เล่ห์รตี (คาแร็คเตอร์รีวิว) : See through him ... "เสกข์ สุทธกานต์" Two sides of the same coin เมื่อหนึ่งเหรียญมีสองด้าน

ถ้าให้สรุปว่าคุณเสกข์เป็นอย่างไรแบบสั้น ๆก็คงบอกได้ว่า
คุณเสกข์ก็เหมือนเหรียญหนึ่งเหรียญ


คนหนึ่งคนหาใช่มีเพียงด้านเดียว
เหมือนเหรียญหนึ่งย่อมมีสองด้าน
และสองด้านก็แสดงถึงเหรียญอันเดียวกัน


ในแง่มุมหนึ่งคุณเสกข์คือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่างเต็มตัว ลุคตั้งแต่หัวจรดเท้าบอกได้ถึงความเฉียบขาดอย่างคนเป็นนาย คำพูดคำจาแต่ละคำชัดเจน เด็ดขาด ฉลาดเกือบถึงขึ้นเจ้าเล่ห์ แต่ละย่างก้าวคือเรื่องงาน และ ในเรื่องงานทุกอย่างคือคุณภาพ ในคุณภาพทุกอย่างเป็นเรื่องของเหตุผล และ ในทุกเหตุผลส่งผลให้ เสกข์ สุทธกานต์ ไม่เคยเสียเปรียบใคร บุคคลิกเยี่ยงพญาเสือแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าได้มาจากไหน ก็มาจากคุณหญิงมาริสาผู้เป็นแม่ที่เข้มแข็งและเด็ดขาดแล้วก็ถ่ายทอดมาสู่ผู้เป็นลูกชนิดเห็นก็รู้ว่าลูกไม้ตกใต้ต้น ซึ่งบุคคลิกแนวนั้นก็รวมถึงภาคินีน้องสาวของเสกข์ด้วย บ้านนี้มาบล็อคเดียวกัน ชัด คม แรง แบบ Full HD

ลักษณะพวกนี้แลดูเหมือนคุณเสกข์คล้ายจะคิดอะไรด้วยสมองไปเสียทุกอย่าง คิดคำนวณผลประโยชน์ในทุก ๆ เรื่อง หากธรรมชาติของคนไม่เคยมีด้านเดียว ถ้าในเรื่องการงาน ถูกแล้ว เหตุและผลคือสรณะของคุณเสกข์  แต่อีกด้านหนึ่งของเหรียญในทางกลับกันพลิกไป 360 องศา เมื่อพูดถึงชีวิตส่วนตัว โลกสวยด้วยมือเราทันที เมื่อพูดถึงเรื่อง "หัวใจ" คุณเสกข์เอาคำว่าเหตุและผล rationale ทุกอย่างทิ้งลงชักโครกหมด ถ้าคิดจะรักคุณเสกข์รักด้วย "ใจ" เชื่อมั่นว่า "ใจ" เท่านั้นที่จะแลก "ใจ" ได้ เป็นไปได้ว่าอ่านลี้คิมฮวงมาเยอะ "เจ้าอยากได้หัวใจของใครเจ้าต้องให้หัวใจของเจ้าก่อน"

คนแบบนี้ถ้าเจอใครที่รักจริงชีวิตคือสมบูรณ์แต่ถ้าเจอคนที่หลอกลวงเป็นอันจบแบบเจ็บนี้อีกนาน เพราะ ไม่เผื่อที่ไว้สำหรับความผิดหวัง


เพราะเหตุนี้คุณเสกข์ได้สมรสสมรักกับอิษยา โดยที่ไม่สนใจว่าอดีตที่เป็นมาของอิษยาจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจว่าใครจะเตือน เชื่อโดยบริสุทธิ์เลยว่าเมื่อเราให้ "ใจ" เขาแล้วเราย่อมได้ "ใจ" ตอบกลับมา มันเป็นความน่ารักอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นความสุ่มเสี่ยงอย่างหนึ่งเช่นกัน คนแบบนี้เวลาให้ "ใจ" ก็จะให้ "ทั้งหมด" ทุ่มเททุกอย่างให้กับคนที่รักโดยไม่มีข้อแม้ จะเห็นเลยว่ากับอิษยา ในยามที่ยังรักกันดี ไม่ว่าอิษต้องการอะไรเท่าไหร่ เสกข์ก็ให้ ให้โดยไม่ถามเหตุและผลเลยด้วยซ้ำ ความต้องการของอิษเป็นที่หนึ่ง และ เสกข์ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเป็นที่หนึ่งในใจอิษด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ต้องพังทลายไปเมื่อพบว่าอิษหลอกลวง ความเชื่อที่ว่า "ใจ" ต้องแลก "ใจ" ถูกสั่นคลอน และ มัน shake ความรู้สึกของเสกข์มาก ยิ่งใช้ใจเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บเท่านั้น อย่างที่บอกว่าเจ้าตัวเชื่อแบบนี้ และ เรื่องที่เกิดทำให้เจ็บมากเหลือเกิน เจ็บจนหลุดปากบอกใคร ๆ ไปว่าไม่อยากเจ็บก็อย่ามีมันเลย "ความรัก" และ ด้วยความที่ฉลาดก็ได้เรียนรู้ต่อไปว่า "เหตุและผล" มันก็ควรมีอยู่ทุกเรื่องไหม ไม่ใช่แค่เรื่องการงานอย่างเดียว เรื่องหัวใจก็ด้วย ไม่มีวันอีกแล้วที่จะโง่จนพังอย่างที่เป็นมา

จนกระทั่งเจอกับเคท


ปฎิเสธไม่ออกว่าเคทเป็นเหมือนเงาของอิษยา สายแบ๊วแอ๊วเอินเหมือนกัน ถูกใจแต่ผิดเวลา และ มาพร้อมกับการทดสอบสมมติฐานว่ารักแท้คงไม่มีอยู่จริงอย่างที่เคยเชื่อถือ อิษก็ต้องการเงิน เคทมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะเรื่องเงิน ดังนั้นในเบื้องต้นเคทคือธุรกิจที่เสกข์จะต้องไม่เสียเปรียบ มันเป็นเงื่อนไขบ้า ๆ บอ ๆ ก็จริงแต่มันก็ทำให้ได้ผลประโยชน์มานี่ เสกข์ในวันนี้คิดว่านับแต่นี้ทุกอย่างเป็นเรื่องของสมองแล้ว ไม่ควรใช้หัวใจอีกต่อไป แต่ก็ต้องมาตระหนักได้อีกข้อหนึ่งว่าการจะฝืนธรรมชาติตัวเองมันยากเหลือเกิน

จะเห็นได้ว่าสองด้านในหนึ่งเหรียญของเสกข์ มันโดนดึงตึงสุดไปคนละทาง ในเรื่องการงานเหตุและผลจัดเต็มไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวเลย ในขณะที่เรื่องหัวใจเหตุผลไม่มีเลยใจล้วนอารมณ์ล้วนเหมือนกัน ณ ตอนนี้เสกข์กำลังพยายามฝืนธรรมชาติตัวเอง คือ เอาทุกอย่างเป็นเรื่องเหตุและผลหมด แต่มันต้านกับตัวตนที่เอาด้าน spiritual เป็นที่ตั้ง หลายครั้งเลยเกิดอาการผีเข้าผีออก ผีออกผีเข้า ด้านที่เป็นเหตุผลบอกตัวเองตลอดให้มองในสิ่งที่จับต้องได้ ซึ่งพอมองแล้วอะไร ๆ มันก็ดูไม่ดีไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติ หรือ สาเหตุที่ทำให้เคทเข้ามาอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปุ๊ ก็ปฏิบัติไปแบบนึง แต่เมื่อเอาใจตัวเองเข้ามาสัมผัส ก็รู้สึกว่าดีว่าน่ารักจังเลย มีความสุข ได้ยิ้มได้หัวเราะได้ ก็ทำตัวอีกแบบนึง แต่พอกลับมาคิดถึงเรื่องเหตุผลอารมณ์ก็วูบลงไปอีก เลยเป็นบ้าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอยู่ทุกวันนี้

ถ้าจะให้ปรับก็น่าจะยากแล้วละมั้งก็เป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิต ชีวิตที่ถูกฉีกด้วยด้านสองด้านที่มีในตัวเอง
ก็คงต้องภาวนากันหน่อยละนะ ว่าในไม่ช้าไม่นานจะรู้จักดึงเอาด้านสุดโด่งมาเบลนให้เป็นทางสายกลาง
ก็ขึ้นอยู่กับว่าความเชื่อถือศรัทธาเรื่อง "ใจ" แลก "ใจ" มันจะมาผสานเรื่องของเหตุผลได้อย่างลงตัวเมื่อไหร่
ถามใครดีเรื่องนี้ ... ใครคงช่วยเสกข์ไม่ได้นอกจากก้าวข้ามผ่านเรื่องนี้ไปตัวเองล่ะนะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่