หลายๆคนที่เป็นสาวกร้านบู๊ทส์น่าจะเคยเห็นแบรนด์ JEVAH (เจวา) มาแล้วบ้างล่ะ เพราะตอนเดินเข้าร้านไปกลิ่นหอมอ่อนๆสดชื่นๆจะโชยมาแตะจมูกแต่ไกล เป็นกลิ่นที่น่าประทับใจมากสำหรับเราจนต้องเหลียวหลังไปดูว่าแบรนด์อะไร
ก็เลยได้รู้จักแบรนด์สปาน้องใหม่เจวาเข้าให้ค่ะ ราคาโอเค ในราคาไม่แพง (แต่ก็ไม่ได้ถูกนะ) ซึ่งถ้าคนที่ชอบสินค้าพวกสปาก็คงคิดว่าไม่แพง เราก็ว่าไม่แพงเหมือนกันค่ะ
ว่าแล้วก็จัดมา 4 อย่าง ได้ใช้แล้วชอบมาก จะขอมารีวิวเล็กๆให้อ่านกันค่ะ กลิ่นที่เราเลือกซื้อมาคือกลิ่นมะลินะคะ (จริงๆแล้วมีทั้งหมด 3 กลิ่นคือกลิ่นกุหลาบแล้วก็กลิ่น Beach Bum ไม่รู้จะเรียกเป็นไทยว่าอะไรดี แต่กลิ่นจะออกแนวหอมหวานคล้ายขนมค่ะ)
ตัวแรกที่ชอบมากที่สุดเลยก็คือสครับค่ะ เนื้อมูสอ่อนนุ่มมาก เม็ดสครับละเอียดเล็กไม่บาดไม่ครูดผิว หลังทาถูทาถูลงไปที่ผิวจะรู้สึกนุ่มสบาย วิธีใช้บอกว่าหลังจากสครับแล้วทิ้งไว้บนผิวเป็นมาส์กบำรุงต่อ 5 นาทีแล้วค่อยล้างออก เลยลองทำตาม หลังล้างออกแล้วผิวนุ่มชุ่มชื่นมากๆ เหมือนทาครีมบำรุง แล้วกลิ่นหอมติดทนนานมากๆ แต่ไม่ฉุนค่ะ ค่าเสียหาย 890 บาท ขนาด 150ml. ใหญ่ใช้ได้นานพอตัว
เทียนหอมกลิ่นมะลิค่ะ ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ปลื้มมาก จุดแล้วหอมกระจาย ไม่ฉุนอีกเช่นกัน เนื้อเทียนหลอมละลายช้านะ ทำให้รู้สึกว่ามันน่าจะจุดได้นาน (โดยส่วนตัวรู้สึกแบบนั้นค่ะ) กลิ่นมันสดชื่นเหมือนดอกมะลิสด พอดับตัวเทียนแล้วกลิ่นก็ยังอวลอยู่ในห้องได้อีกนานพอสมควรเลย เคยแอบทดลองจุดแล้วเอาไปตั้งไว้ในห้องน้ำค่ะ เรากับแม่สังเกตว่ามันช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น
ชิ้นที่ 3 คือ reed หรือก้านหอมค่ะ ต้องบอกเลยว่าหอมมากจริงๆ หอมแบบผู้ดีมีชาติตระกูลค่ะ ไม่ฉุน กลิ่นลอยละล่องได้นาน เหมือนกลิ่นละมุนของดอกมะลิสด ใครที่ไม่ชอบน้ำหอมปรับอากาศเพราะเวียนหัว แนะนำให้ลองตัวนี้ค่ะ มันหอมรัญจวนใจจริงๆ เรามีไว้สองขวด ในห้องน้ำขวดหนึ่งคู่กับเทียน อีกขวดนึงไว้ในห้องนอน จะได้หอมๆ หลับสบายค่ะ
ตัวสุดท้ายที่ชอบมากๆ ตอนลองเลยจัดมาสองหลอดค่ะ คือแฮนด์ครีม เนื้อมันนุ่มละมุมบางเบามาก ซึมไว ออกมันๆนิดๆแต่สักพักก็ซึมเข้าผิวค่ะ กลิ่นนี่หอม ทามือไป ดมไป สดชื่นมากมาย หลอดน้ำหนักเบา พกพาง่าย แล้วก็ฝาปิดแน่นดี มั่นใจได้เลยว่าไม่หกเลอะเทอะ ราคาหลอดละ 350 ค่ะ
สำหรับแบรนด์นี้ ข้อดีมากๆที่เราสังเกตได้ทันทีที่ใช้คือกลิ่นหอมที่ติดทนนานมากๆค่ะ เหงื่อออกกลิ่นก็ไม่เพี้ยนนะ เราว่าเหมาะมากๆกับคนที่ชอบกลิ่นหอม แต่ไม่ชอบฉีดน้ำหอมเพราะฉุนไปหรือทำให้ปวดหัว เราว่าลองเจวาที่เป็นพวกบอดี้โลชั่นกับตัวอาบน้ำก็น่าจะดีค่ะ เพราะเรากะว่าจะไปสอยมาเพิ่มเหมือนกัน แค่ตัวสครับที่ละลายไปกับผิวนี่ก็กินขาดแล้วอ่ะ ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้นะคะ เราลองแล้วโอเค ไม่ระคายเคืองค่ะ เพราะเค้าเคลมว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ก็น่าจะปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีอยู่มากโข
ข้อดีของไอเท่มแต่ละชิ้นคือส่วนผสมของเค้าค่ะ เค้าคัดสรรมาอย่างดีให้เหมาะกับการใช้งาน ไม่ใช่แค่เพื่อความหอมเท่านั้นนะคะ แต่เพื่อปรนนิบัติและเยียวยาร่างกายอย่างแท้จริงค่ะ เช่น มะลิ : ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ / ช่วยให้นอนหลับสนิท ดอกบัว : ให้ผิวสะอาด บริสุทธิ์ / ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ดอกกล้วยไม้: ช่วยลดความตึงเครียด / กระตุ้นสมดุลของร่างกาย น้ำมันรำข้าวออแกนิก : ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น / ลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวจากแสดงแดด จะเห็นว่าส่วนผสมต่างๆเป็นมากกว่าการนำมารวมกันเพื่อให้มีกลิ่นหอมค่ะ เลยทำให้แบรนด์นี้ดูมีคุณค่าต่อทั้งร่างกายและจิตใจ คนซื้อ คนใช้ได้ถึงสองเด้ง ส่วนกลิ่นอื่นๆ สามารถถามพนักงานขายได้นะคะ ถ้าอยากรู้ว่าช่วยในเรื่องของอะไรได้บ้าง
ขอจบรีวิวเล็กๆกับแบรนด์ใหม่ที่ได้ใจเราไปตลอดนี้ หอมละมุน ติดตัว แตะจมูกมากๆ ใครสนใจลองแวะไปดูไปลองเทสต์ดูได้ที่ร้าน Boots นะคะ รู้สึกว่าจะมีจำหน่ายเฉพาะที่สาขาใหญ่ๆค่ะ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดเลย
[CR] เห่อของใหม่กับไอเท่มเด็ด JEVAH
ก็เลยได้รู้จักแบรนด์สปาน้องใหม่เจวาเข้าให้ค่ะ ราคาโอเค ในราคาไม่แพง (แต่ก็ไม่ได้ถูกนะ) ซึ่งถ้าคนที่ชอบสินค้าพวกสปาก็คงคิดว่าไม่แพง เราก็ว่าไม่แพงเหมือนกันค่ะ
ว่าแล้วก็จัดมา 4 อย่าง ได้ใช้แล้วชอบมาก จะขอมารีวิวเล็กๆให้อ่านกันค่ะ กลิ่นที่เราเลือกซื้อมาคือกลิ่นมะลินะคะ (จริงๆแล้วมีทั้งหมด 3 กลิ่นคือกลิ่นกุหลาบแล้วก็กลิ่น Beach Bum ไม่รู้จะเรียกเป็นไทยว่าอะไรดี แต่กลิ่นจะออกแนวหอมหวานคล้ายขนมค่ะ)
ตัวแรกที่ชอบมากที่สุดเลยก็คือสครับค่ะ เนื้อมูสอ่อนนุ่มมาก เม็ดสครับละเอียดเล็กไม่บาดไม่ครูดผิว หลังทาถูทาถูลงไปที่ผิวจะรู้สึกนุ่มสบาย วิธีใช้บอกว่าหลังจากสครับแล้วทิ้งไว้บนผิวเป็นมาส์กบำรุงต่อ 5 นาทีแล้วค่อยล้างออก เลยลองทำตาม หลังล้างออกแล้วผิวนุ่มชุ่มชื่นมากๆ เหมือนทาครีมบำรุง แล้วกลิ่นหอมติดทนนานมากๆ แต่ไม่ฉุนค่ะ ค่าเสียหาย 890 บาท ขนาด 150ml. ใหญ่ใช้ได้นานพอตัว
เทียนหอมกลิ่นมะลิค่ะ ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ปลื้มมาก จุดแล้วหอมกระจาย ไม่ฉุนอีกเช่นกัน เนื้อเทียนหลอมละลายช้านะ ทำให้รู้สึกว่ามันน่าจะจุดได้นาน (โดยส่วนตัวรู้สึกแบบนั้นค่ะ) กลิ่นมันสดชื่นเหมือนดอกมะลิสด พอดับตัวเทียนแล้วกลิ่นก็ยังอวลอยู่ในห้องได้อีกนานพอสมควรเลย เคยแอบทดลองจุดแล้วเอาไปตั้งไว้ในห้องน้ำค่ะ เรากับแม่สังเกตว่ามันช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น
ชิ้นที่ 3 คือ reed หรือก้านหอมค่ะ ต้องบอกเลยว่าหอมมากจริงๆ หอมแบบผู้ดีมีชาติตระกูลค่ะ ไม่ฉุน กลิ่นลอยละล่องได้นาน เหมือนกลิ่นละมุนของดอกมะลิสด ใครที่ไม่ชอบน้ำหอมปรับอากาศเพราะเวียนหัว แนะนำให้ลองตัวนี้ค่ะ มันหอมรัญจวนใจจริงๆ เรามีไว้สองขวด ในห้องน้ำขวดหนึ่งคู่กับเทียน อีกขวดนึงไว้ในห้องนอน จะได้หอมๆ หลับสบายค่ะ
ตัวสุดท้ายที่ชอบมากๆ ตอนลองเลยจัดมาสองหลอดค่ะ คือแฮนด์ครีม เนื้อมันนุ่มละมุมบางเบามาก ซึมไว ออกมันๆนิดๆแต่สักพักก็ซึมเข้าผิวค่ะ กลิ่นนี่หอม ทามือไป ดมไป สดชื่นมากมาย หลอดน้ำหนักเบา พกพาง่าย แล้วก็ฝาปิดแน่นดี มั่นใจได้เลยว่าไม่หกเลอะเทอะ ราคาหลอดละ 350 ค่ะ
สำหรับแบรนด์นี้ ข้อดีมากๆที่เราสังเกตได้ทันทีที่ใช้คือกลิ่นหอมที่ติดทนนานมากๆค่ะ เหงื่อออกกลิ่นก็ไม่เพี้ยนนะ เราว่าเหมาะมากๆกับคนที่ชอบกลิ่นหอม แต่ไม่ชอบฉีดน้ำหอมเพราะฉุนไปหรือทำให้ปวดหัว เราว่าลองเจวาที่เป็นพวกบอดี้โลชั่นกับตัวอาบน้ำก็น่าจะดีค่ะ เพราะเรากะว่าจะไปสอยมาเพิ่มเหมือนกัน แค่ตัวสครับที่ละลายไปกับผิวนี่ก็กินขาดแล้วอ่ะ ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้นะคะ เราลองแล้วโอเค ไม่ระคายเคืองค่ะ เพราะเค้าเคลมว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ก็น่าจะปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีอยู่มากโข
ข้อดีของไอเท่มแต่ละชิ้นคือส่วนผสมของเค้าค่ะ เค้าคัดสรรมาอย่างดีให้เหมาะกับการใช้งาน ไม่ใช่แค่เพื่อความหอมเท่านั้นนะคะ แต่เพื่อปรนนิบัติและเยียวยาร่างกายอย่างแท้จริงค่ะ เช่น มะลิ : ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ / ช่วยให้นอนหลับสนิท ดอกบัว : ให้ผิวสะอาด บริสุทธิ์ / ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ดอกกล้วยไม้: ช่วยลดความตึงเครียด / กระตุ้นสมดุลของร่างกาย น้ำมันรำข้าวออแกนิก : ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น / ลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวจากแสดงแดด จะเห็นว่าส่วนผสมต่างๆเป็นมากกว่าการนำมารวมกันเพื่อให้มีกลิ่นหอมค่ะ เลยทำให้แบรนด์นี้ดูมีคุณค่าต่อทั้งร่างกายและจิตใจ คนซื้อ คนใช้ได้ถึงสองเด้ง ส่วนกลิ่นอื่นๆ สามารถถามพนักงานขายได้นะคะ ถ้าอยากรู้ว่าช่วยในเรื่องของอะไรได้บ้าง
ขอจบรีวิวเล็กๆกับแบรนด์ใหม่ที่ได้ใจเราไปตลอดนี้ หอมละมุน ติดตัว แตะจมูกมากๆ ใครสนใจลองแวะไปดูไปลองเทสต์ดูได้ที่ร้าน Boots นะคะ รู้สึกว่าจะมีจำหน่ายเฉพาะที่สาขาใหญ่ๆค่ะ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดเลย