บทที่2 ทฤษฎีดาว

1. โดยรวมตลาดจะดูดซับเหตุการณ์ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าเกิดไฟไหม่ น้ำท่วมหริแหิมะถล่ม รับรองได้ถ้าไปดูหุ้นในวันพรุ่งนี้มันจะบอกคุณว่าวันนี้มีเหตุการณ์ดีหรือไม่ดี
2. แนวโน้ม(trend) มันก็เหมือนการไต่บันไดนั้นแหละ ถ้ายอกของมันอยู่สูงกว่ายอดเก่าและก้นบึ้งของมันก็อยู่สูงกว่า คุณมั่นใจได้เลยว่ามันคือขาขึ้นเพราะถ้าคุณเดินมันจะพาคุณขึ้น แล้วในทางกลับกัน
3. จังหวะ อันนี้ผมแบ่งมันออกเป็นสามจังหวะด้วยกัน
จังหวะแรกคือนักลงทุน เมื่อข่าวร้ายหมดสิ้น หมอกยังปกคลุมคนพวกนี้จะเข้าไปสร้างอาณาจักรของตัวเองเพราะมองเห็นอนาคตที่สดใส
จังหวะสองคือนักธุรกิจ เมื่อเขาเห็นอาณาจักรที่กำลังก่อสร้าง คนพวกนี้ไม่รอช้าที่จะเข้าไปก่อนที่จะสายไป
จังหวะสุดท้ายคือพนักงาน เขาเห็นทุกอย่างพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนทำงาน นั้นคือข่าวดีจะไหลออกมาไม่หยุดเหมือนหุ้นตัวนี้เป็นอาหารทิพย์ก็ไม่ปาน ผู้คนจะแห่กันมาไม่ขาดสาย แต่นักลงทุนย่อมรู้ดีว่าควรไปได้แล้วก่อนที่มันจะล่มลง
4. นัยแนวโน้ม เราอาจจะดูภาพร่วมถึงเศรฐกิจหรือแนวโน้มหลักของประเภทธุรกิจนั้น เหมือนกับคุณปล่อยน้ำไปตามท่อ อะไรที่อยู่ในทางจะถูกลากไปตามกระแสด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปเพราะหุ้นบางตัวมีประสิทธิภาพมากพอที่จะลากตัวเองไปได้ถึงแม้กลุ่มธุรกิจจะแย่
5. ปริมาณการซื้อขาย ถ้ามันยังเป็นของดีหรือแย่ คงจะมีคนมารุมซื้อหรือขายเหมือนของลดราคาวันปีใหม่จริงไหม แต่ถ้ามันไม่จริงอย่างที่เห็นจำนวนคนก็คงจะน้อย
6. จะมีสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้ไว้ไม่มีอะไรอยู่ได้ตลอดไป เพราะฉะนั้นเราควรมองหาแนวโน้มที่มันจะเปลี่ยนแปลงก่อนที่มันจะเกิด
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ https://www.facebook.com/pages/Investment-for-student/1519848498288167

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่