เนื่องจากกรมทางหลวง ได้มีโครงการขยายไหล่ทางถนนสายน่าน - ทุ่งช้าง จาก 9 เมตร เป็น 12 เมตร ระยะทาง 138 กิโลเมตร ถึงชายแดนห้วยโก๋น ทำให้มีการตัดต้นไม้ข้างทางจำนวนมาก ทางกลุ่มและเครือข่ายจึงมีความเห็นว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนควรจะต้องร่วมไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง จึงอยากขอร้องต่อคณะกรรมาธิการคมนาคมให้มีการอนุรักษ์เก็บอุโมงค์ต้นไม้ประวัติศาสตร์เมืองน่าน ในโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน – อ.เฉลิมพระเกียรติ ด้วยเหตุผลสำคัญ 7 ประการ ดังนี้
1. ประโยชน์ด้านนิเวศบริการ: ให้ความร่มรื่นแก่ผู้ใช้ถนน สร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่นมลพิษ
2. เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว เสน่ห์ของเมืองน่านสร้างบรรยากาศที่ดีในการเดินทางที่มีต้นไม้
หลากหลายสายพันธุ์ ดอกไม้แต่ละสีสลับกันตลอดทาง นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเพราะถนนกว้าง แต่มาเพราะมีอุโมงค์ต้นไม้ที่ไม่เหมือนใคร
3. เป็นสถานที่ไม่กี่แห่งในโลกที่มีอุโมงค์จามจุรีและอุโมงค์ต้นสัก เป็นเอกลักษณ์ของน่านที่ชาวน่านภาคภูมิใจ
4. สิ่งที่สูญเสียคือต้นไม้นับพันต้น ไม่คุ้มค่ากับเพียงแค่การขยายไหล่ทางออกไปข้างละ 1.5 เมตร
5. ส่วนข้ออ้างที่ว่าตัดต้นไม้เพื่อความปลอดภัยนั้น ทางกลุ่มเห็นว่าที่จริงแล้วต้นไม้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อการขับขี่ อันตรายและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทของคน เพราะคนที่เคารพกฎจราจรไม่เคยมีใครตายเพราะต้นไม้ นอกจากนั้น ยิ่งถนนกว้างก็ยิ่งทำให้คนขับรถเร็ว โอกาสประสบอุบัติเหตุก็มากขึ้น และถ้ารถเสียหลักโดยไม่มีต้นไม้สองข้างทางคอยป้องกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือการตกหน้าผา
6. การขยายไหล่ทางไม่ได้ช่วยชาวบ้านให้มีเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถ้าอุโมงค์ต้นไม้หายไป ไม่มีทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว เมืองน่านก็จะเป็นเมืองทางผ่านโดยสมบูรณ์
7. เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์ ให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC
ถ้าเกิดการตัดอุโมงค์ต้นไม้และกลุ่มต้นไม้หลายสายพันธุ์ ก็จะไม่หลงเหลือเป็นประวัติศาสตร์ให้รุ่นลูกหลานได้ภูมิใจ มรดกทางธรรมชาตินี้ก็จะสูญเสียไปโดยไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
ข้อเรียกร้องเพื่อเก็บอุโมงค์ต้นไม้เส้นประวัติศาสตร์ของทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน – อ.เฉลิมพระเกียรติ
1. การเก็บอุโมงค์ต้นไม้ และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของจังหวัดน่านในช่วง
อุโมงค์ต้นไม้ผาสิงห์: ต้นไม้ระหว่าง กม.ที่ 379 ถึง กม. ที่ 386 ซึ่งเป็นต้นสัก ประดู่ เชื่อมกับอุโมงค์ต้นไม้จามจุรีที่มีความสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในจังหวัดน่าน
อุโมงค์ต้นไม้ท่าวังผา: เขตอำเภอท่าวังผา บ้านปง-ฝายมูล ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
อุโมงค์ต้นไม้ปัว-เชียงกลาง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
2. การขุดล้อม ขอให้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
3. ทำให้เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองน่าน แหล่งท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูป
ดังนั้นทางกลุ่มขอให้ทางคณะกรรมาธิการการคมนาคม ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระงับการตัดต้นไม้ในบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะมีการทำประชาพิจารณ์หรือการหาทางออกร่วมกันระหว่างแขวงการทางน่านที่ 2 กับเครือข่ายศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน หากกรมทางหลวงร่วมกันเก็บทัศนียภาพแบบน่านน่านควบคู่ไปกับทางหลวงสาย 1080 จะถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ อันสำคัญ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์เป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC อย่างดียิ่ง
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ
ผมไม่ทราบว่าคนตั้งกระทู้ที่แล้วเป็นคนเมืองน่านจริงๆหรือเปล่านะหรือแค่สร้างกระแส
ข้อ 1. ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
ข้อ 2. แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจริงๆอยู่ที่คนเมืองน่านครับจิตใจดีและยิ้มง่าย อีกส่วนนึงที่สำคัญคือวัดวาอารามเมืองน่านนั้นเก่าแก่ยิ่งนัก
สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ขนาดวัดภูมินทร์ รัฐบาลไทยยังเคยพิมพ์ไว้ที่แบ๊งค์ ยี่สิบบาท แต่ตอนนี้หายากแล้ว แล้วก็ยังมีรูป
ศิลปะฝาผนังที่สวยงามด้วย มีงาช้างดำด้วยนะ และที่ลืมไม่ได้คือพระธาตุแช่แห้ง คนเกิดปีกระต่ายต้องมาไหว้ที่นี่ ที่เที่ยวธรรมชาติ
มีอยู่ครับ ล่องแก่ง น้ำว้า ชมดอกชมพูภูคา ที่มีแห่งเดียวในโลก นี่คือสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แท้จริง คุณอย่ามามั่วว่าอุโมงค์ต้นไม้
จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ไร้สาระ และอีกอย่างนึงนะครับ ตอนนี้ป่าในเมืองน่านจะหมดอยู่แล้วครับ เพราะมีแต่นักอนุรักษ์ข้างถนนจอมปลอม
อย่างคุณ เท่านั้นที่มองเห็นเพียงเท่านี้ ไปสิครับลองขึ้นดอยไปดูป่าต้นน้ำเมืองน่านของเรากำลังถูกทำลายอย่างหนัก จากการเผาป่าทำไร่
เลื่อนลอย คุณทำไมไม่ไปอนุรักษ์ครับ หรือว่ามันยากครับมันไม่ดัง มันไม่ได้ชื่อเสียงใช่ไหม แบบนี้สิดังกว่า เอามันข้างถนนของมันเห็นๆ
ว่าต้นมันใหญ่ยิ่งต้นใหญ่คุณก็ยิ่งเสียงดัง ที่ต้นใหญ่ได้ก็เพราะมันอยู่ข้างทาง พวกลักลอบตัดมันก็ไม่กล้า และมันก็เป็นของหลวงด้วย
(ของกรมทางหลวงเขาปลูกไว้ตอนสร้างถนนเส้นนี้ใหม่ๆ) อือ..ที่จริงกรมทางเขาจะตัดก็เป็นสิทธิ์เขานะเขาเป็นคนปลูก
ข้อ 3. ผมเป็นคนเมืองน่าน(ที่แท้จริง)ไม่เคยภูมิใจเลยครับ กับอุโมงค์ต้นไม้พวกนี้เพราะมีให้เห็นโดยทั่วไป คุณเคยไปสายน่าน - แม่จริม ไหมเยอะ
กว่านี้อีกสวยกว่าด้วย และอย่ามาอ้างว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ชาวน่านภูมิใจ ตุ๋ย..คนเมืองน่านจริงๆเขาภูมิใจข้าวหลามมากกว่าอีก ข้าวหลาม
ท่าวังผาเคยกินไหม อร่อยจริงๆไปหากินซะ
ข้อ 4. บนดอยสิครับ คุณนักอนุรักษ์คนเก่ง ไปแหกตาดูสิครับ ทั้งตัดทั้งเผาเป็นแสนๆต้น ไปช่วยกันหน่อยหาทุนมา ช่วยกันอนุรักษ์สร้างอาชีพใหม่
ให้ คนในพื้นที่หรือพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนจะได้ไม่ทำไร่เลื่อนลอยกันอีก อย่างนี้สิผมจะช่วยเต็มที่ แต่อย่างว่า..อนุรักษ์แบบนี้มันไม่ดัง
อยากดังไปอนุรักษ์ที่อื่นนะครับ (ไปให้พ้นเมืองน่านซะ)
ข้อ 5. ผมเห็นด้วยกับคุณนะที่ว่ามันอยู่ที่คนขับ แต่คุณเคยหลับในไหม ขับรถแล้วหลับในนะ หลุดไปชนต้นไม้ตายอย่างเดียวครับ แล้วคุณขับรถเคย
เจอรถบรรทุกคันใหญ่มันเบียดไหม ถ้าหลุดถนนไปชนต้นไม้ก็ตายเหมือนกัน ญาติผมเพื่อนผมคนที่รักเคารพตายบนถนนสายนี้ ในช่วงอุโมงค์
ต้นไม้อันแสนสวยงามของคุณหลายต่อหลายคน บางคนยังหนุ่ม น่าเสียดาย ผมอยากจะอ้างเมืองนอกนิดนึงเพราะพอจะมีตังค์ไปเที่ยวหลัง
เกษียณอยู่ ถนนแถบยุโรป อเมริกา ต้นไม้อยู่ไกลจากถนนมากครับกะด้วยสายตา น่าจะประมาณซัก 20 - 40 เมตร อย่างนี้ครับปลอดภัย
หลับในตกถนน ไปก็ยังไม่ตายครับ
ข้อ 6. คำตอบก็อยู่ในข้อ 2. แล้วนะ อุโมงค์คุณไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่การขยายไหล่ทางก็จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถมอเตอร์ไซค์
รถเพื่อการเกษตร รถอีแต๋น ชาวบ้านละแวกนั้นก็จะได้เดินทางได้ปลอดภัยขึ้น ผมว่าคุณคงไม่ห่วงความปลอดภัยพวกเขาหรอก ก็ไม่ใช่ญาติ
คุณนี่ คุณก็แค่นักอนุรักษ์ที่อยากดังอีกคนนึง ขอร้องอย่ามาอาศัยเมืองน่านสร้างความดังเลยคุณ
ข้อ 7. ผมว่าคุณนะเป็นต้นแบบการอนุรักษ์ที่ผิดๆ ลูกหลานคนเมืองน่าน ได้อ่านข้อความนี้จงจดจำไว้แล้วสั่งสอนกันต่อๆไป เพื่อความเจริญที่ไป
พร้อมกับการอนุรักษ์ที่ถูกต้อง ต้นไม้ควรอยู่ในที่ๆมันควรจะอยู่คือในป่าเราจะต้องพัฒนาเพิ่มผืนป่าให้กับเมืองน่านของเรา ต้องกันพื้นที่ป่ากับ
พื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้ชัดเจน ตรงไหนเป็นพื้นที่ป่าเราจะช่วยกันไปปลูกต้นไม้กันตรงนั้นที่ๆมันจะอยู่ได้ตลอดไป เราจะไปชื่นชมมันเมื่อ
ไหร่ก็ได้ บอกลูกหลานว่าเราเป็นคนพัฒนาปลูกมันกับมือ ได้อย่างภูมิใจ เป็นปอดและรักษาน้ำให้เราได้ใช้นานๆ เป็นประโยชน์กับส่วนรวมโดย
แท้จริง
สุดท้ายขอร้องเถอะครับถ้าคุณเป็นคนน่านจริงๆ ผมว่าคุณคงไม่ทำแบบนี้หรอก หรือถ้าอยู่ในเมืองก็ขอให้เห็นใจคนนอกเมืองบ้าง อย่า
หลับหูหลับตา ทำอย่างนี้เลย คนเมืองน่านจะได้ใช้ประโยชน์กับถนนสายนี้ นานๆงบประมาณของรัฐบาลจะได้มาสร้างความเจริญให้บ้านเรา ถ้าเรา
มีปัญหาเขาก็จะเอาเงินไปสร้างความเจริญให้ที่อื่น ลูกหลานมันจะด่าใส่หลุมศพว่า "คนง่าว เปิ้นหื้อเงินมาแป๋งบ้าน บ่เอา เอาขว้างเหีย ง่าวแต้ง่าวว่า" สุดท้ายจริงๆต้นสักคุณรู้ไหมเขาไม่ บอน กันหรอก มันจะตาย
คนเมืองน่าน อยู่เมืองนาน
อนุรักษ์ อุโมงค์ต้นไม้ เมืองน่าน ใครได้ประโยชน์กันแน่
1. ประโยชน์ด้านนิเวศบริการ: ให้ความร่มรื่นแก่ผู้ใช้ถนน สร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่นมลพิษ
2. เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว เสน่ห์ของเมืองน่านสร้างบรรยากาศที่ดีในการเดินทางที่มีต้นไม้
หลากหลายสายพันธุ์ ดอกไม้แต่ละสีสลับกันตลอดทาง นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเพราะถนนกว้าง แต่มาเพราะมีอุโมงค์ต้นไม้ที่ไม่เหมือนใคร
3. เป็นสถานที่ไม่กี่แห่งในโลกที่มีอุโมงค์จามจุรีและอุโมงค์ต้นสัก เป็นเอกลักษณ์ของน่านที่ชาวน่านภาคภูมิใจ
4. สิ่งที่สูญเสียคือต้นไม้นับพันต้น ไม่คุ้มค่ากับเพียงแค่การขยายไหล่ทางออกไปข้างละ 1.5 เมตร
5. ส่วนข้ออ้างที่ว่าตัดต้นไม้เพื่อความปลอดภัยนั้น ทางกลุ่มเห็นว่าที่จริงแล้วต้นไม้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อการขับขี่ อันตรายและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทของคน เพราะคนที่เคารพกฎจราจรไม่เคยมีใครตายเพราะต้นไม้ นอกจากนั้น ยิ่งถนนกว้างก็ยิ่งทำให้คนขับรถเร็ว โอกาสประสบอุบัติเหตุก็มากขึ้น และถ้ารถเสียหลักโดยไม่มีต้นไม้สองข้างทางคอยป้องกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือการตกหน้าผา
6. การขยายไหล่ทางไม่ได้ช่วยชาวบ้านให้มีเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถ้าอุโมงค์ต้นไม้หายไป ไม่มีทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว เมืองน่านก็จะเป็นเมืองทางผ่านโดยสมบูรณ์
7. เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์ ให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC
ถ้าเกิดการตัดอุโมงค์ต้นไม้และกลุ่มต้นไม้หลายสายพันธุ์ ก็จะไม่หลงเหลือเป็นประวัติศาสตร์ให้รุ่นลูกหลานได้ภูมิใจ มรดกทางธรรมชาตินี้ก็จะสูญเสียไปโดยไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
ข้อเรียกร้องเพื่อเก็บอุโมงค์ต้นไม้เส้นประวัติศาสตร์ของทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน – อ.เฉลิมพระเกียรติ
1. การเก็บอุโมงค์ต้นไม้ และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของจังหวัดน่านในช่วง
อุโมงค์ต้นไม้ผาสิงห์: ต้นไม้ระหว่าง กม.ที่ 379 ถึง กม. ที่ 386 ซึ่งเป็นต้นสัก ประดู่ เชื่อมกับอุโมงค์ต้นไม้จามจุรีที่มีความสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในจังหวัดน่าน
อุโมงค์ต้นไม้ท่าวังผา: เขตอำเภอท่าวังผา บ้านปง-ฝายมูล ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
อุโมงค์ต้นไม้ปัว-เชียงกลาง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
2. การขุดล้อม ขอให้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
3. ทำให้เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองน่าน แหล่งท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูป
ดังนั้นทางกลุ่มขอให้ทางคณะกรรมาธิการการคมนาคม ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระงับการตัดต้นไม้ในบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะมีการทำประชาพิจารณ์หรือการหาทางออกร่วมกันระหว่างแขวงการทางน่านที่ 2 กับเครือข่ายศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน หากกรมทางหลวงร่วมกันเก็บทัศนียภาพแบบน่านน่านควบคู่ไปกับทางหลวงสาย 1080 จะถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ อันสำคัญ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์เป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC อย่างดียิ่ง
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ
ผมไม่ทราบว่าคนตั้งกระทู้ที่แล้วเป็นคนเมืองน่านจริงๆหรือเปล่านะหรือแค่สร้างกระแส
ข้อ 1. ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
ข้อ 2. แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจริงๆอยู่ที่คนเมืองน่านครับจิตใจดีและยิ้มง่าย อีกส่วนนึงที่สำคัญคือวัดวาอารามเมืองน่านนั้นเก่าแก่ยิ่งนัก
สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ขนาดวัดภูมินทร์ รัฐบาลไทยยังเคยพิมพ์ไว้ที่แบ๊งค์ ยี่สิบบาท แต่ตอนนี้หายากแล้ว แล้วก็ยังมีรูป
ศิลปะฝาผนังที่สวยงามด้วย มีงาช้างดำด้วยนะ และที่ลืมไม่ได้คือพระธาตุแช่แห้ง คนเกิดปีกระต่ายต้องมาไหว้ที่นี่ ที่เที่ยวธรรมชาติ
มีอยู่ครับ ล่องแก่ง น้ำว้า ชมดอกชมพูภูคา ที่มีแห่งเดียวในโลก นี่คือสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แท้จริง คุณอย่ามามั่วว่าอุโมงค์ต้นไม้
จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ไร้สาระ และอีกอย่างนึงนะครับ ตอนนี้ป่าในเมืองน่านจะหมดอยู่แล้วครับ เพราะมีแต่นักอนุรักษ์ข้างถนนจอมปลอม
อย่างคุณ เท่านั้นที่มองเห็นเพียงเท่านี้ ไปสิครับลองขึ้นดอยไปดูป่าต้นน้ำเมืองน่านของเรากำลังถูกทำลายอย่างหนัก จากการเผาป่าทำไร่
เลื่อนลอย คุณทำไมไม่ไปอนุรักษ์ครับ หรือว่ามันยากครับมันไม่ดัง มันไม่ได้ชื่อเสียงใช่ไหม แบบนี้สิดังกว่า เอามันข้างถนนของมันเห็นๆ
ว่าต้นมันใหญ่ยิ่งต้นใหญ่คุณก็ยิ่งเสียงดัง ที่ต้นใหญ่ได้ก็เพราะมันอยู่ข้างทาง พวกลักลอบตัดมันก็ไม่กล้า และมันก็เป็นของหลวงด้วย
(ของกรมทางหลวงเขาปลูกไว้ตอนสร้างถนนเส้นนี้ใหม่ๆ) อือ..ที่จริงกรมทางเขาจะตัดก็เป็นสิทธิ์เขานะเขาเป็นคนปลูก
ข้อ 3. ผมเป็นคนเมืองน่าน(ที่แท้จริง)ไม่เคยภูมิใจเลยครับ กับอุโมงค์ต้นไม้พวกนี้เพราะมีให้เห็นโดยทั่วไป คุณเคยไปสายน่าน - แม่จริม ไหมเยอะ
กว่านี้อีกสวยกว่าด้วย และอย่ามาอ้างว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ชาวน่านภูมิใจ ตุ๋ย..คนเมืองน่านจริงๆเขาภูมิใจข้าวหลามมากกว่าอีก ข้าวหลาม
ท่าวังผาเคยกินไหม อร่อยจริงๆไปหากินซะ
ข้อ 4. บนดอยสิครับ คุณนักอนุรักษ์คนเก่ง ไปแหกตาดูสิครับ ทั้งตัดทั้งเผาเป็นแสนๆต้น ไปช่วยกันหน่อยหาทุนมา ช่วยกันอนุรักษ์สร้างอาชีพใหม่
ให้ คนในพื้นที่หรือพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนจะได้ไม่ทำไร่เลื่อนลอยกันอีก อย่างนี้สิผมจะช่วยเต็มที่ แต่อย่างว่า..อนุรักษ์แบบนี้มันไม่ดัง
อยากดังไปอนุรักษ์ที่อื่นนะครับ (ไปให้พ้นเมืองน่านซะ)
ข้อ 5. ผมเห็นด้วยกับคุณนะที่ว่ามันอยู่ที่คนขับ แต่คุณเคยหลับในไหม ขับรถแล้วหลับในนะ หลุดไปชนต้นไม้ตายอย่างเดียวครับ แล้วคุณขับรถเคย
เจอรถบรรทุกคันใหญ่มันเบียดไหม ถ้าหลุดถนนไปชนต้นไม้ก็ตายเหมือนกัน ญาติผมเพื่อนผมคนที่รักเคารพตายบนถนนสายนี้ ในช่วงอุโมงค์
ต้นไม้อันแสนสวยงามของคุณหลายต่อหลายคน บางคนยังหนุ่ม น่าเสียดาย ผมอยากจะอ้างเมืองนอกนิดนึงเพราะพอจะมีตังค์ไปเที่ยวหลัง
เกษียณอยู่ ถนนแถบยุโรป อเมริกา ต้นไม้อยู่ไกลจากถนนมากครับกะด้วยสายตา น่าจะประมาณซัก 20 - 40 เมตร อย่างนี้ครับปลอดภัย
หลับในตกถนน ไปก็ยังไม่ตายครับ
ข้อ 6. คำตอบก็อยู่ในข้อ 2. แล้วนะ อุโมงค์คุณไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่การขยายไหล่ทางก็จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถมอเตอร์ไซค์
รถเพื่อการเกษตร รถอีแต๋น ชาวบ้านละแวกนั้นก็จะได้เดินทางได้ปลอดภัยขึ้น ผมว่าคุณคงไม่ห่วงความปลอดภัยพวกเขาหรอก ก็ไม่ใช่ญาติ
คุณนี่ คุณก็แค่นักอนุรักษ์ที่อยากดังอีกคนนึง ขอร้องอย่ามาอาศัยเมืองน่านสร้างความดังเลยคุณ
ข้อ 7. ผมว่าคุณนะเป็นต้นแบบการอนุรักษ์ที่ผิดๆ ลูกหลานคนเมืองน่าน ได้อ่านข้อความนี้จงจดจำไว้แล้วสั่งสอนกันต่อๆไป เพื่อความเจริญที่ไป
พร้อมกับการอนุรักษ์ที่ถูกต้อง ต้นไม้ควรอยู่ในที่ๆมันควรจะอยู่คือในป่าเราจะต้องพัฒนาเพิ่มผืนป่าให้กับเมืองน่านของเรา ต้องกันพื้นที่ป่ากับ
พื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้ชัดเจน ตรงไหนเป็นพื้นที่ป่าเราจะช่วยกันไปปลูกต้นไม้กันตรงนั้นที่ๆมันจะอยู่ได้ตลอดไป เราจะไปชื่นชมมันเมื่อ
ไหร่ก็ได้ บอกลูกหลานว่าเราเป็นคนพัฒนาปลูกมันกับมือ ได้อย่างภูมิใจ เป็นปอดและรักษาน้ำให้เราได้ใช้นานๆ เป็นประโยชน์กับส่วนรวมโดย
แท้จริง
สุดท้ายขอร้องเถอะครับถ้าคุณเป็นคนน่านจริงๆ ผมว่าคุณคงไม่ทำแบบนี้หรอก หรือถ้าอยู่ในเมืองก็ขอให้เห็นใจคนนอกเมืองบ้าง อย่า
หลับหูหลับตา ทำอย่างนี้เลย คนเมืองน่านจะได้ใช้ประโยชน์กับถนนสายนี้ นานๆงบประมาณของรัฐบาลจะได้มาสร้างความเจริญให้บ้านเรา ถ้าเรา
มีปัญหาเขาก็จะเอาเงินไปสร้างความเจริญให้ที่อื่น ลูกหลานมันจะด่าใส่หลุมศพว่า "คนง่าว เปิ้นหื้อเงินมาแป๋งบ้าน บ่เอา เอาขว้างเหีย ง่าวแต้ง่าวว่า" สุดท้ายจริงๆต้นสักคุณรู้ไหมเขาไม่ บอน กันหรอก มันจะตาย
คนเมืองน่าน อยู่เมืองนาน