ทำบุญหาคนเป็น

คนเฒ่าเคยเล่าให้ฟังนานมาแล้ว
สมัยเมื่อแกยังเป็นเด็กอยู่ในหมู่บ้านเดิม
เป็นบ้านไร่ชายขอบ ห่างไกลความเจริญ
การทำมาหากินของคนยุคนั้น นอกจากทำไร่ทำนาแล้ว
ก็คงจะเป็นค้าขาย ทุนรอนน้อยก็ไปนั่งกาดขายของเล็กๆน้อย
ทุนมากหน่อยก็เปิดหน้าบ้านเป็นร้านของชำ
ที่ล่ำซำขึ้นมาดูเหมือนจะเป็นพ่อค้าวัวต่าง
ไม่ใช่แค่อำเภอจังหวัด แต่ข้าขายกันข้ามประเทศเลยทีเดียว
เส้นทางยอดฮิตคือเมืองพม่าไทยใหญ่ ขาไปเอาของทางนี้ไปขายทางโน้น
ขากลับก็เอาของทางโน้นมาขายทางนี้ รอนแรมออกบ้านแต่ละทีทั้งไปกลับก็กินเวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปี
หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นปีกว่าจะได้กลับมาหาลูกเมีย วันไหนได้ยินเสียงกระพรวนคอวัวดังโกร่งเกร่งระเบ็งเซ็งแซ่มาแต่ไกล
วันนั้นคือวันที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง

แม่เฒ่าว่า ยังมีครอบครัวหนึ่ง
สามีผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไปเป็นพ่อค้าวัวต่างนานหลายเดือนนักหนา
รอแล้วรอเล่าผ่านไปเป็นปีกว่าๆยังไม่เห็นกลับมาสักที
ฝ่ายภรรยาวิตกกังวล กลัวว่าจะมีเหตุอันตรายอันร้อนร้ายเกิดขึ้นกับสามีตน
จึงดั้นด้นไปหาปู่อาจารย์ให้ช่วยดูชะตาของสามี ฝ่ายอาจารย์เฒ่าผู้มีวิชาก็บวกลบคูณหารตกห้องนับเลขตามตำรา ได้คำทำนายออกมาว่า

"อันสามีแห่งสูเจ้านั้น ดวงมันหัวตกขุมไปแล้ว อาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้"

เมื่อได้ยินดังนั้นจึงร้องห่มร้องไห้ ดูจากเวลาที่จากบ้านไป เป็นไปได้มากเหลือเกิน ที่จะเป็นดังพ่ออาจารย์ว่า
กลับมาปรึกษากับญาติพี่น้องว่า ไม่ว่าจะยังอยู่หรือตายไปแล้ว ฝ่ายนี้จะขอขอทำบุญอุทิศส่วนกุสลไปให้ตามประเพณี

ถึงวันทำบุญก็มีการทอดข้าวแคบข้าวแต๋น อาหารคาวหวาน ผลหมากรากไม้อันพอหาได้ตามกำลัง
เมื่อแต่งดาเสร็จเรียบร้อย ก็จัดแจงยกทานถวายพระแล้วหยาดน้ำตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลแก่สามีผู้สาปสูญ
น้ำหยาดตกลงบนแผ่นดินแผ่นหญ้า น้ำตานางก็ไหลอาบหน้าเพราะความคิดถึงผู้เป็นสามีปานจะอกแตกตาย

หลังทำบุญได้เพียงไม่นาน ขบวนวัวต่างที่ลือกันว่าสูญหายหรือตายไปแล้วก็กลับมาบ้านอีกครั้ง
ทั้งลูกและภรรยาได้เห็นหน้าพ่อหน้าผัวก็ดีใจเหมือนเกิดใหม่ อยากจะถามไถ่สักร้อยข้อพันข้อว่าไปตกระกำลำบากอย่างไรมาบ้าง
แต่ก็พูดไม่ออกเพราะก้อนปีติดีใจมันจุกอก จึงกลายเป็นร้องโฮๆแทน
ฝ่ายสามีก็ต้องตอบคำถามเพื่อนญาติพี่น้องเป็นพัลวัน แต่ยังไม่มีใครเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ทำบุญไปหา จนมาถึงตอนหนึ่งแกเล่าเองว่า

"แปลกเหมือนกันเน่อสู เมื่อข้าข้ามจากฝั่งพม่าเข้ามาได้ไม่ไกล ก็พักขบวนกันที่ห้วยให้วัวได้กินน้ำ กำลังนั่งอยู่ดีๆ ก็ได้กลิ่นข้าวแคบข้าวแต๋น กลิ่นไก่ต้มหมูต้ม อย่างกับมีใครมาจัดงานทำบุญ ถามคนใดก็ว่าบ่ได้กลิ่น มีแต่ข้าได้กลิ่นอยู่คนเดียว งานบุญที่ไหนจะมีกลางป่า มันแปลกๆแท้ๆเน่อสู"

เรื่องนี้เป็นที่ร่ำลือกันใหญ่โต แม่อุ๊ยได้ยินตั้งแต่เป็นเด็กน้อย จนถึงพ.ศ.นี้ ก็ยังว่าแปลกดีแท้ๆ
ทำบุญหาคนเป็น เจ้าตัวยังไม่ตาย แต่ก็รับรู้ได้น่าอัศจรรย์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่