อาทิตย์หน้าอวสานแล้วครับ
อาคากิ - ขอโทษนะ ที่ชั้นปกป้องเธอไว้ไม่ได้
เริ่มต้นตอนวันนี้ด้วยฝันร้ายและเหตุการณ์ที่หลายคนที่รู้ประวัติศาสตร์ย่อมเข้าใจทันที มันคือเหตุการณ์ Battle of midway ซึ่งอาคากิบอกว่า ฝันแบบนี้อีกแล้ว ทุกคืนก่อนเริ่มภารกิจจะต้องฝันแบบนี้อยู่เสมอ
(ตรงนี้ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด แต่เราขอเรียกสั้นๆว่า "ระลึกชาติ" เพราะตามท้องเรื่อง คันมุสุเมะคือจิตวิญญาณของเรือรบในสงครามโลกที่ปรากฎกายเป็นรูปธรรม เรียกว่า คล้ายกับ เมทัลโมเดลของแม่ย่านางเรือโมเอะ ก็ว่าได้ ดังนั้นเรือบางลำน่าจะยังมีความทรงจำแบบนี้ด้วยเพียงตอนนี้กล่าวถึงแค่เพียง อาคากิ เท่านั้น)
ณ ห้องบัญชาการรบ
วันนี้อาคากิได้มีเรื่องมาขอปรึกษานางาม่อนตั้งแต่เช้า (ก่อนเข้ามานางาม่อนรู้สึกได้ว่าตัวเองลืมบางอย่างแต่นึกไม่ออก) โดยอาคากิมีเรื่องมาขอร้องคือ เริ่มต้นของดูรายชื่อและการตั้งหน่วยรบใน ภารกิจ MI นี้ ซึ่งหลังดูรายชื่อจนหมด อาคากิมีเรื่องขอร้องสักอย่าง
16 ชั่วโมงก่อนเริ่ม ภารกิจ MI
ตรงนี้ไม่มีอะไรมากใส่ข้ามด้วย ป.6 พูดเรื่องหน้าอกจะโตได้ต้องกินนม
สิ่งที่อาคากิขอร้องมาก็คือ ให้ทำการเปลี่ยนแปลงหน่วยรบยกทีม (รายละเอียดไม่ขอลงนะครับ) แล้วเพื่อจะเป็นการเลี่ยงในกรณีที่ศัตรูรู้ถึงภารกิจ MI ที่เป็นเป้าหมายหลักแล้ว ดังนั้น จึงต้องสร้างหน่วยตัวล่อขึ้นไปยังฐาน AL (Aleutian Islands Campaign) โดยการขอความร่วมมือจาก กองเรือจากเขตกองทัพเรืออื่นคือ จุนโย และ ริวโจ โดยจะไปเข้าร่วมในภารกิจ AL แทน
(อ้างจากประวัติศาสตร์ ที่นางาม่อนพูดถึงคือ Battle of Dutch Harbor ใน Operation AL หรือชื่อเต็ม Aleutian Islands Campaign โดย จุนโย และ ริวโจ บุกโจมตี ณ กองทัพเรือที่ท่าเรือดัตช์ วันที่ 3 มิถุนายน 1942 แน่นอนว่าหากเรื่องให้มีกล่าวถึงฝั่งนี้ย่อมได้เห็น จุนโย ริวโจ กับ ฮอปโปะจัง ด้วยแน่นอนแต่เสียดายไม่มีตรงนี้เลย)
AL เริ่ม 3 June 1942 ถึง 15 August 1943
MI เริ่ม 4-7June 1942
http://en.wikipedia.org/wiki/Aleutian_Islands_Campaign#Attack_on_Dutch_Harbor
(เราว่าตรงจุดนี้แหละที่จะใช้เป็นพล็อตเขียน SS2 ได้นะ แปลอังกฤษนางาม่อนพูดว่า another naval district หรือ เขตฐานทัพเรืออื่น แสดงว่า ฐานทัพเรือในเรื่องยังมีอีกเพียบ ถ้ารายได้กับกระแสความนิยมสูงพอน่าจะสร้างต่อได้สบาย)
ทั้งยังมีการตั้งหน่วยเรืออื่นเพื่อป้องกันรอบฐานทัพ (รายละเอียดไม่ลงนะครับ) แปะด้วย ป.6 ดีใจเริงร่า เพราะไม่นึกว่าจะได้ทำภารกิจแบบนี้กับเค้าด้วยทั้งที่ตลอดมางานหลักคือ ภารกิจส่งสำรวจ
ตัดไปทาง นางาม่อน หลังเปลี่ยนแปลงแผนกันยกทีม มุทสึถามว่า ดีแล้วเหรอ เดิมแผนการณ์นี้จะต้องมีไปขอความร่วมมือจาก ไมคาเสะ และ เรือพิฆาตจากเขตกองทัพเรืออื่นมาด้วย
(มุทสึพูดน่าจะหมายถึง Arashi Hagikaze Maikaze Nowaki ซึ่ง 4 ลำนี้ทำหน้าที่บังคับจมอาคากิเอง)
โดยเหตุผลที่อาคากิมาขอเปลี่ยนเพราะเรื่องที่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหัวมันเรียกร้อง มันพยายามกวักมือเรียกให้พวกเราไปยังอีกเส้นทางหนึ่งที่คนละฝั่ง ซึ่งหากเราเดินไปตามเส้นทางนั้นมันอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเปรียบเทียบให้นางาม่อนว่า ว่าเหมือนดั่ง คลื่นแม่น้ำที่สาดซัดพวกเราให้เดินไปยังเส้นทางที่เรียกว่า ชะตากรรม ซึ่งอาคากิคิดว่าพวกเราน่าจะมีทางเลือกอื่นที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้นไปได้
หลังจบฉากนั้น ถึงนางาม่อนจะเป็นเรือเลขาที่เข้มแข็งและเข้มงวด (แถมพลังหมีเยอะพอดู) แต่ก็ยังมีอีกด้านที่อ่อนแอเช่นเดียวกับคนอื่นๆ หลังจากที่อาคากิบอกเหตุผลเรื่องชะตากรรมที่นำพาตัวเราไปเดิมนางาม่อนตัดสินใจไปแล้วว่า Code AF คือคำสั่งของผู้การที่สั่งให้โจมตีกองเรือทะเลลึกในภารกิจ MI แต่เมื่อฟังที่อาคากิพูด การตัดสินใจนั้นก็เอนเอียงไปทางอื่นด้วยเหตุผลที่แค่ว่า "We have to go to Abyssal Base MI no matter what" ราวกับมันพุ่งเป้าให้ใจจดใจจ่อไปยังสิ่งนี้เท่านั้น
นางา - มุทสึ บางครั้งชั้นก็ครุ่นคิดนะ....
นางา - ทำไมเราถึงได้เกิดมาบนโลกใบนี้ด้วย (ประมาณว่า เรามีตัวตนอยู่เพื่ออะไร)
ตรงนี้ข้ามไปยาวครับ ถ้าเป็นหนังสงครามก็คือ คืนก่อนออกรบที่ต่างคนต่างมาระบายควาในใจ และ สิ่งที่ตนเองต้องการจะทำเพื่อประโยชน์แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น
รุ่งเช้า หลังไปไหว้หลุมศพ คิซารากิ เรียบร้อยกองทัพเรือบุกภารกิจ MI ก็เริ่มต้นเดินหน้า
ใส่ซีนยามาโตะออกตัว และ สาวลึกลับเล็กน้อย
เอาแบบสรุปไปเลยครับ
- เมื่อทุกคนมาถึงเขตแดนสงคราม บรรยากาศที่มืดฟ้ามัวดินที่ไม่อำนวยให้ต่อการส่งเครื่องบินสำรวจ ทั้งไหนจะต้องรอ ยามาโตะ อีก ดังนั้น สิ่งที่อาคากิคิดได้คือ ให้ส่งทั้งหมด ยกเว้น คองโกและฟุบุกิ ไว้ที่จุดนี้เพื่อรอรับหน่วยยามาโตะ เมื่อมาถึงให้เดินทัพตามหลังมาด้วยความเร็วสูงสุด
ซึ่งฟุบุกิแม้จะบอกว่าตัวเองมีหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันแต่อาคากิว่า เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเราต้องรวมพลังและรวมใจกัน
- เมื่อหน่วยอาคากิบุกต่อจนเครื่องบินสำรวจตรงพบฐานทัพ MI ของฝั่งศัตรู ในที่สุดก็พบฐานทัพและผู้ที่ออกมาต้อนรับก็คือ Hikoujou-Ki (Airfield Princess) บอสจาก E4 Fall Event
(เมะเสียดายไม่มีกล่าวถึงฮิเมะคนอื่นเท่าไร)
แน่นอน อะไรมันดูง่ายไปหมด ฝั่ง Hikoujou-Ki ถึงจะส่งเครื่องบินลูกชิ้นลอยฟ้าโจมตีแค่ผิวเผินแต่ไม่ทันก็แพ้อย่างง่ายดาย ด้วยการทิ้งระเบิดปูพรม
- แต่แล้วคำสั่งให้โจมตีระลอกต่อไปก็มาถึง เพราะคากะคิดว่า มันง่ายเกินไปหรือเปล่า อาคากิคิดว่าหากโจมตีไปอีกรอบเพื่อปิดบัญชีผลการต่อสู้น่าจะรู้ผลแล้ว ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้เปลี่ยนอาวุธ จากเครื่องทิ้งตอร์ปิโดเป็นเครื่องบินจู่โจม
- แต่แล้วในช่วงที่คิดว่าจะโจมตีระลอกต่อไปนั้นเอง ฝูงเครื่องบินของ โว๊ะ ตาสีฟ้า ที่บุกมาจากข้างหลังโดยไม่ทันรู้ตัวก็ได้โหมกระหน่ำใส่หน่วยของอาคากิจนไม่ทันตั้งตัว จนทั้งทีมโดยเฉพาะ CV 4 คนตัวหลักเสียหายจนไม่อาจสู้ต่อไปได้ (อ้างอิงจากในเกม CV ถ้าเลือดสีส้มเสียหายปานกลางจะโจมตีต่อไม่ได้ในการต่อสู้ครั้งนั้น)
อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ ฝูงบินนาวีสหรัฐฯจากเรือ Enterprise ดำดิ่งเข้าโจมตีจากระดับสูง
ชุดที่ 1 เล่นงาน คากะ
ชุดที่ 2 เล่นงาน อาคากิ อาคากิ ถูกระเบิดลูกแรกแล้วทะลุลงไประเบิดในโรงเก็บใต้ดาดฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน
ชุดที่ 3 เล่นงาน โซริว
มาถึงฉากสุดท้ายของตอนนี้กัน แม้เธอจะพยายามเปลี่ยนแปลงไปยังไง หรือ พยายามสักแค่ไหน ประวัติศาสตร์ที่เธอเคยได้รับก็ย้อนกลับมาหาเธออย่างไม่อาจหนีไปได้
ตอนนั้นเอง
ลูกระเบิดลูกสุดท้ายที่จะจบชีวิตของเธอ ตกลงมาแล้ว
อาคา - อย่างนี้เองสินะ..ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่อาจหลบหนีชะตากรรมได้หมด
?? - คุณอาคากิ!!!!!
จบตอน
ตอนอวสาน Enemy Planes Dive-Bombing From Above!
ตอนนี้แน่นอนว่ามีจุดให้วิจารณ์เช่นเคย
- ตอนนี้เขียนบทยืดพอดู กับ ตัดอารมณ์พอดู ทีมงานสร้างเกมสอบตกตรงการพยายามทำให้เรื่องมีความน่าตื่นเต้นทั้งที่รู้ว่าเขียนบทโดยอ้างอิงประวัติศาสตร์แล้วดัดแปลง แต่การเล่นมุขซ้ำสองมันไม่มีความลุ้นอะไรอีกแล้วคนดูรู้หมดแล้ว ทั้งบางจุดใส่มาเกินความจำเป็นจนเรื่องไม่มีรสชาติ เช่น บอสอย่าง ฮิโคโจว-คิ ที่โผล่มาแต่เป็นกระสอบทรายอัดเล่น กระทั้งการพยายามใส่บทมาม่าเข้าไปแต่อารมณ์ไม่ตามไปด้วย
- ตัดต่อฉากไม่รู้เรื่องในบางจุด ฉากโดนโจมตีจากข้างหลังหน่วยอาคากิโดนเข้าไปเลือดส้มแล้ว เทียบกับตอนแรกๆความต่อเนื่องและจังหวะมันหายไปเยอะมาก ศึกตอนแรกๆยังมีอะไรให้ตกใจมากกว่านี้
[[Spoil]] Kantai Collection -Kan Colle- Ep.11 พวกเราไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมไปได้
อาทิตย์หน้าอวสานแล้วครับ
อาคากิ - ขอโทษนะ ที่ชั้นปกป้องเธอไว้ไม่ได้
เริ่มต้นตอนวันนี้ด้วยฝันร้ายและเหตุการณ์ที่หลายคนที่รู้ประวัติศาสตร์ย่อมเข้าใจทันที มันคือเหตุการณ์ Battle of midway ซึ่งอาคากิบอกว่า ฝันแบบนี้อีกแล้ว ทุกคืนก่อนเริ่มภารกิจจะต้องฝันแบบนี้อยู่เสมอ
(ตรงนี้ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด แต่เราขอเรียกสั้นๆว่า "ระลึกชาติ" เพราะตามท้องเรื่อง คันมุสุเมะคือจิตวิญญาณของเรือรบในสงครามโลกที่ปรากฎกายเป็นรูปธรรม เรียกว่า คล้ายกับ เมทัลโมเดลของแม่ย่านางเรือโมเอะ ก็ว่าได้ ดังนั้นเรือบางลำน่าจะยังมีความทรงจำแบบนี้ด้วยเพียงตอนนี้กล่าวถึงแค่เพียง อาคากิ เท่านั้น)
ณ ห้องบัญชาการรบ
วันนี้อาคากิได้มีเรื่องมาขอปรึกษานางาม่อนตั้งแต่เช้า (ก่อนเข้ามานางาม่อนรู้สึกได้ว่าตัวเองลืมบางอย่างแต่นึกไม่ออก) โดยอาคากิมีเรื่องมาขอร้องคือ เริ่มต้นของดูรายชื่อและการตั้งหน่วยรบใน ภารกิจ MI นี้ ซึ่งหลังดูรายชื่อจนหมด อาคากิมีเรื่องขอร้องสักอย่าง
16 ชั่วโมงก่อนเริ่ม ภารกิจ MI
ตรงนี้ไม่มีอะไรมากใส่ข้ามด้วย ป.6 พูดเรื่องหน้าอกจะโตได้ต้องกินนม
สิ่งที่อาคากิขอร้องมาก็คือ ให้ทำการเปลี่ยนแปลงหน่วยรบยกทีม (รายละเอียดไม่ขอลงนะครับ) แล้วเพื่อจะเป็นการเลี่ยงในกรณีที่ศัตรูรู้ถึงภารกิจ MI ที่เป็นเป้าหมายหลักแล้ว ดังนั้น จึงต้องสร้างหน่วยตัวล่อขึ้นไปยังฐาน AL (Aleutian Islands Campaign) โดยการขอความร่วมมือจาก กองเรือจากเขตกองทัพเรืออื่นคือ จุนโย และ ริวโจ โดยจะไปเข้าร่วมในภารกิจ AL แทน
(อ้างจากประวัติศาสตร์ ที่นางาม่อนพูดถึงคือ Battle of Dutch Harbor ใน Operation AL หรือชื่อเต็ม Aleutian Islands Campaign โดย จุนโย และ ริวโจ บุกโจมตี ณ กองทัพเรือที่ท่าเรือดัตช์ วันที่ 3 มิถุนายน 1942 แน่นอนว่าหากเรื่องให้มีกล่าวถึงฝั่งนี้ย่อมได้เห็น จุนโย ริวโจ กับ ฮอปโปะจัง ด้วยแน่นอนแต่เสียดายไม่มีตรงนี้เลย)
AL เริ่ม 3 June 1942 ถึง 15 August 1943
MI เริ่ม 4-7June 1942
http://en.wikipedia.org/wiki/Aleutian_Islands_Campaign#Attack_on_Dutch_Harbor
(เราว่าตรงจุดนี้แหละที่จะใช้เป็นพล็อตเขียน SS2 ได้นะ แปลอังกฤษนางาม่อนพูดว่า another naval district หรือ เขตฐานทัพเรืออื่น แสดงว่า ฐานทัพเรือในเรื่องยังมีอีกเพียบ ถ้ารายได้กับกระแสความนิยมสูงพอน่าจะสร้างต่อได้สบาย)
ทั้งยังมีการตั้งหน่วยเรืออื่นเพื่อป้องกันรอบฐานทัพ (รายละเอียดไม่ลงนะครับ) แปะด้วย ป.6 ดีใจเริงร่า เพราะไม่นึกว่าจะได้ทำภารกิจแบบนี้กับเค้าด้วยทั้งที่ตลอดมางานหลักคือ ภารกิจส่งสำรวจ
ตัดไปทาง นางาม่อน หลังเปลี่ยนแปลงแผนกันยกทีม มุทสึถามว่า ดีแล้วเหรอ เดิมแผนการณ์นี้จะต้องมีไปขอความร่วมมือจาก ไมคาเสะ และ เรือพิฆาตจากเขตกองทัพเรืออื่นมาด้วย
(มุทสึพูดน่าจะหมายถึง Arashi Hagikaze Maikaze Nowaki ซึ่ง 4 ลำนี้ทำหน้าที่บังคับจมอาคากิเอง)
โดยเหตุผลที่อาคากิมาขอเปลี่ยนเพราะเรื่องที่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหัวมันเรียกร้อง มันพยายามกวักมือเรียกให้พวกเราไปยังอีกเส้นทางหนึ่งที่คนละฝั่ง ซึ่งหากเราเดินไปตามเส้นทางนั้นมันอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเปรียบเทียบให้นางาม่อนว่า ว่าเหมือนดั่ง คลื่นแม่น้ำที่สาดซัดพวกเราให้เดินไปยังเส้นทางที่เรียกว่า ชะตากรรม ซึ่งอาคากิคิดว่าพวกเราน่าจะมีทางเลือกอื่นที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้นไปได้
หลังจบฉากนั้น ถึงนางาม่อนจะเป็นเรือเลขาที่เข้มแข็งและเข้มงวด (แถมพลังหมีเยอะพอดู) แต่ก็ยังมีอีกด้านที่อ่อนแอเช่นเดียวกับคนอื่นๆ หลังจากที่อาคากิบอกเหตุผลเรื่องชะตากรรมที่นำพาตัวเราไปเดิมนางาม่อนตัดสินใจไปแล้วว่า Code AF คือคำสั่งของผู้การที่สั่งให้โจมตีกองเรือทะเลลึกในภารกิจ MI แต่เมื่อฟังที่อาคากิพูด การตัดสินใจนั้นก็เอนเอียงไปทางอื่นด้วยเหตุผลที่แค่ว่า "We have to go to Abyssal Base MI no matter what" ราวกับมันพุ่งเป้าให้ใจจดใจจ่อไปยังสิ่งนี้เท่านั้น
นางา - มุทสึ บางครั้งชั้นก็ครุ่นคิดนะ....
นางา - ทำไมเราถึงได้เกิดมาบนโลกใบนี้ด้วย (ประมาณว่า เรามีตัวตนอยู่เพื่ออะไร)
ตรงนี้ข้ามไปยาวครับ ถ้าเป็นหนังสงครามก็คือ คืนก่อนออกรบที่ต่างคนต่างมาระบายควาในใจ และ สิ่งที่ตนเองต้องการจะทำเพื่อประโยชน์แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น
รุ่งเช้า หลังไปไหว้หลุมศพ คิซารากิ เรียบร้อยกองทัพเรือบุกภารกิจ MI ก็เริ่มต้นเดินหน้า
ใส่ซีนยามาโตะออกตัว และ สาวลึกลับเล็กน้อย
เอาแบบสรุปไปเลยครับ
- เมื่อทุกคนมาถึงเขตแดนสงคราม บรรยากาศที่มืดฟ้ามัวดินที่ไม่อำนวยให้ต่อการส่งเครื่องบินสำรวจ ทั้งไหนจะต้องรอ ยามาโตะ อีก ดังนั้น สิ่งที่อาคากิคิดได้คือ ให้ส่งทั้งหมด ยกเว้น คองโกและฟุบุกิ ไว้ที่จุดนี้เพื่อรอรับหน่วยยามาโตะ เมื่อมาถึงให้เดินทัพตามหลังมาด้วยความเร็วสูงสุด
ซึ่งฟุบุกิแม้จะบอกว่าตัวเองมีหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันแต่อาคากิว่า เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเราต้องรวมพลังและรวมใจกัน
- เมื่อหน่วยอาคากิบุกต่อจนเครื่องบินสำรวจตรงพบฐานทัพ MI ของฝั่งศัตรู ในที่สุดก็พบฐานทัพและผู้ที่ออกมาต้อนรับก็คือ Hikoujou-Ki (Airfield Princess) บอสจาก E4 Fall Event
(เมะเสียดายไม่มีกล่าวถึงฮิเมะคนอื่นเท่าไร)
แน่นอน อะไรมันดูง่ายไปหมด ฝั่ง Hikoujou-Ki ถึงจะส่งเครื่องบินลูกชิ้นลอยฟ้าโจมตีแค่ผิวเผินแต่ไม่ทันก็แพ้อย่างง่ายดาย ด้วยการทิ้งระเบิดปูพรม
- แต่แล้วคำสั่งให้โจมตีระลอกต่อไปก็มาถึง เพราะคากะคิดว่า มันง่ายเกินไปหรือเปล่า อาคากิคิดว่าหากโจมตีไปอีกรอบเพื่อปิดบัญชีผลการต่อสู้น่าจะรู้ผลแล้ว ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้เปลี่ยนอาวุธ จากเครื่องทิ้งตอร์ปิโดเป็นเครื่องบินจู่โจม
- แต่แล้วในช่วงที่คิดว่าจะโจมตีระลอกต่อไปนั้นเอง ฝูงเครื่องบินของ โว๊ะ ตาสีฟ้า ที่บุกมาจากข้างหลังโดยไม่ทันรู้ตัวก็ได้โหมกระหน่ำใส่หน่วยของอาคากิจนไม่ทันตั้งตัว จนทั้งทีมโดยเฉพาะ CV 4 คนตัวหลักเสียหายจนไม่อาจสู้ต่อไปได้ (อ้างอิงจากในเกม CV ถ้าเลือดสีส้มเสียหายปานกลางจะโจมตีต่อไม่ได้ในการต่อสู้ครั้งนั้น)
อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ ฝูงบินนาวีสหรัฐฯจากเรือ Enterprise ดำดิ่งเข้าโจมตีจากระดับสูง
ชุดที่ 1 เล่นงาน คากะ
ชุดที่ 2 เล่นงาน อาคากิ อาคากิ ถูกระเบิดลูกแรกแล้วทะลุลงไประเบิดในโรงเก็บใต้ดาดฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน
ชุดที่ 3 เล่นงาน โซริว
มาถึงฉากสุดท้ายของตอนนี้กัน แม้เธอจะพยายามเปลี่ยนแปลงไปยังไง หรือ พยายามสักแค่ไหน ประวัติศาสตร์ที่เธอเคยได้รับก็ย้อนกลับมาหาเธออย่างไม่อาจหนีไปได้
ตอนนั้นเอง
ลูกระเบิดลูกสุดท้ายที่จะจบชีวิตของเธอ ตกลงมาแล้ว
อาคา - อย่างนี้เองสินะ..ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่อาจหลบหนีชะตากรรมได้หมด
?? - คุณอาคากิ!!!!!
จบตอน
ตอนอวสาน Enemy Planes Dive-Bombing From Above!
ตอนนี้แน่นอนว่ามีจุดให้วิจารณ์เช่นเคย
- ตอนนี้เขียนบทยืดพอดู กับ ตัดอารมณ์พอดู ทีมงานสร้างเกมสอบตกตรงการพยายามทำให้เรื่องมีความน่าตื่นเต้นทั้งที่รู้ว่าเขียนบทโดยอ้างอิงประวัติศาสตร์แล้วดัดแปลง แต่การเล่นมุขซ้ำสองมันไม่มีความลุ้นอะไรอีกแล้วคนดูรู้หมดแล้ว ทั้งบางจุดใส่มาเกินความจำเป็นจนเรื่องไม่มีรสชาติ เช่น บอสอย่าง ฮิโคโจว-คิ ที่โผล่มาแต่เป็นกระสอบทรายอัดเล่น กระทั้งการพยายามใส่บทมาม่าเข้าไปแต่อารมณ์ไม่ตามไปด้วย
- ตัดต่อฉากไม่รู้เรื่องในบางจุด ฉากโดนโจมตีจากข้างหลังหน่วยอาคากิโดนเข้าไปเลือดส้มแล้ว เทียบกับตอนแรกๆความต่อเนื่องและจังหวะมันหายไปเยอะมาก ศึกตอนแรกๆยังมีอะไรให้ตกใจมากกว่านี้