อยากระบายเรื่องความรักที่ผิดพลาดของตัวเอง

สวัสดีค่ะ
         ก่อนอื่นต้องบอกเพื่อนๆ ก่อนนะคะว่าเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงที่เจอมากับตัวและคิดว่ามันไม่น่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งที่ 2 และไม่ได้มีเจตนาที่จะมาประจารตัวเองหรือประจารใครแต่แค่อยากเล่าให้สักคนฟังเพราะมันเสียใจมากๆ และก็รู้ว่าเราคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์ และการพูดจาค่อนข้างใช้คำรุนแรง มากเมื่อไม่พอใจหรือหึงห่วงสุดๆ จริงๆ เราเป็นคนค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงหน่อย หงุดหงิดง่าย ขี้งอล โกรธง่ายหายเร็วแถมบาทีก็หายเอง ง้อเองอะไรประมาณนี้ เหมือนอารมณ์แปรปวนบ้างว่างั้นเถอะ แต่อยู่กะเพื่อนก็จะตลกๆ ร่าเริง ต๊องๆ ตามเรื่อง ปกติถ้าไม่พอใจก็นิ่งส่วนใหญ่ เพราะเรารู้ตัวว่าเราใช้คำพูดตรงเกิน ด้วยอาจจะรับไม่ได้เลยถ้ารู้จักเราตอนโมโห เรื่องนี้ก็แล้วแต่เพื่อนๆ จะพิจารณาว่าใครผิดใครถูกเพราะเราก็ไม่อยากโทษใครนอกจากตัวเราเอง...

         ก็นั่งคิดอยู่นานหลายวันว่าจะเล่าในห้องออนไลน์ดีมั๊ย เพราะมันดูจะเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมาบอกคนทั้งประเทศหรือเปล่า? แต่ก็เป็นการเตือนใจสำหรับบางคู่รักที่ประสบปัญหาแบบนี้ให้รู้ว่าเออจริงๆ เราทุกคนก็มีปัญหาแตกต่าง แต่อาจจะดูแล้วคล้ายๆกัน ความรักมันทำให้เราสุขก็จริงแต่มันก็ทำให้เราทุกข์ได้ในเวลาไม่กี่นาทีที่เลิกกันแหละ เราพึ่งจะเคยเขียนเรื่องความรักลง Blog เท่านั้นเอง

          ทำไมเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ก็เพราะครั้งแรก เรามีพึ่งเคยจะมีแฟนคนแรกตอนเรียนที่คบกันมา 8 ปี และเป็นแฟนคนแรกที่เรียกว่าเราโคตรรัก ทุ่มเทสุดๆ เพราะคิดว่าน่าจะไม่รักใครมากได้เท่านี้แน่นอนคือคบกันจนคิดว่านี่แหละพ่อของลูกเลยทีเดียว เพราะเค้าเป็นคนจริงจังกะชีวิตนะ ขยัน เรียนดีเลยละ ไม่เจ้าชู้ หน้าตาก็บ้านๆ แบบเราแหละ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะรักอะไรขนาดนั้นทั้งที่เส้นทางความรักที่ผ่านมาเค้าไม่ค่อยใส่ใจเราเท่าไหร่ คือไม่ค่อยมีเวลาดูแลแบบแฟนทั่วไปหรอก ปีแรกๆ ดีทุกสิ่งนะตามใจเราแต่ไม่ชอบให้ไปเที่ยวดึกๆ ตามผับไรงี้จะคอยตามไปตลอด พอหลังๆ ก็เริ่มติดเพื่อนก็เลยไม่ค่อยไปไหนมาไหน 2 คนละ เราก็โอเคนะ เพราะเราก็แฟร์ๆอะ ไปกินเหล้ากะเพื่อนไรงี้เราให้ไปนะไม่ห้ามแต่ทุกทีก็ให้เราไปด้วยตลอด พอเราเริ่มห่างเพราะเรามาเรียนต่อที่ กทม. ส่วนใหญ่เราจะลงไปหาเค้าที่ต่างจังหวัดบ่อยมากๆ เกือบจะทุกอาทิตย์ หรือวันไหนแบบหยุดยาวนี่ก็จะไปหาเค้าตลอด แต่ไปก็ไม่มีเวลาให้เรานะเราก็อยู่ๆ ไป เพราะคิดว่าแค่มีคนรักอยู่ข้างๆ เราก็สุขใจแล้ว เค้าจะเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนๆ อีก 3 คน เราไปพักที่บ้านหน้าที่เราทำความสะอาดบ้านให้หนุ่มๆ ล้างจานที่แช่ค้างมาเป็นอาทิตย์ไรงี้ ซักผ้าให้เค้า ทั้งที่ตัวเราเองไม่ชอบทำให้ใครเรียกว่าเป็นคุณหนูอยู่บ้านแม่จัดการให้หมดอะไรประมาณนั้น แต่พอเราได้ทำงานเค้าก็เป็นวิศวะกรต้องออกไซต์งานต่างจังหวัดนอนแคมกะคนงานเรียกว่านอนกลางดินกินกลางทราย เราอะก็ไปหาก็นอนแบบนั้นแหละสังกะสีทำเป็นที่พัก นึกภาพออกนะแบบคนงานก่อสร้างเราก็ไม่เคยบ่นนะ นอนได้กินง่ายอยู่ง่ายว่างั้น ทุกที่เราจะไปหาตลอดนะ ผญ อะไรไปหา ผช ได้ตลอด ยอมนอนกลางดินกินข้าวป่ากะคนงาน แต่เรื่องมันมาอยู่ตรงที่เราเป็นคนอ้วนง่ายพอชีวิตมีความสุขก็ไม่ดูแลตัวเองอ้วนกลมเลย จนเค้าเริ่มไม่พอใจอยากให้ลดก็จะสั่งห้ามกินโน่นนี่นั้น ถ้ากินก็จะงอลไม่พอใจ น้ำอัดลมเนี่ยหยุดเลยจ๊ะเค้าไม่ให้กินแต่เราก็แอบๆ กินบ้างคือดื้อด้วยพอเค้าออกคำสั่งให้ลดความอ้วนก็ทำนะแต่ทำได้พักนึงเราก็เหนื่อย คือขัดใจเค้าเรื่องอ้วนเรื่องเดียวนี่แหละส่วนเรื่องหึงเราสุดยอดอยู่แล้วหึงจริงจังเลย (ขนาดไม่หล่อเรายังหวงอะ) จนมาปี 2012 เค้าเปลี่ยนไซต์งานไปอยู่อีกจังหวัดคราวนี้เราสงสัยว่าทำไมไม่บอกเราเรื่องที่พักสักทีเพราะเราจะไปหาไปดูว่าอยู่ยังไงด้วยความเป็นห่วงว่าจะอยู่ดีหรือเปล่า ผ้าห่อก็เตรียมไว้ให้ ห่วงว่าซักผ้าที่ไหนอะไรแบบนี้ เค้าก็ไม่ยอมบอก โทรไปก็ติดงานตลอด อยู่กับหัวหน้าบ้าง อาทิตย์หนึ่งโทรหาเราแค่ครั้งเดียว เออเรด้าเราเริ่มทำงานเราเริ่มสงสัยก็ถามๆไปตรงๆว่านอกใจป่ะเนี่ย ตลอดจนเค้าเริ่มรำคาญมั้ง ก็ตอบว่าไม่มีงานยุ่ง ไม่มีเวลาเลยเราก็รู้บ้างละว่างานด้านนี้เป็นไงเราก็เชื่อใจเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่อง ผญ เลย มีก็แต่ไปแซวนักร้อง สาวเชียร์เบียร์ตามร้านเหล้า ปกติ เลยทำใจได้พยายามไม่คิดมาก เพราะก่อนคบคือเราสัญญาว่าจะเชื่อใจกันจะไม่นอกใจกันแน่นอน มีอะไรก็จะบอกกันเสมอ

         แต่พอวันหนึ่งเราไม่สบายหนักต้องผ่าตัดเลยนะ เราโทรไปบอกเค้าว่าเราจะเข้ารักษาวันที่เท่านี้โรงพยาบาลนี้เลยถามว่าว่างมาอยู่เป็นเพื่อนมั๊ยเรากลัวเราไม่เคยผ่าตัดถุงน้ำดี คำตอบที่ได้คือไม่ว่างติดงาน งานเร่งมาก เคๆ อารมณ์โมโหเริ่มมาละแต่เก็บไว้ทนๆ เพราะเค้าบอกก่อนวางสายว่าถ้าเคลียร์เร็วไม่แน่อาจจะไปหา เราก็เคๆ ตามนั้น พอถึงวันเราโทรไปเค้าบอกว่าขอโทษไปไม่ได้จริงๆ แต่เราก็คิดนะว่าก่อนเราผ่าหลายวันทำไมไม่โทรมาถามหรือโทรมาบอกว่าเออมาไม่ได้นะ เราไม่เข้าใจว่าทำไมรอเราโทรไปหาหรอ นี่จะผ่าเย็นนี้แล้วพี่ชายเราก็ถามด้วยความสงสัยว่าแฟนเราทำไมไม่มามันใช้ได้หรอแฟนป่วยนะไม่ว่างขนาดนั้นเลยหรือ เราก็ดันแก้ต่างให้อีกว่าเค้าไม่ว่างจริงๆแหละเดี๋ยวคงจะโทรมาถามหลังออกจากห้องผ่าแหละมั้ง แถมคิดบวกว่าจะมาเซอร์ไพส์เราหรือเปล่าด้วยแอบลุ้นนะ แต่พอผ่าตัดเสร็จมาพักฟื้นคืนนั้น 5 ทุ่ม โทรสับก็เงียบ เออสงสัยดึกแล้วคงเพลียหลับแล้วละ พอรุ่งเช้าก็เงียบเอะยังไง ตอนบ่ายเลยโทรไปถามสักหน่อยว่าลืมหรือเปล่าว่าแฟนผ่าตัดป่วยไม่คิดจะโทรมาถามอาการบ้างหรอ ด้วยความโกรธละน้ำเสียงเราจะนิ่งๆ แข็งๆ คำตอบคือไม่ว่างโทรเลย อืมมมมมม ตอนนั้นใจมันหายยังไงไม่รู้น้ำตาไหลเองเลย โอเคไม่ว่างขนาดเจียดเวลา สักนาทีโทรมาไม่ได้ก็ไม่รู้จะให้เราเข้าใจเป็นอื่นได้ไงจริงมะ ใจนี่คิดละว่านอกใจแน่ๆ (เดี๋ยวมาต่อนะ นี้เรื่องคนแรกแบบย่อแล้วนะยาวมาก ขอนอนก่อนละกัน)

           ต่อเลยละกัน หลังจากที่ผ่าตัดได้ประมาณอาทิตย์ (ต้องบอกก่อนว่าแฟนคนแรกนี้เปลี่ยนไปในเวลาแค่2เดือนหลังจากย้ายไซต์งาน) เราก็โทรไปปกติบอกว่าจะกลับไปอยู่บ้านแต่มีพิรุธเรด้าทำงานตลอดเลยค่ะ กังวลมากจนถามย้ำเค้าซ้ำๆ จนเค้ารำคาญเลยบอกว่าตอนนี้เค้าอยากอยู่คนเดียว โอเค อยู่คนเดียวก็ได้ แต่เราก็สืบของเราต่อเองนะ เป็นคนที่อยากรู้อะไรก็อยากจะรู้เลยสืบจนเจอ ผญ คนหนึ่งเลยโทรไปถามเลยและรู้ว่า ผญ คนนี้ก็มีแฟนอยู่แล้วทำงานด้วยกันคุยจนเป็นเพื่อนกับเราเลยล่ะ แต่มันมีเหนือกว่านั้นคือมีอีกคนค่ะ ผญ คนนี้คนที่ทำงานที่ไซต์โทรมาบอกว่าเห็นไปด้วยกันบ่อยๆ เช้าปุ๊บ บินไปเลยจ้าแต่ไม่เจอเจอแต่แฟนเรา และเค้าก็ งง ว่าได้ไงรู้ที่อยู่ได้อย่างไร เราไม่บอกเราไม่พูดถึงแต่แค่ดูสายตาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่แฟนเราคนเดิมที่รักเรามากๆ และพอจะรู้แล้วละว่าวันนี้คงต้องโดนบอกเลิกแน่นอน และมันก็เป็นจริง เรานี่หัวใจสลาย เราผิดอะไรหรอ นอกใจเราก็ไม่เคย เราแฟร์ทุกอย่าง ซึ่งวางแผนอนาคตกันว่าจะแต่งงานแล้วด้วยแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ เราก็ถามไปนะเค้าบอกแค่ว่าเราไม่ทำตามที่เค้าขอเลยนั้นก็คือ "ลดความอ้วน!!!" คือเค้ารอมานานมากจนหมดใจและคงจะรอไม่ได้ เราทำใจไม่ได้อะที่ผ่านเราคบกันที่อะไรที่หน้าตาหรือตัวตนของเราจริงๆ เราทำใจไม่ได้เลยมาเกือบปีโทรหาเค้าแทบ 3 เวลาขนาดเค้าอยู่กะอีกคนยังคุยอะ ทะเลาะจนเรารู้สึกว่าเราเป็นนางร้ายมากๆ พอเค้าเลิกกับเราไม่ถึงปีก็ได้ข่าวว่าแต่งงานเพราะ ผญ ท้อง 8 เดือน คือคบตอนที่ยังไม่เลิกกับเราด้วยซ้ำที่ 2-3 เดือนนั้นอะที่เปลี่ยน เรานี่ไม่กินไม่นอน ไม่ทำงานลาออกเพราะน้ำตาไหลตลอดเวลาจนถึงปัจจุบันก็ยังฝันถึงอยู่เลย

      ต่อมาช่วงที่เราทำใจอยู่ก็มี ผช เข้ามาจีบผ่านทางเฟส แต่มีคนหนึ่งที่เราไม่ค่อยสนใจแต่ก็ทักมาตลอดเป็นห่วงตลอดเวลาก็คุยด้วยนะแต่น้อยคือไม่สนไม่อยู่ในสายตาเลย ถามถึงตอบจนเรารู้สึกว่าคนนี้ทำไมมีความพยายามเนอะเลยคุยกันผ่านไลน์ส่วนตัวก็คุยเฮฮา คือรู้สึกเค้าเป็น ผช อบอุ่นมาก เข้าใจ ผญ ดีมากๆ จนเราแอบคิดว่าเค้าไม่ใช่ ผช แท้อะเพราะท่าทางเหมือน ผญ เลย เราคุยกันมาได้สักพัก ก็เริ่มนัดเจอแต่ก็ยังไม่ได้เป็นแฟนเพราะเรายังไม่พร้อมมีใคร พอหลายเดือนผ่านไปเหมือนเค้าจะยิ่งชอบเรามากเลยตัดสินใจขอเราคบ เราตกลงลองคบดู ผช คนนี้เค้าไม่ติดว่าเราจะอ้วนหรือเปล่าแต่ตอนคบเค้าครั้งแรกเราผอมจากเดิมมากหลังจากเลิกกับคนแรก แต่เราพอเริ่มไม่คิดถึงคนเก่าแล้วเริ่มสดใสขึ้นกินมีความสุขก็เริ่มอ้วนเหมือนเดิมแต่เค้าก็ไม่สนใจนะเค้ารักดูแลเราดีตลอด แต่ในระหว่างที่คบกับเค้าเราก็ยังไม่รู้สึกรักอะไรนะ เราก็เคยคิดว่าเราไม่เต็มร้อยกับเค้าเลยด้วยแต่ด้วยความที่เราเป็นคนชิวๆ ไม่ค่อยสนใจแต่ความจริงสนใจโคตรๆ ไม่แคร์ความรู้สึกเค้าก็จะประชดบ่อยเหมือนเราเก็บกดจากคนแรก เหมือนเรายังติดกะคนแรกอยู่จนทำให้เค้ารู้สึกว่าเราไม่ได้รักเค้าหรออะไรประมาณนี้ แต่จริงๆ เราก็เริ่มจะรักจะหวงเค้าแล้วล่ะเพราะเราคิดว่าเราอยากหลุดพ้นจากอะไรเดิมๆ เราก็เริ่มใส่ใจเค้ามากขึ้นแต่เราเป็นคนกวนๆ บางทีงอลบ่อยแบบหยอกเล่นเค้าก็คิดว่าเป็นเรื่องซีเรียสซะหมด(ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่คบแรกเค้ามีธุรกิจร้านเล็กๆ แต่ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจลูกค้าน้อยลงเค้าเลยต้องปิดกิจการลงและว่างงานมาจนตอนนี้ แต่ตอนที่เค้าว่างงานเราก็เป็นห่วงนะว่าเค้าจะใช้ชีวิตอย่างไร งานโทรตามมั๊ยเราถามเสมอและเราก็ช่วยตลอดเวลาเรามีงานนอกเราก็จะยื่นให้เค้าทำระหว่างรอเรียกสัมภาษณ์ แต่เค้าชอบเล่นเกมส์มากๆ เลยดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ค่อยสนใจจะหางานจริงจัง เรื่อยเปื่อยไปวันๆ เราก็ไม่ได้รังเกียจที่ไม่มีงานทำหรอกนะแต่เราก็อยากให้เค้ามีอนาคตที่ดีกว่านี้แต่เค้าชอบพูดว่าเค้าพอใจในสิ่งที่เค้ามีแล้ว คือเราก็หงุดหงิดนะเลยถามไปว่าอายุเยอะแล้ว 34  ปี แล้วไม่อยากมีครอบครัวน่ารักๆ บ้างหรอ คือไม่มีตอนนี้แต่การปูพื้นเพื่อไปถึงอนาคตมันก็ดีไม่ใช่หรอเราคิดแบบนั้นแต่ด้วยความที่เราอายุน้อยกว่าเยอะเราก็ไม่พูดเพราะเค้าเป็นผู้ใหญ่น่าจะคิดได้เพราะเวลาเค้าสอนเราก็มีเหตุมีผลคือความคิดเค้าดีแต่เค้าทำไมไม่ทำ เราเหมือนมีนางมารร้ายในหัวตลอดเวลาเค้าบอกเค้าสอนเราว่า ทำไมไม่บอกตัวเองก่อนละก่อนที่จะมาสอนคนอื่น เราก็จะเหมือนไม่สนใจแต่จริงๆ เราคิดทุกคำพูดเค้าเลยนะ เราเป็นคนฟอร์มเยอะว่างั้นเถอะ) พอมีปัญหาเรื่องความคิดไม่ตรงกัน เริ่มทะเลาะกันบ้าง เค้าชอบบอกว่าเราไม่ค่อยฟังที่เค้าพูด เค้าสอนเลย เอาแต่ใจเกินไป ซึ่งเรายอมรับว่าเราไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าเราไม่เห็นกับตาหรือพิสูจน์ด้วยตัวเองซึ่งก็ยอมรับฟังนะเพราะบางสิ่งที่เค้าสอนเค้าพูดก็ถูกของเค้าแต่ด้วยบุคคลิกเราเหมือนไม่สนใจเลยทำให้เค้าคิดว่าเราดื้อ เราพยายามยื้อกันมาได้ปีกว่าๆ จนเมื่อเดือน สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าเค้าห่างๆ เรา เงียบไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่