ถึงคุณผู้ชายนะคะ คุณต้องการอะไร

กระทู้คำถาม
ผู้ชายคนนึงเข้ามาในชีวิตหม้ายลูกหนึ่ง บอกฝ่ายหญิงว่าพ่อแม่เป็นครู (มารู้ทีหลังว่าแม่ไม่ได้เป็นครู)
ในตอนที่รู้จักกันตอนนั้นผู้ชายขับอัลติสผ่อนอยู่(ปัจจุบันพ่อแม่ยึดคืนไปให้น้องสาวฝ่ายชายใช้) แต่ฝ่ายหญิงขับซิตี้เงินสด ตั้งอต่เจอกันครั้งแรกฝ่ายชายมาหาฝ่ายหญิง
ขับรถมาจากกทม.มาหาที่เชียงใหม่ครั้งแรกก็ยืมเงินฝ่ายหญิงเลย หลังจากนั้นก็ยืมมาเรื่อยๆ ทุกเดือน ฝ่ายหญิงไม่เดือดร้อนอะไรเพราะเงินไม่มาก

     ในขณะที่คบกันฝ่ายชายบอกว่าขอเวลาอีกสองปีถ้าได้บรรจุแล้วจะให้ผู้ว่าในหน่วยงานมาเป็นประธานงานแต่ง
ครั้งหนึ่งเคยขับรถจากกทม.ผ่านนครสวรรค์(บ้านเค้าอยู่ไกล้นครสวรรค์)ฝ่ายหญิงถามว่าไปเยี่ยมพ่อแม่เค้ามั๊ย
ฝ่ายชายบอกว่าถ้าไม่มีลูกดิชั้นไปด้วยคงพาไปแล้วแต่เพราะยังไม่ได้บอกที่บ้านว่าชั้นมีลูกติดเลยยังไม่พาไป

     คบมาสามปีฝ่ายชายยืมเงินใช้ทุกเดือนฝ่ายหญิงเริ่มคิดมากเพราะปีที่สามแล้วก็ยังเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่คบกันเวลาเจอกัน
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างหารสองตลอดมีบ้างที่ฝ่ายหญิงจ่ายมากกว่าและบางครั้งซื้อของให้ด้วย

     ก่อนจะเลิกกันฝ่ายชายยืมเงินฝ่ายหญิงไป18***บาท แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก 12000 บอกว่าเพื่อนยืม (ฝ่ายหญิงปล่อยดอกบ้าง)
ที่เหลือยืมใช้เอง และบอกว่าเรียนเอาวุฒิช่างยนต์เพื่อจะปรับให้ตรงสายงานที่ต้องการทำและยืมไปจ่ายค่าเทอมด้วย
พอฝ่ายหญิงไม่ให้ก็ว่าฝ่ายหญิงไม่เห็นแก่อนาคตแก

     จนสุดท้ายเลิกกัน ฝ่ายหญิงขอให้คืนเงินทั้งหมด เค้าก็หามาคืนตอนสิ้นเดือนจนหมด แต่หลังจากที่คืนเงินแล้วฝ่ายชายบอกว่าตอนนี้มีหนี้อยู่ห้าหมื่น
หลังจากนั้นฝ่ายหญิงได้คุยกับแม่ฝ่ายชายจึงรู้ว่าแม่ฝ่ายชายไม่ได้เป็นครู หลังจากนั้นเลยโทรไปคุยกับฝ่ายชายเรื่องนี้ ว่าทำไมต้องหลอกกันด้วย
ทำไมต้องหลอกโปรไฟล์พ่อแม่ว่ามีการศึกษาพร้อมกับต่อว่าไปว่าทำไมไม่ยอมรับอาชีพพ่อแม่ตัวเอง

     ระหว่างที่คบกัยฝ่ายชายไม่เคยพาฝ่ายหญิงไปรู้จักกับครอบครัว แต่พยายามที่จะรู้จักครอบครัวฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงเปิดเผยทุกอย่าง
และฝ่ายหญิงได้ต่อว่าไปว่าคุณบอกว่าพ่อแม่คุณเป็นครูทำไมคุณต้องสร้างโปรไฟล์ให้สวย พ่อแม่คุณเป็นคนมีการศึกษาแล้วไงคะ
พ่อแม่คุณมีแต่หนี้ พ่อแม่ชั้นเป็นพ่อค้าแม่ค้าแต่พ่อแม่ชั้นมีเงินล้าน ครอบครัวชั้นญาติพี่น้องเป็นยังไงคุณก็รู้เห็นหมดแล้ว ชั้นเคยปิดบังคุณมั๊ย

     ตอนที่คุยกับแม่ฝ่ายชายทางโทรศัพท์แม่ฝ่ายชายโอดครวญเรื่องเงินกับฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงได้ตอบไปว่าหนูอายุขนาดนี้แล้ว
หนูไม่เคยไปขอเงินพ่อแม่หนู และพ่อแม่หนูก็ไม่เคยมาขอเงินหนูและแม่ฝ่ายชายได้ตอบมาว่ายังงี้อะถูกแล้วลูกและโทรไปเล่าให้ลูกชายเค้าฟัง
ว่าดิฉันพูดอะไรกับเค้าบ้าง ตามคาดลูกชายเค้าโวยวายกับฉันว่าพูดกับแม่เค้ายังงั้นทำไม ต้องการอะไร ดิฉันตอบไปว่าแล้วแต่จะคิด

   จนกระทั่งวันนี้ได้ตัดสินใจเลิกลาจบกัน แต่ฝ่ายชายบอกว่าเลิกกันแล้วยังเป็นเพื่อนกันได้เราไม่ได้เกลียดกันยังโทรคุยกันได้เหมือนเดิม
ยังเจอกันได้เหมือนเดิม ยังพาลูก(ดิฉัน)ไปทานข้าวไปเที่ยวด้วยกันได้เหมือนเดิม แต่ดิฉันคิดว่าตัดบัวอย่าให้เหลือเยื่อใย เลยลบไลน์
ลบเบอร์เค้าทิ้งหมดสาเหตุที่ไม่บล็อคเบอร์เพราะว่าเสื้อผ้าข้าวของเค้ายังอยู่ที่บ้านฉันเผื่อว่าเค้าจะโทรมาบอกให้ส่งคืน และก่อหน้านั้น
ได้โทรบอกหลายครั้งแล้วว่าให้บอกที่อยู่ที่กทม.ด้วยจะส่งเสื้อผ้าข้าวของไปให้เค้าก็รับปากแล้วแต่สงสัยคงลืม

     เมื่อคืนนี้เค้าลบไลน์ทิ้งแล้วสมัครใหม่มันก็เด้งขึ้นมาว่าเราเป็นเพื่อน

ขอถามคุณผู้ชายที่มีประสปการณ์นะคะ เลิกกันแล้วทำไมไม่ลบเบอร์ทิ้ง ทำไมยังอยากเป็นเพื่อน ไลน์เด้งขึ้นมาว่าเป็นเพื่อนทำไมไม่ลบทิ้ง
และสิ่งสำคัญที่สุดคุณคิดว่าฝ่ายชายมีจุดประสงค์อะไร
และตอนนี้ฝ่ายชายสมัครเฟซบุคใหม่โดยชื่อข้างหน้าเป็นชื่อผู้ชายแต่ชื่อหลังก็ยังเอาชื่อฝ่ายหญิงไปพ่วงด้วย
สมมุตินะคะว่าฝ่ายชายทำงานเทสโก้ เค้าชื่อเจ หญิงชื่อจิ๊บ เค้าตั้งชื่อเฟซบุคคือ เทสโก้เจ จิ๊บ

     สาเหตุที่เลิกกันเพราะฝ่ายหญิงโดนครอบคครัวกดดันว่าฝ่ายชายมีแต่ตัวในขณะที่ฝ่ายหญิงและพ่อแม่พี่น้องไม่มีหนี้สิน
ฝ่ายหญิงมีบ้านส่วนตัวอยู่ในหมู่บ้านที่มีถนนเมนเป็นสี่เลน สโมสร ฟิตเนต สนามเทนนิส สระว่ายน้ำสาธารณูปโภครบครัน (ที่สาธยายเพราจะได้เป็นส่วนประกอบในการแสดงความคิดเห็น)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่