เมื่ออดีตภรรยาของแฟนฉัน บอกฉันว่า"แฟนฉันเป็นเอดส์"

ขอเกริ่นเรื่องก่อนนะค่ะ ที่ดิชั้นได้ออกมาเขียนเรื่องนี้เพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเรื่องความรัก ความเจ้าชู้ และเรื่องการป้องกันสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ในสังคมบนโลกใบนี้นั้นเราไม่สามารถคาดเดาหรือกำหนดอะไรได้ คนที่หน้าที่การงานดีหน้าตาดีอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความลับเก็บไว้อยู่ แต่มันจะไม่เป็นปัญหาถ้าเรื่องราวเล่านั้นมันไม่ได้ทำลายชีวิตผู้อื่น
     เพราะฉะนั้นการระมัดระวังตนเองก่อนจึงถือว่าเป็นเรื่อง Safe ที่สุด ไม่คิดเหมือนกันว่าชีวิตตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ นึกว่าละครเกาหลี 55+ (ยืมไอดีเพื่อนมาแชร์เรื่องราวนะคะ เพราะการสมัครพันทิพมันยุ่งยากมากคะ)
****ฝากถึงผู้ชายที่เจ้าชู้มักง่ายในการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆหรือคิดว่ามั่นใจในคนที่เราคบเลยไม่ใส่ถุงยาง หรือผู้หญิงที่มั่นใจในตัวผู้ชายเลยสร้างความมั่นใจให้ผู้ชายด้วยการไม่ใส่ถุงยางก็ได้ หรือเหตุผลอะไรก็ตามแต่
**จงอย่า!!ไว้ใจอะไรง่ายๆจนกว่าคุณจะไปตรวจโรคต่างๆเหล่านี้ **
เราเองอาจจะมั่นใจตัวเราเองหรือมั่นใจในตัวแฟนเรา แต่แฟนเก่าแฟนเราละ แฟนของแฟนเก่าละเราจะรู้ได้งัย ว่ามันจะไม่อะไรติดมากับร่ายกายเรา สิ่งที่มันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่อาจจะเป็นภัยเงียบที่ทำลายชีวิตเราโดยไม่รู้ตัวก็ได้

      ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ
     ดิชั้นผู้เป็นเจ้าของกระทู้เรื่องนี้ จะนามสมมุติว่า  แป้ง  แป้งเป็นผู้หญิงที่ถือว่าหน้าตาดีคนนึง (อันนี้คนรอบข้างบอกนะคะ ไม่ได้หลงตัวเอง55) หน้าที่การงานดีมาก สังคม ครอบครัว การศึกษา ดีหมดคะ  
  โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าตัวเองค่อนข้างเพียบพร้อมสำหรับใครหลายๆคน ( เอ้ะ หรือไม่ใช่)  อายุ 28 ปี มีแฟนมาค่อนข้างเยอะพอสมควร และเป็นผู้หญิงที่คนเข้ามาให้เลือกมากมายจึงถือว่าอาจจะเป็นคนเจ้าชู้ในระดับนึงคะ  ที่ผ่านมาคบคนอายุน้อยกว่ามาตลอด และคบใครไม่ได้นาน พีคสุดที่1ปีนิดๆ ก็จะเลิก เป็นงี้ตลอด อาจจะเป็นด้วยที่ว่าเป็นผู้หญิงสปอร์ต กทม. พอสมควร เพศหญิงก็เป็นประเภทที่ว่าพอทะเลาะก็จะขุดเรื่องราวที่เราเคยซื้อเคยจ่ายขึ้นมาพูด ขึ้นมาทวงบุญคุณ แล้วก็มานอยด์เอง (ประสาทเนอะ) ผู้ชายที่อายุน้อยกว่านอกจากจะคอนโทรลง่ายแล้วพวกนางยังมีเงินไม่เทียบเท่าเราด้วย กลัวว่าจะดูแลเราในอนาคตไม่ได้(ตอนคบแรกๆดันคิดไม่ได้) ทำให้มีปัญหาเลิกๆกันไป ประมาณนี้ (เรื่องตัวเองซะเยอะเลย)
    เข้าเรื่องเลยละกันเกริ่นมามากละ  มันเป็นช่วงวันลอยกระทงเมื่อปี 57 ตอนนั้นแป้งกำลังนอยด์ๆจากแฟนคนที่คบอยู่ในตอนนั้น ซึ่งมีปัญหาและใกล้จะเลิกกันและได้มาเจอพี่คนนึงสมมุติว่าชื่อพี่เจนะคะ พี่เจจีบแป้งมานานแล้วโดยส่งข้อความไลน์หาตลอด แต่แป้งก็สนใจมั้งไม่สนใจมั้ง (ขอข้ามว่ารู้จักกันได้ยังงัยนะค่ะ)
   จนวันนึงที่ได้มานัดเจอกันเพื่อไปลอยกระทง ทำให้แป้งรู้ว่าพี่เจเป็นน่ารัก เทคแคร์ดี ใส่ใจและ อบอุ่น พี่เจอายุห่างจากแป้ง 7 ปี ด้วยความที่แป้งไม่เคยคบผู้ชายอายุมากกว่ามาก่อนจึงทำให้รู้สึกว่า เออ เนอะ ผู้ชายอายุมากกว่ามันดูแลเราได้แบบนี้นี้เอง ฟินเบย ><  ขอแทรกประวัติพี่เจนิดนึงนะค่ะ พี่เจเป็นพ่อม่ายลูกติดอายุ35ปี หน้าตาไม่ขี้เหร่ ดูโอเค หน้าที่การงานดี เป็นระดับผู้บริหารไปทำงานเมืองนอกบ่อยๆ และเคยอยู่เมืองนอกมาก่อนเป็นสิบปี ก่อนจะกลับมาทำงานกับคนใหญ่คนโตที่ประเทศไทย แค่ประวัติคร่าวๆก็ทำให้แป้งสามารถที่จะคบหาพี่เจได้โดยไม่ยาก ไม่ใช่ว่าแป้งเห็นแก่เงินทองนะค่ะ แต่แป้งเองก็ต้องการผู้ชายที่ดูแลแป้งได้โดยที่แป้งไม่ต้องมานั่งเปย์ให้ หรือต้องมานั่งแชร์ตลอดเวลา (อันนี้ยอมรับว่าเห็นแก่ตัวนิดนึง) พี่เจบอกแป้งว่าเค้าเลิกรากับอดีตภรรยาไปนานแล้วเนื่องจากภรรยาไปมีแฟนใหม่ระหว่างที่ยังมีเค้า และตอนนั้นลูกเค้าอายุได้ 1 ขวบ
   พี่เจจะพยายามดราม่าชีวิตตัวเองเรื่องความรักต่างๆ นานา และทำตัวให้เห็นว่าชีวิตเค้ามีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน เงินทอง และทำให้เห็นว่าเค้ารักลูกเค้ามากขนาดไหน (อันนี้ถือว่าดีเป็นผู้ชายที่รักลูกที่สุดคนนึงเท่าที่เคยเจอมาดูแลลูกเองทุกๆอย่าง) และการเข้าสู่ห้วงแห่งละครเกาหลีก็เริ่มขึ้น เราเริ่มเอ๊ะใจว่าเค้าหย่ากับอดีตภรรยาเค้าหรือยัง (เพราะตอนนั้นเราก็เริ่มคิดจริงจังกับเค้าแล้วพอสมควร) เราก็เลยถามเค้าไปหลังจากเก็บข้อข้องใจมาสักพัก

แป้ง: แป้งถามอะไรหน่อย พี่เลิกกับแฟนเก่าพี่หรือยังอ่ะ
พี่เจ: เออ คือ ทำไมหรอ ทำไมถึงถามอ่ะ
แป้ง: อ้าวก็ถ้าเราจะคบกับใครสักคนมันก็ต้องถามเพื่อความชัดเจนป่ะ
พี่เจ: ยังไม่ได้หย่าพอดีพี่งานยุ่ง แล้วทางนู่นเค้าก็ไม่ค่อยว่างด้วย
แป้ง:อ้าว เฮ้ย แล้วทำไมไม่บอกกันตั้งนานแล้วอ่ะ นี้ถ้าไม่ถามก็ไม่คิดจะบอกใช่ปะวะ (เริ่มฉุน) นี้เท่ากับแป้งคบกับสามีชาวบ้านอ่อวะ มันไม่ถูกต้องนะแบบนี้อะ
พี่เจ: มันยังไม่ลงตัวหลายๆอย่าง แล้วไหนจะเรื่องการรับเป็นผู้มีสิทธิ์ดูแลบุตรอีก มันวุ่นวายมาก ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้เลย #@@##$%^%$%&%^^&%^&^^&%^
ตามที่ว่าคะสารพัดจะอ้าง แป้งเลยยื่นคำขาดว่า สิ้นเดือน มกราคม 58 ถ้าเค้ายังไม่หย่ากับภรรยา แป้งขอบายดีกว่า เพราะว่ามันเท่ากับผิดจริยธรรม ผิดกฎหมายด้วย ในหลายๆอย่าง แต่แป้งก็พยายามพูดให้เค้าคิดถึงลูกด้วยนะคะ ว่ายังงัยเด็กก็ต้องมีแม่ ต้องอยู่เป็นครอบครัว เค้ายืนยันว่าตัวเค้าเองไม่ได้รักภรรยาเค้าแล้ว และเลิกรา แยกกันอยู่ไปนมนานแล้วจริงๆ เพียงแต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องหย่าขาด มันยุ่งยาก ลำบาก แป้งก็เลยให้เค้าพิสูจน์คะ
(สารพัดจะอ้าง แต่ประเด็นคือ แป้งเชื่อ!!)  หลังจากประเด็นนี้สักพักไม่นาน เรื่องราวมันเริ่มเข้มข้นขึ้นตรงที่ว่า ภรรยาพี่เจ เข้ามาทักแป้งในเฟสบุคคะ



แก้ไข เพิ่มเติมบทนำคะ
แก้ไข การเว้นวรรค และ ย่อหน้าคะ รู้สึกมันจะอ่านแล้วมึนๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่