สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
มิตรสหายท่านหนึ่งเป็นคนไทย แต่อพยพไปอเมริกาตั้งแต่เด็กตอนนี้เป็นทหารอเมริกา กล่าวว่า "ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งทำรัฐประหาร กuจะยิงทิ้งมันตรงนั้นเลยเพราะวินาทีนั้นมันคือกบฏ ทหารมีหน้าที่รับใช้ประชาชนไม่ใช่นายพล ไม่พอใจ unfriend ได้" "ถามเพื่อนก็ตอบแบบนี้เหมือนกัน" แนวคิดทหารเค้าเป็นประมาณนี้ครับ
สมาชิกหมายเลข 6943209 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 1317894 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 765625 ถูกใจ, JINOH15 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817090 ถูกใจ, Chekov ถูกใจ, หมาน้อยสามบาท ถูกใจ, แสนเชิง ถูกใจ, mootomoosun ถูกใจรวมถึงอีก 186 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 9
อเมริกา : ทหารได้รับอำนาจจากประชาชน ส่วน ไทย : ทหารมีอำนาจอยู่ก่อนแล้วประชาชนอยู่ภายใต้อำนาจของทหารมาแต่โบราณ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นการเปลี่ยนมืออำนาจของทหารจากกลุ่มหนึ่ง ไปเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง (แย่งอำนาจ) แต่ภายใต้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จนมามีรัฐธรรมนูญฉบับ 40 ที่อำนาจตกเป็นของประชาชนเกือบร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็ถูกฉีกไปเสียก่อนกลายมาเป็นรัฐธรรมนูฐฉบับ 50 ที่อำนาจของประชาชนอยู่ต่ำกว่าองค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นโดย คมช และถูกฉีกอีกครั้งโดย คสช จนเรากำลังจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ อำนาจฝ่ายบริหารแทบไม่ยึดโยงกับอำนาจของประชาชน สรุป อำนาจกลับคืนไปสู่ทหารเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
สมาชิกหมายเลข 4101701 ถูกใจ, Jill Hera สยอง, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, shuriken ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3038450 สยอง, Atullapat ถูกใจ, reimann ถูกใจ, JINOH15 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817090 ถูกใจ, แสนเชิง ถูกใจรวมถึงอีก 141 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 22
เอาของเก่ามาเล่าใหม่ อเมริกาเคยเกือบถูกทหารปฎิวัติ
ตอนท้ายๆของสงครามประกาศอิสรภาพหลังจากรบชนะอังกฤษหลายต่อหลายครั้งจนอังกฤษต้องยอมขึ้นโต๊ะเจรจา อเมริกากำลังจะได้รับอิสระ
แต่ในเวลาเดียวกันรัฐบาลก็กำลังถังแตกไม่มีปัญญาจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้ทหารที่ร่วมสงคราม
เมื่อทหารไม่มีการรบ ไม่มีเงินเดือน ความไม่ไว้วางใจของฝ่ายทหารต่อฝ่ายการเมืองก็พุ่งขึ้นสูง เพราะกลัวโดนตัดหางปล่อยวัดเพราะสงครามจะจบแล้ว
เหล่าทหารทั้งหลายชุมนุมกันร่ำๆว่าจะล้มรัฐบาลเพื่อให้ยอมจ่ายเงิน ท้ายที่สุดในวันที่ทหารทั้งหลายชุมนุมกัน
ผู้บัญชาการสูงสุดขณะนั้น ที่ไม่ยอมปฎิวัติเพราะเชื่อว่าเป็นการทำลายหลักการที่เขายึดถือก็กล่าวสุนทรพจน์ ท่ามกลางทหารที่มาชุมนุมกัน
สุนทรพจน์นั้นชื่อว่า Newburgh address
แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดนั้นอยู่หลังจากสุนทรพจน์ฉบับนี้จบลง เขาหยิมจดหมายที่ส่งมาจากสภาคองเกรส แล้วเขาก็ล้วงลงไปหยิบแว่นตาขึ้นมา ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้เห็นเขาเคยใส่แว่นตา จากนั้นเขาพูดว่า
"Gentlemen, you will permit me to put on my spectacles, for I have not only grown gray but almost blind in the service of my country."
"สุภาพบุรุษทุกท่านกรุณาอนุญาตให้ผมสวมแว่นตา เพราะนอกจากที่ความตรากตรำในการรับใช้ประเทศจะทำให้เส้นผมของผมจะหงอกลงแล้ว ยังทำให้สายตาของผมเกือบบอดอีกด้วย"
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวทหารทั้งหลายที่อยู่ ณ ตรงนั้นก็นึกได้ทันทีว่าแม่ทัพคนนั้นได้ร่วมเป็นร่วมตายกับเขามาไม่รู้กี่ศึกต่อกี่ศึก ได้สำนึกได้ว่าเขาเสียสละมากมายขนาดไหนเพื่อประเทศชาติ ทหารหาญทั้งหลายที่ผ่านสงครามที่อยู่ตรงนั้นน้ำตาร่วงกันทันที
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวแต่พูดโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน ก็ทำให้ประวัติศาสตร์ของอเมริกาเปลี่ยนไปในทันที ทหารที่กำลังจะปฎิวัติก็กลับไปรบกับอังกฤษต่อ เพราะว่าเขารู้ว่าคนที่พูดนั้น พูดจริง ทำจริง และทำมานานแล้ว
และในวินาทีนั้นการรัฐประหารครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ถูกทำลายลง ด้วยความจริงใจและความเชื่อมั่นในหลักการของผู้บัญชาการทหารสูงสุด จอร์จ วอชิงตัน หลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นประธานาธิปดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาในอีก 6 ปีถัดมา และอเมริกาก็ไม่เคยเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกเลย
ตอนท้ายๆของสงครามประกาศอิสรภาพหลังจากรบชนะอังกฤษหลายต่อหลายครั้งจนอังกฤษต้องยอมขึ้นโต๊ะเจรจา อเมริกากำลังจะได้รับอิสระ
แต่ในเวลาเดียวกันรัฐบาลก็กำลังถังแตกไม่มีปัญญาจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้ทหารที่ร่วมสงคราม
เมื่อทหารไม่มีการรบ ไม่มีเงินเดือน ความไม่ไว้วางใจของฝ่ายทหารต่อฝ่ายการเมืองก็พุ่งขึ้นสูง เพราะกลัวโดนตัดหางปล่อยวัดเพราะสงครามจะจบแล้ว
เหล่าทหารทั้งหลายชุมนุมกันร่ำๆว่าจะล้มรัฐบาลเพื่อให้ยอมจ่ายเงิน ท้ายที่สุดในวันที่ทหารทั้งหลายชุมนุมกัน
ผู้บัญชาการสูงสุดขณะนั้น ที่ไม่ยอมปฎิวัติเพราะเชื่อว่าเป็นการทำลายหลักการที่เขายึดถือก็กล่าวสุนทรพจน์ ท่ามกลางทหารที่มาชุมนุมกัน
สุนทรพจน์นั้นชื่อว่า Newburgh address
แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดนั้นอยู่หลังจากสุนทรพจน์ฉบับนี้จบลง เขาหยิมจดหมายที่ส่งมาจากสภาคองเกรส แล้วเขาก็ล้วงลงไปหยิบแว่นตาขึ้นมา ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้เห็นเขาเคยใส่แว่นตา จากนั้นเขาพูดว่า
"Gentlemen, you will permit me to put on my spectacles, for I have not only grown gray but almost blind in the service of my country."
"สุภาพบุรุษทุกท่านกรุณาอนุญาตให้ผมสวมแว่นตา เพราะนอกจากที่ความตรากตรำในการรับใช้ประเทศจะทำให้เส้นผมของผมจะหงอกลงแล้ว ยังทำให้สายตาของผมเกือบบอดอีกด้วย"
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวทหารทั้งหลายที่อยู่ ณ ตรงนั้นก็นึกได้ทันทีว่าแม่ทัพคนนั้นได้ร่วมเป็นร่วมตายกับเขามาไม่รู้กี่ศึกต่อกี่ศึก ได้สำนึกได้ว่าเขาเสียสละมากมายขนาดไหนเพื่อประเทศชาติ ทหารหาญทั้งหลายที่ผ่านสงครามที่อยู่ตรงนั้นน้ำตาร่วงกันทันที
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวแต่พูดโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน ก็ทำให้ประวัติศาสตร์ของอเมริกาเปลี่ยนไปในทันที ทหารที่กำลังจะปฎิวัติก็กลับไปรบกับอังกฤษต่อ เพราะว่าเขารู้ว่าคนที่พูดนั้น พูดจริง ทำจริง และทำมานานแล้ว
และในวินาทีนั้นการรัฐประหารครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ถูกทำลายลง ด้วยความจริงใจและความเชื่อมั่นในหลักการของผู้บัญชาการทหารสูงสุด จอร์จ วอชิงตัน หลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นประธานาธิปดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาในอีก 6 ปีถัดมา และอเมริกาก็ไม่เคยเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกเลย
สมาชิกหมายเลข 4528225 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 4161737 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 817090 ถูกใจ, หมาน้อยสามบาท ถูกใจ, mootomoosun ถูกใจ, คอมพิวเตอร์แมน ถูกใจ, s a k u r a l a t t e ซึ้ง, GOLFGTC ถูกใจ, Romancini ถูกใจ, with wings as eagles ถูกใจรวมถึงอีก 96 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 20
เพราะว่าประชากรของเขามีเหตุผล ยึดมั่นในระบบและหลักการ มากกว่าอคิติความเกลียดชัง ต่อให้เกลียดชังกันขนาดไหน แต่จะให้ทำลายระบบเพื่อสนองความอคติของตัวเองนั้นเขาไม่ทำกัน ใครผิดใครถูกตัดสินกันไปตามกระบวนการตามระบบ
แต่บางประเทศผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงไร้เหตุผล อาศัยอคติความเกลียดชังเป็นใหญ่ พอไม่ชอบใจใครเข้า ก็พร้อมที่จะละทิ้งหลักการและเหตุผล ร่วมมือกันก่อการหรือสนับสนุนการทำลายระบบ เพื่อโค่นล้มฝ่ายที่ตัวเองไม่ชอบได้ทุกเมื่อ
แต่บางประเทศผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงไร้เหตุผล อาศัยอคติความเกลียดชังเป็นใหญ่ พอไม่ชอบใจใครเข้า ก็พร้อมที่จะละทิ้งหลักการและเหตุผล ร่วมมือกันก่อการหรือสนับสนุนการทำลายระบบ เพื่อโค่นล้มฝ่ายที่ตัวเองไม่ชอบได้ทุกเมื่อ
Jill Hera สยอง, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2148864 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4486469 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817090 ถูกใจ, tesoek b.b ถูกใจ, Huntsman2020 ถูกใจ, GOLFGTC ถูกใจ, Romancini ถูกใจ, with wings as eagles ถูกใจรวมถึงอีก 59 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 31
การ Corruption ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
คือการขโมยสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ขโมยทางเลือกของประชาชนที่จะกำหนดความเป็นไปของชาติ
และอยู่เหนือการตรวจสอบโดยประชาชน
ทุกลมหายใจของอำนาจที่ไม่ได้มาจากความชอบธรรม
คือการยึด การขโมย และไม่มีข้ออ้างใดๆจากสิ่งนี้
ตอนหนึ่งในคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา
"...ประวัติของกษัตริย์องค์ปัจจุบันของอังกฤษ คือประวัติแห่งการสร้างความทุกข์ทรมานและการช่วงชิงอำนาจซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยล้วนแต่มีวัตถุประสงค์อันแน่วแน่ที่จะสถาปนาระบบทรราชย์อันเด็ดขาดเหนือรัฐเหล่านั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อนี้ ขอให้โลกที่เที่ยงตรงได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่อไปนี้ด้วย..."
".....พระองค์ทำให้ผู้พิพากษาต้องขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของพระองค์แต่ผู้เดียว ทั้งในเรื่องระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง จำนวนเงินและการจ่ายเงินเดือนของพวกเขาด้วย
พระองค์ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย และได้ส่งข้าราชการในพระองค์จำนวนมากมาขัดขวางประชาชนของเรา และหาเลี้ยงชีพจากสิ่งที่พวกเรามีอยู่
พระองค์ได้นำกองทัพประจำการเข้ามาไว้ในหมู่พวกเรา ในยามสงบโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติของเรา
พระองค์ได้ทำให้ฝ่ายทหารอยู่เหนือและเป็นอิสระจากฝ่ายพลเรือน
http://www.oknation.net/blog/007k/2014/06/26/entry-1
คือการขโมยสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ขโมยทางเลือกของประชาชนที่จะกำหนดความเป็นไปของชาติ
และอยู่เหนือการตรวจสอบโดยประชาชน
ทุกลมหายใจของอำนาจที่ไม่ได้มาจากความชอบธรรม
คือการยึด การขโมย และไม่มีข้ออ้างใดๆจากสิ่งนี้
ตอนหนึ่งในคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา
"...ประวัติของกษัตริย์องค์ปัจจุบันของอังกฤษ คือประวัติแห่งการสร้างความทุกข์ทรมานและการช่วงชิงอำนาจซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยล้วนแต่มีวัตถุประสงค์อันแน่วแน่ที่จะสถาปนาระบบทรราชย์อันเด็ดขาดเหนือรัฐเหล่านั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อนี้ ขอให้โลกที่เที่ยงตรงได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่อไปนี้ด้วย..."
".....พระองค์ทำให้ผู้พิพากษาต้องขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของพระองค์แต่ผู้เดียว ทั้งในเรื่องระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง จำนวนเงินและการจ่ายเงินเดือนของพวกเขาด้วย
พระองค์ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย และได้ส่งข้าราชการในพระองค์จำนวนมากมาขัดขวางประชาชนของเรา และหาเลี้ยงชีพจากสิ่งที่พวกเรามีอยู่
พระองค์ได้นำกองทัพประจำการเข้ามาไว้ในหมู่พวกเรา ในยามสงบโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติของเรา
พระองค์ได้ทำให้ฝ่ายทหารอยู่เหนือและเป็นอิสระจากฝ่ายพลเรือน
http://www.oknation.net/blog/007k/2014/06/26/entry-1
สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2210860 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817090 ถูกใจ, bermmerb ถูกใจ, GOLFGTC ทึ่ง, นายท่านขอรับ ถูกใจ, เกิดในที่สว่าง ถูกใจ, Sudjarid_sai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700114 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 962969 ถูกใจรวมถึงอีก 51 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
กองทัพของสหรัฐยิ่งใหญ่เป็นอันดับ1ของโลก มีอำนาจมาก เขามีการบริหารอย่างไรถึงไม่มีการมายุ่งกับการเมืองอเมริกา