“มักกะสันสวนสร้างสรรค์” เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพ!
ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์" ( www.facebook.com/MakkasanHope)
เมื่อ 2 ปีก่อน พื้นที่สีเขียวขนาด 700 ไร่ รอดพ้นจากการสร้างอาคารคอนกรีตทรงสูง “มักกะสันคอมเพล็กซ์” มาได้ เพราะการรวมพลังอันมหาศาลจากภาคประชาชน สนับสนุนความเคลื่อนไหวของแฟนเพจ "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"
ปีนี้ ถึงวาระที่ “คนกรุงหัวใจสีเขียว” จะลุกขึ้นมารวมพลังกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นเสียงสำคัญในการเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่มักกะสัน แสดงพลังอันบริสุทธิ์ของพี่น้องอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลตัดสินใจพัฒนาพื้นที่มักกะสันอย่างโปร่งใสและตั้งอยู่บนหลักของความยั่งยืน ก่อนที่พื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายใจกลางเมืองแห่งนี้ จะถูกส่งมอบสู่กลุ่มนักลงทุนที่อาจไม่แยแสต่อปอดของชาวกรุง
“ใครใช้บริการ แอร์พอร์ตลิงก์ ก็จะเห็นภาพประทับใจเหมือนกัน ก็คือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่อยู่ในทำเล ที่เราจะไม่ได้เห็นมันนัก คือ "พื้นที่โรงรถไฟเก่าของมักกะสัน" ซึ่งมีอาคารเก่าอยู่มากมาย และที่สำคัญต้นไม้เก่าๆ ก็เต็มไปหมดพื้นที่ตรงนี้
ถ้าไม่ได้มองมุมนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าใหญ่และงามขนาดไหน รวมถึงมีคุณค่ามากๆ แต่ทุกวันนี้ก็ถูกปิด ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งก็ดีแล้ว! เพราะพื้นที่สีเขียวที่ผลิตอากาศดีที่เรามองไม่เห็นก็ได้ถูกอนุรักษ์ไปในตัว พื้นที่ตรงนี้เป็นของการรถไฟบริหารขาดทุนเละเทะ (น่าจะโกงกันเละเทะด้วย) พอกหนี้สะสมส่งต่อกันถึงปัจจุบันนี้ ราคา 110,000 ล้านบาท กับกระทรวงการคลัง
วิธีปลดหนี้ง่ายที่สุดก็คือขายซะ ให้เอกชน (เพราะถ้าคิดวิธีอื่นได้ก็คงไม่ลามมาถึงแสนล้าน) ก็มีแนวโน้มจะขายให้เอกชน พวกนายทุน นักลงทุนก็พร้อมจะซื้ออยู่แล้ว แว่วๆ ลือๆ กันมาว่าจีนจะมาซื้ออีกด้วย เป็นเรื่องน่าเศร้าเซ็ง กับการโกงกินแล้วก็คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พวกเราเองก็ทำได้แต่วิจารณ์ ผ่านคีย์บอร์ด เราน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ พื้นที่สีเขียวและประวัติศาสตร์นั้น ไม่มีคนใดคนหนึ่งได้ประโยชน์ จึงไม่มีใครจะออกตัวดูแลจัดการมัน แต่เพราะเราทุกคนได้ประโยชน์จากอากาศที่มองไม่เห็น และประวัติศาสตร์ที่เราไม่ได้เก็บไว้คนเดียว
ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอะไรผิดๆ ไปเพื่อปลดหนี้ พื้นที่สีเขียวก็น่าจะเป็นเจ้าของร่วมกันของทุกสรรพสิ่งทั้งคนและสัตว์ ไปติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ “เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์” เผื่อจะช่วยกันเคลื่อนไหวและทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่ออนาคต เราต้องการคนรุ่นใหม่มาช่วยกัน!!” บริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร เอเยนซีโฆษณาหัวใจสีเขียวเรียกร้องให้ทุกคนช่วยกันออกมารวมพลัง!!
ร่วมเป็นหนึ่งเสียงสำคัญในการเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่มักกะสันกับกิจกรรม “Park Talk” ในวันที่ 18-20 มี.ค.นี้ เวลา 17.00-19.00 น. ณ โถงกลาง ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมชมนิทรรศการ “มักกะสันสวนสร้างสรรค์” ได้ที่ชั้น 3 ในวันที่ 18-29 มี.ค.นี้
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031406
“มักกะสันสวนสร้างสรรค์” เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพ!
“มักกะสันสวนสร้างสรรค์” เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพ!
ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์" ( www.facebook.com/MakkasanHope)
เมื่อ 2 ปีก่อน พื้นที่สีเขียวขนาด 700 ไร่ รอดพ้นจากการสร้างอาคารคอนกรีตทรงสูง “มักกะสันคอมเพล็กซ์” มาได้ เพราะการรวมพลังอันมหาศาลจากภาคประชาชน สนับสนุนความเคลื่อนไหวของแฟนเพจ "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"
ปีนี้ ถึงวาระที่ “คนกรุงหัวใจสีเขียว” จะลุกขึ้นมารวมพลังกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นเสียงสำคัญในการเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่มักกะสัน แสดงพลังอันบริสุทธิ์ของพี่น้องอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลตัดสินใจพัฒนาพื้นที่มักกะสันอย่างโปร่งใสและตั้งอยู่บนหลักของความยั่งยืน ก่อนที่พื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายใจกลางเมืองแห่งนี้ จะถูกส่งมอบสู่กลุ่มนักลงทุนที่อาจไม่แยแสต่อปอดของชาวกรุง
“ใครใช้บริการ แอร์พอร์ตลิงก์ ก็จะเห็นภาพประทับใจเหมือนกัน ก็คือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่อยู่ในทำเล ที่เราจะไม่ได้เห็นมันนัก คือ "พื้นที่โรงรถไฟเก่าของมักกะสัน" ซึ่งมีอาคารเก่าอยู่มากมาย และที่สำคัญต้นไม้เก่าๆ ก็เต็มไปหมดพื้นที่ตรงนี้
ถ้าไม่ได้มองมุมนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าใหญ่และงามขนาดไหน รวมถึงมีคุณค่ามากๆ แต่ทุกวันนี้ก็ถูกปิด ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งก็ดีแล้ว! เพราะพื้นที่สีเขียวที่ผลิตอากาศดีที่เรามองไม่เห็นก็ได้ถูกอนุรักษ์ไปในตัว พื้นที่ตรงนี้เป็นของการรถไฟบริหารขาดทุนเละเทะ (น่าจะโกงกันเละเทะด้วย) พอกหนี้สะสมส่งต่อกันถึงปัจจุบันนี้ ราคา 110,000 ล้านบาท กับกระทรวงการคลัง
วิธีปลดหนี้ง่ายที่สุดก็คือขายซะ ให้เอกชน (เพราะถ้าคิดวิธีอื่นได้ก็คงไม่ลามมาถึงแสนล้าน) ก็มีแนวโน้มจะขายให้เอกชน พวกนายทุน นักลงทุนก็พร้อมจะซื้ออยู่แล้ว แว่วๆ ลือๆ กันมาว่าจีนจะมาซื้ออีกด้วย เป็นเรื่องน่าเศร้าเซ็ง กับการโกงกินแล้วก็คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พวกเราเองก็ทำได้แต่วิจารณ์ ผ่านคีย์บอร์ด เราน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ พื้นที่สีเขียวและประวัติศาสตร์นั้น ไม่มีคนใดคนหนึ่งได้ประโยชน์ จึงไม่มีใครจะออกตัวดูแลจัดการมัน แต่เพราะเราทุกคนได้ประโยชน์จากอากาศที่มองไม่เห็น และประวัติศาสตร์ที่เราไม่ได้เก็บไว้คนเดียว
ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอะไรผิดๆ ไปเพื่อปลดหนี้ พื้นที่สีเขียวก็น่าจะเป็นเจ้าของร่วมกันของทุกสรรพสิ่งทั้งคนและสัตว์ ไปติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ “เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์” เผื่อจะช่วยกันเคลื่อนไหวและทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่ออนาคต เราต้องการคนรุ่นใหม่มาช่วยกัน!!” บริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร เอเยนซีโฆษณาหัวใจสีเขียวเรียกร้องให้ทุกคนช่วยกันออกมารวมพลัง!!
ร่วมเป็นหนึ่งเสียงสำคัญในการเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่มักกะสันกับกิจกรรม “Park Talk” ในวันที่ 18-20 มี.ค.นี้ เวลา 17.00-19.00 น. ณ โถงกลาง ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมชมนิทรรศการ “มักกะสันสวนสร้างสรรค์” ได้ที่ชั้น 3 ในวันที่ 18-29 มี.ค.นี้
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031406