แฉข้อเท็จจริงจากกระทู้แนะนำ "ใจมันรักหุ้นปั่นฯ" เล่นหุ้นแนวอื่นรวยไม่ได้ก่อน 30 จริงหรือ

กระทู้คำถาม
จากกระทู้ "ใจมันรักหุ้นปั่น ใครเป็นแบบผมบ้างครับ ที่ไม่ยอมเป็นคนฐานะธรรมดา แต่เลือกที่จะรวย หรือไม่ก็จนไปเลย" ของคุณสมาชิกหมายเลข 2170972
http://pantip.com/topic/33392486

ผมขออนุญาตนำประเด็นต่างๆ ที่เจ้าของกระทู้เข้าใจผิดมาหยิบยก เพราะเกรงว่าความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้จะลุกลามไปยังสังคมการลงทุนในวงกว้าง เริ่มกันทีละประเด็นเลยนะครับ

ประเด็นที่ 1 "สาย vi  ที่รวยๆ ไปดูสิครับ แต่ละคน ดร.นิเวศ งี้  ,บัฟเฟตงี้  อายุขนาดนั้นนกเขาไม่ขันแล้ว ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะรวยไปทำไมเลย มี วีไอ คนไหนที่รวยตั้งแต่อายุ30 ไม่มีครับ"

ผมขอแบ่งประเด็นที่จะแย้งเป็น 2 ประเด็นดังนี้ครับ

1.1 เจ้าของกระทู้อ้างว่า อ่านเรื่องแนวคิดการลงทุนจนตกผลึกหมดแล้ว แต่ผมกลับเห็นต่าง ผมเชื่อว่าใครที่เคยอ่านหนังสือตีแตกของดร.นิเวศน์ หรือหนังสือ The snow ball ที่บอกเล่าถึงชีวประวัติของชีวิต Buffet คงจะไม่กล้าเขียนหรือพูดข้อความแบบนี้แน่นอนครับ

ดร.นิเวศน์ไม่ได้ลงทุนในแนว VI ตั้งแต่ยังหนุ่มแน่นนะครับ ชีวิต VI ของแกเริ่มต้นหลังจากที่แกออกจากงาน ในวัยร่วม 40 ปี และใช้เวลา 10 ปี ในการสร้างผลตอบแทนระดับ 20-30 เท่า หรือถ้านับถึงปัจจุบันก็คือใช้เวลาไม่ถึง 20 ปีขยับพอร์ตจาก 8 หลักต้นๆ มาเป็น 10 หลักกลางๆ ส่วน Buffet ก็ไม่ได้เพิ่งจะรวยตอนแก่ครับ ตอนอายุ 32 ปี (ประมาณปี 1962) แกก็มีเงินร่วมล้านดอลลาห์แล้วครับ (ลองคิดย้อนกลับไปที่ค่าเงินในยุคสมัยนั้นดูครับ) และถ้าใครอ่านประวัติแกคงต้องบอกได้ว่าแม้จะเป็นลูกชายของสส. แต่การสร้าง wealth ของแกนั้นแกสร้างมาเองกับมือ Buffet นี่เริ่มทำการค้าและงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่อายุไม่ถึง 15 ปีเลยด้วยซ้ำ

1.2 ในฐานะที่เป็นนักลงทุน VI ที่อายุยังไม่มาก ผมอาจจะเพิ่งเริ่มต้น ไม่ได้มีพอร์ตระดับที่สังคมจะเรียกว่าเศรษฐี แต่ผมรู้จักกับพี่ๆ นักลงทุนที่มีพอร์ตระดับหลายร้อยก่อนอายุ 30 ปีอยู่หลายคนเลยครับ ยิ่งระดับหลักสิบล้านนี่เยอะจนนับกันไม่ไหวเลย ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ศึกษาแนวคิดนี้จริงๆ หรือศึกษาประวัติของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากพอ คุณจะรู้ว่าสิ่งที่ผมอ้างไม่ใช่ความคิดเห็น แต่เป็นข้อเท็จจริงครับ (จริงๆ ผมสามารถจะบอกชื่อนักลงทุนที่ติดชื่อผถห.ใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเค้ามี wealth เกินกว่า 9 หลักไปไกล ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 30 บางคนในนั้นผมทราบว่าเริ่มลงทุนจากพอร์ตแค่ 6 หลักด้วยซ้ำ แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรจะนำมาเปิดเผยในกระทู้ครับ) เพราะฉะนั้นข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มี VI รวยก่อนอายุ 30 จะเป็นจริงก็ต่อเมื่อ การมีเงินระดับ 400-500 ล้านไม่เรียกว่ารวยสำหรับคุณครับ

ประเด็นที่ 2 "ซื้อหุ้นพื้นฐาน 100 บาท คุณมีโอกาสได้200บาท หรือขาดทุนไม่เกิน60บาท
ซื้อหุ้นปั่น 100 บาท คุณมีโอกาสได้เงิน 1,000-5,000 บาท แต่เต็มที่ก็ขาดทุนเท่ากับทุนที่ลงไป"


เป็นประเด็นแหลมคมที่เจ้าของกระทู้ตกผลึกครับ ซึ่งผมจะขออนุญาตเห็นต่างดังนี้ครับ

2.1 เจ้าของกระทู้ดังกล่าวไม่ได้กำหนด Time frame ให้กับแนวคิดที่ว่าครับ ถ้าใครเคยอ่านบทความหุ้น 10 เด้ง ของดร.นิเวศน์ก็คงจะไม่คิดว่าหุ้นพื้นฐานจะมีโอกาสทำกำไรแค่ 1 เท่าตัวแน่นอนครับ หุ้นอย่าง SCBLIF BIGC MAKRO HMPRO CPALL ต่างก็เป็นหุ้น 10 เด้งที่ใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี ใกล้กว่านั้นหุ้นพื้นฐานดีอย่าง JUBILE KAMART ก็ให้ผลตอบแทน 10 เด้ง โดยใช้เวลาแค่ประมาณ 5 ปี หรือ AUCT ก็ให้ผลตอบแทน 8-10 เด้งโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ปีเท่านั้นเอง (อนึ่งการยกตัวอย่างทั้งหมดเป็นไปเพื่อการแสดงข้อขัดแย้งกับสิ่งที่จขกท.ในกระทู้ดังกล่าวพยายามจะบอกเกล่าเท่านั้น ตัวผมเองไม่ได้มีหุ้นทั้งหมดที่ว่ามานี้ และไม่ได้มีเจตนาจะชี้นำให้ซื้อหรือขายแต่อย่างใด) และถ้าจขกท.ได้อ่านเคสการลงทุนในต่างประเทศ จะเห็นว่าไม่ใช่แค่ 10 เด้ง แต่หุ้นพฐ.ดี 100-1,000 เด้งก็มีมากมายครับ เพราะฉะนั้นหุ้นพื้นฐานดีไม่ได้สร้างผลตอบแทนแค่เท่าตัวแน่นอน แต่มันจะสร้างผลตอบแทนได้ 100-1,000 เท่า ถ้าคุณให้เวลามันมากพอ อย่าลืมว่าหลายๆ บริษัทในโลกที่มีทุกวันนี้ก็เริ่มต้นจากโรงรถในบ้านหลังเล็กๆ เท่านั้นนะครับ

2.2 หุ้นปั่นมีโอกาสจะทำกำไรระดับ 10-50เท่า????
อูย.... คุณครับ อย่าว่าแต่คนเล่นหุ้นปั่นเลย ตัวเจ้ามือเองจะทำระดับนั้นได้ มันคงยังไม่ง่ายเลยมั้งครับ รบกวนคุณช่วยยกตัวอย่างหุ้นปั่นที่โตมากกว่า 50 เท่ามาให้ฟังเป็นวิทยาทานหน่อยครับ เอาแบบที่เป็นหุ้นปั่นแท้ๆ คือบริษัทไม่ได้มีการ backdoor,M&A หรือไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใดๆ ในเชิงธุรกิจเลยนะครับ  แล้วลองคิดให้ลึกกว่านั้นว่าจะมีสักกี่คนที่จะทำ 50 เท่าได้จริง คือเก็บของตอน low ได้ครบ แล้วไปออกของตอน high ได้ทั้งหมด?? ยิ่งปกว่านั้นแล้วมีอะไรที่ทำให้คุณคิดว่า คนเล่นไพ่ทั่วๆ ไปจะสามารถชนะเจ้ามือป๊อกเด้งที่ "ทำไพ่" ได้บ้างครับ?

2.3 อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ คนที่รวยจากหุ้นพื้นฐานแล้วยังรวยต่อเนื่องเป็น 10 ปีผมเห็นอยู่มากมายนะครับ แต่คนที่รวยจากหุ้นปั่นแล้วไม่ได้ปั่นหุ้นเองต่อเนื่องยาวนานเป็น 10 ปี ผมไม่เห็นนะครับ และวิธีการเล่นของรายใหญ่ที่เล่นหุ้นปั่นจนรวย ก็คงจะแตกต่างจากวิธีที่นักลงทุนรายย่อยทั่วๆ ไปเข้าใจอยู่มากเลยทีเดียวครับ

ประเด็นที่ 3 "หลายคนบอกอยากรวยแบบ ดร.นิเวศน์ ,บัฟเฟต ส่วนผมไม่เลยครับ ตอนอายุ60 ผมจะจนก็ได้ เพราะอายุขนาดนั้น คนเรามันคิดแค่เรื่องสุขภาพเรื่องเดียว
ถ้าคุณไปถามบัฟเฟต ว่ายอมเสียเงินทั้งหมดที่มี เพื่อให้โรคหัวใจหาย ให้โรคหอบหาย และนกเขากลับมาขันเหมือนเดิม บัฟเฟตจะยอมไหม
ผมเชื่อว่าเขายอม เพราะในรายงานประจำปี เขาเคยบอกว่าสุขภาพสำคัญที่สุด เขายอมเสียเงินทั้งหมดแลกกับการจะกลับไปสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิม"


ผมคงจะไม่มีอะไรจะบอกเกี่ยวกับประเด็นนี้มากมาย แต่ถ้าคุณอ่านประวัติ และสิ่งที่บัฟเฟตอุทิศให้กับสังคมมากพอ คุณจะไม่มีทางพูดอะไรทำนองนี้ออกมาแน่นอนครับ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังไม่เคยแก่และจนพร้อมกันครับ ถึงวันนั้นคุณอาจจะไม่พูดแบบนี้ก็ได้ครับ

ประเด็นที่ 4 "จำปรัชญาของผมไว้นะครับ
"ตลาดหุ้น ต้องทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยน""


อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ แต่อย่าลืมว่ามันสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ทั้ง "ในทางที่ดีขึ้น" และ "ในทางที่เลวลง" นะครับ

ปกติผมไม่นิยมตั้งกระทู้ในพันทิปมากนักครับ แต่เห็นกระทู้นี้แล้วอดไม่ไหวจริงๆ ไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่า "การพนัน" ควรจะกลายมาเป็นทางเลือกหลักของชีวิต "การลงทุน" ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ รบกวนท่านใดที่ไม่เห็นด้วยกับกระทู้แนะนำ "ใจมันรักหุ้นปั่นฯ" ช่วยโหวตกระทู้นี้ให้สังคมให้เห็นข้อเท็จจริงด้วยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

Edit: เพิ่มเติมหน่อยครับ กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาจะบอกว่าการเล่นหุ้นปั่นมันไม่เวิร์คนะครับ คนที่เล่นหุ่นปั่นด้วยความเข้าใจมากพอก็สามารถสร้างความมั่งคั่งด้วยแนวทางดังกล่าวได้ครับ เพียงแต่มันไม่ได้ง่ายๆ แบบที่รายย่อยทั่วไปคิด และนำเสนอว่าสิ่งที่จขกท. "ใจมันรักหุ้นปั่นฯ" อ้างหลายๆ ข้อไม่ใช่ความจริงครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 50
ขอเข้ามายืนยันเจตนาของกระทู้อีกครั้งนะครับ เหตุผลที่ผมตั้งกระทู้นี้ มีอยู่ 2 ข้อหลักๆ

1. ผมไม่ต้องการให้ความเข้าใจผิด ขยายไปในสังคมการลงทุนวงกว้าง >>> ให้ชัดลงไปอีก ความเข้าใจผิดที่ว่าไม่ใช่ว่าการเล่นหุ้นปั่นนั้นดีหรือไม่ แต่เป็นความเข้าใจผิดที่ว่า คนเล่นหุ้นในแนวทางอื่นๆ ไม่มีทางจะรวยได้ก่อนอายุ 30 หรือว่าได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นพื้นฐานจะได้ผลตอบแทนเต็มที่ไม่เกิน 2 เท่าตัวเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วถ้าคุณเริ่มต้นไว ด้วยแนวคิดที่ถูกต้อง และมีโชคเป็นส่วนประกอบบ้าง คุณก็อาจจะมีพอร์ต 8-9 หลักได้ก่อนจะอายุ 30 ปี และผลตอบแทนจากหุ้นพื้นฐานนั้น ถ้าคุณเลือกได้ถูกและให้เวลามันมากพอ มันจะให้ผลตอบแทนคุณมากกว่า 2 เท่าไปไกลเลยครับ

2. การที่จขกท.ไม่ให้ความเคารพ Buffet ด้วยการตัดสินเอาเองว่าปู่แกเป็นคนอย่างไร >>> อาจารย์ใคร ใครก็เคารพครับ ผมนับถือปู่บัฟเป็นหนึ่งในอาจารย์ของผม การที่จขกท.กระทู้ "ใจรักหุ้นปั่นฯ" อ้างว่าปู่จะยอม "เสียเงินทั้งหมด" เพื่อแลกกับ "ทำให้นกเขากลับมาขันเหมือนเดิม" เป็นเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยครับ คือกับ dirty joke ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ (และคิดว่าดร.นิเวศน์ หรือปู่บัฟ ก็ไม่น่าจะซีเรียสด้วย) ผมก็ว่าพูดถึงได้ขำๆ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าจขกท.ไม่เคารพ Buffet อย่างแรง คือการตัดสินว่า Buffet จะยอมแลก Wealth จำนวนมากกับเรื่อง Sex ครับ เหตุผลที่ผมมองว่าไม่เป็นการเคารพเพราะ Buffet ได้ประกาศในปี 2006 ว่าจะบริจาค 85% ของหุ้นที่ Buffet มีใน Berkshire ให้กับมูลนิธิครับ ไม่แน่ใจว่าพอจขกท. "ใจรรักหุ้นปั่นฯ" ทราบเรื่องนี้แล้ว ยังคิดว่าปู่บัฟจะยอมแลก "การช่วยเหลือสังคม(ด้วยเงินมหาศาล)" กับ "การทำให้นกเขาตัวเองกลับมาขัน" อยู่รึเปล่านะครับ

มีเพียงแค่ 2 ประเด็นนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกอดไม่ไหว และพิจารณาการตั้งกระทู้นี้ครับ จริงๆ ทั้งก่อนและหลังตั้งกระทู้มีเพื่อนหลายๆ คนเตือนว่า "อย่าคิดมาก" บ้าง "อย่าไปยุ่ง" บ้าง "ระวังเขาแค้นเรา" บ้าง ผมขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับ ผมรับฟังทั้งหมด แต่ต้องขอโทษด้วยที่ผมตัดสินใจไม่ปฏิบัติตามนะครับ ลองคิดดูว่าถ้าหากพวกเราปล่อยให้ข้อมูลที่มันไม่เป็นจริงกระจายไปในสังคม โดยคิดแค่ว่า มันไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าหาเหาใส่หัว สังคมในภายหน้าจะเป็นยังไงครับ ลูกหลานของเราจะได้เจอกับกรอบวิธีคิดแบบไหนครับ!

ส่วนประเด็นที่ว่าการลงทุนในแนวหุ้นพื้นฐาน เทคนิค หรือการเก็งกำไรหุ้นปั่น แบบไหนดีกว่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผมพยายามจะ discuss ในกระทู้นี้ครับ ผมรู้ดีว่า "ความเชื่อ" นั้นยากจะแยกถูกผิด และเป็นสิ่งที่อยากจะเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน ตัวผมเองแม้จะศึกษาแนวทาง VI เป็นหลัก แต่ก็รู้ตัวว่าไม่ได้เป็น Pure VI 100% ครับ (ถ้าคุณศึกษาแนวทาง VI มากพอก็จะรู้ว่าคนที่เป็น Pure VI จริงๆ ก็มีน้อยมากครับ) เพราะฉะนั้นแล้วท่านใดที่พยายามจะบอกว่าผมอวย VI หรือ โจมตีหุ้นปั่น อยากให้ลองคิดใหม่นะครับ ผมไม่ได้มีอคติใดๆ กับหุ้นปั่น (ผมมีอคติกับคนปั่นหุ้นมากกว่า) และไม่คิดว่ามันจะสร้าง Wealth ไม่ได้ครับ ส่วนตัวแล้วผมเข้าใจว่าการเก็งกำไรจากหุ้นปั่นก็มีหลักการของมัน แต่ผมไม่เชื่อว่าการคิดเอาชนะ "เจ้ามือ" หรือคนทำไพ่อย่างที่คุณ จขกท. "ใจรักหุ้นปั่นฯ" อ้างจะเป็นสิ่งที่ทำได้ครับ อย่างมากที่สุด รายย่อยก็ทำได้แค่พยายามหาวิธีที่จะแทงข้างเดียวกับเจ้าแค่นั้นครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
คุณอย่าพูดมากไปครับ

มหาสมุทรต้องการแพลงตอนไว้เลี้ยงปลาวาฬฉันใด
ตลาดหุ้นต้องการนักเก็งกำไรไว้ให้เจ้ามือฉันนั้น
80% เป็นสัดส่วนที่สำคัญในการสร้าง 20%
อย่าทำให้ระบบนิเวศน์เสียสมดุลครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่