เราไม่รู้ว่าเราควรต้องทำยังไง

เรื่องเกิดขึ้นวันนี้ขณะที่เราเดินอยู่แถวท่าพระจันทร์เวลาประมาณ 11:40 มีผู้หญิงแต่งตัวภูมิฐานคนนึงวิ่งหน้าตื่นมาขอความช่วยเหลือจากเรา

เค้าดูรีบมาก เค้าเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเค้าให้เราฟังอย่างเร็ว เร็วมากๆ จนเราฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง พอจะจับใจความได้ว่า

เค้าเป็นอาจารย์ฝึกหัดอยู่ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี สอนบัญชีอยู่ และต้องการจะไปที่ไหนซักที่ อะไรกาชาดอยุธยา ซักอย่างนึง

เพราะเค้าได้ลืมกระเป๋าเอกสารและเงิน 20,000 บาทไว้ที่นั่น เค้านั่งTAXIออกมาจากที่นั่น กว่าจะรู้ตัวว่าลืมเอกสารและเงินคือตอนลงจากแท๊กซี่

เค้าไม่มีตังจ่ายค่าแท๊กซี่และได้มีปากเสียงกับแท็กซี่ เผอิญมีพี่ทหารผ่านมาแล้วช่วยค่าแท๊กซี่เค้าไว้ เค้าได้ติดต่อกลับไปบอกทางนู้นแล้ว

แต่ ณ เวลานั้นเค้าบอกว่าเค้าต้องเข้าประชุมให้ทันก่อนบ่ายโมงครึ่งที่อยุธยา เค้าต้องการเงินค่าแท็กซี่เพราะว่าเป็นทางเดียวที่จะไปได้เร็วที่สุดจากจุดนั้น(ซึ่งเป็นเรื่องจริงค่ะเพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีรถเลย)

เค้าบอกว่าถ้าไม่เชื่อให้นั่งรถไปกับเค้าก็ได้ เค้าไม่ได้โกหก แต่คือเรามีเรียนตอนบ่ายโมงจะให้ไปกับเค้าเลยมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว

เราเห็นใจเค้ามากเพราะเค้าดูไม่ใช่คนไม่ดีแต่เวลานั้นบอกเลยว่าเราก็กลัวว่าพี่เค้าจะเป็นมิจฉาชีพรึเปล่า แต่เค้าน่าสงสารมาก พูดไปร้องไห้ไป

ท่าทีเหมือนจะเป็นลมตลอดเวลา เราเองก็ด้วยความตกใจ เราเชื่อเค้าหมดทุกอย่าง จะว่าโง่ก็ได้ เราถามเค้าไปว่าค่าแท๊กซี่เท่าไหร่จากที่เค้านั่งมา

เค้าบอกว่าประมาณเจ็ดร้อยกว่าบาท และบอกว่าถ้าไปถึงที่นู่นจะคืนเงินให้เราเป็นสองเท่าเลยก็ได้ แต่เราไม่ได้หวังในเงินสองเท่าตรงนั้น

เราบอกเค้าไปแค่ว่าไม่เป็นไรค่ะพี่ แต่ตอนนี้ไม่มีตังแต่จะช่วยเหลือเค้าคือจะไปกดตังให้ เค้าบอกเราว่าประมาณพันห้าค่ะน้อง

เราก็กดให้พี่เค้าไปเลยค่ะ 1,500 ตอนแรกเราว่าจะกดแค่พันเดียวให้พี่เค้า เพราะคิดว่าไหนว่าค่ารถเจ็ดร้อยไง พันเดียวก็น่าจะพอ

แต่ก็เอาวะ ไหนๆจะช่วยเค้าแล้วก็อย่าคิดเยอะเลย คือท่าทีเค้าดูน่าช่วยเหลือมากๆ แบบเดือดร้อนจริงๆ

แล้วเราก็ได้แลกเปลี่ยนเบอร์กันค่ะ เค้าได้ให้ชื่อจริงกับนามสกุลและเบอร์โทรมา และขอเบอร์กับชื่อเล่นเราไป

ซึ่งตอนนั้นเราก็อุ่นใจขึ้นระดับนึงว่าเค้าก็ทำงานกับองค์กรที่มีชื่อ แล้วก็ให้ชื่อนามสกุลมา ก็น่าจะตามหากันได้ไม่ยาก

เราอยู่ส่งเค้าขึ้นTAXIเลยค่ะ เค้าก็หันมาขอบคุณเรา แล้วบอกว่าสี่โมงครึ่งนะคะ ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าเค้าหมายความว่าเวลานี้จะติดต่อมา

หรือมาเจอกันตรงนี้ หรือยังไง ซึ่งเราก็โง่ด้วยที่ไม่ได้ถามเค้ามัวแต่ตกใจอยู่ได้ พอรถเคลื่อนออกไปเราก็เดินต่อไปแบบงงๆ

ในใจคิดว่ามันดีแล้วหรอวะเนี่ย ทำแบบนี้ หาเงินเองยังไม่ได้เลย แล้วเอาเงินไปให้ใครก็ไม่รู้ตั้งพันห้า

พอสี่โมงครึ่ง เรายังเรียนอยู่เพราะอาจารย์ปล่อยช้า ล่วงมาถึงห้าโมง คือเราไม่คิดว่าเค้าจะมารอเราที่จุดเดิมที่เจอกันตอนนั้นแล้ว

แต่คิดว่าเค้าก็น่าจะติดต่อมาถ้าคิดว่าต้องคืนเงินและรู้สึกขอบคุณเรา ไม่มีการติดต่อมาค่ะ.. เราก็คิด เอาแล้วไง อยู่ดีไม่ว่าดี

ประเด็นคือเราเป็นคนให้ตังเค้าไปเอง ซึ่งถ้าตอนนั้นเราไม่ให้เค้าก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดีคงมีแต่เราที่รู้สึกผิดและเค้าจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่ดี

เราก็เลยโทรไปตามเบอร์ที่เค้าให้มาปรากฏว่ามันโทรไม่ได้บอกว่าเบอร์นี้ยังไม่เปิดให้บริการ คราวนี้พอจะเห็นเขาของตัวเองแล้วค่ะ

เราเลยเอาชื่อเค้าไปเสิร์ชหาดู คือหาไม่พบเลยไม่ว่าจะภาษาไทยภาษาอังกฤษ หารายชื่อบุคลากรในเว็บมหาลัย ต่างๆนาๆ

ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราควรทำยังไงดี เริ่มจะบอกตัวเองแล้วว่าคิดซะว่าเอาเงินซื้อคนๆนึง ได้แต่คิดว่าทำไมเรามันโง่อย่างนี้

คือเราไม่กล้าเล่าให้พ่อกับแม่ฟังด้วย แล้วตอนนี้ไม่รู้ว่าควรทำยังไงค่ะ เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นมันเร็วมาก เราคิดอะไรไม่ทันเลย

เพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี คิดได้แค่รอยนิ้วมือบนกระดาษที่เค้าจดเบอร์ให้เรา ฮืออ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่