ขอแชร์นิดนึงค่ะ สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการปรับปรุงห้องน้ำ ควรจะอ่านค่ะ
ไม่ใช่แค่เราจ้างช่างมา renovate แล้วจะจบงานนะคะ ช่างบางคนก็ไม่มีความรู้พอ ภายนอกดูงานเรียบร้อยแต่มันไม่ใช่ค่ะ
ประสบการณ์ที่เจอเป็นปัญหามาถึงปัจจุบันคือ
เรา renovate ซ่อมแซมบ้าน ก็จ้างผู้รับเหมามาซ่อมแซมห้องน้ำใหม่ทุกห้อง ปูกระเบื้องห้องน้ำใหม่ เปลี่ยนสุขภัณฑ์ ทั้งหมด
ช่างติดตั้งเรียบร้อย ตอนยังไม่ใช้งานก็ไม่มีกลิ่นเหม็น พอเข้ามาอยู่ กลิ่นท่อในห้องน้ำเหม็นมากค่ะ ตอนแรกไม่รู้ว่ากลิ่นมาจากท่อน้ำทิ้งหรือชักโครก
แต่คาดว่ามาจากชักโครกจึงโทรเรียกช่างตามยี่ห้อสุขภัณฑ์มาดู เสียเงินนะคะ
ปรากฏว่าสาเหตุมาจากชักโครกจริงๆค่ะ
ช่างต้องยกชักโครกดูท่อด้านล่าง ปรากฏว่าชักโครกวางไม่ตรงท่อเดิมค่ะ เนื่องจากชักโครกใหม่ต้องวางท่อระยะห่างจากกำแพงมากกว่าเดิม
ทำให้มันเหลื่อมๆ วางไม่ตรงเป๊ะกับท่อเดิม แล้วช่างที่ทำห้องน้ำก็ไม่ได้เดินท่อใหม่ วางชักโครกแบบไม่ตรงท่อไปซะอย่างงั้น
แถมไม่ใส่ตะแกรงดักกลิ่นที่ติดมากับชักโครกด้วยค่ะ
การวางชักโครกไม่ตรงท่อมันทำให้เวลาเรากดชักโครก น้ำจะกระเด็นโดนพื้นใต้ชักโครก เพราะท่อมันไม่ตรงกัน ทำให้เกิดน้ำขังข้างใต้ ซึ่งก็เป็นน้ำจากการถ่ายปัสสาวะอุจจาระ เมื่อสะสมกัน จึงเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นมาค่ะ กลิ่นก็จะมาเป็นระยะๆ
วิธีแก้ที่ดีก็ควรจะเดินท่อใหม่ให้ตรงกับท่อชักโครก ซึ่งค่อนข้างลำบาก
แต่ช่างที่เราเรียกมาเค้าเลยลองวางแค่ตะแกรงดักกลิ่นครอบไว้ อย่างน้อยก็กันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมา
ปัจจุบันกลิ่นก็หายแล้วนะคะ แต่บางครั้งยังมีกลิ่นบ้างแต่น้อยมาก
ใครที่จะซื้อชักโครกใหม่มาเปลี่ยน เราแนะนำว่าควรจะวัดระยะท่อของชักโครกเดิมจากกำแพง แล้วเลือกซื้อชักโครกตามขนาดที่เราวัดได้ค่ะ
ใครจะไปรู้คะว่าแค่เลือกชักโครกใหม่ต้องดูขนาดนั้นเลย ก็ไม่เห็นมีใครเคยบอก
แต่ถ้าเป็นบ้านสร้างใหม่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ
อีกปัญหาที่พบคือ ช่างปูกระเบื้องที่พื้นห้องน้ำ แล้วเนื่องจากช่างปูกระเบื้องเต็มแผ่นต่อๆกัน แล้วมันเหลือช่องนิสสนึงประมาณ 3 มิล ช่างก็ไม่ตัดกระเบื้องมาปูต่อ ไม่ยาแนวปิดด้วย จึงมีช่องว่างยาวๆเล็กอยู่ริมกำแพง แล้วมันเป็นฝั่งใต้อ่างล้างหน้า ทำให้เราไม่ได้สังเกตุข้างใต้ ตอนมาตรวจเช็คงาน
โชคดีที่แบ่งห้องน้ำเป็นโซนแห้ง จึงไม่ได้ราดน้ำเข้าไปข้างใต้ แต่ปัญหาแบบนี้ก็ไม่ควรจะเกิด สำหรับช่างที่ทำงานเรียบร้อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนนะคะ
บอกเล่าเรื่องชักโครก มีกลิ่นเหม็น เหมาะสำหรับผู้ที่จะเปลี่ยนชักโครก จริงๆนะ
ไม่ใช่แค่เราจ้างช่างมา renovate แล้วจะจบงานนะคะ ช่างบางคนก็ไม่มีความรู้พอ ภายนอกดูงานเรียบร้อยแต่มันไม่ใช่ค่ะ
ประสบการณ์ที่เจอเป็นปัญหามาถึงปัจจุบันคือ
เรา renovate ซ่อมแซมบ้าน ก็จ้างผู้รับเหมามาซ่อมแซมห้องน้ำใหม่ทุกห้อง ปูกระเบื้องห้องน้ำใหม่ เปลี่ยนสุขภัณฑ์ ทั้งหมด
ช่างติดตั้งเรียบร้อย ตอนยังไม่ใช้งานก็ไม่มีกลิ่นเหม็น พอเข้ามาอยู่ กลิ่นท่อในห้องน้ำเหม็นมากค่ะ ตอนแรกไม่รู้ว่ากลิ่นมาจากท่อน้ำทิ้งหรือชักโครก
แต่คาดว่ามาจากชักโครกจึงโทรเรียกช่างตามยี่ห้อสุขภัณฑ์มาดู เสียเงินนะคะ
ปรากฏว่าสาเหตุมาจากชักโครกจริงๆค่ะ
ช่างต้องยกชักโครกดูท่อด้านล่าง ปรากฏว่าชักโครกวางไม่ตรงท่อเดิมค่ะ เนื่องจากชักโครกใหม่ต้องวางท่อระยะห่างจากกำแพงมากกว่าเดิม
ทำให้มันเหลื่อมๆ วางไม่ตรงเป๊ะกับท่อเดิม แล้วช่างที่ทำห้องน้ำก็ไม่ได้เดินท่อใหม่ วางชักโครกแบบไม่ตรงท่อไปซะอย่างงั้น
แถมไม่ใส่ตะแกรงดักกลิ่นที่ติดมากับชักโครกด้วยค่ะ
การวางชักโครกไม่ตรงท่อมันทำให้เวลาเรากดชักโครก น้ำจะกระเด็นโดนพื้นใต้ชักโครก เพราะท่อมันไม่ตรงกัน ทำให้เกิดน้ำขังข้างใต้ ซึ่งก็เป็นน้ำจากการถ่ายปัสสาวะอุจจาระ เมื่อสะสมกัน จึงเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นมาค่ะ กลิ่นก็จะมาเป็นระยะๆ
วิธีแก้ที่ดีก็ควรจะเดินท่อใหม่ให้ตรงกับท่อชักโครก ซึ่งค่อนข้างลำบาก
แต่ช่างที่เราเรียกมาเค้าเลยลองวางแค่ตะแกรงดักกลิ่นครอบไว้ อย่างน้อยก็กันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมา
ปัจจุบันกลิ่นก็หายแล้วนะคะ แต่บางครั้งยังมีกลิ่นบ้างแต่น้อยมาก
ใครที่จะซื้อชักโครกใหม่มาเปลี่ยน เราแนะนำว่าควรจะวัดระยะท่อของชักโครกเดิมจากกำแพง แล้วเลือกซื้อชักโครกตามขนาดที่เราวัดได้ค่ะ
ใครจะไปรู้คะว่าแค่เลือกชักโครกใหม่ต้องดูขนาดนั้นเลย ก็ไม่เห็นมีใครเคยบอก
แต่ถ้าเป็นบ้านสร้างใหม่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ
อีกปัญหาที่พบคือ ช่างปูกระเบื้องที่พื้นห้องน้ำ แล้วเนื่องจากช่างปูกระเบื้องเต็มแผ่นต่อๆกัน แล้วมันเหลือช่องนิสสนึงประมาณ 3 มิล ช่างก็ไม่ตัดกระเบื้องมาปูต่อ ไม่ยาแนวปิดด้วย จึงมีช่องว่างยาวๆเล็กอยู่ริมกำแพง แล้วมันเป็นฝั่งใต้อ่างล้างหน้า ทำให้เราไม่ได้สังเกตุข้างใต้ ตอนมาตรวจเช็คงาน
โชคดีที่แบ่งห้องน้ำเป็นโซนแห้ง จึงไม่ได้ราดน้ำเข้าไปข้างใต้ แต่ปัญหาแบบนี้ก็ไม่ควรจะเกิด สำหรับช่างที่ทำงานเรียบร้อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนนะคะ