เรียนดำน้ำ ไปเกาะเต่าคนเดียว แต่เฟี้ยวกว่าเดิม
https://pantip.com/topic/37305367
Oh my nepal ,, สองหมื่นห้านิดๆ พิชิตหิมาลัย
http://pantip.com/topic/34679410
ฝากติดตาม Vol.2 กัมพูชา Slow life มั่ว หลง งง มึน !!
http://pantip.com/topic/33461386
ขอกราบสวัสดีสามครั้งพร้อมส่ายหัวดุ๊กดิ๊กแบบลุงสายันต์ขอต้อนรับทุกท่านสู่กระทู้เที่ยวสุดเฟี้ยว แบบหนุ่มโสดเปลี่ยว เที่ยวคนเดียว ณ เกาะเต่า กับการตัดสินใจเที่ยวแบบโดดเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต เปิดประสบการณ์การเที่ยวเกาะเต่าแบบ 4วัน3คืน แบบใช้งบน้อยที่สุด เพื่อเป็นแนวทางเผื่อผู้สนใจอยากจะแบคแพค หนีโลกแห่งความจิงไปอยู่ในโลกอีกโลกที่ไม่มีคนรู้จัก การเที่ยวคนเดียวกับการภาพถ่ายตัวเองที่ใช้ความพยายามอย่างล้นเหลือ ขอจุดไฟในตัวทุกคนให้ออกเดินทางเจอโลกใหม่ๆ รออะไรกันครับทุกคน ปรบมือออ ~~ ออ !!
คำเตือน : กระทู้รีวิวนี้อาจจะมีแต่ภาพของจขกท.มากเกินไปอาจจะทำให้ทุกท่านโมโหอยากจะกดกากบาทขวาบนปิด และอาจมีถ้อยคำหยาบคายและภาษาวิบัติเพื่อสื่ออารมณ์ และเป็น
ครั้งแรกของการรีวิวอาจจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดและความต่อเนื่อง จึงใคร่ขออภัยท่านผู้อ่านที่น่ารักไว้ ณ ที่นี้
คำแนะนำ :สำหรับท่านที่ยาวไปขี้เกียจอ่านให้เลื่อนไปด้านล่างจะมี
รวมรูปภาพสรุปการเดินทาง , งบประมาณ , Trick ที่จขกท.แนะนำ
ติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
IG : Nutsuksawakhon
กล้องที่ใช้ : Sony RX100 M2 , Gopro (เฉพาะในน้ำ)

ก่อนอื่นต้องขอท้าวความถึงก่อนวันเริ่มต้นของการไปเที่ยว เนื่องจากความเหงาหงอยของจขกท. ที่ทุกคนรอบข้างทำงาน และ รุ่นน้องก็อยู่ในช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัย จึงได้แชร์กระทู้ของท่าน High on dreams (
http://pantip.com/topic/32100654) แต่ไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง จึงได้เกิดประกายการหนีเที่ยวครั้งนี้
และเนื่องด้วยความจนของ จขกท.และไม่ได้เตรียมเงินไว้ ทริปนี้เลยต้องใช้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ จึงเกิดทริปโหด ตลก หลง ฮา แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความทรงจำ ที่ไม่มีวันหาได้ถ้าไม่ไปด้วยตัวเองคนเดียว
และแล้วทริปก็เริ่มขึ้นด้วยการเซิทหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การเดินทาง ที่พัก และได้ข้อสรุปแรกรถไฟฟรี เป็นทางเลือกที่แสนดี สำหรับการประหยัดเงิน จึงจัดแจงหารอบรถไฟฟรี โทรสายตรง 1690 ได้ความว่ามีรถไฟขบวนเร็วที่ 171 ( เร็วจริงๆแล้วใช่ไหม T T ) กรุงเทพ-สุไหงโกลก ออกจากกรุงเทพ 13.00 และต้องลงสถานีชุมพรเวลา 21.12 ถือเป็นเวลาที่ลงตัวอย่างยิ่ง จึงจัดกระเป๋าเตรียมกล้องล้างเมม เตรียมตัวเดินทาง ~~ ง

Start Day 1 !!!
งงตัวเองว่าทำไมกล่าวบทนำหลายรอบ ไม่เริ่มสักที คราวนี้เริ่มจริงๆแล้วนะ หลังจากจัดกระเป๋าเรียบร้อยเดินทางขึ้นรถไฟฟรี จขกท ขึ้นจากสถานีศาลายาโดยรถไฟจะมาถึงตอน 14.08 จึงมาก่อนเวลา 30 นาที เพื่อการซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ เดินทางมาถึงสถานีตีตั๋วเรียบร้อย ได้ตั๋วมาแถมยังมีเวลาเหลืออีก 20 นาที จึงไหว้วานน้องสุดที่รักที่เป็นคนรู้จักคนสุดท้ายของทริป ให้เป็นตากล้องให้ถ่ายกับสถานีรถไฟ
เวลาผ่านไปไม่นานเริ่มได้สัมผัสกลิ่นอายความร้อนของอากาศเมืองไทยที่ร่ำรือกัน ทำให้นึกถึงคำขู่ที่แสนน่ากลัวของรถไฟฟรี แต่ก็ช่างมันตั้งใจแล้ว อย่าไปกลัวลำบาก ถึงเวลารถไฟมาก็ได้ดูตั๋วด้วยความสงสัยว่ามันไม่เห็นจะมีเลขขบวนกับเลขที่นั่งเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าขึ้นอันไหน จึงตัดสินใจถามสาวๆชาวใต้ที่ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้ความว่าให้ไปซื้อตั๋วฟรีที่มีเลขที่นั่ง ผมก็มึนงงอยู่30วิเห็นจะได้ พี่สาวชาวใต้เห็นความโง่ของผม ไตร่ตรองแล้วไม่เข้าท่าแน่ๆ จึงได้พาวิ่งไปซื้อตั๋วที่มีที่นั่งจากคนเก็บเงินหน้าทางเข้าห้องน้ำ(ลับขนาดนี้จะรู้ได้ยังไง555) แต่ขณะเดียวกันนั้นเอง"ประกาศรถไฟขบวนต่อไปเป็นรถไฟขบวน 171 บลาๆๆ " รถไฟมาแล้วครับ คราวนี้ทั้งผมทั้งพี่สาวผู้โชคร้าย วิ่งกันหน้าตั้งเพื่อไปซื้อตั๋วใหม่ให้ผม สวมวิญญาณนักวิ่งยิ่งกว่ายูเซน โบลต์ กระโดดขึ้นรถไฟ โง่เรื่องตั๋วยังไม่พอ ยังทำมึนหาโบกี้ไม่เจออีก พี่สาวผู้โชคร้ายจึงบอก "ขึ้นๆไปก่อนเถอะ แล้วค่อยเดินหาเดี๋ยวกูตกรถ" ล้อเล่นนะครับ พี่เค้าสุภาพมาก ผมใส่ไข่เพื่อความสนุกสนาน5555 แม้จะทุลักทุเลไปบ้างแต่เควสแรกของผมสำเร็จได้มีที่นั่งบนรถไฟอย่างสมบูรณ์ ขอขอบคุณพี่สาวผู้โชคร้ายทั้ง3คน ที่ช่วยให้เด็กน้อยอย่างผมที่เกือบจะตกรถไฟได้ไปต่อ

ภาพนี้เป็นคุณแม่ลูกสองที่นั่งตรงข้ามผม ถ่ายหลังจากนั่งรถไฟมาสักพักด้วยความตื่นเต้น พอหมดความรู้สึกนั้น สิ่งที่สัมผัสได้ต่อมาคือความร้อน แต่ก็พอทนไหวถ้าแลกกับคำว่าฟรี ผมทนได้ และด้วยมิตรไมตรีที่น่ารักช่างคุยของผมจึงได้เจอกับพี่ชายที่นั่งติดกับผมชื่อพี่ ดาวุตพี่เค้าเป็นคนชุมพร แต่ทำงานที่ยะลา จับความได้ว่าเป็นนักลงทุน เดินทางไปกทม.เพื่อหาแนวคิดในการเปิดร้านขายของเพื่อพัฒนาธุรกิจของพี่เค้าในยะลา เท่สุดๆ พี่เค้าได้สอนแนวคิดการลงทุน แลกเปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจ ทำให้เวลา 8 ชั่วโมงบนรถไฟ ไม่เหงาและดูสั้นลงมาก นอกจากมิตรภาพน่ารักๆของคนไทยแล้ว ยังมีวิวนอกหน้าต่างตลอดทางที่สวยงามมองแก้เบื่อ ก็เป็นอีกสเน่ห์ของรถไฟฟรีชั้น3 ที่ได้เจอคนจำนวนมาก ได้เห็นวิถีชีวิตบนรถไฟที่เราไม่เคยเห็น พ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟที่กลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง หลับนอนพักผ่อนกันบนรถไฟ(พี่ดาวุตบอกมา) ได้มองเห็นความลำบาก ยิ่งทำให้รู้สึกถึงว่าโชคดีแค่ไหนที่ตัวเองมีโอกาสดีๆ กว่าคนอื่น เกือบลืมบอกรถไฟจะเลท 1-2 ชม. ทำให้ผมถึงสถานีรถไฟชุมพรประมาณ 22.15 น.ผมได้ไปต่อ 5555

กลางวันเด็กๆยังสนุกสนาน พอพระอาทิตย์เริ่มตก เด็กๆก็เริ่มหมดแรง พระอาทิย์ที่ทำงานมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อนบรรยากาศเย็นลง ฝากไว้เพียงความสวยงามของแสงสุดท้ายก่อนจะลับขอบฟ้า

หลังจากนั่งมาถึงค่ำรถไฟก็มาถึงจุดหมาย สถานีรถไฟชุมพร เควชที่สองก็เริ่มขึ้นคือต้องไปขึ้นเรือนอนที่ออกเวลา 23.00 น.(แล้วแต่วันควรโทรเช็คแต่ละบริษัท) แต่รถไฟจะเลทตามที่กล่าวไว้แล้ว หลังจากถึงสถานีชุมพรจึงต้องรีบเดินทางไปท่าเรือ ทางเลือกที่มีทางเดียวตอนนั้นก็คือมอเตอร์ไซรับจ้างหน้าสถานี ด้วยราคา 100 บาท พี่เค้าจะไปส่งถึงท่าเรือพร้อมทั้งพาไปซื้อตั๋วเรียบร้อย หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ตอนนั้นเหลือเวลาอีก 20 นาที จึงได้ตุนขนม กินมาม่าเพื่อกันหิวในตอนกลางคืน เพราะบนเรือจะไม่มีของขายแต่ที่ขาดไม่ได้ไหนๆก็จะมีโอกาสได้นั่งเรือตอนกลางคืนแล้ว ก็ต้องมีเบียร์มานั่งจิบ เป็นสิ่งวาดฝันไว้ก่อนมาว่าต้องได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ ดูดาว จิบเบียร์ แค่คิดก็ฟินสุดๆ พอเสร็จภารกิจการกินก็ถึงเวลาเรือออก ในตอนนี้คุณจะรู้สึกว่าภาษาไทยบ้านเกิดของเรา จะไม่มีโอกาสได้ใช้อีกแล้ว ให้สัมผัสเหมือนจขกท.เที่ยวยุโรปก็มิปาน ฝรั่งเต็มไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่ฝรั่ง คนไทยนี่แรร์ไอเทมมาก ขึ้นเรือเรียบร้อยแต่ผมไม่ได้จองมาก่อนจึงได้นอนเตียงเสริมเป็นเบาะที่ปูระหว่างเตียงหลัก แต่สำหรับผมความสบายเหมือนกันนอนไหนก็ได้ขอให้ได้ไปก็พอ ไปดูเตียงเรียบร้อยก็เดินดูบรรยากาศรอบเรือได้เจอเพื่อนฝรั่งคนแรก เธอมาจากเดนมาร์กมาเที่ยวไทยครั้งนี้ครั้งที่8 คิดในใจตูคนไทยไม่รู้จะเที่ยวไทยน้อยกว่าเจ๊แกหรือเปล่า แต่ดูเป็นเซียนท่องเที่ยวเพราะที่บ้านทำบริษัทเกี่ยวกับจัดทริปท่องเที่ยวเที่ยวเดนมาร์กครบทุกซอกทุกมุมแล้ว แถมยังชวนไปเที่ยวบ้านบอกว่าจะพาเที่ยวฟรี ด้วยความหน้าด้านของผมก็ตอบตกลงไว้ก่อนแลกเฟสบุคไว้เผื่ออนาคตและก็ชวนกันขึ้นไปนั่งชิวบนดาดฟ้าเรือ มีสาวผมบลอนด์ซื้อเบียร์ขวดมา2ขวด แต่ดันไม่มีฝาเปิด เข้าทางสกิลที่สั่งสมมาจากวงเหล้าที่ฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญ วิชาเปิดขวด หยิบขวดมาควงสองทีจับฝาทั้งสองมางัดกันตามตำรา โพล๊ะ !! ฝาเปิดออกพร้อมฟองฟอดดั่งแชมเปญ ทุกคนหันมาปรบมือจ้าาา งงจ้า แถมยังมีฝรั่งอีกหลายคนมาให้สอนเปิด เปิดได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็สนุกสนานกันไป แต่ก็ฟินอย่างที่ตั้งใจไว้จิบเบียร์ ดูดาว เม้ากับฝรั่ง เพลินยาวไปถึงตี2 กว่าจะลงมานอยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายของดาดฟ้า แล้วราตรีนี้ก็จบลงหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน .
[CR] แบกเป้ขึ้นรถไฟฟรีหนีไปเกาะเต่า งบน้อยไปคนเดียวก็เฟี้ยวได้
https://pantip.com/topic/37305367
Oh my nepal ,, สองหมื่นห้านิดๆ พิชิตหิมาลัย
http://pantip.com/topic/34679410
ฝากติดตาม Vol.2 กัมพูชา Slow life มั่ว หลง งง มึน !!
http://pantip.com/topic/33461386
ขอกราบสวัสดีสามครั้งพร้อมส่ายหัวดุ๊กดิ๊กแบบลุงสายันต์ขอต้อนรับทุกท่านสู่กระทู้เที่ยวสุดเฟี้ยว แบบหนุ่มโสดเปลี่ยว เที่ยวคนเดียว ณ เกาะเต่า กับการตัดสินใจเที่ยวแบบโดดเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต เปิดประสบการณ์การเที่ยวเกาะเต่าแบบ 4วัน3คืน แบบใช้งบน้อยที่สุด เพื่อเป็นแนวทางเผื่อผู้สนใจอยากจะแบคแพค หนีโลกแห่งความจิงไปอยู่ในโลกอีกโลกที่ไม่มีคนรู้จัก การเที่ยวคนเดียวกับการภาพถ่ายตัวเองที่ใช้ความพยายามอย่างล้นเหลือ ขอจุดไฟในตัวทุกคนให้ออกเดินทางเจอโลกใหม่ๆ รออะไรกันครับทุกคน ปรบมือออ ~~ ออ !!
คำเตือน : กระทู้รีวิวนี้อาจจะมีแต่ภาพของจขกท.มากเกินไปอาจจะทำให้ทุกท่านโมโหอยากจะกดกากบาทขวาบนปิด และอาจมีถ้อยคำหยาบคายและภาษาวิบัติเพื่อสื่ออารมณ์ และเป็นครั้งแรกของการรีวิวอาจจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดและความต่อเนื่อง จึงใคร่ขออภัยท่านผู้อ่านที่น่ารักไว้ ณ ที่นี้
คำแนะนำ :สำหรับท่านที่ยาวไปขี้เกียจอ่านให้เลื่อนไปด้านล่างจะมี
รวมรูปภาพสรุปการเดินทาง , งบประมาณ , Trick ที่จขกท.แนะนำ
ติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม IG : Nutsuksawakhon
กล้องที่ใช้ : Sony RX100 M2 , Gopro (เฉพาะในน้ำ)
ก่อนอื่นต้องขอท้าวความถึงก่อนวันเริ่มต้นของการไปเที่ยว เนื่องจากความเหงาหงอยของจขกท. ที่ทุกคนรอบข้างทำงาน และ รุ่นน้องก็อยู่ในช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัย จึงได้แชร์กระทู้ของท่าน High on dreams (http://pantip.com/topic/32100654) แต่ไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง จึงได้เกิดประกายการหนีเที่ยวครั้งนี้
และเนื่องด้วยความจนของ จขกท.และไม่ได้เตรียมเงินไว้ ทริปนี้เลยต้องใช้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ จึงเกิดทริปโหด ตลก หลง ฮา แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความทรงจำ ที่ไม่มีวันหาได้ถ้าไม่ไปด้วยตัวเองคนเดียว
และแล้วทริปก็เริ่มขึ้นด้วยการเซิทหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การเดินทาง ที่พัก และได้ข้อสรุปแรกรถไฟฟรี เป็นทางเลือกที่แสนดี สำหรับการประหยัดเงิน จึงจัดแจงหารอบรถไฟฟรี โทรสายตรง 1690 ได้ความว่ามีรถไฟขบวนเร็วที่ 171 ( เร็วจริงๆแล้วใช่ไหม T T ) กรุงเทพ-สุไหงโกลก ออกจากกรุงเทพ 13.00 และต้องลงสถานีชุมพรเวลา 21.12 ถือเป็นเวลาที่ลงตัวอย่างยิ่ง จึงจัดกระเป๋าเตรียมกล้องล้างเมม เตรียมตัวเดินทาง ~~ ง
Start Day 1 !!!
งงตัวเองว่าทำไมกล่าวบทนำหลายรอบ ไม่เริ่มสักที คราวนี้เริ่มจริงๆแล้วนะ หลังจากจัดกระเป๋าเรียบร้อยเดินทางขึ้นรถไฟฟรี จขกท ขึ้นจากสถานีศาลายาโดยรถไฟจะมาถึงตอน 14.08 จึงมาก่อนเวลา 30 นาที เพื่อการซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ เดินทางมาถึงสถานีตีตั๋วเรียบร้อย ได้ตั๋วมาแถมยังมีเวลาเหลืออีก 20 นาที จึงไหว้วานน้องสุดที่รักที่เป็นคนรู้จักคนสุดท้ายของทริป ให้เป็นตากล้องให้ถ่ายกับสถานีรถไฟ
เวลาผ่านไปไม่นานเริ่มได้สัมผัสกลิ่นอายความร้อนของอากาศเมืองไทยที่ร่ำรือกัน ทำให้นึกถึงคำขู่ที่แสนน่ากลัวของรถไฟฟรี แต่ก็ช่างมันตั้งใจแล้ว อย่าไปกลัวลำบาก ถึงเวลารถไฟมาก็ได้ดูตั๋วด้วยความสงสัยว่ามันไม่เห็นจะมีเลขขบวนกับเลขที่นั่งเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าขึ้นอันไหน จึงตัดสินใจถามสาวๆชาวใต้ที่ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้ความว่าให้ไปซื้อตั๋วฟรีที่มีเลขที่นั่ง ผมก็มึนงงอยู่30วิเห็นจะได้ พี่สาวชาวใต้เห็นความโง่ของผม ไตร่ตรองแล้วไม่เข้าท่าแน่ๆ จึงได้พาวิ่งไปซื้อตั๋วที่มีที่นั่งจากคนเก็บเงินหน้าทางเข้าห้องน้ำ(ลับขนาดนี้จะรู้ได้ยังไง555) แต่ขณะเดียวกันนั้นเอง"ประกาศรถไฟขบวนต่อไปเป็นรถไฟขบวน 171 บลาๆๆ " รถไฟมาแล้วครับ คราวนี้ทั้งผมทั้งพี่สาวผู้โชคร้าย วิ่งกันหน้าตั้งเพื่อไปซื้อตั๋วใหม่ให้ผม สวมวิญญาณนักวิ่งยิ่งกว่ายูเซน โบลต์ กระโดดขึ้นรถไฟ โง่เรื่องตั๋วยังไม่พอ ยังทำมึนหาโบกี้ไม่เจออีก พี่สาวผู้โชคร้ายจึงบอก "ขึ้นๆไปก่อนเถอะ แล้วค่อยเดินหาเดี๋ยวกูตกรถ" ล้อเล่นนะครับ พี่เค้าสุภาพมาก ผมใส่ไข่เพื่อความสนุกสนาน5555 แม้จะทุลักทุเลไปบ้างแต่เควสแรกของผมสำเร็จได้มีที่นั่งบนรถไฟอย่างสมบูรณ์ ขอขอบคุณพี่สาวผู้โชคร้ายทั้ง3คน ที่ช่วยให้เด็กน้อยอย่างผมที่เกือบจะตกรถไฟได้ไปต่อ
ภาพนี้เป็นคุณแม่ลูกสองที่นั่งตรงข้ามผม ถ่ายหลังจากนั่งรถไฟมาสักพักด้วยความตื่นเต้น พอหมดความรู้สึกนั้น สิ่งที่สัมผัสได้ต่อมาคือความร้อน แต่ก็พอทนไหวถ้าแลกกับคำว่าฟรี ผมทนได้ และด้วยมิตรไมตรีที่น่ารักช่างคุยของผมจึงได้เจอกับพี่ชายที่นั่งติดกับผมชื่อพี่ ดาวุตพี่เค้าเป็นคนชุมพร แต่ทำงานที่ยะลา จับความได้ว่าเป็นนักลงทุน เดินทางไปกทม.เพื่อหาแนวคิดในการเปิดร้านขายของเพื่อพัฒนาธุรกิจของพี่เค้าในยะลา เท่สุดๆ พี่เค้าได้สอนแนวคิดการลงทุน แลกเปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจ ทำให้เวลา 8 ชั่วโมงบนรถไฟ ไม่เหงาและดูสั้นลงมาก นอกจากมิตรภาพน่ารักๆของคนไทยแล้ว ยังมีวิวนอกหน้าต่างตลอดทางที่สวยงามมองแก้เบื่อ ก็เป็นอีกสเน่ห์ของรถไฟฟรีชั้น3 ที่ได้เจอคนจำนวนมาก ได้เห็นวิถีชีวิตบนรถไฟที่เราไม่เคยเห็น พ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟที่กลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง หลับนอนพักผ่อนกันบนรถไฟ(พี่ดาวุตบอกมา) ได้มองเห็นความลำบาก ยิ่งทำให้รู้สึกถึงว่าโชคดีแค่ไหนที่ตัวเองมีโอกาสดีๆ กว่าคนอื่น เกือบลืมบอกรถไฟจะเลท 1-2 ชม. ทำให้ผมถึงสถานีรถไฟชุมพรประมาณ 22.15 น.ผมได้ไปต่อ 5555
กลางวันเด็กๆยังสนุกสนาน พอพระอาทิตย์เริ่มตก เด็กๆก็เริ่มหมดแรง พระอาทิย์ที่ทำงานมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อนบรรยากาศเย็นลง ฝากไว้เพียงความสวยงามของแสงสุดท้ายก่อนจะลับขอบฟ้า
หลังจากนั่งมาถึงค่ำรถไฟก็มาถึงจุดหมาย สถานีรถไฟชุมพร เควชที่สองก็เริ่มขึ้นคือต้องไปขึ้นเรือนอนที่ออกเวลา 23.00 น.(แล้วแต่วันควรโทรเช็คแต่ละบริษัท) แต่รถไฟจะเลทตามที่กล่าวไว้แล้ว หลังจากถึงสถานีชุมพรจึงต้องรีบเดินทางไปท่าเรือ ทางเลือกที่มีทางเดียวตอนนั้นก็คือมอเตอร์ไซรับจ้างหน้าสถานี ด้วยราคา 100 บาท พี่เค้าจะไปส่งถึงท่าเรือพร้อมทั้งพาไปซื้อตั๋วเรียบร้อย หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ตอนนั้นเหลือเวลาอีก 20 นาที จึงได้ตุนขนม กินมาม่าเพื่อกันหิวในตอนกลางคืน เพราะบนเรือจะไม่มีของขายแต่ที่ขาดไม่ได้ไหนๆก็จะมีโอกาสได้นั่งเรือตอนกลางคืนแล้ว ก็ต้องมีเบียร์มานั่งจิบ เป็นสิ่งวาดฝันไว้ก่อนมาว่าต้องได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ ดูดาว จิบเบียร์ แค่คิดก็ฟินสุดๆ พอเสร็จภารกิจการกินก็ถึงเวลาเรือออก ในตอนนี้คุณจะรู้สึกว่าภาษาไทยบ้านเกิดของเรา จะไม่มีโอกาสได้ใช้อีกแล้ว ให้สัมผัสเหมือนจขกท.เที่ยวยุโรปก็มิปาน ฝรั่งเต็มไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่ฝรั่ง คนไทยนี่แรร์ไอเทมมาก ขึ้นเรือเรียบร้อยแต่ผมไม่ได้จองมาก่อนจึงได้นอนเตียงเสริมเป็นเบาะที่ปูระหว่างเตียงหลัก แต่สำหรับผมความสบายเหมือนกันนอนไหนก็ได้ขอให้ได้ไปก็พอ ไปดูเตียงเรียบร้อยก็เดินดูบรรยากาศรอบเรือได้เจอเพื่อนฝรั่งคนแรก เธอมาจากเดนมาร์กมาเที่ยวไทยครั้งนี้ครั้งที่8 คิดในใจตูคนไทยไม่รู้จะเที่ยวไทยน้อยกว่าเจ๊แกหรือเปล่า แต่ดูเป็นเซียนท่องเที่ยวเพราะที่บ้านทำบริษัทเกี่ยวกับจัดทริปท่องเที่ยวเที่ยวเดนมาร์กครบทุกซอกทุกมุมแล้ว แถมยังชวนไปเที่ยวบ้านบอกว่าจะพาเที่ยวฟรี ด้วยความหน้าด้านของผมก็ตอบตกลงไว้ก่อนแลกเฟสบุคไว้เผื่ออนาคตและก็ชวนกันขึ้นไปนั่งชิวบนดาดฟ้าเรือ มีสาวผมบลอนด์ซื้อเบียร์ขวดมา2ขวด แต่ดันไม่มีฝาเปิด เข้าทางสกิลที่สั่งสมมาจากวงเหล้าที่ฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญ วิชาเปิดขวด หยิบขวดมาควงสองทีจับฝาทั้งสองมางัดกันตามตำรา โพล๊ะ !! ฝาเปิดออกพร้อมฟองฟอดดั่งแชมเปญ ทุกคนหันมาปรบมือจ้าาา งงจ้า แถมยังมีฝรั่งอีกหลายคนมาให้สอนเปิด เปิดได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็สนุกสนานกันไป แต่ก็ฟินอย่างที่ตั้งใจไว้จิบเบียร์ ดูดาว เม้ากับฝรั่ง เพลินยาวไปถึงตี2 กว่าจะลงมานอยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายของดาดฟ้า แล้วราตรีนี้ก็จบลงหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน .