สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิป ทุกๆคน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ทำให้ผมเสียใจ เสียเพื่อน เสียมิตรภาพดีๆ
โดยที่ผมไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงแล้วครับ แล้วปัญหาที่เกิด ก็เกิดจากแฟนของเพื่อนผม และตัวผมเองด้วย
เริ่มเลยละกันครับ ก็เนื่องจากช่วงนี้ งานแต่งงานเยอะซะเหลือเกินครับ ฤกษ์งาม ยามดี เพื่อนร่วมงานผมก็พากันแต่ง
งานกันไป ประมาณ 3-5 คู่ และ 1 ในนั้น ก็คู่ของเพื่อนผมเองเนี่ยแหละครับ ด้วยความที่ผมกับเพื่อนคนนี้สนิทกันมาก
จะไม่ไปได้ยังไงล่ะ ไหนจะเรียนมารุ่นเดียวกันอีก เหนื่อย และลำบากมาด้วยกันก็เยอะ ผมก็แต่งตัวซะหล่อ เพื่อไปร่วม
งานแต่งเพื่อนคนนี้ แบบที่ว่า สาวๆเหลียวมองกันหมด แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ครับ ปัญหาเริ่มต้นจากที่ว่า
ก่อนจะออกจากบ้าน ผมได้หยิบเงินจำนวน 400 บาท จากกระเป๋าตังค์ของผม ใส่เข้าไปในซอง ที่หน้าซองได้เขียน
เรียนเชิญผม จากนั้นก็ไปร่วมงานตามปกติ แต่หลังจากนั้น 2 วัน ระหว่างผมขับรถผ่านหน้าบ้านเพื่อนคนนี้ ก็ได้มีการ
กวักมือเรียกผมให้ไปหาในบ้าน ซึ่งผมก็จอดรถ และได้แวะเข้าไปถาม ว่าไงเพื่อน มีอะไร
เพื่อน : จะไปไหนน่ะ
ผม : ออกไปหาอะไรกินอ่ะ เอาอะไรมั้ย
เพื่อน : อ๋อ ไม่ล่ะ พอดีช่วยเมย์ (นามสมมุติ) นับซองอยู่
ผม : อ่า โอเคๆ งั้นไปก่อนนะ
เพื่อน : อืม ขับรถดีๆล่ะ
เหมือนจะผ่านไปด้วยดีใช่มั้ยล่ะครับ แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกมา เพื่อไปที่รถ แฟนเพื่อนผมคนนี้ก็เดินออกมา
เมย์ : อ้าว จะไปแล้วหรอ มากินน้ำก่อนสิ
ผม : อ่า ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก
เมย์ : มาเถอะน่า ไม่คิดเงินหรอกนะ น้ำฟรี จะได้เหลือตังค์ไว้ใส่ซองให้เยอะกว่านี้ไง
ผม : ..... (อึ้งๆ งงๆ )
เมย์ : เป็นเพื่อนกันน่าจะใส่ให้เยอะกว่านี้หน่อยนะ
เพื่อน : เมย์ นั่นเพื่อนเรานะ
เมย์ : ก็เพราะว่าเพื่อนไง เพื่อนเธอ ก็เหมือนเพื่อนฉัน
ผม : ขอตัวนะ
ผมก็ยิ้มเจื่อนๆ แล้วเดินออกมา เพื่อนผมก็พูดประมาณว่า "ขอโทษนะ" แบบเบาๆ ผมก็ยิ้มให้ เพื่อให้เพื่อนรู้ว่าไม่เป็นไร
แล้วผมก็ออกไปหาอะไรกิน ซึ่งบอกตามตรง ไม่รู้จะกินอะไรเลยครับ เครียดมาก คือบอกตรงๆ ผมไม่รู้จริงๆนะ ว่าใส่น้อย
ไปหรือเปล่า แต่ผมก็มนุษย์เงินเดือนคนนึงไงครับ งานแต้งก็ใกล้ๆสิ้นเดือน ไหนจะหลายงานอีก ผมก็ต้องแบ่งเงินใส่ทุกงาน
คือผมอยากจะพูดให้แฟนเพื่อนผมเข้าใจมาก แต่ผมเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า ไม่อยากให้มีปัญหามากกว่านี้ แต่แล้วก็ยังไม่จบ
ระหว่างผมขับรถกลับบ้าน หลังกินข้าวเสร็จ เพื่อนอีกคนโทรมา บอกให้เข้าไปหาที่บ้านอั๋น (แฟนเมย์ นามสมมุติ) หนักใจ
เลยครับทีนี้ จะเข้าไปดีหรือเปล่าวะ แต่เอาเถอะ เข้าไปสักหน่อย คงไม่มีอะไรหรอก พอไปถึง ก็เห็นอั๋นนั่งคุยอยู่กับนิค
(คนที่โทรหาผม) ผมก็เลยเดินเข้าไป และชวนคุย
ผม : ว่าไง โทรให้เข้ามาเนี่ย
อั๋น : มาๆ กินเหล้าด้วยกัน
ผม : อ่ะ ได้ๆ (เดินไปหยิบเก้าอี้มานั่ง)
นิค : จะดีหรอวะอั๋น ค่าเหล้าหารนะ เงินใส่ซองยังใส่แค่ 400 จะมีเงินช่วยหารหรอวะ
ผม : ..... (ช็อคอีกรอบ)
อั๋น : เห้ย ทำไมพูดแบบนี้วะ
นิค : ก็ถ้าเป็นกรุ กรุใส่เยอะกว่านี้อีก งานเพื่อนทั้งที
ผม : ...... (นั่งนิ่งๆ ไม่พูดอะไร)
อั๋น : ไปด่ามัน มรืงใส่ซองยังเถอะ
นิค : เออ ยัง แต่เดี๋ยวกรุใส่แน่นอน (พอดีนิคติดราชการ ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของอั๋นครับ)
ผม : กรุกลับก่อนนะอั๋น (พร้อมกับเดินออกมา)
นิค : เอาเงินไว้เติมน้ำมันรถมั้ยวะ
ผม : เออ กรุเอา ขอเต็มถังนะ มรืงมีมั้ย (ผมเริ่มฉุนครับ)
อั๋น : ใจเย็นๆมรืง มรืงกลับไปก่อนเถอะ นิคมันเมาแล้ว ช่างมันเถอะ (เดินมาบอกผม)
นิค : ไม่มีเว้ย กรุยังไม่ได้กดตังค์
ผม : มีให้กดเปล่าเหอะ (แล้วผมก็เดินไปที่รถ)
นิค : ......(ไม่พูดอะไรครับ ผมก็ไม่ได้หันกลับไปมองว่ามันจะทำอะไร)
แล้วผมก็กลับบ้านมาพร้อมกับความเครียด ว่าการที่ผมใส่ซองแค่นั้น ผิดมากขนาดนี้เลยหรอ การที่ผมไปร่วมงาน
ไปร่วมแสดงความยินดี แค่นั้นมันคงไม่พอใช่มั้ย ซึ่งหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมกับนิคก็ไม่คุยกันอีกเลย
ส่วนผมกับอั๋นก็มีคุยๆกันบ้าง เพราะทำงานด้วยกัน แต่ไม่คุยเล่นกันเหมือนก่อนแล้ว คือผมรู้สึกไม่สนิทใจแล้วอ่ะครับ
แต่จนแล้วจนรอด แฟนอั๋นที่ชื่อเมย์เนี่ย ก็ได้สร้างเรื่องให้ผมอีกรอบ เรื่องเกิดจากที่ว่า วันนั้นผมต้องจัดการงานเอง
คนเดียว ตามคำสั่งของ รองหัวหน้าแผนก ที่โยนงานมาให้ผมทำคนเดียวทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอะไรสำหรับผม
หรอกครับ แต่ตอนนั้นผมเครียดหลายๆเรื่อง บวกกับโดนจี้ว่าจะเอาเดี๋ยวนี้ เอาอย่างนั้น อย่างนี้ ผมก็เลยเอาด่าลงใน
Facebook แหละครับ แล้วเมย์เนี่ย ก็เอาไปรุ่นพี่ที่ทำงานผม ว่าผมไปว่ารองหัวแผนกคนนี้อย่างนี้นะ (เมย์ทำงานอยู่
แผนกเกี่ยวกับการเงินของที่ทำงานผมครับ) รุ่นพี่คนนั้นก็มาหาผมที่แผนก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่คนเดียว
รุ่นพี่ : เออ น้อง มีคนเอาข้อความที่น้องโพสต์ลงให้พี่ดู ที่ด่า รองหัวหน้าแผนกของน้องอ่ะ
ผม : ครับ ทำไมหรอครับพี่
รุ่นพี่ : ลบเถอะ พี่ว่าไม่เหมาะสมนะ
ผม : ครับๆ เดี๋ยวลบให้นะครับ แล้วใครบอกพี่ครับ (อยากรู้ว่าใครขายผมครับ)
รุ่นพี่ : เมย์อ่ะ แฟนอั๋น
ผม : อ๋อ ครับๆ ขอบคุณครับพี่ ผมจะลบให้เดี๋ยวนี้แหละครับ
จากนั้นผมก็ลบออกไป แล้วก็คิดว่า คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วก็เกิดครับ เพราะเมย์เอาไปบอก รองหัวหน้าผมเรียบร้อย
ถ้าถามว่า ผมรู้ได้ยังไง คือเรื่องเป็นแบบนี้ครับ ตอนที่เมย์กำลังเอาเรื่องของผมไปฟ้องเนี่ย รุ่นน้องอีกแผนกที่สนิทกับผม
ไปได้ยินพอดี ก็เลยมาบอกผมครับ
รุ่นน้อง : พี่ๆ พี่ไปโพสต์ด่า รองหัวหน้าพี่ ใน FB หรอ
ผม : รู้ได้ไงวะ
รุ่นน้อง : ก็พี่เมย์ แฟนพี่อั๋น คุยกับรองหัวหน้าพี่ อยู่อ่ะ
ผม : งานเข้ากรุแล้วไง
รุ่นน้อง : พี่จะทำยังไงต่ออ่ะ
ผม : ไม่ทำยังไงอ่ะ ถ้ารองหัวหน้าไม่พูด พี่ก็ไม่พูด
รุ่นน้อง : ครับๆ สู้ๆนะพี่
ผม : อืมๆ ขอบใจมาก
และจากนั้น ผมก็ได้ประจัญหน้ากับรองหัวหน้าของผม แต่ก็ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ทำงานกันตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่รองหัวหน้าผมเนี่ย เอาไปกับคนอื่นครับ ไปพูดกับคนที่แผนกอื่น ประมาณว่า ผมเนี่ยไปด่ามันใน FB เป็นนักเลงคีย์บอร์ด
พ่อแม่ไม่สั่งสอน คือถ้าด่าผมว่าเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด ผมก็ไม่อะไรหรอกครับ แต่มาบอกพ่อแม่ไม่สั่งสอน นี่ผมทนไม่ได้จริงๆ
คืนวันนั้น ผมรู้มาว่ารองหัวหน้าของผมเนี่ย จะเที่ยวที่ร้านๆนึง ผมก็ตามไปเคลียร์เลยครับ พอไปถึงก็เห็นนั่งอยู่กับเด็กแหละครับ
ผม : สวัสดีครับ (พร้อมกับเอายกมือไหว้แบบกวนๆ)
รองหัวหน้า : อ้าว มาได้ไง
ผม : ขับรถมาครับ
รองหัวหน้า : มีอะไรหรือเปล่า จะเอางานมาให้ดูหรอ
ผม : เปล่าครับ ^^
รองหัวหน้า : แล้วมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า
ผม : มีสิครับ ไม่งั้นจะมายืนตรงนี้หรอครับ
รองหัวหน้า : แล้วคุณมีอะไร
ผม : ที่รองหัวหน้าบอกว่าผมเป็นนักเลงคีย์บอร์ด กับพ่อแม่ไม่สั่งสอนนี่จริงหรือเปล่าครับ
รองหัวหน้า : ...... (หน้าเจื่อนนิดหน่อยครับ)
ผม : ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่นะครับ ^^
รองหัวหน้า : เปล่าเลย ผมไม่ได้พูด คุณไปเอามาจากไหน
ผม : คุณกล้าสาบานมั้ยล่ะครับ ว่าไม่ได้โกหก หรือว่าพ่อแม่ของรองหัวหน้าสอนให้โกหกครับ
รองหัวหน้า : โอเคๆ ผมพูดเอง
ผม : มีอะไร ทำไมไม่มาคุยกับผมตรงๆล่ะครับ จะด่าผมว่าผม อย่าด่าถึงพ่อแม่ เพราะพ่อแม่สอนผมดี แต่ที่
ผมเป็นแบบนี้ เพราะคนที่ทำงานบางคนมันเลวไงครับ ผมเลยต้องเลวกลับ
รองหัวหน้า : โอเคๆ ผมขอโทษคุณละกัน จบนะ
ผม : ผมสิครับ ต้องขอโทษ ที่ไปว่ารองหัวหน้าแบบนั้น ผมกราบขอโทษอีกครั้งครับ
รองหัวหน้า : ไม่เป็นไร จบๆกันไปนะ
ผม : ครับ ขอบคุณมากครับ ผมกลับก่อนนะครับ (พร้อมกับยกมือไหว้ก่อนกลับ)
รองหัวหน้า : หวัดดีๆ ขับรถดีๆล่ะ
และแล้วเรื่องนี้ก็ผ่านไปด้วยดีครับ ซึ่งหลายๆคนอาจงงว่า ผมไปว่าอะไรรองหัวหน้าใน FB ผมว่าไปประมาณนี้ครับ
"โถ่ แมร่งอะไรก็ใช้แต่กรุ สมองมีอ่ะ คิดหน่อยสิวะ งานมันต้องช่วยกันทำเว้ย ไม่ใช่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง อย่าให้กรุหมดความ
อดทนนะมรืง" ก็ประมาณนี้แหละครับ และอีกอย่างที่ผมอยากจะบอกทุกๆท่านที่อาจจะสงสัยกัน ว่าทำไมผมถึงกล้า
ทำแบบนี้ คือผมทำงานรับราชการอย่างหนึ่งครับ ซึ่งถ้านับตามอายุงาน และรุ่นแล้ว ผมเป็นรุ่นพี่ของรองหัวหน้าคนนี้ครับ
แต่ด้วยความที่เค้าค่อนข้างจะมีเส้นสาย จึงทำให้ผมต้องเป็นลูกน้องเค้าครับ ส่วนอายุนั้น ผมกับรองหัวหน้าคนนี้ อายุ
เท่ากันครับ ซึ่งขอฝากบอกไว้ว่า การทำแบบผม ไม่ใช่เรื่องดีครับ ดูไว้เป็นเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่างนะครับ ไม่งั้นอนาคต
ของท่าน อาจจะดับวูบลงได้ กลับมาเข้าเรื่องต่อละกันครับ หลังจากที่ผมเคลียร์กับรองหัวหน้าผมเสร็จ ผมก็คิดว่า
จะทำยังไง เพื่อเคลียร์กับเมย์ แฟนของอั๋นดี แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ตัดสินใจลบเมย์ออกจากการเป็นเพื่อนใน FB
และไปพูดกับอั๋นตรงๆว่า
ผม : อั๋น เรื่องเมย์อ่ะ
อั๋น : อืม กรุเข้าใจ ว่ามรืงทำตัวไม่ถูก
ผม : อืม
อั๋น : กรุก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน มรืงก็เพื่อน เมย์ก็เมีย
ผม : กรุก็เข้าใจมรืงนะ มรืงเป็นคนกลาง ลำบากใจที่จะพูด
อั๋น : แล้วเรื่องนิคล่ะ
ผม : ก็ตั้งแต่วันนั้น กรุกับมันก็แทบไม่ได้คุยกันเลย
อั๋น : มรืงก็ไม่ต้องคิดมากหรอก จนตอนนี้มันยังไม่ใส่ซองให้กรุเลย 555+
ผม : ช่างเถอะ กรุไม่เก็บมาคิดหรอก แต่หวังว่ามรืงจะเข้าใจ ถ้ากรุไม่คุยกับเมย์
อั๋น : อืม ไม่เป็นไร กรุเข้าใจ
ระหว่างผมกับอั๋นก็ตกลงกันด้วยดีครับ เข้าใจกัน ส่วนผมกับเมย์ ก็ไม่คุยกันเลย หน้ายังไม่มองเลยครับ ผมกลัวฉุนขาดด้วย
ส่วนนิค ก็ได้แต่ทักทายกัน ว่าเป็นไง สบายดีมั้ย แค่นั้น ทักกันพอเป็นมารยาทแค่นั้นครับ ซึ่งในเรื่องนี้ผมก็อยากไปถึงทุกๆ
ท่านอีกครั้งว่า การกระทำของผมที่ทำกับรองหัวหน้าของผม เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนะครับ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนเรื่องระหว่างผมกับเพื่อน และแฟนเพื่อน เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันครับ ปรับความเข้าใจกัน เข้าใจกันก็ดี ไม่เข้าใจกัน ก็จะ
เป็นเหมือนระหว่างผมกับเมย์แฟนอั๋นเนี่ยแหละครับ จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่านครับ
เสียเพื่อน เพราะแฟนเพื่อน
โดยที่ผมไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงแล้วครับ แล้วปัญหาที่เกิด ก็เกิดจากแฟนของเพื่อนผม และตัวผมเองด้วย
เริ่มเลยละกันครับ ก็เนื่องจากช่วงนี้ งานแต่งงานเยอะซะเหลือเกินครับ ฤกษ์งาม ยามดี เพื่อนร่วมงานผมก็พากันแต่ง
งานกันไป ประมาณ 3-5 คู่ และ 1 ในนั้น ก็คู่ของเพื่อนผมเองเนี่ยแหละครับ ด้วยความที่ผมกับเพื่อนคนนี้สนิทกันมาก
จะไม่ไปได้ยังไงล่ะ ไหนจะเรียนมารุ่นเดียวกันอีก เหนื่อย และลำบากมาด้วยกันก็เยอะ ผมก็แต่งตัวซะหล่อ เพื่อไปร่วม
งานแต่งเพื่อนคนนี้ แบบที่ว่า สาวๆเหลียวมองกันหมด แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ครับ ปัญหาเริ่มต้นจากที่ว่า
ก่อนจะออกจากบ้าน ผมได้หยิบเงินจำนวน 400 บาท จากกระเป๋าตังค์ของผม ใส่เข้าไปในซอง ที่หน้าซองได้เขียน
เรียนเชิญผม จากนั้นก็ไปร่วมงานตามปกติ แต่หลังจากนั้น 2 วัน ระหว่างผมขับรถผ่านหน้าบ้านเพื่อนคนนี้ ก็ได้มีการ
กวักมือเรียกผมให้ไปหาในบ้าน ซึ่งผมก็จอดรถ และได้แวะเข้าไปถาม ว่าไงเพื่อน มีอะไร
เพื่อน : จะไปไหนน่ะ
ผม : ออกไปหาอะไรกินอ่ะ เอาอะไรมั้ย
เพื่อน : อ๋อ ไม่ล่ะ พอดีช่วยเมย์ (นามสมมุติ) นับซองอยู่
ผม : อ่า โอเคๆ งั้นไปก่อนนะ
เพื่อน : อืม ขับรถดีๆล่ะ
เหมือนจะผ่านไปด้วยดีใช่มั้ยล่ะครับ แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกมา เพื่อไปที่รถ แฟนเพื่อนผมคนนี้ก็เดินออกมา
เมย์ : อ้าว จะไปแล้วหรอ มากินน้ำก่อนสิ
ผม : อ่า ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก
เมย์ : มาเถอะน่า ไม่คิดเงินหรอกนะ น้ำฟรี จะได้เหลือตังค์ไว้ใส่ซองให้เยอะกว่านี้ไง
ผม : ..... (อึ้งๆ งงๆ )
เมย์ : เป็นเพื่อนกันน่าจะใส่ให้เยอะกว่านี้หน่อยนะ
เพื่อน : เมย์ นั่นเพื่อนเรานะ
เมย์ : ก็เพราะว่าเพื่อนไง เพื่อนเธอ ก็เหมือนเพื่อนฉัน
ผม : ขอตัวนะ
ผมก็ยิ้มเจื่อนๆ แล้วเดินออกมา เพื่อนผมก็พูดประมาณว่า "ขอโทษนะ" แบบเบาๆ ผมก็ยิ้มให้ เพื่อให้เพื่อนรู้ว่าไม่เป็นไร
แล้วผมก็ออกไปหาอะไรกิน ซึ่งบอกตามตรง ไม่รู้จะกินอะไรเลยครับ เครียดมาก คือบอกตรงๆ ผมไม่รู้จริงๆนะ ว่าใส่น้อย
ไปหรือเปล่า แต่ผมก็มนุษย์เงินเดือนคนนึงไงครับ งานแต้งก็ใกล้ๆสิ้นเดือน ไหนจะหลายงานอีก ผมก็ต้องแบ่งเงินใส่ทุกงาน
คือผมอยากจะพูดให้แฟนเพื่อนผมเข้าใจมาก แต่ผมเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า ไม่อยากให้มีปัญหามากกว่านี้ แต่แล้วก็ยังไม่จบ
ระหว่างผมขับรถกลับบ้าน หลังกินข้าวเสร็จ เพื่อนอีกคนโทรมา บอกให้เข้าไปหาที่บ้านอั๋น (แฟนเมย์ นามสมมุติ) หนักใจ
เลยครับทีนี้ จะเข้าไปดีหรือเปล่าวะ แต่เอาเถอะ เข้าไปสักหน่อย คงไม่มีอะไรหรอก พอไปถึง ก็เห็นอั๋นนั่งคุยอยู่กับนิค
(คนที่โทรหาผม) ผมก็เลยเดินเข้าไป และชวนคุย
ผม : ว่าไง โทรให้เข้ามาเนี่ย
อั๋น : มาๆ กินเหล้าด้วยกัน
ผม : อ่ะ ได้ๆ (เดินไปหยิบเก้าอี้มานั่ง)
นิค : จะดีหรอวะอั๋น ค่าเหล้าหารนะ เงินใส่ซองยังใส่แค่ 400 จะมีเงินช่วยหารหรอวะ
ผม : ..... (ช็อคอีกรอบ)
อั๋น : เห้ย ทำไมพูดแบบนี้วะ
นิค : ก็ถ้าเป็นกรุ กรุใส่เยอะกว่านี้อีก งานเพื่อนทั้งที
ผม : ...... (นั่งนิ่งๆ ไม่พูดอะไร)
อั๋น : ไปด่ามัน มรืงใส่ซองยังเถอะ
นิค : เออ ยัง แต่เดี๋ยวกรุใส่แน่นอน (พอดีนิคติดราชการ ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของอั๋นครับ)
ผม : กรุกลับก่อนนะอั๋น (พร้อมกับเดินออกมา)
นิค : เอาเงินไว้เติมน้ำมันรถมั้ยวะ
ผม : เออ กรุเอา ขอเต็มถังนะ มรืงมีมั้ย (ผมเริ่มฉุนครับ)
อั๋น : ใจเย็นๆมรืง มรืงกลับไปก่อนเถอะ นิคมันเมาแล้ว ช่างมันเถอะ (เดินมาบอกผม)
นิค : ไม่มีเว้ย กรุยังไม่ได้กดตังค์
ผม : มีให้กดเปล่าเหอะ (แล้วผมก็เดินไปที่รถ)
นิค : ......(ไม่พูดอะไรครับ ผมก็ไม่ได้หันกลับไปมองว่ามันจะทำอะไร)
แล้วผมก็กลับบ้านมาพร้อมกับความเครียด ว่าการที่ผมใส่ซองแค่นั้น ผิดมากขนาดนี้เลยหรอ การที่ผมไปร่วมงาน
ไปร่วมแสดงความยินดี แค่นั้นมันคงไม่พอใช่มั้ย ซึ่งหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมกับนิคก็ไม่คุยกันอีกเลย
ส่วนผมกับอั๋นก็มีคุยๆกันบ้าง เพราะทำงานด้วยกัน แต่ไม่คุยเล่นกันเหมือนก่อนแล้ว คือผมรู้สึกไม่สนิทใจแล้วอ่ะครับ
แต่จนแล้วจนรอด แฟนอั๋นที่ชื่อเมย์เนี่ย ก็ได้สร้างเรื่องให้ผมอีกรอบ เรื่องเกิดจากที่ว่า วันนั้นผมต้องจัดการงานเอง
คนเดียว ตามคำสั่งของ รองหัวหน้าแผนก ที่โยนงานมาให้ผมทำคนเดียวทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอะไรสำหรับผม
หรอกครับ แต่ตอนนั้นผมเครียดหลายๆเรื่อง บวกกับโดนจี้ว่าจะเอาเดี๋ยวนี้ เอาอย่างนั้น อย่างนี้ ผมก็เลยเอาด่าลงใน
Facebook แหละครับ แล้วเมย์เนี่ย ก็เอาไปรุ่นพี่ที่ทำงานผม ว่าผมไปว่ารองหัวแผนกคนนี้อย่างนี้นะ (เมย์ทำงานอยู่
แผนกเกี่ยวกับการเงินของที่ทำงานผมครับ) รุ่นพี่คนนั้นก็มาหาผมที่แผนก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่คนเดียว
รุ่นพี่ : เออ น้อง มีคนเอาข้อความที่น้องโพสต์ลงให้พี่ดู ที่ด่า รองหัวหน้าแผนกของน้องอ่ะ
ผม : ครับ ทำไมหรอครับพี่
รุ่นพี่ : ลบเถอะ พี่ว่าไม่เหมาะสมนะ
ผม : ครับๆ เดี๋ยวลบให้นะครับ แล้วใครบอกพี่ครับ (อยากรู้ว่าใครขายผมครับ)
รุ่นพี่ : เมย์อ่ะ แฟนอั๋น
ผม : อ๋อ ครับๆ ขอบคุณครับพี่ ผมจะลบให้เดี๋ยวนี้แหละครับ
จากนั้นผมก็ลบออกไป แล้วก็คิดว่า คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วก็เกิดครับ เพราะเมย์เอาไปบอก รองหัวหน้าผมเรียบร้อย
ถ้าถามว่า ผมรู้ได้ยังไง คือเรื่องเป็นแบบนี้ครับ ตอนที่เมย์กำลังเอาเรื่องของผมไปฟ้องเนี่ย รุ่นน้องอีกแผนกที่สนิทกับผม
ไปได้ยินพอดี ก็เลยมาบอกผมครับ
รุ่นน้อง : พี่ๆ พี่ไปโพสต์ด่า รองหัวหน้าพี่ ใน FB หรอ
ผม : รู้ได้ไงวะ
รุ่นน้อง : ก็พี่เมย์ แฟนพี่อั๋น คุยกับรองหัวหน้าพี่ อยู่อ่ะ
ผม : งานเข้ากรุแล้วไง
รุ่นน้อง : พี่จะทำยังไงต่ออ่ะ
ผม : ไม่ทำยังไงอ่ะ ถ้ารองหัวหน้าไม่พูด พี่ก็ไม่พูด
รุ่นน้อง : ครับๆ สู้ๆนะพี่
ผม : อืมๆ ขอบใจมาก
และจากนั้น ผมก็ได้ประจัญหน้ากับรองหัวหน้าของผม แต่ก็ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ทำงานกันตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่รองหัวหน้าผมเนี่ย เอาไปกับคนอื่นครับ ไปพูดกับคนที่แผนกอื่น ประมาณว่า ผมเนี่ยไปด่ามันใน FB เป็นนักเลงคีย์บอร์ด
พ่อแม่ไม่สั่งสอน คือถ้าด่าผมว่าเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด ผมก็ไม่อะไรหรอกครับ แต่มาบอกพ่อแม่ไม่สั่งสอน นี่ผมทนไม่ได้จริงๆ
คืนวันนั้น ผมรู้มาว่ารองหัวหน้าของผมเนี่ย จะเที่ยวที่ร้านๆนึง ผมก็ตามไปเคลียร์เลยครับ พอไปถึงก็เห็นนั่งอยู่กับเด็กแหละครับ
ผม : สวัสดีครับ (พร้อมกับเอายกมือไหว้แบบกวนๆ)
รองหัวหน้า : อ้าว มาได้ไง
ผม : ขับรถมาครับ
รองหัวหน้า : มีอะไรหรือเปล่า จะเอางานมาให้ดูหรอ
ผม : เปล่าครับ ^^
รองหัวหน้า : แล้วมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า
ผม : มีสิครับ ไม่งั้นจะมายืนตรงนี้หรอครับ
รองหัวหน้า : แล้วคุณมีอะไร
ผม : ที่รองหัวหน้าบอกว่าผมเป็นนักเลงคีย์บอร์ด กับพ่อแม่ไม่สั่งสอนนี่จริงหรือเปล่าครับ
รองหัวหน้า : ...... (หน้าเจื่อนนิดหน่อยครับ)
ผม : ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่นะครับ ^^
รองหัวหน้า : เปล่าเลย ผมไม่ได้พูด คุณไปเอามาจากไหน
ผม : คุณกล้าสาบานมั้ยล่ะครับ ว่าไม่ได้โกหก หรือว่าพ่อแม่ของรองหัวหน้าสอนให้โกหกครับ
รองหัวหน้า : โอเคๆ ผมพูดเอง
ผม : มีอะไร ทำไมไม่มาคุยกับผมตรงๆล่ะครับ จะด่าผมว่าผม อย่าด่าถึงพ่อแม่ เพราะพ่อแม่สอนผมดี แต่ที่
ผมเป็นแบบนี้ เพราะคนที่ทำงานบางคนมันเลวไงครับ ผมเลยต้องเลวกลับ
รองหัวหน้า : โอเคๆ ผมขอโทษคุณละกัน จบนะ
ผม : ผมสิครับ ต้องขอโทษ ที่ไปว่ารองหัวหน้าแบบนั้น ผมกราบขอโทษอีกครั้งครับ
รองหัวหน้า : ไม่เป็นไร จบๆกันไปนะ
ผม : ครับ ขอบคุณมากครับ ผมกลับก่อนนะครับ (พร้อมกับยกมือไหว้ก่อนกลับ)
รองหัวหน้า : หวัดดีๆ ขับรถดีๆล่ะ
และแล้วเรื่องนี้ก็ผ่านไปด้วยดีครับ ซึ่งหลายๆคนอาจงงว่า ผมไปว่าอะไรรองหัวหน้าใน FB ผมว่าไปประมาณนี้ครับ
"โถ่ แมร่งอะไรก็ใช้แต่กรุ สมองมีอ่ะ คิดหน่อยสิวะ งานมันต้องช่วยกันทำเว้ย ไม่ใช่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง อย่าให้กรุหมดความ
อดทนนะมรืง" ก็ประมาณนี้แหละครับ และอีกอย่างที่ผมอยากจะบอกทุกๆท่านที่อาจจะสงสัยกัน ว่าทำไมผมถึงกล้า
ทำแบบนี้ คือผมทำงานรับราชการอย่างหนึ่งครับ ซึ่งถ้านับตามอายุงาน และรุ่นแล้ว ผมเป็นรุ่นพี่ของรองหัวหน้าคนนี้ครับ
แต่ด้วยความที่เค้าค่อนข้างจะมีเส้นสาย จึงทำให้ผมต้องเป็นลูกน้องเค้าครับ ส่วนอายุนั้น ผมกับรองหัวหน้าคนนี้ อายุ
เท่ากันครับ ซึ่งขอฝากบอกไว้ว่า การทำแบบผม ไม่ใช่เรื่องดีครับ ดูไว้เป็นเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่างนะครับ ไม่งั้นอนาคต
ของท่าน อาจจะดับวูบลงได้ กลับมาเข้าเรื่องต่อละกันครับ หลังจากที่ผมเคลียร์กับรองหัวหน้าผมเสร็จ ผมก็คิดว่า
จะทำยังไง เพื่อเคลียร์กับเมย์ แฟนของอั๋นดี แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ตัดสินใจลบเมย์ออกจากการเป็นเพื่อนใน FB
และไปพูดกับอั๋นตรงๆว่า
ผม : อั๋น เรื่องเมย์อ่ะ
อั๋น : อืม กรุเข้าใจ ว่ามรืงทำตัวไม่ถูก
ผม : อืม
อั๋น : กรุก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน มรืงก็เพื่อน เมย์ก็เมีย
ผม : กรุก็เข้าใจมรืงนะ มรืงเป็นคนกลาง ลำบากใจที่จะพูด
อั๋น : แล้วเรื่องนิคล่ะ
ผม : ก็ตั้งแต่วันนั้น กรุกับมันก็แทบไม่ได้คุยกันเลย
อั๋น : มรืงก็ไม่ต้องคิดมากหรอก จนตอนนี้มันยังไม่ใส่ซองให้กรุเลย 555+
ผม : ช่างเถอะ กรุไม่เก็บมาคิดหรอก แต่หวังว่ามรืงจะเข้าใจ ถ้ากรุไม่คุยกับเมย์
อั๋น : อืม ไม่เป็นไร กรุเข้าใจ
ระหว่างผมกับอั๋นก็ตกลงกันด้วยดีครับ เข้าใจกัน ส่วนผมกับเมย์ ก็ไม่คุยกันเลย หน้ายังไม่มองเลยครับ ผมกลัวฉุนขาดด้วย
ส่วนนิค ก็ได้แต่ทักทายกัน ว่าเป็นไง สบายดีมั้ย แค่นั้น ทักกันพอเป็นมารยาทแค่นั้นครับ ซึ่งในเรื่องนี้ผมก็อยากไปถึงทุกๆ
ท่านอีกครั้งว่า การกระทำของผมที่ทำกับรองหัวหน้าของผม เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนะครับ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนเรื่องระหว่างผมกับเพื่อน และแฟนเพื่อน เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันครับ ปรับความเข้าใจกัน เข้าใจกันก็ดี ไม่เข้าใจกัน ก็จะ
เป็นเหมือนระหว่างผมกับเมย์แฟนอั๋นเนี่ยแหละครับ จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่านครับ