นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ [ตอนที่ 1]

กระทู้สนทนา
1



    ฉันนั่งเหม่อมองหมู่ดาวระยิบระยับบนเตียงใหม่ ท่ามกลางสายลมเย็นสบายที่พัดผ้าม่านสีอ่อนปลิวไสวเบาๆ ไฟทุกดวงในห้องปิดมืดสนิท หากแสงไฟสีเหลืองสว่างเรืองรองที่มาจากโคมไฟรูปดวงจันทร์น้อยครึ่งเสี้ยวตรงหัวเตียงของฉัน  มันก็ทำให้ห้องนี้ไม่มืดจนเกินไป
    “ฮ้าวววว” ฉันอ้าปากหาวหวอด สูดน้ำมูกขึ้นเสียงดังก่อนจะค่อยๆ ถดตัวลงนอนหนุนหมอนนุ่ม ดึงผ้าห่มผืนบางขึ้นมาคลุมตัว แล้วค่อยๆ หลับตาลงไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ค่อยๆ เลือนลางไปด้วย...


    ...ที่นี่ที่ไหน?

    ฉันอยากจะร้องไห้เมื่อจู่ๆ ตัวเองก็โผล่มาอยู่ที่หน้าตึกร้างของที่ไหนสักแห่ง T^T บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด มีแต่เสียงลมเย็นยะเยือกที่พัดหวิวชวนให้ฉันขนลุกซู่ แสงสว่างริบหรี่ที่สาดส่องมาจากพระจันทร์ ไม่ได้ทำให้ตึกร้างนี้ดูสวยหรูขึ้นมาเลยสักนิด ฮึก T_T กลัวง่ะ ทำไงดี? ฉันควรจะยืนแข็งทื่ออยู่ที่นี่ ควรจะหันหลังกลับแล้วหาทางหนีออกจากที่นี่ หรือควรจะตรงไปข้างหน้าเพื่อสอดรู้ในเรื่องที่ไม่ควรสอดดี โอเค! เอาตามนี้ดีกว่า

    ฉันเลือกอย่างที่สอง!

    ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อหาทางกลับบ้านตัวเอง แต่ทว่า...

    เฮือก! O_O

    ภาพข้างหน้าที่มีแต่ป่ากับป่ามืดๆ ทำให้ฉันแทบทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น หากสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันไม่อาจล้มกองอยู่ตรงนี้ได้กำลังเคลื่อนพลมาทางนี้แล้ว นั่น...นั่นมัน...

    “ซะ...ซะ...ซอมบี้!!! O[]O” ฉันเบิกตากว้างในขณะที่พวกมันก็กำลังเดินตรงมายังฉัน

ตึก ตึก ตึก

    เสียงฝีเท้าที่ย่ำดินเข้ามาหาเรื่อยๆ บวกกับหน้าตาของพวกมันที่มีเลือดกบปากราวกับเพิ่งได้กินซากศพใครมาอย่างนั้น มันทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกเลย ให้ตายสิ! ฉัน...นี่ฉันควรทำยังไงดีฟะเนี่ย???

ตึก ตึก ตึก

    ฉันมองพวกมันที่กำลังสาวเท้าเข้ามาหาอย่างตื่นตระหนก พยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงหายไปให้กลับเข้ามาสู่บอดี้ที่คิดอยากจะเผาไหม้ขึ้นมาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ฮือออ T^T เอาสักทีสิ เดินสักทีสินิกิม เดิน!!!

ฉันมองพวกมันด้วยสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ ก่อนตัดสินใจใส่เกียร์หมารีบวิ่งหน้าตั้งออกไปจากตรงนั้นทันที จุดหมายข้างหน้าคงหนีไม่พ้นไอ้ตึกร้างบ้านั่นที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้านี้ ฮืออออ TOT ฉันเดาได้เลยว่าในนั้นมันต้องมีอะไรโผล่มาพาให้ฉันหัวใจวายตายแน่ๆ ว่าแต่รู้อย่างนี้แล้ว...ทำไมฉันยังจะต้องวิ่งเข้าไปหาที่ตายด้วยเนี่ยยยยยย

    ไหน...ลองหันหลังกลับไปดูหน่อยซิ >_O ว้ากกก ก! O[]o ยังตามมาอีกเรอะ! นี่ไม่ใช่หนังผีชีว้ากนะโว้ย จะได้มาวิ่งไล่จับฉันน่ะ!

    “ว้ากกกก!!”

    ตึกๆๆๆ

    ไอ้หยา O_O ทำไงดี พวกมันตามมากันเป็นฝูงเลยอ้ะ TOT ฉันวิ่งเข้าตึกร้างไปโดยตามบทของคนที่ไม่มีสติแล้วย่อมขึ้นบันไดไปหาความตายที่เสี่ยงกว่า อ้าก! จริงๆ ด้วย ฉันผงะถอยหลังเมื่อไอ้ผีซอมบี้มันแสยะยิ้มโหด ยืนขวางบันไดไว้ ส่วนข้างหลังนี่ก็เหมือนกับวิ่งแข่งกัน ใครชนะได้อภิสิทธิ์รุมทึ้งร่างฉันอย่างเอร็ดอร่อยเป็นรางวัล

    ฮึกๆ T^T เอาวะ! หลวงพ่อเจ้าคะ...ซอยข่อยแน~ Q[]Q นะโมๆ พุทโธๆ สังโฆๆ อะรึยๆ ญายะญายะ ไปซะๆ เพี้ยงงงงง~ >_<

    อ้ากกก ก!!!

    “ฮ้า~ *O*” ได้ผล! เจ้าซอมบี้สลายตัวไปแล้ว เหลือแต่ไอ้ฝูงข้างล่างที่ตอนนี้กำลังมุ่งหน้ามายังฉัน ไม่ได้การแล้วเรียมเอ๋ย เธอจงรีบรี้ภัยวิ่งแจ้นขึ้นไปยังข้างบนเถิด

    ฉันพุ่งตัวขึ้นไปข้างบน รอบตัวเป็นตัวอาคารโล่งทุกสารทิศที่ดูเหมือนว่าจะยังสร้างไม่เสร็จเป็นแน่แท้ ฉันมองไปรอบตัวเพื่อหาทางหนีทีไล่ ทว่าฉันกลับมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความโล่งว่าง และฝูงซอมบี้ที่แห่กันขึ้นมาข้างบน

    หลวงพ่ออออ! Q[]Q อีกครั้งแน~ นะโมๆ พุทโธๆ สังโฆๆ อะรึยๆ ญายะญายะ ไปซะๆ เพี้ยงงงงง~

    ฉันเป่ายาวให้มันโดนทุกตัว และพวกมันก็สลายตัว...ไปแค่สาม แค่สามเนี่ยนะ! และดูสิ ดูไอ้ที่เหลือ T^T นี่มันแห่มาจากไหนกันบ้างฟะเนี่ย อ้าก! ขึ้นมาเต็มชั้นนี้แล้ว ที่ว่างแทบไม่มีเหลือนอกจากพื้นที่ด้านหลังฉันนี้ พวกมันแสยะยิ้มร้ายแลบลิ้นแผล่บอย่างน่าสยดสยอง พวกมันค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉันเพราะรู้ดีว่าฉันคงหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ใช่สิ! ถ้าฉันลอยได้คงบินกลับบ้านไปตั้งนานแล่ว T^T โอย ตายล่ะ ท่องคาถาของหลวงพ่อตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มันมาเยอะขนาดนี้แล้วฉันจะท่องยังไงไหว ฉันได้แต่ก้าวถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง พวกมันก็ก้าวเข้ามาหาฉันอย่างใจเย็น จนเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด พื้นที่ที่ถ้าฉันก้าวถอยหลังไปอีกแค่ก้าวเดียวก็คงต้องตกไปคอหักตายคาที่ล่ะค่ะ เพราะฉะนั้น...ฉันไม่ถอย! และเพราะคำตัดสินใจที่ผุดขึ้นมาในใจของฉันนั่นเอง จึงทำให้ในตอนนี้ ฉันต้องทนยืนขาสั่นพั่บๆๆ อยู่ตรงนั้น ระยะห่างระหว่าง ‘เรา’ มันใกล้กันมากเหลือเกิน

    “แฮ่~” ฉันหลับตาปี๋เมื่อไอ้ผีบ้ามันใกล้เข้ามามากจนระยะห่างของฉันกับมันเหลือแค่เพียงคืบ กลิ่นสาบคาวเลือดของพวกมันรายล้อมอยู่รอบตัวฉัน แหวะ! อี๊~ >_< ฉะ...ฉัน...วินาทีนี้ฉันคงไม่สามารถทำไรได้ดีไปกว่าการ...

    “หลวงพ่อออ อ!!! ช่วยหนูด้วยเด้อออ อ >[]<”


    เฮือก! O_O

    ฉันทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่ง เหงื่อที่ไหลอาบหน้าทำให้รู้สึกเย็นวาบเวลาโดนกระไอแอร์ ฉันนั่งหอบอยู่อย่างนั้น ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองก่อนจะตบหน้าแรงๆ

    เพียะ!

    จะ...เจ็บ! >_<

    “งั้นก็แสดงว่า...เมื่อกี้นี้...เราก็ฝันสิเนี่ย? โฮย =0= โล่งอก”

    ว่าแต่...ห้องฉันไม่มีแอร์นี่หว่า หา? -O- หะ...ห้องนี้ก็ไม่ใช่ห้องนอนของฉันด้วย! อ้าวเฮ้ย ฝันอะไรอีกเนี่ย!?

    แกร็ก

    ฉันสะบัดหน้าไปที่ประตูทันทีเมื่อได้ยินเสียงลูกบิดหมุน

    แอ๊ดดดดด

    ฉันเพ่งมองสิ่งที่กำลังก้าวเข้ามาด้วยความตื่นเต้น หากเมื่อใครคนนั้นที่กำลังจะย่างเข้ามาในห้องเงยหน้าขึ้นสบตากับฉันปิ๊งๆ ก็ทำเอาฉันถึงกับอ้าปากค้าง =[]= เบิกตากว้าง! O[]O ส่วนเขาก็ผงะไปด้วยความตกใจไม่แพ้กัน ฉันชี้มือสั่นๆ ไปที่เขาก่อนจะแหกปากลั่นห้องด้วยความตะลึงพรึงเพริด

    “พะ....พะ..พี่บริงค์!!!”

ทว่าไม่ทันที่ฉันจะตกใจไปมากกว่านี้ ความรู้สึกที่คล้ายๆ เหมือนกับว่าตัวเองหน้ามืดขึ้นมากะทันหันก็ทำให้ฉันเหมือนจิตดับวูบไปในทันที

    แว้บบบ บ~

    “เฮ้ยยย ย!!! ผีหลอกกก!!!”

    
     เฮือก! O_O

    ฉันเบิกตาโพลงขณะตัวยังคงนอนนิ่งอยู่ไม่ไหวติง ฉันเพ่งตามองเพดานด้านบน กลอกตามองซ้ายมองขวา สำรวจสิ่งรอบตัวให้แน่ใจว่าครั้งนี้คงไม่ใช่ตึกร้างมีซอมบี้ และก็ไม่ใช่ห้องนอนของพี่บริงค์ด้วย...

    เหอ พี่บริงค์!?

    ฉันทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่งกับเตียง ก่อนจะตบหน้าแรงๆ อีกครั้ง

    “โอ๊ะ โอ๊ย TOT” ฉันลูบหน้าตัวเองป้อยๆ พลันภาพใบหน้าของพี่บริงค์ก็ลอยเข้ามาในหัว ภาพที่พี่บริงค์กำลังเดินเข้ามาในห้อง เงยหน้าขึ้นสบตากับฉัน...กรี๊ดดดดดด! >[]< ทำไมช่างฝันดีเหลือเกินนะ เป็นฝันดีที่สุดในรอบสิบหกปีเลยนะเนี่ย กรี๊ดๆๆๆ >O< เมื่อถึงขีดสุดจนอดทนไม่ไหวฉันจึงได้กัดมือตัวเองพร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดๆๆ ให้มันดังอยู่แค่ในลำคอ เพราะมิฉะนั้น...ถ้าเกิดฉันแหกปากกรี๊ดลั่นห้อง มีหวังทั้งพ่อแม่และเพื่อนบ้านคงได้ยกโขยงขึ้นมาด่าฉันถึงในห้องแน่ เหอะๆ = =lll
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่