อันที่จริงเราก็ไม่ได้แก่ถึงขั้นเข้ายุคไม่มีเทคโนโลยี
เราก็เกิดมาก็รู้จักเพจเจอร์ โทรศัพท์ละ !!!!
เรารู้จักจดหมาย โทรเลข เพจเจอร์ เพจลิ้งค์ โทรศัพท์ ตั้งแต่สมัยที่ทุกอย่างมันอยู่ในยุคที่มีความเป็นพื้นฐานบนความธรรม จนทุกวันนี้ โทรศัพท์แทบจะเป็นทุกอย่างของการใช้ชีวิตประจำวัน เราเป็นคนหนึ่งที่มี ออนไลน์ในหลายๆรูปแบบเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่นมี
แต่วันนี้เรากลับรู้สึกว่าทุกอย่างที่มันมีตอนนี้มันดีนะ ความรวดเร็ว ความห่างไกลที่ทำให้ใกล้กันได้ ความรู้สึกความคิดเห็นที่แชร์กันได้(มีพื้นที่ที่จะให้อยู่ในกระดาษออนไลน์ ถ้าเปรียบเทียบมันกับหนังสือพิมพ์หรือหนังสือสักเล่มที่เราเป็นเจ้าของแล้วเขียนมันขึเนมาเอง) คือทุกอย่างมันดีนะ เพียงแค่กดปุ่มๆๆๆๆ แล้วก็แสดงมันออกมา แต่ในหลายๆครั้งเราเองกลับรู้สึกว่าเราไกลคนใกล้ตัวมาก คือไม่ใช่เราที่ไกลออกมา แต่คนอีกคนต่างหากที่ทำให้เราไกลออกไป
เราไม่อาจจะตัดสินได้ว่าเทคโนโลยีมีผลเสียอะไรบ้าง แต่ถ้าในด้านความรู้สึกส่วนตัว
เราว่ามันทำให้ทุกวันนี้สิ่งที่มีมันมักง่ายเกินไป(ในที่นี่เราหมายถึงว่าการรักษาน้ำจิตน้ำใจเพื่อนร่วมโลกด้วยกันเอง หรือแม้แต่คนที่ใกล้ชิดที่สุด คำพูดที่หลุดออกมาบนออนไลน์อย่างไม่ไตร่ตรองก่อนแต่เพราะอารมณ์ มากมายหลายเหตุกราณ์ที่เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับปัญหาในโลกออนไลน์)
มันทำให้ความรู้สึกจริงใจกับจริงใจที่เกิดจากความอดทนรอหายไป (คือ มันมีบางอย่างที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าคนรักง่ายและหน่ายเร็ว คนชอบกันง่ายและเกลียดกันแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงได้ สมัยนี่คนเลยเลือกที่จะไม่อดทนรอในบางอย่างที่สมควรรอแต่กลับมีแต่อารมณ์และความต้องการโดยบางทีไม่คำนึงถึงว่ามันจะจริงใจหรือหลอกลวง)
มันทำให้การพูดคุยในโลกของความเป็นจริงมันน้อยลง
(**********ที่พูดมามันคือข้อความรู้สึกที่มีในใจ)
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพิมพ์เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไร ไม่ได้โลกสวย ไม่ได้มองโลกแคบ ไม่ได้มองทุกอย่างติดลบ เราเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ยังคิดถึง การได้เขียนจดหมายที่ต้องใช้ความพยายามในการเรียบเรียงการเขียน ความตั้งใจเขียน ความอดทนที่จะได้รับการตอบกลับ ความมีพื้นที่ระหว่างคนเขียนและคนตอบ ความอดทนที่หอบเหรียญแล้วอดทนยืนเพื่อที่จะคุยกับใครสักคน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจความอดทน การทำอะไรดเวยความจริงใจที่จะอยากทำอยากได้ หรือต้องการอะไรสักอย่าง
เราไม่ได้แอนตี้การใช้เทคโนโลยี เพราะเราก็เป็นคนคนหนึ่งที่ยังต้องพึ่งและยังต้องใช้และยังจำเป็นที่ต้องมี เราไม่แอนตี้ไม่เคยว่าเทคโนโลยีไม่ดีเพียงแต่ข้อความรู้สึกเรามันทำให้เราสงสัยว่ามีใครยังคิดเห็นเหมือนเราบ้างไหม???
****ทุกอย่างที่พิมพ์นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวทั้งสิ้นไม่ได้อ้างอิงมาจากใครนอกจากความรู้สึกของเจ้าของกระทู้เอง ถ้าความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้ทำให้ใครไม่พอใจหรือผิดกับความรู้สึกของคนอ่าน เจ้าของกระทู้ขอโทษด้วยค่ะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ _/\_
ใครยังคิดถึงสมัยเขียนจดหมายและหยอดตู้โทรศัพท์ถึงกันอยู่บ้าง?
เราก็เกิดมาก็รู้จักเพจเจอร์ โทรศัพท์ละ !!!!
เรารู้จักจดหมาย โทรเลข เพจเจอร์ เพจลิ้งค์ โทรศัพท์ ตั้งแต่สมัยที่ทุกอย่างมันอยู่ในยุคที่มีความเป็นพื้นฐานบนความธรรม จนทุกวันนี้ โทรศัพท์แทบจะเป็นทุกอย่างของการใช้ชีวิตประจำวัน เราเป็นคนหนึ่งที่มี ออนไลน์ในหลายๆรูปแบบเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่นมี
แต่วันนี้เรากลับรู้สึกว่าทุกอย่างที่มันมีตอนนี้มันดีนะ ความรวดเร็ว ความห่างไกลที่ทำให้ใกล้กันได้ ความรู้สึกความคิดเห็นที่แชร์กันได้(มีพื้นที่ที่จะให้อยู่ในกระดาษออนไลน์ ถ้าเปรียบเทียบมันกับหนังสือพิมพ์หรือหนังสือสักเล่มที่เราเป็นเจ้าของแล้วเขียนมันขึเนมาเอง) คือทุกอย่างมันดีนะ เพียงแค่กดปุ่มๆๆๆๆ แล้วก็แสดงมันออกมา แต่ในหลายๆครั้งเราเองกลับรู้สึกว่าเราไกลคนใกล้ตัวมาก คือไม่ใช่เราที่ไกลออกมา แต่คนอีกคนต่างหากที่ทำให้เราไกลออกไป
เราไม่อาจจะตัดสินได้ว่าเทคโนโลยีมีผลเสียอะไรบ้าง แต่ถ้าในด้านความรู้สึกส่วนตัว
เราว่ามันทำให้ทุกวันนี้สิ่งที่มีมันมักง่ายเกินไป(ในที่นี่เราหมายถึงว่าการรักษาน้ำจิตน้ำใจเพื่อนร่วมโลกด้วยกันเอง หรือแม้แต่คนที่ใกล้ชิดที่สุด คำพูดที่หลุดออกมาบนออนไลน์อย่างไม่ไตร่ตรองก่อนแต่เพราะอารมณ์ มากมายหลายเหตุกราณ์ที่เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับปัญหาในโลกออนไลน์)
มันทำให้ความรู้สึกจริงใจกับจริงใจที่เกิดจากความอดทนรอหายไป (คือ มันมีบางอย่างที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าคนรักง่ายและหน่ายเร็ว คนชอบกันง่ายและเกลียดกันแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงได้ สมัยนี่คนเลยเลือกที่จะไม่อดทนรอในบางอย่างที่สมควรรอแต่กลับมีแต่อารมณ์และความต้องการโดยบางทีไม่คำนึงถึงว่ามันจะจริงใจหรือหลอกลวง)
มันทำให้การพูดคุยในโลกของความเป็นจริงมันน้อยลง
(**********ที่พูดมามันคือข้อความรู้สึกที่มีในใจ)
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพิมพ์เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไร ไม่ได้โลกสวย ไม่ได้มองโลกแคบ ไม่ได้มองทุกอย่างติดลบ เราเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ยังคิดถึง การได้เขียนจดหมายที่ต้องใช้ความพยายามในการเรียบเรียงการเขียน ความตั้งใจเขียน ความอดทนที่จะได้รับการตอบกลับ ความมีพื้นที่ระหว่างคนเขียนและคนตอบ ความอดทนที่หอบเหรียญแล้วอดทนยืนเพื่อที่จะคุยกับใครสักคน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจความอดทน การทำอะไรดเวยความจริงใจที่จะอยากทำอยากได้ หรือต้องการอะไรสักอย่าง
เราไม่ได้แอนตี้การใช้เทคโนโลยี เพราะเราก็เป็นคนคนหนึ่งที่ยังต้องพึ่งและยังต้องใช้และยังจำเป็นที่ต้องมี เราไม่แอนตี้ไม่เคยว่าเทคโนโลยีไม่ดีเพียงแต่ข้อความรู้สึกเรามันทำให้เราสงสัยว่ามีใครยังคิดเห็นเหมือนเราบ้างไหม???
****ทุกอย่างที่พิมพ์นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวทั้งสิ้นไม่ได้อ้างอิงมาจากใครนอกจากความรู้สึกของเจ้าของกระทู้เอง ถ้าความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้ทำให้ใครไม่พอใจหรือผิดกับความรู้สึกของคนอ่าน เจ้าของกระทู้ขอโทษด้วยค่ะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ _/\_