอีกด้วย ต่างไปจากระบบสัมปทานที่บริษัทผู้ลงทุนเป็นเจ้าของปิโตรเลียม ส่วนเจ้าของประเทศจะได้รับประโยชน์เฉพาะค่าภาคหลวงกับภาษี แต่ข้อดีก็คือ ไม่ต้องร่วมแบกรับความเสี่ยงใดๆ ในการลงทุน...
ดร.เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เขียนเปรียบเทียบระบบสัมปทานปิโตรเลียมกับระบบแบ่งปันผลผลิต เอาไว้อย่างย่นย่อว่า ระบบสัมปทานเป็นรูปแบบที่ให้สิทธิเอกชนเข้ามาสำรวจและผลิตในแผ่นดินและผืนน้ำของเรา และเมื่อพบแล้วเอกชนผู้ขุดเจาะก็จะมีสิทธิในผลผลิตปิโตรเลียมทั้งหมดที่ผลิตได้ ซึ่งหากประเทศเราจะนำมาใช้ในประเทศ เราก็ต้องไปซื้อมาในราคาตลาดโลก หรืออ้างอิงตลาดโลกตามที่ตกลงกัน ส่วนรัฐก็จะได้ส่วนแบ่งค่าภาคหลวงและภาษีเป็นการตอบแทน
ส่วนระบบแบ่งปันผลผลิตนั้น เมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมได้ก็จะแบ่งผลผลิตดังกล่าวตามสัดส่วนที่ตกลงกัน ผลผลิตส่วนหนึ่งก็จะเป็นของประเทศ ซึ่งอาจจะนำไปขายในราคาใดก็ได้ แล้วแต่การบริหารจัดการของประเทศนั้น ส่วนเอกชนก็นำส่วนแบ่งที่ได้ไปขายให้กับใครก็ได้แล้วแต่จะตัดสินใจเช่นกัน...
อ่านฉบับเต็มได้ที่ http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000035889
ปอลอลิง . พม่ากับไทย ณ. ปัจจุบัน ก็เกือบจะเหมือนกัน แต่ดูแล้วพม่าเห็นแก่ประโยนช์ชาติและประชาชน มากกว่าเรา (มั้ง)
ปอลอลิง 2 . ตัวอย่างรอบๆประเทศเราที่ผลิตปิโตรเลียม ก็มีให้เห็นแล้วว่าเขาเลือกใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งพอจะสรุปและเชื่อได้ว่า
มันย่อมดีกว่าระบบสัมปทาน อย่างแน่นอน
ปอลอลิง 3 . แล้วเรายังมัวรออะไรอยู่อีกละครับ ไม่ต้องศึกษาแล้วครับ ฟันทอมไปเลย ครับเจ้านายยยยยยยยยยย