เมื่อผมวิศวกรหันตัวมาเป็นเซลล์

สวัสดีพี่พี่ชาวพันทิปทุกคนครับ
        ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าผมเรียนจบวิศวะกรสายวัสดุเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบผมก็ได้ทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ด้วยเงินเดือนสตาร์ทที่ 21,xxx บาท ซึ่งมันเยอะมากสำหรับเด็กจบใหม่เลยทีเดียว แต่มันก็ต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง หนักเอาการเหมือนกันเพราะเป็นโรงงานที่ขาดทุนมาโดยตลอดและเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร เปลี่ยนแปลงระบบ ซึ่งผมเข้าทำงานช่วงนี้พอดี พอผมทำงานได้ไม่ถึงเดือน ผมก็ได้รับโทรศัพท์จาก hr ของโรงงานหนึ่งในเครือ sgc ซึ่งผมไปสัมภาษณ์ไว้ว่าผมได้รับคัดเลือกเข้าทำงาน พี่ๆลองคิดเล่นๆดูก็ได้นะว่าผมไปทำหรือเปล่า
         ขอตอบเลยว่าผมปฏิเสธไป หลายคนอาจจะบอกว่าโง่หรือเปล่า เครือ scg เลยนะทำไมไม่ไป ผมมีเหตุผลของผมครับ คือในมุมมองของผมนั้นคิดว่า scg ใหญ่อยู่แล้วโอกาสที่จะก้าวหน้าในการทำงานคงจะไม่ง่ายเลย มีแต่คนเก่งๆ สู้เรามาทำโรงงานเล็กกว่าที่กำลังขาดทุนให้ผลกำไรไม่ดีกว่าหรอ และเราก็สามารถแสดงความสามารถที่เรามีได้ สามารถเรียนรู้อะไรต่างๆที่ได้ทั้งโรงงาน แต่แล้วพอทำได้สักพักมันมีความรู้สึกว่ายิ่งทำยิ่งเหนื่อย เครียดกับการทำงานมากๆยิ่งเป็นโรงงานที่ต้องผลิตตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ปกติเลิกงาน 17.30 น แต่ถ้าวันไหนการผลิตมีปัญหาก็ต้องคอยไปติดตามการผลิตตลอดอีกอย่างไม่มี OT รู้สึกเบื่อมากบางวันแทบไม่อยากไปทำงาน เลยคิดหาลู่ทางอื่นหาโรงงานอื่นที่ระบบการจัดการดีกว่านี้
มันมาถึงจุดเปลี่ยนตอนนี้แหละครับเพราะอีกใจนึงผมไม่อยากทำงานที่โรงงานเท่าไหร่เลย เหมือนอยู่แต่ในกะละ เลยมองหางานเซลล์ดู เออผมลืมบอกไปผมทำงานที่โรงงานได้ 7 เดือนนะครับแต่ก็ไม่เก่งอะไรมาก
        เข้าเรื่องตรงที่ผมมองหางานเซลล์ละกันพอดีไปเจอกับบริษัทนึงเค้าเปิดรับผมก็ลองสมัครไปดู และตอนนั้นผมไม่มีรถส่วนตัว ขับรถไม่เป็นด้วย ก็เอาวะลองดู ปรากฏว่าได้เค้าบอกว่าที่รับเพราะความตั้งใจของผมล้วนผมไม่มีประสบการณ์ด้านเซลล์มาก่อนด้วยข้อด้อยเยอะแยะไปหมด พอหลังจากได้งานผมก็ไปเรียนขับรถก็ไม่ค่อยคล่องนะ ไปสอบใบขับขี่ จองรถ เตรียมดาวรถด้วยเพื่อจะมาทำงานเซลล์กับเค้า แล้วทำเรื่องลาออกจากโรงงานไม่รู้เพราะความคิดที่ผมเบื่อด้วยหรือป่าวทำให้ผมตัดสินใจไวมากเกิน ไม่คิดหน้าคิดหลัง
        แต่พอไปทำงานวันแรกผมยังไม่มีรถนะครับ ต้องติดตามเซลล์รุ่นพี่ไปก่อน แล้วพอได้รถค่อยวิ่งหาลูกค้าเอง ซึ่งผมไปทำงานวันแรกผมก็เกร็งๆทำตัวไม่ถูก เก้ๆกังๆอะครับ ช่วงเช้าเค้าก็แนะนำโปรไฟล์บริษัทว่าทำอะไร ประมาณไหน ผมพอมองเห็นภาพนะ ช่วงบ่ายออกไปพบลูกค้ากับเซลล์รุ่นพี่ ผมก็ติดสอยห้อยตามไปก่อน สังเกตุเวลาพี่เค้าคุยกับลูกค้ายังไง ในกรณีลูกค้ารายใหม่ทีาเรายังไม่เคยดิลมาก่อนต้องทำยังไงบ้าง หลังจากคุยกับลูกค้าเสร็จผมก็ถามพี่เค้านะว่าลูกรายนี้ได้มายังไงหรอ แล้วหลังจากนี้เราควรจะติดตามหรือปิดยอดขายยังไง พี่เค้าเป็นคนคุยสนุกครับเพราะพี่เค้าทำมาหลายปีหลายที่ พอวันถัด                
         มาวันนี้วันแห่งความซวยอะไรไม่รู้ของผม หรือด้วยความที่ผมยังไม่กล้าถามมากเพราะผมก็แอบเกรงใจพี่เค้านะเราควรถามแต่เรื่องงานหรือป่าว ผมขี้เกรงใจอะครับ วันนี้มีเอาตัวอย่างให้ลูกค้าที่ดิลไว้นานพอสมควรแล้วแหละ ปรากฏว่าลูกค้าไม่ค่อย happy เท่าไหร่เพราะตัวอย่างที่เอาไปให้ก็เหมือนโดนลูกค้าบ่นๆพอสมควร อีกทั้งยังเลือนนัดหลายรอบต่างจากลูกค้าคนแรกที่เจอ ผมเด็กใหม่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากกลัวถ้าพูดไปพี่เค้าอาจจะเสียลูกค้าเลยก็ได้ ได้แต่สังเกตุการณ์ว่าพี่เค้าแก้สถานการณ์ยังไง พอตกเย็นช่วงเวลาเข้า meeting หัวหน้าเค้าก็มาบอกว่าบุคลิกภาพผมไม่ใช่เซลล์เลย กลัวว่าถ้าไปเจอลูกค้าจริงๆแล้วจะไม่รอด ไหนจะกดดันเรื่องยอดอีก ถามว่าตอนนี้เรายังไม่ได้ออกรถใช่ไหม หรือจะหางานอื่นพลางๆไปก่อน จนกว่าเค้าจะเห็นว่าผมพร้อมที่จะพบลูกค้า คือถ้าให้ทำ cs ก่อนผมก็ยังรับได้นะ นี่ถึงขั้นจะให้ผมเป็นเอกสาร ดูแลเรื่องการเบิกจ่ายของพี่ๆเซล์ ดูว่านามบัตรมีพร้อมมั้ย ไปจ่ายบิลๆต่างๆ ผมนี่อึ้งเลยแหละ ไปไม่ถูกเลยเงินเดือนก็จะลดลง เค้าประเมินผมได้เพียงนี้เลยหรอ ผมควรทำไงต่อไปดีหละ ทำดีให้ตายยังไงเค้าก็คงไม่ผมเป็นเซลล์ มันเหมือนฝันร้ายมากๆ เพียงเพราะบุคลิกผมไม่เหมาะใช่ไหม ไม่ซัก ไม่ถาม คือพี่ๆเข้าใจมั้ย ผมไม่ได้แก้ตัวนะ หรือบางคนจะว่าแก้ตัวก็ได้ คือถ้าจะให้ผมถามลูกค้าโน้นนี่นั่น โดยที่ผมไม่ได้เป็นคนดิลเอง ลูกค้าจะมองยังไงหละครับ จะก้าวก่ายหน้าที่รุ่นพี่ไปมั้ย เกิดผมพูดอะไรไปไม่เข้าหูลูกค้าขึ้นมา ลูกค้าที่รุ่นพี่ดิลไว้จะคิดยังไง บางทีอาจจะทำให้พี่เค้าเสียลูกค้าไปเลยก็ได้ ถ้าเกิดเป็นลูกค้าที่ผมดิลเองผมจะไม่ว่าสักคำอีกอย่างก็บอกตอนสัมภาษณ์แล้วว่าผมยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้นะ ไม่มีการเทรนพรีเซนท์โปรไฟล์บริษัท สินค้าก็รู้ไม่แค่นิดหน่อย เฮ้อ ตอนนี้ก็ออกเลยอะครับ ผมยังไม่รู้จะไปต่อยังไงเลย ผมขอคำแนะนำพี่ๆหลายคนที่เป็นเซลล์มาก่อนนะครับว่า ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
น่าจะให้โอกาสเราขายก่อน
ถ้าขายไม่ได้ค่อยว่ากัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่