ตะลึงราคา GS ประกอบไทย สถานการณ์หลังชนฝาอีกครั้งของ Ducati !!

ที่มา : http://www.weloveducati.com/

วันนี้ได้ติดตามเฟสบุ๊คของพี่แจ็คแห่งสำนักไรเดอร์ เอาท์เล็ต ที่ได้เฉลยราคาเจ้า GS และ GSA 1200 ตัวประกอบไทย ด้วยราคาที่ชวนตะลึงคือ R1200GSA LC 1050,000 บาท / R1200GS LC 950,000 บาท และก็ตามคาดครับ ! พี่แจ็คก็ได้จองไปเป็นที่เรี่ยบร้อย !!! งานนี้เลยก็ต้องมานั่งเขียน นั่งวิเคราะห์กันหน่อย ว่าสถานการณ์บิกไบค์แนวทัวริ่งบ้านเราจะเป็นอย่างไร ! ติดตามกันได้เล้ยยยยยย



ใครคือกลุ่มเป้าหมายแห่งอนุภาพราคาประกอบไทยนี้ !!!
จริงๆผมทราบมานานแล้วครับว่าเริ่มมีการขึ้นไลน์ประกอบไทยในรุ่นนี้ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าราคาจะออกมาได้ดุเดือดขนาดนี้ จากเริ่ม GSA 1200 ว่ากันที่ 1.3 ล้านโน่น หล่นห่วบมาอยู่ 1 ล้านนิดๆ  ส่วนเจ้า LC 1200 ก็ตกมาอยู่ในราคาไม่ถึงล้าน กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ก็คือกลุ่มผู้เป็นแฟนคลับ BMW ที่ถือครองเจ้า R1200 ในปี 2012 ลงมานั่นละครับ รวมถึงเจ้าตัว 90 ปีที่ออกมาในปี 2103 ด้วยนั่นเอง ก็ถือว่ารอมานานและข่าวคือในรุ่น 2015 นี้ก็ได้แก้ปัญหาเรื่องของ LC ที่มีบ่นกันวุ่นวายได้หายขาดแล้ว


กลุ่มถัดมาคือ ผู้ที่อยากครอบครองรถศูนย์
กลุ่มนี้โดยหลักคือผู้ที่เล่นรถนำเข้า หรือที่เรียกว่าเกรย์มาเก็ตนั่นละครับ ราคารถนำเข้าอิสระก็ถูกกว่ารถศูนย์อยู่นิดหน่อย แต่ออฟชั่นมาเต็มกว่า ถ้า BMW เข็นราคาออกมาแบบนี้ก็ถือว่าเป็นอันจบข่าว ได้ยินว่าหลายๆ ผู้นำเข้าอิสระตอนนี้ก็กำลังวางแผนการรับมือในการเปิดตัวราคา R1200 GSA / GS ประกอบไทยกันอยู่  แต่เอาเข้าจริงๆผมว่ารถที่ประกอบนอกก็ยังมีออฟชั่นที่น่าสนใจกว่าอยู่พอสมควรนะครับ เพราะรุ่นที่ประกอบไทยนั้นถูกเจี๋ยนออฟชั่นเจ๋งๆไปพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็นครูส คอนโทรล (มายืนยันอีกครั้ง) หรือกุญแจแบบไม่ต้องเสียบ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า keyless ride นั่นละครับ ต้องรอดูจริงๆอีกทีละครับ ว่าวันปรากฏตัวเป็นๆ ของเจ้า GSA / GS จะมีออฟชั่นอะไรที่ถูกตัดออกไปบ้าง แต่ผมว่าไม่น้อยละครับ !!



มาดูกลุ่ม Ducati กันบ้างจะโดนลูกหลงอะไรบ้าง ?
ก็อย่างที่เคยเรียนครับ ดูคาติมีอะไรที่ใกล้เคียงกับ GS ก็คือเจ้า Ducati Multistrada 1200 นั่นละครับ ก็ไม่ใช้คู่แข็งตรงๆ ซะทีเดียว แต่ถือว่าโดยตลาดของยูสเซอร์มันหลีกกันไม่พ้น คนที่ขี่ Multistrada มาสัก 2-3 ปี ก็เอือมระอากับความจุกจิกของอิเล็กทรอนิกที่สารพัดรวน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก .... ครั้นเวลาออกทริปก็เลือกถนนไม่ได้ แต่สายทัวริ่งมันก็ต้องไปวัดดวงกันข้างหน้า เจอทางดี Multistrada ก็ยิ้มออก เจอทางกรวดกระจาย Multistrada ... ก็ต้องจอดพัก ในขณะที่สาย GSA เค้าวิ่งรูดยาวเลย กลุ่มคนที่มีประสบการณ์ตรงนี้ละครับที่เป็นเป็นกลุ่ม Switch or Change เรียกว่าเป็นกลุ่มที่มีประสบการในสายทัวริ่งเกิน 4-5 หมื่นโลไปแล้ว ผ่านโลก ผ่านตามาแล้ว รู้จัก KTM รู้จัก GS GSA และสายพันธ์ต่างๆแล้ว กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ทิ้ง Multistrada 1200 ได้ทันทีเลยครับ เพราะราคามัน Competitive Pricing จริงๆ .... แล้วยิ่งตัว 2015 Multistrada 1200 ที่มีอยู่ตอนนี้ของเมืองไทยก็เป็นตัวประกอบนอก นั่นก็ราคาทำไว้ประมาณ 1.45 ล้าน ... เข้าใจว่านำเข้า แต่ขอเป็นเป็นลมแป้บ .....


เรียกว่าของดีมีมา ... แต่ราคาไม่น่าคบ ... จังหว่ะไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย ... ดูคาติ .. ไทยแลนด์ ...


ข้อแตกต่างระหว่าง GS และ Multistrada 1200 เป็นยังไง ?
ต้องเรียนว่าโดนตำราการตลาด เจ้า 2 รุ่นนี้ มันคนละกลุ่มกัน แต่ในเชิงปฏิบัติมันไม่ได้เลย คนขี่มันมีประสบการข้ามกันไป ข้ามกันมา พวกขี่ Multistrada 1200 ไปสักพักก็หนีไม่พ้นวันหนึ่งคุณต้องร่วมทางร่วมทริปกับ GS / GSA  มันหนีไม่พ้นจริงๆครับ พอเจอแบบนี้หลักการตลาดมะลายหายสิ้นครับ ประสบการณ์และคาตาล้วนๆละครับ “คาตา” เลยละครับ คาตา “คาใจ” ไปเลย เค้าไปได้เราไปไม่ได้ ... เค้าลุยได้เราต้องจอด ... อะไรแบบนี้ เอาหละครับไม่เถียงว่าจะไปเข็นสู้เค้าก็ได้ แต่รถอย่าง Multistrada 1200 มันไม่อำนวย มันเกิดมาเพื่อทางเรียบไงครับ ...แต่ผมก็งง Ducati น่ะ ถ้าจะทำทัวริ่งทางเรี่ยบ ... จะทำไปทำไม มีกี่คนที่เป็นนักทัวริ่งแล้วชอบทางเรี่ยบหรือการเดินทางระยะใกล้ ๆ ... คำตอบคือมีมันก็มีแหละ แต่พพวกนี้ก็ไม่นาน การเดินทางไกลมันท้าทายกว่า สนุกกว่า และเปิดโลกทัศน์การขี่ของคุณได้มากกว่า และนั่นคือสิ่งที่ KTM หรือ BMW R1200 GS / GSA ทำได้ดีกว่า ....

สถานการณ์ของ Multistrada 1200 ในเมืองไทยคือ เป็นรถที่มีไว้ผ่านมือ ... คือใช้แล้วถึงจุดถึง ซึ่งจุดจุดๆมันก็ไม่นานหรอกครับ สักพักเดียวไม่เกินปี คุณก็จะเริ่มรู้สึกว่า Multistrada 1200 มันไม่ใช่ และสารถพัดปัญหา ลองมาดูมั้ยครับมีปัญหาอะไรในตัว Multistrada 1200 ที่ทำให้คุณต้องคิดดีๆ ....

ปัญหาเซ็นเซอร์วัดนำมันเพี้ยน
เพี้ยนแล้วเพี้ยนอีก
บางคนเครมไปสองสามรอบก็ไม่หาย ส่วนตัวผมเองโดนไป 1 รอบ ทำท่าว่าจะต้องรอบสองเร็วๆนี้  ผลของมันคือ ขี่ให้น้ำมันหมดถัง มันก็แสดงว่าน้ำมันเต็มถังอยู่แบบนั้นละครับ ... ใครไม่รู้นี้ มีจอดกลางเต้นท์กลางป่าแน่ๆครับ


ปัญหาโชคหน้าดัง
ผมเจออันนี้เมื่อรถระยะทาง 2,000 โลนิดๆ เองครับ เข็นไปก็ดังเอี้ยดอ๊าดๆ เลย ก็จับเครมไปอีกหนึ่งดอก กว่าของจะกว่าก็เกือบ 3 เดือนครับ เท่ดีครับ รถเรามีแอฟเฟคเสียงที่โชคด้วย


ปัญหาเซ็นเซอร์ขาตั้งรีบกลับสรรค์
ไม่รู้จะสรรค์หรือนรกดี เซ็นเซอร์ขาตั้งรถทัวริ่งไปจุติตอนผมไปทริปพม่า ทริปนั้นฝนตกตลอดทริปเลย ก็เข้าใจได้แหละถ้าเป็นรถเนคเก็ตทั่วไป แต่นี้มันรถทัวริ่ง ลุยน้ำ ลุยฝน มันควรจะอึดกว่านี้ป่าวว่ะ ... จบที่เครมกันไป วิธีแก้ตอนนั้นก้อดึงเซนเซอร์ออกซะ แล้วก็ขี่แบบไม่มีเซ็นเซอร์ขาตั้งไปครับ


ปัญหาครัชต่ำเองเมื่อใช้ไปสักระยะจนเข้าเกียร์ N ไม่ได้
อันนี้ขร่ำมาก เข้าไปที่ศูนย์เทพแห่งโอลิมปัสที่มีช่างเป็นเทวดา เค้าบอกว่าผมขี่รถไม่เป็น ... อ่ะ ไม่เป็นก็ไม่เป็น ก็สอนผม อ่ะผมก็ฟัง ...ขี่ๆไปก็มาอีก คราวนี้ก็สอนอีก ผมก็รำคาญ ผมก็บอกว่าไม่ต้องสอนแล้วพี่ ไปเช็คปั้มครัชเลยไป เดินออกมาสักพักบอกจะเครมปั้มครัชล่างให้ .. จบ ... อาการหาย ... ปัทโธ่ ....


ขี้เกียจเขียนละครับ ปัญหามันยาวกว่านี้ ก้อลองไปหาอ่านในบอร์ดต่างๆดูครับ  


[color=yellow]สรุปคือ งานนี้การเปิดตัวของ GS และ GSA 1200 ในรุ่นประกอบไทย ทำให้ชาวคณะทัวริ่งในทุกๆค่าย สั่นสะเทือนใช้ได้ครับ มันเป็นการทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นมาก กลุ่มดั่งเดิมและกลุ่มใหม่ได้ถือโอกาศนี้ตัดสินใจไปในตัวเลยนั่นเอง เศรษฐกิจอย่างนี้จะมามีหลายๆคันก็ลำบาก การมีคันเดียวที่จบในทุกๆด้านจิงๆ ก็แลดูจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวมากครับ นี่ก็เป็นก้าวสำคัญอีกก้าวของวงการบิกไบค์ในเมืองไทยครับ จับตาดูดีๆ ห้ามประพริ้บตาเด็ดขาด ... งานนี้อาจจะได้เห็นอะไรดีๆ ไม่นานครับ !!!
[/color]
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่