[CR] こんにちは กินเที่ยวสุดติ่ง...ที่ญี่ปุ่น


ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่เรามาเยือนญี่ปุ่น...อมยิ้ม01

เราจองแอร์เอเชียเมื่อปีที่แล้ว ด้วยราคา 11,200 บาท แต่ว่าต้องไปพักเครื่องที่มาเลเซียก่อน เนื่องจากปีก่อนหน้านั้นตั๋วราคาแพงมาก เราเลยตัดสินใจจองซะเลย เห็นราคาน่าโดน!! เราตั้งใจจะไป โตเกียว กับ โอซ่าก้า ระยะเวลา 10 วัน การเดินทางครั้งนี้มีแผนการเดินทางว่าจะไปที่ไหนบ้างและไปยังไง มีหลายคนบอกว่าอาจจะหลงได้ เราเลยเตรียมข้อมูลสักหน่อย

วันแรก เครื่องออก 18.10 น. เรานั่งเครื่องที่ดอนเมืองเพื่อที่จะไปลงที่มาเลเซียก่อน แล้วต้องนั่งรออีกเกือบ 4 ชั่วโมง!! เพื่อต่อเครื่องไปญี่ปุ่น เอาเป็นว่าการเดินทางไประยะเวลาเหมือนไปยุโรปเลยอะ 555+ พอเราถึงมาเลเซียเราก็หาของกินเลยค่ะ เพราะว่าหิวมาก เราเลยจัดเบอเกอร์คิง ชุดใหญ่เลย คือมีเวลานั่งชิวๆอีกยาวนาน ก่อนไปเราบอกกับเพื่อนเราว่าจะไปพักเครื่องที่มาเลเซียก่อน เพื่อนเรานี่พูดเลยว่า " แกสนามบินที่โน้นสกปกมาก แล้วเป็นพัดลมนะ ไม่มีแอร์" เราก็ใช้หรอที่เคยมาไม่ใช่นะ พอเอาเข้าจริง สนามบินเค้าก็สวยดูดีออก... บางคนบอกไปทำไมเสียเวลารอตั้งหลายชั่วโมง ยอมเสียตังเพิ่มดีกว่า....ก็เราตังน้อยอะ ขอแบบนี้ละ อีกอย่างได้เที่ยว 2 ประเทศด้วยอ่า อมยิ้ม07

เอาล่ะหลังจากนั่งหลับมาแสนนานก็ได้เวลาขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นแล้ว เครื่องออกเวลา เครื่องออกประมาณเกือบๆ ตี 2 อะ แล้วไม่มีอาหารนะจ๊ะ เราซื้อบ๊วยจาก 7-11 แถวบ้านไป ก็พอรองท้องกันไป นี่เป็นการเดินทางที่ไกลที่สุดของเราเลยนะ นั่งเครื่องบิน 6 ชั่วโมง แต่ดีว่าเป็นกลางคืนเราเลยหลับได้สบายๆ แต่ท่าการนอนก็ไม่ได้สบายเท่าไหร่นัก เปลี่ยนอยู่หลายท่าเลย ฮ่าๆๆๆ

วันที่สอง   และแล้วก็มาถึงสนามบินโอซ่าก้า ซันไซเวลา 08.25น. มาปุ๊ปก็เอ่อๆ เลย เพราะว่าใหญ่มาก ต้องหาที่ซื้อตั๋วรถไฟนันไกสีน้ำเงินหัวปลาดุกไปลงที่นัมบะ หาไม่ยาก ที่ขายตั๋วใหญ่มากๆ แต่ขอบอกว่า คนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ส่วนไอ้เราก็ไม่ค่อยได้ เลยสนุกเลยงานนี้ ระหว่างที่นั่งรถไฟ เราก็ดูบรรยากาศในบ้านเมืองเค้า มันสะอาดจริงๆ แล้วก็มีสวนผักเยอะมากๆ อีกรูปหนึ่งเป็นคุณลุงแต่งตัวเก๋ถูกใจหนูจังค่ะ

โว้วว.... พอมาถึงนัมบะก็ยืนนิ่งๆสักพัก เราไปนั่งตรงบันไดรถไฟใต้ดิน แล้วกางแผนที่ แต่ก็ยังงงดูดี เวลาตอนนี้ก็เกือบจะ 10โมงละ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราก็นั่งเรื่อยเปื่อย เดินวนไป-มา ไปเจอล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋า เราเลยจัดเลย เพราะว่ามันหนักมาก ด้วยราคา 600เยน ตามขนาดของกระเป๋า พอตัวโล่งเราก็เดินออกมาตามทางเรื่อยๆเจอห้างนัมบะ พาร์ค เจอร้านกาแฟเปิดอยู่เราเลยเข้าไปเลย ชื่อร้าน "TULLY'S COFFEE" เราสั่งขนมปังใส่กรอก เราถามพนักงานว่าอุ่นให้หน่อยได้ไหม เธอตามว่าได้ แต่สรุปไม่อุ่น ฮ่าๆๆ เราก็เลยบอกว่า ทำให้มันร้อนได้ไหม เป็นภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายๆ เธอทำหน้า งงๆ เราก็เลยต้องบอกว่า ไม่เป็นไร เอาแบบนี้ก็ได้ ฮ่าๆๆๆ พนักงานเป็นผู้หญิง 2 คน น่ารักมากๆ เอพูดภาษาไมได้ แต่เธอก็พยายาม (หรือเปล่า) ฮ่าๆๆ เราก็นั่งกิน เธอก็เอาน้ำมาให้เรา เราเลยสั่งโกโก้ร้อน เธอทำกาแฟมาให้ แง๋วๆๆๆๆๆเราได้แต่ยิ้ม แหะๆๆ.....

พอทานเสร็จเราตั้งใจชมปราสาทโอซาก้า เราก็เดินลงไปที่รถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่ Tanimachi  ระหว่างทางตึกสวยๆเพียบ อากาศก็เย็นใช้ได้เลย ทางเดินไม่มีแม้แต่ขยะสักชิ้น บ้านเมืองเค้าสะอาดมากๆ ต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสี หลายสีด้วยซ่ำ ทั้งเหลือง แดง ส้ม เขียว เย็นสบายตาจัง เดินไปไกลพอสมควร เรารู้สึกว่าตอนเดินออกมาจากรถไฟใต้ดิน เดินมาผิดช่อง เลยทำให้เดินไกลแน่ๆ  เห็นแล้วปราสาทแต่ทำไมมันดูไกลจังเลยอ่ะ ==” ทางเดินก็มีสวนนั่งเล่น เราได้ไปนั่งเล่นสักแปป เพราะรู้สึกปวดขาอาจจะเป็นเพราะท่านอนเมื่อคืน


เดินซะเมิ่อยถ้าเป็นบ้านเรา เราจะเรียกมอไซร์รับจ้าง 555+  ถึงแล้วทางเข้าปราสาทเราแวะกินไอติมด้านหน้าด้วยราคา 350 เยน เพราะคิดว่าด้านในคงไม่มีแน่ๆ ขอบอกว่าคนไทยเพียบ! เราก็นิ่งๆ ส่งยิ้มให้เล็กน้อย พอกินเสร็จ ก็เดินเข้าไป ตั๋วทางเข้าราคา 600เยน โอ้ว สวยมาก เราขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิวด้วย เจอเด็กญี่ปุ่นน่ารักๆ เราเลยขอถ่ายรุปสักหน่อย

นี่ก็เย็นละเรากลับไปเอากระเป๋าแล้วไปเช็คอินโรงแรมดีฟ่า รู้สึกเพียๆ เราก็นั่งใต้ดินไปลงที่เดิม ว้าวมีร้านโดนัทที่เราชอบด้วย จัดขอสักชิ้นน่ะแล้วก็เดินกินด้วยความอร่อย และแล้ว...........สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ หาล๊อกเกอร์ที่ฝากกระเป๋าไม่เจอ!!! เราเดินวนอยู่หลายรอบเลย กินเวลาไปเกือบชั่วโมงละเราเลยเดินไปหาเจ้าหน้าที่ที่ขายตั๋วแล้วเราโชว์ภาพที่ถ่ายแถวๆล๊อกเกอร์ให้พี่เค้าดู เค้าก็ชี้ไปทางซ้าย เราก็เดินไปแต่ก็หาไม่เจออะ เราเริ่มหงุดหงิดละ ฮ่าๆๆ แต่มีคุณลุงคนหนึ่งเดินตามหลังมาแล้วก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็แหะๆๆ พูดไรอะ แต่พอเดาออกมาเค้ารู้ว่าเราหลง เราเลยยื่นภาพให้เค้าดู เค้าก็เดินนำเราไปเลยค่ะ ลุงเค้าช่วยหากินเวลาไปอีกเป็นชั่วโมง แต่เดินไปสักแปปเราจำร้านค้าร้านนี้ได้ แล้วก็เจอแล้ว กระเป๋าของฉัน!!!! เราก็บอกลุงไปว่า ขอบคุณ แล้วตามด้วยโออิชิ ฮ่าๆๆ คนละเรื่องเลย.....

พอได้กระเป๋าเราก็เดินออกมาทางถนนใหญ่ เพราะว่าโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากรถไฟใต้ดิน เราเดินไปสักพัก หายังไงก็ไม่เจอ เลยถามคนแถวนั้น ลุงเค้าบอกว่าเลยมาแล้วต้องเข้าอีกทางหนึ่ง ไอ้เราก็เดินมาซะไกล ในที่สุดก็เจอโรงแรม เราพักที่ NISHITETSU INN SHINSAIBASHI เข้าไปเช็คอินปกติแล้วก็เข้าห้อง ห้องก็แคบๆ ไม่ใหญ่ ขนาดกะทัดรัด สะอาด เรานอนพักสักแปป แล้วก็ลุกขึ้นเพราะเรามาเที่ยวไม่ได้มานอน !!!  อาบน้ำสักหน่อย รู้สึกไม่โดนน้ำจะ 2 วันละ พอเดินออกมา อ๊ายย...ลมแรงหนาวมาก เราออกไปกินอาหารค่ำ เรานั่งใต้ดินไป จะบอกว่าวันๆหนึ่งนี้สงสัยหมดกับค่าตั๋วรถไฟแน่ๆ แค่วันเดียวโดนไปเกือบ 1500เยนละ เราจำไมได้ว่ากินร้านแถวไหน แต่จำได้ว่ามันเยอะมาก แล้วก็ไม่ค่อยถูกปากอะ ฮ่าๆๆ เลยกินไปครึ่งเดียว

เราเดินย่อยต่อสักประเดี่ยว จากนั้นก็มุ่งหน้าไปชมวิวที่ตึก Floating Garden Observatory ดันหาทางเข้าไปเจอ เดินหลงอีก สรุปอยู่อึกตึกแล้วต้องไปหาทางเชื่อมอีกที่ ง่ะ! หาทางเข้าก็ยากซะเหลือเกิน แต่มาดูภายนอกกันซะก่อน เลิศสุดๆอะ


แต่สุดท้ายก็เจอซื้อตั๋วต่อแถว เราขึ้นไปชั้น 39 ด้วยความสูง 173 เมตร คืนแรกก็สนุกแล้วสิ ทั้งลมทั้งฝน กระหน่ำ เราก็เดินๆหลบๆ ตึกเค้าออกแบบเจ๋งมาก สุดท้ายเราก็ต้องยอมแพ้ฝนและความหนาวของมันแต่ก็ได้ภาพสวยๆมาอยู่นะ  จากนั้นเราก็กลับ...สรุปขามากับขากลับคนละทางเลย ขากลับมีร้านอาหารญี่ปุ่นเพียบจากนั้นก็นั่งรถไฟกลับมาที่ห้อง หน้าโรงแรมมีร้านกาแฟเล็กๆ แบ๋วๆ เราเลยเข้าไปสักหน่อย เราเป็นคนไม่ดื่มกาแฟเราเลยสั่งโกโก้ร้อน เค้าบอกไม่มี มีแต่กาแฟ ถ้างั้นก็ขอนั่งชิวๆแปปละกันนะ


คืนแรกไว้เท่านี้ก่อนวันนี้ได้ภาพมาไม่ค่อยสวยเท่าไร เนืองจากเพียๆๆ พรุ้งนี้ค่อยว่ากันใหม่...
ชื่อสินค้า:   Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่