คอหนังเศร้าศาลแพ่งสั่งห้ามฉาย"ฟาสต์ 7"ในไทย
วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2558 เวลา 18.55 น.
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก
นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ มอบอำนาจให้
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
นายพนม หรือทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม อายุ 38 ปี พระเอกนักบู๊ชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง และองค์บาก , บริษัทยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัท อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่
"จา พนม" ได้กระทำผิดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์มฯ ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 หรือเหลือสัญญาอีก 8 ปี พร้อมได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่
"จา พนม" ได้ร่วมแสดงและมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ทั้งนี้หลังจากที่ศาลได้ดำเนินการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 2 ปาก คือ
นายอรรถพล เตชะรัตนประเสริฐ บุตรชาย นายสมศักดิ์ และ นายธีรพล กาญจนากาศ ที่ปรึกษากฎหมายของ นายสมศักดิ์ เข้าเบิกความจนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน
ภายหลัง นายสุวัตร ทนายความบริษัทสหมงคลฟิลม์ฯ โจทก์ เปิดเผยว่า
หลังจากมีการไต่สวนแล้วศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ในประเทศไทยไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยเหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าหนังเรื่องดังกล่าวจะเข้าฉายในรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค. และเตรียมฉายรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่
"จา พนม" แสดงแต่ยังติดสัญญากับบริษัท สหมงคลฟิล์ม มาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท โดย
"จา พนม" ได้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์มไว้เดือน ก.ค. 2556 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไปก็คำนวณมาจากการซื้อตัว
"จา พนม" มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆกระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้สำหรับการพิจารณาคดีหลักเรื่องการผิดสัญญา ศาลก็ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยาน และประเด็นนำสืบในวันที่ 15 มิ.ย. เมื่อถามว่าในเมื่อศาลมีคำสั่งระงับการฉายหนังจะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์ และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า
เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้านหรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์โดยเราพร้อมจะคุยหลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน..
ที่มา :
http://m.dailynews.co.th/News.do?contentId=310310&p=1
-----------------
ดูที่ขีดเส้นใต้ดีๆ นะครับ
..เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้านหรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์โดยเราพร้อมจะคุยหลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน..
แหม่..นี่มันเหมือนกับการจับคนดูเป็นตัวประกัน เพื่อบีบให้ค่ายหนัง+โรงหนังอื่นๆ ต้องมาไถ่ชัดๆ
หุ หุ
[F&F7 ถูกแบน] อืม..ทำแบบนี้มันจับคนดูเป็นตัวประกันชัดๆ นะครับว่าไหม?
วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2558 เวลา 18.55 น.
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ มอบอำนาจให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพนม หรือทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม อายุ 38 ปี พระเอกนักบู๊ชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง และองค์บาก , บริษัทยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัท อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่ "จา พนม" ได้กระทำผิดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์มฯ ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 หรือเหลือสัญญาอีก 8 ปี พร้อมได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่ "จา พนม" ได้ร่วมแสดงและมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ทั้งนี้หลังจากที่ศาลได้ดำเนินการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 2 ปาก คือ นายอรรถพล เตชะรัตนประเสริฐ บุตรชาย นายสมศักดิ์ และ นายธีรพล กาญจนากาศ ที่ปรึกษากฎหมายของ นายสมศักดิ์ เข้าเบิกความจนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน
ภายหลัง นายสุวัตร ทนายความบริษัทสหมงคลฟิลม์ฯ โจทก์ เปิดเผยว่า หลังจากมีการไต่สวนแล้วศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ในประเทศไทยไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยเหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าหนังเรื่องดังกล่าวจะเข้าฉายในรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค. และเตรียมฉายรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่ "จา พนม" แสดงแต่ยังติดสัญญากับบริษัท สหมงคลฟิล์ม มาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท โดย "จา พนม" ได้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์มไว้เดือน ก.ค. 2556 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไปก็คำนวณมาจากการซื้อตัว "จา พนม" มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆกระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้สำหรับการพิจารณาคดีหลักเรื่องการผิดสัญญา ศาลก็ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยาน และประเด็นนำสืบในวันที่ 15 มิ.ย. เมื่อถามว่าในเมื่อศาลมีคำสั่งระงับการฉายหนังจะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์ และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้านหรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์โดยเราพร้อมจะคุยหลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน..
ที่มา : http://m.dailynews.co.th/News.do?contentId=310310&p=1
-----------------
ดูที่ขีดเส้นใต้ดีๆ นะครับ
..เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้านหรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์โดยเราพร้อมจะคุยหลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน..
แหม่..นี่มันเหมือนกับการจับคนดูเป็นตัวประกัน เพื่อบีบให้ค่ายหนัง+โรงหนังอื่นๆ ต้องมาไถ่ชัดๆ
หุ หุ