บอกเพื่อนยังไงดีคะ ให้ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้

ขอเกริ่นนิดนึงนะคะ คือ  ตัวเราเรียนอยู่มหา'ลัย ปี 4 แล้วค่ะ เป็นช่วงที่ฝึกงานพอดีค่ะ ปกติเราเป็นคนที่มีเพื่อนค่อนข้างเยอะทั้งหญิงทั้งชาย แล้วก็ค่อนข้างจะสนิทกับเพื่อนทุกคนค่ะ เนื่องจากว่าเราเองก็เป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน เฮฮา บางทีก็มักจะมีแบบพูดหยอกล้อเฮฮสกันในกลุ่มเพื่อนแบบไม่ได้คิดอะไรค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าช่วงที่เราขึ้นปี 4 มาใหม่ๆ ก็ต้องมาฝึกงานเป็นกลุ่ม  แล้วกลุ่มที่ว่านี่คือจับโดยการสุ่มจากอาจารย์ค่ะ ตอนแรกเราก็รู้สึกหนักใจมาก เพราะกลุ่มเรามีเราเป็นผู้หญิงคนเดียว อีกอย่างคือในกลุ่มใหม่ก็ไม่มีเพื่อนสนิทของเราเลยแม้แต่คนเดียว เหมือนต้องมาทำงานกับคนที่ไม่รู้จักก็กังวลมากค่ะ เวลาไปทานข้าวหรือไปเที่ยวอะไรเป็นกลุ่มเราจะรู้สึกแย่มาก เหมือนโดนทิ้งเลย เค้าคุยอะไรกันเราก็ไม่รู้เรื่องเลย ฟุตบอล เกมส์ เหล่สาว อะไรทำนองนี้ ทั้งๆที่ปกติเราเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายมาก คุยกับทุกคนได้หมด และเนื่องจากเพื่อนในกลุ่มก็เป็นผู้ชายกันหมด งานหนักก็มาลงที่เราเลยค่ะ เพื่อนมาฝึกสาย ไม่ส่งงาน ไม่มาทำงานตามนัดนี่เราเจอประจำ  เรากลับหอไปบางทีก็กลับไปร้องไห้ระบายกับรูมเมทเลยค่ะ พาลด่าไปทุกอย่าง ทำไมอาจารย์จับกลุ่มแบบนี้ ทำไมเราโชคร้ายแบบนี้  

แต่เหมือนในความโชคร้ายของเราก็ยังมีแสงสว่างหลงเหลือบ้างค่ะ  บังเอิญว่าเพื่อนคนนึงในกลุ่มเป็นกิ๊กกับคนในสายรหัสเดียวกับรูมเมทเรา รูมเมทเราก็เลยจัดการให้เพื่อนของนางหักคอให้เพื่อนคนนี้มาช่วยเราทำงาน สมมติว่าชื่อ อ นะคะ ค่ะ อ ก็มาช่วยเราทำงานจริงๆ มาช่วยทุกอย่างตั้งแต่ขนของไปทำงาน ขนของกลับ มาส่งที่หอ ไปทานข้าวเป็นเพื่อน จนเรารู้สึกว่าเออ อ นี่มันดีจริง เพื่อนของเมทเราโชคดีที่ได้มัน อยู่ไปอยู่มาก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ สนิทแบบเพื่อนจริงๆ สำหรับเรา ไม่เคยมีอะไรที่เกินเลย ยิ่งทำงานไปนานๆพอสนิทกันมากขึ้นตอนหลังนี่กลายเป็นคุยกันทุกเรื่องเลยค่ะ สัพเพเหระก็คุยหมด เรายังชอบแซวๆมันว่า "เฮ้ย แกชอบเพื่อนคนนั้นชะ กิ๊กกันอยู่ชะ เดี๋ยวช่วยเชียร์" เวลาที่เราไปชอบใครเราก็จะมาถามมะนเหมือนกันค่ะบางที ว่าแบบแกรู้จักมั้ย พี่เค้าเป็นยังไง มีเฟสมั้ย มันก็ช่วยเราตลอด 555

พอฝึกได้ซักพักก็ต้องย้ายที่ฝึก แต่ก็ยังฝึกกับกลุ่มเดิม พอมาฝึกงานที่ใหม่นี่งาน้ยอะมากค่ะืไม่มีเวลากระดิกตัวเลยจริงๆ ละมีอยู่ครั้งนึงที่เราต้องพรีเซ้นต์งานคู่กับ อ ปรากฏว่ามันอินดี้อะไรไม่รู้ ไม่ยอมมาพรีเซ้นงานเฉย ทิ้งเราโซโล่คนเดียว เราโกรธมาก ตอนนั้นนี่เผาพริกเผาเกลือแช่งได้นี่ทำไปละ งานก็ใหญ่เอาการ คะแนนก็ได้ด้วยกัน ละมาหนีหายไปเฉยๆ หลังจากวันนั้นเราก็สะบัดบ๊อบค่ะ ไม่คุยกับมันอีกเลย เจอก็ไม่ทัก มันก็ไม่รู้ตัว เรานี่ยิ่งอยากกรี้ด แต่ดีที่หลังจากนั้นเป็นช่วงที่กลับมาเรียนที่มอพอดี เลยไม่ต้องทำอะไรเป็นกลุ่มเท่าไหร่ เราก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกัน ก็อาจจะมีไปทานข้าวดูหนัง แต่ก็จะไปกันเป็นแก๊งค์ใหญ่ๆหลายๆคนตลอด จนมาถึงช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อาจารย์ก็ให้ออกไปฝึกงานอีกรอบ คราวนี้ไปเป็นกลุ่มใหญ่ ไปต่างจังหวัดเลยค่ะ ก็ต้องไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันประมาณสิบกว่าคน ตอนนี้เป็นช่วงที่เราก็ลืมๆไปละค่ะว่าเราไม่พอใจ อ อยู่ ก็คุยกันปกติ เวลาที่อยู่ในบ้านเราก็จะเป็นคนที่ตื่นเช้าเป็นปกติ เพื่อนคนอื่นๆก็จะนอนหลับกันตามระเบียบ ละคือเราติดนิสัยว่าตื่นมาละต้องหิวทันที พอมาอยู่บ้านแบบนี้จะหาไรกินก็ลำบาก ต่างจังหวัดด้วย ที่ทางก็ไม่คุ้นเคย เราก็จะชอบไปงอแงๆกับเพื่อนเราที่เป็นผู้หญิงให้ตื่นพาเราไปหาของกิน นางก็จะหงุดหงิดตลอด 555 อันนี้ที่จริงมันก็เป็นความงี่เง่าของเราเอง ไปงอแงๆหลายๆวันเพื่อนก็เริ่มรำคาญค่ะ เราเองก็สงสารเพื่อน เหมือนกัน มีวันนึงเราก็งอแงๆกับเพื่อนอยู่ อ ก็ไลน์มาบอกว่าจะไปกินข้าวชะ จะไปส่ง เรานี่ตกใจ สงสัยว่าเราจะวอแงดังไปมันเลยตื่น เราเลยบอก เฮ้ยๆแก เราขอโทษ จะเสียงเบาๆละ มันก็บอกเห้ยเราตื่นเพราะหิว หลังจากนั้นวันมันก็ตื่นไปหาข้าวเช้าทานกับเราทุกวัน พอเพื่อนรู้เพื้อนก็เริ่มแซวตามระเบียบ เราก็ฮาๆตามสไตล์ ตอบแบบเล่นๆขำตลอด คือบอกก่อนนะึะว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับ อ จริงๆ เราก็เข้าใจมาตลอดว่ามันกิ๊กกับเพื่อนของรูมเมทเรา

ช่วงนั้นเป็นข่วงที่สนิทกันมากที่สุด แบบจุด peak มาก เพราะเจอกันเกือบ 24 ชม อยู่บ้านเดียวกันอีก จนวันนึงเพื่อนเรา สมมติชื่อ ป ก็เนียนๆมาถามเรา แต่ถามแบบไม่เจาะจง อารมณ์ประมาณว่า แกๆ ไม่มีใครที่มาจีบแกเลยหรอ ไม่มีคนคุยเลยหรอ อะไรทำนองนี้ เราก็ตอบขำๆว่า แกถึงเราจะโสดและเหงา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเอาไม่เลือกป่ะวะ นางก็ไม่หยุด ถามต่ออีกว่าถ้าแกต้องเลือกคนในบ้านนี้เป็นแฟน แกเลือกใคร เรานี่แบบคิดในใจเอ้ะอินี่ต้องการอะไร แต่ก็ตอบนะคะ เราก็บอกตรงๆว่าไม่เอาซักคนแก ไม่นิยมคบเพื่อนเป็นแฟน ไม่นิยมแปรรูปความสัมพันธ์ นางก็ต่อค่ะ ยัดเยียดเนียนๆมาทีละคน คนนั้นอ่ะคิดยังไง คนนี้อ่ะคิดยังไง เราก็งงๆ กับคำถามนาง ไม่ค่อย get ก็ตอบทำนองเดียวกันหมดค่ะว่าเพื่อนแก หลังจากนั้นก็จบประเด็นไปค่ะ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนฝึกงานเสร็จ หลังจากนี้ก็จะต่างคนต่างแยกย้ายฝึกกัน  วันสุดท้ายที่อยู่รวมกันก็ตกลงกันว่านัดกันไปทานข้าวดูหนังส่งท้ายซะหน่อยก่อนแยกย้าย ก็ไปทานข้าวดูหนังกะฝันปกติเลยค่ะ หลังจากดูหนังเสร็จก็ประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ก็เริ่มแยกย้ายกลับ แต่เรากับเพื่อนก็อยากต่อแต่ขอแบบ no alc ก็เลยไปต่อกันที่ร้านนม ไปกัน 4-5 คน อ ก็ไปค่ะ ก็กินไปคุยไปสัพเพเหระเรื่อยๆ ป ก็พูดลอนๆขึ้นมาอารมณ์ว่าหลังจากนี้นี่ก็ต้องแยกย้ายละนะ ไม่ได้ฝึกด้วยกันละนะ จะมาเจอกันอีกทีก็อีกนานเลย ใครมีไรอยากบอกอยากทำ อยากสารภาพกับกู (หมายถึง ป) ก็รีบบอกนะ เราก็แบบเออออ พูดฮาๆตามค่ะแบบเออกูด้วย เพื่อนอีกคนก็เอาตาม สมมติชื่อ ล นะคะคนนี้ ก็พูดเล่นๆตามกันมาเรื่อยๆค่ะ อยู่ อ ก็เงียบ ทุกคนก็งงว่ามันเป็นอะไรก็ถามซักกันใหญ่ เราก็อารมณ์ว่าสนิทก็แหย่ไปว่าหญิงทิ้งอะดิ มันยิ่งเงียบ เรานี่ซีดเลย คิดในใจว่าเอาละแงะ ปากเรานี่หาเรื่องจริง ก็พยายามแก้สถานการณ์ พูดไปเรื่อยเปื่อย กลายเป็นมันยิ่งเงียบ เราเลยเอาวะถามตรงๆละกัน ก็ถามมันเลยค่ะว่าโกรธเราเรื่องมะกี้ชะ มันกฌบอกไม่ใช่ นางมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ เพื่อนที่มาก็เริ่มต่อมเผือกทำงานสิคะ ซักไซร้กันไปเรื่อยๆ มันก็ไม่บอก จนทุกคนหมดความพยายาม 555 หลังจากนั้นก็แยกย้ายกลับกันไป ล ก็มาที่ห้องเรา นางก็มาพูดกับเราทำนองว่านางขอบ  อ เห็นว่าเราสนิทกับ อ เราคิดอะไรมั้ย เราก็แบบเฮ้ย จริงดิ เราอะไม่ได้อะไรเลย แต่นี่จะแยกย้ายกันอยู่ละทำไมเพิ่งมาบอก นางก็มาขออารมณ์ว่าให้เราเป็นแม่สื่ออะไรทำนองนี้ เราก็เออออเห็นว่าผู้ชายก็เป็นคนดี แต่ตอนนั้นเราก็สะดุดใจนิดนึงเพราะก็เหมือนรู้ๆอยู่ว่า อ เป็นกิ๊กกับเพื่อนของรูมเมทเรา หลังจากนั้นประมาณตี 2 กว่าๆ เรากำลังอาบน้ำเสร็จ ไลน์เราก็ดังค่ะ ปรากฏว่า อ ไลน์มา มันบอกว่าอยู่ใต้หอเรา มีเรื่องจะคุยด้วย เราก็เห็นว่าดึกแล้วก็บิกมันว่า พรุ่งนี้มั้ยแก มันก็บอกแป้บเดียวไม่งั้นมันนอนไม่หลับ ตอนนั้นเราคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่เกิดตอนกินนมกันแน่ๆก็เออๆเดี๋ยวลง มาคิดที่หลังก็แบบเออทำไมใจกล้าลงไปวะ ตีสองกว่าๆ 555

พอลงมาก็เจอมันนั่งอยู่ใต้หอค่ะ เราก็เปิดประเด็นเลยค่ะ
เรา: เออ มีไร เร็วนะแก เราง่วงมากกกก
อ: แกอยากรู้มั้ยว่าเมื่อกี้เราเป็นอะไร
เรา: อยากเล่าก็บอก
อ: เรา ชอบ แก
เรานี่แบบ ตึงงงงง เงิบไปสามวิ ไปต่อไม่ถูก ทำหน้าก็ไม่ถูก งงมากกกก
อ: แค่นี้แหละ ไปนอนเลย
เรา: แก แกไม่ได้กิ๊กกับเพื่อนของรูมเมทเราอยู่หรอ
อ: ไม่ เราเลิกคุยกันตั้งแต่ปีสอง
เรา: อ้าว ส(ลั)ด ละไม่บอกวะ ปล่อยให้แซว >> อันนี้คือพูดให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายน่ะค่ะ
อ: แล้วแกว่ายังไง >> เอิ่ม มันก็ไม่จบ ถามกลับเราอีก แหม่ เราก็พยายามเปลี่ยนเรื่อง
เรา: แก เราคิดว่าแกเป็นเพื่อนมาตลอด แกเป็นคนดีนะ ก็เป็นเพื่อนกันนะ
ตึงง คือตอนนั้นเราตกใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้  ตั้งตัวไม่ทัน ในหัวก็คิดถึงเพื่อนอีกคนที่มาขอให้เป็นแม่สื่ออีก เอาจริงๆตอนนั้นคือเราไม่ทีตื่นเต้น อาย หรือเขินเลยซักนิดค่ะ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเป็บแบบนั้น
เรา: หลังจากนี้เจอกันก็เป็นเหมือนเดิมนะ คุยกันเหมือนเดิม
อ: จะพยายาม

หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายค่ะ จนมาถึงช่วงวันวาเลนไทน์ อ ก็โทรมาหาเรา มันพูดประมาณว่าให้ลองคุยๆกันไปก่อนได้มั้ย อย่าเพิ่งรับตัดสินใจ ชิบไม่ชอบค่อยว่ากัน อะไรทำนองนี้ เราก็ตรงๆค่ะก็บอกว่าเรารู้สึกไม่ผิดถ้าเกิดว่าเราคุยกับมันก็เหมือนเป็นการให้ความหวัง ละยิ่งถ้าสุดท้ายแล้วเราตอบเหมือนเดิม เราก็ยิ่งไม่ดี เหมือนหลอกให้ความหวัง อ ก็บอกว่านางโอเค แต่ขอโอกาสคุยค่ะ เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง เอาจริงๆคือตอนนั้นเองเราก็ไม่แน่ใจตัวเองด้วยค่ะว่าชอบ อ มั้ย แต่ปฏิเสธไปก่อนเพราะกลัวเสียเพื่อน ทั้ง อ และ ล พอนางมาพูดคราวนี้ก็เลยยิ่งลังเลค่ะ เหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เราก็ไม่ได้ตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนฟัง อ พูออย่างเดียว สับสนค่ะตอนนั้น ทำตัวไม่ถูก

พอหลังจากวันที่ อ โทรมา อ ก็ไลน์มาเรื่อยๆค่ะ เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ถ้าวันไหนที่ไม่ตอบมากๆมันก็จะโทรมาถามเลยว่าทำไมไม่ตอบ อะไรทำนองนี้ค่ะ จากแรกๆที่ไลน์มาเฉพาะก่อนนอน หลังๆก็เริ่มสามเวลาหลังอาหาร จนกลายเป็นทั้งวันอ่ะค่ะ แรกๆก็รู้สึกแบบเออดีเนอะ ดูเทคอคร์ดี ดูสนใจดี ก็แอบหวั่นไหวนะคะ555 ว่างๆมันก็ส่งเพลงมาให้ แต่ละเพลงก็แบบ หืมมมม ฟังละแบบขนลุก นางก็รุกหนักมาก คุยกันก็เยอะ เราก็ถามตัวเองทุกวันว่าชอบมันมั้ย แรกๆนี่ใีลังเล แต่พอเริ่มคุยกันมาขึ้นๆเรายิ่งรู้สึกนะคะว่า อ เป็นคนดีมากก ดีจริงๆ แต่เรารู้สึกว่าอยากเป็นเพื่อนกันมากกว่า จุดที่ทำให้เราตัดสินใจได้คือมีวันนึงที่เราไปต่างจังหวัดแล้วลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านคะ เรารู้สึกชอบตัวเองวันนั้นมากค่ะ ชอบที่ไม่ต้องมามัวนั่งกดโทรศัพท์ คุยโทรศัพท์ ตอบไลน์ ไม่ต้องแคร์ ไม่ต้องคิดอะไร เรารู้สึกว่าเออ การอยู่คนเดียวสำหรับเราตอนนี้ มันมีความสุขกว่า การอยู่กับเพื่อนมันโอเคกว่าสำหรับเราในตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราอยากจะขึ้นคานนะคะ แต่เรายังไม่พร้อมที่จะคบใคร ดูแลใคร หรือผูกมัดอะไรกับใครมากกว่า มันทำให้เรามองย้อนกลับไปช่วงเดือนกว่าๆที่คุยกับ อ ว่าเราทำอะไรที่แปลกไปเยอะมาก เราต้องทำบางอย่างทั้งที่เราไม่อยากทำเพียงเพื่อรักษาความรู้สึกของมันไว้ เช่น เวลาที่เราไปทานข้าวหรือดูหนังกับเพื้อน อ ก็จะถามตลอดค่ะว่าไปกับใคร กี่คน ดูเรื่องอะไร รอบกี่โมง หนังกี่ ชม เราเข้าใจนะคะว่า อ ก็พยายามแสดงออกว่าเค้าใส่ใจ สนใจเรา แต่เราไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ บางทีทานข้าวกับเพื่อนอยู่ก็ตเองตอบไลน์ อ ไปด้วย มันทำให้เรารู้สึกอึดอัด ไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนั้นเลยค่ะ

พอกลับจากต่างจังหวัดมา เราตัดสินใจได้เลยค่ะว่าเราอยากคบ อ แบบเป็นเพื่อนจริงๆ แบบไม่มีความลังเลซักนิด แต่ปัญหาคือที่ผ่านมาเดือนนึงเราก็คุยกับ อ ไปเยอะอยู่ค่ะ ไปนั่งย้อนอ่านดูนี่แทบลมจับ บางที่บางคำที่พิมพ์หรือพูดไปตอนนั้นมันไม่ได้คิดอะไรนะคะ แต่พอกลับมาอ่านละก็รู้สึกว่าเออมันก็คิดได้นะว่าให้ความหวัง  อ เคยถามเราว่าจะมีวันที่เราชอบ อ ได้มั้ย เราก็ตอบตามความจริงนะคะว่า อ เป็นคนดีนะ ใครๆก็คงชอบคนดีได้ไม่ยาก คือตอนนั้นตอบไม่ได้คิดอะไรนะคะ พอย้อนมาอ่านเท่านั้นแหละ เครียดเลยค่ะ นี่มันอ่อยชัดๆ โถ่ ตอนนี้เราเลยไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ เราก็ไม่ค่อยตอบไลน์ อ โทรมาก็ไม่ค่อยรับ อ ไลน์ถามว่าเป็นอะไรก็บอกงานยุ่ง ติดงาน ลืมโทรศัพท์ไว้ย้าน แบตหมด ตลอดค่ะ ไลน์มาก็รอให้ผ่านไปซักครึ่งวันค่อยตอบ รู้นะคะที่ทำอ่ะแย่ แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มบอกยังไงดี ไม่รู้ว่าจะพูดด้วยคำไหนที่มันจะรักษาความรู้สึกของเพื่อนไว้ได้  เราเองก็กลัว อ ช็อคค่ะเพราะเหมือนว่าแรกๆเราก็คุยปกติมาตลอด ละอยู่ดีๆก็มาแปลกๆไปช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วเราก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรมาก่อนด้วย กลัวมากค่ะตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว บอกไปว่าเป็นเพื่อนกันนางก็ขอโอกาส ลองคุยดูก็ยิ่งรู้สึกไม่ใช่

เพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงดีคะ ควรบอกยังไงให้ไม่เสียเพื่อนและมองหน้ากันติดอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่