สุขที่สุด ทุกข์ที่สุด (ทางเลือกท้องไม่พร้อมไม่ทำแท้ง)

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราได้สมัครไอดีใหม่ในพันทิปขึ้นมาเพื่อโพสต์กระทู้นี้โดยเฉพาะเพราะอยากจะเล่าเรื่องราวที่ได้ประสบมาเมื่อไม่นานมานี้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่หลายๆท่านที่กำลังเจอปัญหา "ท้องไม่พร้อม" ขึ้นชื่อว่าไม่พร้อมแนนอนวืาไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วจะแก้อย่างไรโดยไม่ทำแท้ง บอกไว้ก่อนว่าวิธีของเราไม่ใช่วิธีทีที่ถูกต้องที่สุดและไม่ใช่วิธีที่ทำให้มีความสุขที่สุดกลับกันมันอาจจะเป็นวิธีที่ทำให้ทุกข์ไปตลอดชีวิต ทุกข์ยังไงลองอ่านดูค่ะ
               เรื่องของเรามันเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาปี 57 เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งทางไลน์ ตอนนั้นคิดแค่ว่าคบแก้เหงาเพราะเรากำลังพยามจะดึงตัวออกห่างจากผู้ชายอีกคนที่คบด้วยก่อนหน้านี้ด้วยสาเหตุว่าเขาโกหกเราว่าไม่มีใครแต่ความจริงเขาแต่วงานจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้วและที่สำคัญภรรยาเขากำลังตั้งครรภ์
               ช่วงแรกผู้ชายคนนี้ดีกับเรามากพาไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่เอาใจต่างๆนานาและที่สำคัญเขาพาเราไปแนะนำตัวกับที่บ้านยิ่งทำให้เรารู้สึกพิเศษเข้าไปอีก (มารู้ทีหลังว่ามันพาไปบ้านทุกคน) คบกันลแค่ไม่นานเราก็ยอมมีอะไรกับเขาจนกระทั่งวันที่ 9 เมษาเราสงสัยแปลกๆว่าทำไมเดือนนั้นประจำเดือนถึงมาน้อยเลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ 2 ขีดชัดเจนแบบไม่ต้องเพ่งเล็งแต่ใจก็ยังหวังในมราตรวจผิดพลาดจึงไปซื้อมาอีกสองอันปรากฏว่าขึ้นสองขีดทุกอัน เราโทรบอกเขาคำแรกที่หลุดจากปากเขาคือ "แล้วแต่เธอสิลูกเธอไม่ใช่ลูกฉันเอาไงก็แล้วแต่เธอ" จุกค่ะ ร้องไห้ตั้งแต่บ่ายถึงตีสองจนง่วงหลับไปตื่นเช้ามาก็ยังร้องไห้จนเขาเริ่มบ่นว่าคุยกับเราไม่มีความสุขเพราะเราเอาแต่ร้องไห้(ท้องแฟนไม่รับผิดชอบใครมันจะหัวเราะได้ว๊ะ) เขากล่อมให้เราเอาออกบอกว่ายังไม่พร้อมห่วงอนาคตเราเขาเป็นทหารที่กำลังจะรับราชการส่วนเราแค่นักศึกษา
                เขาพาเราไปแท้งที่คลินิกดังแห่งหนึ่งย่านธุรกิจในกรุงเทพถ้าบอกชื่อทุกคนต้องรู้จักดีแน่ๆ ทันทีที่เข้าไปถึงเจ้าหน้าที่ถามว่ากี่สัปดาห์แล้วถามแบบรู้งานมาก ที่นั่นคนเยอะมากมีทั้งคนไทยและต่างชาติมีเด็กอายุสิบห้าสิบหกจนถึงผู้ใหญ่อายุสี่สิบกว่าๆ กรอกประวัติเสร็จเจ้าหน้าที่พาเราไปห้องอัลตร้าซาวด์แน่นอนเขาไม่ให้เราเห็นหน้าจอเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็เขียนอะไรสักอย่างลงกระดาษแล้วยื่นให้เราเพื่อไปยื่นอีกห้องซึ่งเราเดาว่าน่าจะเป็นอายุครรภ์ เราเดินเข้าไปอีกห้องเพื่อไปคุยกับหมอที่จะทำแท้งให้ คุณหมออธิบายถึงวิธีการฆ่าลูกในท้องของเราโดยมีแค่ยาแก้ปวดประจำเดือนเพียงเม็ดเดียวให้ทานเพื่อบรรเทาปวด หมอเห็นท่าทางเราไม่มั่นใจว่าจะทำดีมั้ยเขาเลยยื่นข้อเสนอว่าให้เราไปปรึกษาแฟนก่อนเราตอบตกลงทันที
                ออกจากห้องหมอเราโกหกแฟนว่าอายุครรภ์น้อยเกินไปหมอยังไม่ทำให้คิดในใจอย่างน้อยก็ต่อเวลาได้อีกนิดเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ หลังจากกลับมาจากคลินิกเขาก็ยังพยามคุยเรื่องนี้กับเขาอยู่เรื่อยๆแต่คำตอบของเขาก็ยังเหมือนเดิมคือถ้าเลือกลูกก็ต้องไม่มีเขา ช่วงนั้นเราร้องไห้หนักมากร้องจนเช้าทุกวัน อยู่หอคนเดียวไม่กล้าบอกแม่เพราะรู้ว่าแม่รับไม่ได้ เราเป็นลูกคนเดียวแม่เลี้ยงเรามาเพียงลำพังตั้งแต่เล็กเพราะพ่อเราเสียตั้งแต่เราได้สี่ขวบท่านเลยตั้งความหวังกับเราไว้มากวางอนาคตไว้ให้หมดเงินทุกบาทเหงื่อทุกหยดท่านทำเพื่อเราแต่เราก็เลวที่ทรยศแม่ พ่อของลูกเรานับวันยิ่งออกห่างเราเรื่อยๆด่าทอหยาบคายต่างๆนานาเห็นค่าเรากับน้อยกว่าหมาข้างถนนจนเราทนไม่ไหวเลยเข้าไปคุยกับแม่เขาที่บ้านเพราะคิดว่าผู้ใหญ่คงช่วยหาทางออกให้ได้แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย พูดแค่ว่า"แล้วจะให้แม่ทำยังไง" ไม่บอกให้ทำแท้งอต่ก็ไม่รับผิดชอบทำให้เรามีความคิดที่จะทำแท้งอีกครั้งเราเลือกวิธีหาซื้อยาสอดจากอินเตอร์เนต เงินจำนวนสี่พันเราได้ยามาแปดเม็ดพอได้ยามาจริงๆเราก็ไม่กล้าทำคิดแล้วขำในความโง่ของตัวเองทุกวันนี้ยานั่นเรายังไม่ทิ้งเลยเก็บไว้ดูเป็นอนุสรแห่งความโง่
                เรื่องแย่ๆระหว่างเรากับพ่อของลูกมีเข้ามาเรื่อยๆเจ็บปวดมากจนเราไม่อยากคิดถึงหลายครั้งเราแคปหน้าจอไลน์ที่เขาส่งมาด่าเราเอาไว้แต่มือถือเครื่องนั้นพังเลยอดเอารูปที่เขาด่าเรามาอวดให้ทุกคนดู 5555 มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราจำไม่ลืมคือประมาณห้าทุ่มมีสายแฟนโทรเข้าเรารับด้วยความดีใจเพราะคิดว่าเขาจะมาหาแต่เปล่าเลย ปลายสายกลับเป็นเสียงผู้หญิงพูด ด่าทอเราหยาบคายว่าไปยุ่งกับแฟนนางทำไมคำที่จำได้ขึ้นใจคือนางบอกเราว่าอยากได้พ่อของลูกก็ไปหาผัวใหม่ เจ็บมากไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพียงเพราะผู้ชายชั่วๆคนเดียวทำให้ผู้หญิงด้วยกันทำร้ายกันเองได้มากขนาดนี้
                ผ่านเหตุการณ์คืนนั้นมาเราก็เศร้าอยู่สักพักใหญ่ๆจนเริ่มคิดหาหนทางรอดให้ชีวิตน้อยๆในท้องเรา ทำยังไงก็ได้ให้เขามีความสุขที่สุดโดยที่เราก็ยังเก็บความลับต่อไป เราเริ่มเซิร์ทในกูเกิลด้วยคีเวิร์ดว่า "รับอุปการะบุตร" จนเจอเวปหนึ่งที่มีหลายคนมาโพสต์หารับเลี้ยงเด็กทิ้งไว้ เราโพสต์ไอดีไลน์ทิ้งไว้มีคนแอดกลับเยอะมากจนเจอพี่คนหนึ่งที่เรารู้สึกถูกชะตาด้วย พี่คนนั้นยื่นข้อเสนอจะรับเลี้ยงลูกของเราโดยให้เราโอนลูกเป็นบุตรบุญธรรมแก่เขา เรารับข้อเสนอทันทีเพราะด้วยเหตุผลเรื่องฐานะทางบ้านและเรายังเรียนไม่จบเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่จะเลี้ยงลูกให้ดีได้ ทุกอาทิตย์แม่ให้เงินเราไว้ใช้อาทิตย์ละหนึ่งพันบาท เงินจำนวนนี้เราต้องแบ่งไว้ซื้อข้าวซื้อของกินบำรุงเจ้าตัวน้อยและค่าฝากครรภ์ในแต่ละเดือน เจ็ดเดือนที่เราอยู่แต่หอไม่ได้เจอหน้าไม่ไม่ได้เจอครอบครัว ทุกๆวันเราต้องอุ้มท้องเดินต้วมเตี้ยมๆออกไปซื้อของกินหน้าปากซอยซึ่งอยู่ห่างจากหอพักประมาณหนึ่งกิโลเมตรจนเป็นที่คุ้นตาของคนแถวนั้น จนกระทั่งอายุครรภ์ครบ 38 สัปดาห์เราเลยเอ่ยปากขอหมอผ่าคลอดเพราะกำหนดสถานการณ์ได้ดีกว่าเพราะเราอยู่คนเดียว วันคลอดเราเก็บข้าวของนั่งแท็กซี่ไปคลอดเองที่โรงพยาบาลโทรบอกพี่คนนั้นให้มาจากต่างจังหวัดเพื่อมารับเรากับลูก
                เหตุการณ์ในห้องผ่าตัดเป็นไปด้วยดีเว้นเสียแต่เราแพ้ยาบล็อกหลังทำให้อ้วกตลอดเวลาและแน่นอกหายใจไม่ออก ออกจากห้องผ่าตัดเราได้ยินเสียงพยาบาลคุยคร่าวๆว่ามีคนโทรมาถามอาการเรากับลูกว่าปลอดภัยดีมั้ยซึ่งทำให้เราซึ้งใจมากเพราะตั้งแต่ท้องมาไม่เคยมีใครถามแสดงความเป็นเป็นใยเรา
               นาทีแรกที่เห็นหน้าลูกรู้โดยสัญชาตญาณทันทีว่าเด็กคนนี้แม้แต่ชีวิตเราก็ให้ได้ เขาน่ารักมากกก หน้าเหมือนเราครึ่งหนึ่งเหมือนพ่อเขาครึ่งหนึ่ง เรากอดเขาไว้แน่นน้ำตาไหลดีใจที่อดทนจนมาถึงวันนี้ได้กอดได้หอมเขาแต่ในใจลึกๆก็เจ็บปวดเพราะรู้ว่าอีกไม่กี่วันก็ต้องห่างจากลูกแล้ว อยากให้แม่เราได้เห็นหน้าหลานแต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะเราขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับความจริง ทุกคนที่อ่านอยู่นี้อาจจะคิดว่าเราก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้นที่ทอดทิ้งลูกของตัวเองแต่ขอให้เข้าใจในมุมของเราว่าเราไม่อยากทำลายความหวังของแม่ยิ่งมีลูกยิ่งรับรู้ว่าแม่รักเรามากขนาไหน เรามองดูใบเกิดลูกอย่างปลื้มใจที่อย่างน้องเขาได้ใช้ได้นามสกุลร่วมกับเราถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วันก็เถอะ
              วันที่ไปเซ็นต์โอนลูกความรู้สึกเราเหมือนถูกควักหัวใจออกจากอก รู้ว่าต่อจากนี้ต้องห่างจากลูกแล้วหัวใจมันแทบสลาย เราโพสต์รูปลูกลงไลน์เพื่อระบายความรักที่มีต่อลูกเพราะโพสต์ลงเฟสไม่ได้กลัวญาติเห็น ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกเราตอบกลับมาว่า "หน้าเหมือนกูก็ดีจะได้จำกูได้" เจ็บปวดมากทำไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ ถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ทำไมต้องถูกทำร้ายขนาดนี้
             ตอนนี้เรื่องราวนี้ได้ผ่านมาสักระยะหนึ่งเหมือนจะทำใจได้แต่ไม่มีวันไหนที่ไม่ร้องไห้คิดถึงลูก อยากเล่าเรื่องราวเหล่านี้เพื่อไว้เป็นทางเลือกกับคนที่คิดจะทำแท้งถึงไม่ได้เลี้ยงเขาเองแต่อย่างน้อยคุณก็ไม่ทำลายชีวิตเขา
            สุดท้ายนี้เราอยากขอบคุณทุกๆอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ขอบคุณทุกความทรงจำ อยากขอบคุณผู้ชายคนนั้นจากใจขอบคุณที่ทำให้เราได้เจอเทวดาตัวน้อยๆขอบคุณที่ทำให้เจอสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตขอบคุณจริงๆ...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่