เเฟนคลับ eddie peng ฉบับพรรคเก้งกวาง
ออกตัวก่อนว่า จขกท เปนเกย์นะครับ
ถ้าใครไม่ชอบเกย์เรียนเชิญกระทู้ถัดไปนะฮะ
#ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพนะครับ เค้าเปนคน sensitiveeee T_T
หลายๆ content ในนี้เป็นงานมโน งานเพ้อเจ้อ งานพรรนณานะครับ
หวังว่าใครหลายๆคนในที่นี้คงจะเข้าใจ 55+
( เเบ่งเปน section ไว้เเล้ว ถ้าขี้เกียจอ่านความเวิ่นเว้อ ข้ามไป section ถัดไปได้เลย )
อารัมภท >>>> ก่อนจะมาเปนติ่ง
ตั้งเเต่เกิดมาไม่เคยคิดว่าสักวันตัวเองจะต้องมาเป็นติ่งดารา
เมื่อก่อนสมัยปี 1-2 เห็นเพื่อนผู้หญิงบ้าดารา นักร้องเกาหลี รู้สึกไร้สาระสุดๆ คิดในใจ

ก้อเเค่ดาราวะ
ทุกอย่างที่มันผ่านสื่อออกมา มันก็ต้องดูดีหมดเเหละ ทำอย่างกะรู้จักตัวตนของเค้าจริงๆสะงั้น
ไม่นานหลังจากนั้นก็ค้นพบความจริงอีกข้อว่า คำว่า "ติ่ง" หรือ "เเฟนคลับ" ไม่ได้มีเฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น
เพื่อนของ จขกท ที่เป็นผู้ชาย ก็บ้า SNSD มากเหมือนกัน เปิด facebook มาทีไร เห็น

เเชร์เเต่คลิป ข่าว กิจกรรมของ SNSD พอมาเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนประถมด้วยกัน ไอนี่

ก้อเเฟนคลับ girl gen ซื้อหมดทุกอย่าง ตั้งเเต่ปฎิทิน กล่องบ้า กล่องบอ ซื้อทุกอย่างที่เป็นของ girl gen ซื้อจนถึงขั้นทะเลาะกับเเฟน
เพื่อนคนเเรกโพสใน facebook ว่า “ใครไม่รักเกาหลี ไม่เข้าใจหรอก”
ฟังเเล้วก็เพลีย รู้สึกตลก ใครไม่รักเกาหลี ไม่เข้าใจหรอก …..
….. ใช่ กรูเนี่ยเเหละไม่เข้าใจ = =
เเต่เเล้วใครจะคิดว่าที่เคยมองคนอื่นว่าเพ้อเจ้อ ไร้สาระ ตัวเองกลับเปนสะเอง เเถมเปนหนักด้วย
หลังจากที่ดูเรื่อง หวง เฟย หง จบ ความรู้สึกตอนที่เดินออกจากโรง มันเหมือนตัวเองกำลังเป็นตัวละครในนิยายฝรั่ง หลังจากเจอเหตุการณ์ครั้
สำคัญใชชีวิต เเล้วคนเขียนก้อบรรยาย ว่า
After that, his/her would not be the same anymore ยังไงยังงั้น
พอเดินออกจากโรงป๊ป สติก้อร่องลอยหายไปที่อื่น ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
เเต่ก่อนจะเล่าถึงเรื่องหนัง ขอ intro ย้อนอดีตกลับไปในช่วงที่เห็นเผิงครั้งเเรกก่อน
#รู้จัก eddie peng ครั้งเเรก
จริงๆเหนรูปเผิงมาตั้งนานเเล้ว เห็นตามเว็บไซต์ของชาวเราเนี่ยเเหละ น่าจะประมาณ 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น เเต่ก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเผิงยังดูเด็กๆ เเว๊นๆ ไว้ผมทรงเกาหลี บทที่เล่นก็เป็นหนังรักกุ๊กกิ๊กทั่วไป
ปกติ จขกท ไม่ค่อยชอบดูหนังรัก เพราะมันรู้สึกห่างไกลจากชีวิตจริงของตัวเอง
หลังจากนั้นสักระยะ ก็เริ่มเห็นผลงานของเผิงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เรื่อง Jump Ashin, unbeatable เเล้วก็ถ่ายเเบบลง Men’s health โชว์ซิกเเพคเเละหน้าอก
....... ตอนนั้น จขกท ก็ยังรู้สึกเฉยๆนะ
ถามว่าทำไม
เพราะโดยส่วนตัวเเล้ว จขกท ให้ความสำคัญกับความกลมกลืนเเละความรู้สึกที่ไปในทางเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ( นอกเรื่องเเปป ) จขกท มองว่านิชคุณเป็นผู้ชายน่ารัก เเต่หลังๆมา นิชคุณพยายามเล่นกล้าม เเละทำรุปร่างในสมส่วนมาดเเมนขึ้น ซึ่งถูกใจใครหลายๆคน
จขกท ก็ชอบ เเต่ก็รู้สึกว่า ร่างกายกำยำ กับ ใบหน้าคิขุ เเอ๊บเเบ๊วมันสวนทางกัน
พูดง่ายๆคือ มันไม่มี market position ( >>> ความเห็นส่วนตัว อย่าโกรธกันนะจ๊ะ )
จขกทว่า ผู้ชายหน้าตาดี มันอาจ classified ได้เเบบ 2 เเบบ คือ
หล่อคมเข้ม กับ หล่อน่ารัก
โดยส่วนตัวเเล้ว จขกท เปนคนชอบผู้ชายน่ารัก
ถามว่าเผิง เป็นเเบบคมเข้ม หรือ เป็นเเบบน่ารัก ตอนนั้นก็อธิบายไม่ถูก เหมือนมันอยู่ตรงกลาง
ที่รู้สึกเฉยๆ อาจเป็นเพราะเห็นเเต่ภาพนิ่ง รู้สึกว่าหน้าเเบบนี้ ถึงเเม้ว่ามันจะเป๊ะมาก เเต่มันก็เป็นความหล่อเเบบที่เคยพบเคยเจอ หล่อเเบบเรื่อยๆ หล่อเเบบไม่น่าตื่นเต้น พูดง่ายๆคือ หล่อเเบบมองเเล้วสติยังอยู่กับเนื้อกับตัว
เเละเเล้วจุดเริ่มต้นของความประทับใจก็มาถึง
มันเป็นความประทับใจเล็กๆ ที่เพิ่มขึ้นทีละนิด
ตอนที่เปิด Facebook ขึ้นมา เเละเห็นคนเเชร์เรื่อง เผิง ดาราดังที่ยอมกินข้าวกล่องทุกมื้อเพื่อเก็บเงินให้เเม่ไปเปิดร้านอาหาร
ความรู้สึกเเรกคือ ชื่นชม จากที่เคยมองว่าเผิงคงเปนเหมือนดาราทั่วไป ที่ดังเเล้วก็ใช้ชีวิตไม่เหมือนอย่างเราๆ
ความรู้สึกที่ 2 คือ เอ๊ะ เปิดร้านอาหารที่เซียงไฮ้ต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอ
อาจจะเยอะอยู่ เพราะเปนเมืองเจริญ ค่าครองชีพสูง เเต่รายได้ของดารา (ที่ดัง ) ก้อน่าจะ afford ได้อย่างสบายๆนี่นา
ความรู้สึกที่ 3 คือ ขนาดกินเเค่ข้าวกล่องยังหล่อขนาดนี้ นี่ถ้ากินอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน สัดส่วนเหมาะสม อารมณ์ประมาณว่าผู้จัดการส่วนตัวเลือกสรรมาให้เเบบในหนัง ( ก็ว่าไป ) จะหล่อกว่านี้ขนาดไหน
เเต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจ (ส่วนตัว) จริงๆอยู่ที่ประวัติส่วนตัวของเผิงมากกว่า
……. เป็นน้องคนสุดท้อง เกิดมาตอนที่พ่อเเม่ หย่าร้าง ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ อยู่กับพี่สาว 2 คนเเละเเม่
เลยซึมซับความอ่อนโยนเเบบผู้หญิงมา …….
อ่านจบเเล้วรู้สึกว่าสิ่งนี้มันตอบโจทย์มาก ไม่รู้ว่าเกย์คนอื่นๆจะเป็นเหมือน จขกท รึเปล่า คือ รู้สึกว่าผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเพศที่มีความเเข็งกระด้าง ไม่อ่อนโยน พอมาเจอผู้ชายที่อ่อนโยน ละเอียดอ่อน ก็อดไม่ได้ที่จะหลงไหล
ความอ่อนโยน เเละบุคลิกภาพเเบบนี้สิ ที่จะเป็นตัว differentiate เเละสร้าง value ให้คนคนนั้น โดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่นในวงการ … ว่าไปนั่น
#มโนส่วนตัว
#วิจารณ์ราวกับกรูเป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเข้าสังกัด
เเละนี่คือที่มาของจุดเริ่มต้น ……
( Intro มาสะยาว )
กลับมาที่เรื่อง หวง เฟย หง นะครับ
มีอยู่วันนึง จขกท ไปดูหนังเรื่อง Kingsman มา พอออกมาจากโรงก็เห็นโปสเตอร์หนังเรื่องหง เฟย หง ที่เป็นสีเหลือง เเละก็ชะเเว็บไปเห็นพระเอก ( ซึ่งหล่อมากเลยต้องหันไปมอง ) พอหันมามอง อุ๊ย นี่มัน eddie peng นี่นา
คิดในใจ มาเล่นเรื่องนี้จะเข้ากันหรอวะ คือหน้าเค้าดู soft มากเกินไปสำหรับบทนี้
พูดง่ายๆคือ หล่อเเละ cute เกินกว่าจะเป็น หวง เฟย หง คิดในใจ ผู้จัด

ก้อทำเเต่การตลาดเนอะ เอาเเต่คนหล่อๆมาเล่น ไม่ได้นึกถึงความเป็นจริงเร้ยยย นักกังฟู วันๆเอาเเต่เตะๆต่อยๆ จะออกมาหล่อขนาดนี้ได้ไง
เพิ่งดู kingsman จบ คงไม่ได้ดูเรื่องนี้อีกทีในเร็วๆนี้หรอก … คิดในใจ
วันที่ดู หวง เฟย หง
ตอนนั้นเป็นช่วงใกล้สอบ
อ่านหนังสือเสร็จ รู้สึกอึนๆ เวลาเหลือ เเต่เเรงไม่เหลือ อยากหาหนังดูสักเรื่องก่อนกลับบ้านเป็นการผ่อนคลาย ( ปกติ จขกท ชอบดูหนังคนเดียว ชอบดูหนังฝรั่งที่มีพล็อตเรื่องโดดเด่น หรือไม่ก็หนังที่สร้างจากเรื่องจริง )
พอเดินขึ้นมาชั้นโรงหนัง ดูโปรเเกรมฉาย ไม่มีเรื่องไหนน่าสนใจเลย เรื่องอื่นๆก็ดูหมดเเล้ว
พอดีหันมาเห็นเรื่อง หวง เฟย หง รอบตรงกับเวลาพอดี ซื้อตั๋วเสร็จเเล้วเข้าโรงได้เลย
ก็เลยตัดสินใจดูเรื่องนี้
ทั้งๆที่จริงเเล้วใจนึงก้อไม่อยากดู เพราะเป็นคนเเพ้คนหล่อ กลัวดูเสร็จเเล้วเพ้อ
เเละเเล้ว……….สิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ
#ระหว่างดู
( ฉากเเรก )
หลังจากที่หนัง

intro ถึงมาเพีย 3 พรรคมาสะเยอะ ในที่สุดพี่เผิงก็ปรากฏตัวออกมาสะที
รู้สึกตื่นเต้นๆ ก่อนหน้านี้เห็นเเต่ภาพนิ่ง ตอนนี้กำลังจะได้เห็นเผิงในอิริยาบถภาพเคลื่อนไหว
( ความรู้สึกเหมือนเห็นมาริโอ้ตอนเป็นนายเเบบ เเละโผล่ออกมาฉากเเรกในรักเเห่งสยาม )
เผิงโผล่มาฉากเเรก ( ไม่นับสู้กันในซอยตอนฝนตก ) ตอนนั้นยัง ok อยู่ เป็นเเค่การหันหน้ามามองคนอื่นบนเรือ ยังไม่ได้อะไรมาก ฉากที่รับการทดสอบโดยถือถ้วยน้ำร้อนลวกก็ยัง ok อยู่ ตอนนั้นจิตอยู่กับความอยากรู้ว่า หวย เฟย หง เป็นคนยังไงมากกว่า เป็นพระเอกมันต้องเป็นคนดีสิ ทำไมไปอยู่พรรคอันตพาล ต้องการจะทำอะไร …. หวย เฟย หง จะเป็นคนดีพอมั้ย ที่เผิงอุตส่าห์ให้เกียรติมาสวมบท … 55555+ คิดไปนั่น
ตอนเเรกคิดว่า เผิงไม่เหมาะกับการเปน หวง เฟย หง เเต่ตอนนี้กลับคิดว่า หวง เฟย หง จะเหมาะพอกับการมาเป็นเผิงรึเปล่า เอ๊ะ อะไรของกรู
( ฉากต่อสู้ )
ฉากตัดหัวประมุขของอีกพรรคนึง ( ขอเข้าเรื่องเเอคชั่นสักเเปป )
เหมือนมันเปนมิติใหม่ของนักเเอ็คชั่นกังฟู …( พูดเหมือนดูมาหลายเรื่อง = = )
คือภาพมันสวย เเละสมจริงมาก มุมกล้องก้อดี เเต่ละฉากดูลงทุน
ภาพสวย มีการต่อยพลาดโดนกำเเพงเป็น slow motion คือทุกอย่างถ่ายทำดีเว่อร์
เเต่ความเวอร์ที่พูดมาทั้งหมดเทียบไม่ได้เลยกับหน้าพระเอกในฉากต่อไป
( ฉากพักรักษาตัว )
นี่คือฉากที่พีคที่สุดเเล้ว หลังจากโดนเล่นงานจนสลบ พ่อบุญธณรมก็เรียกให้คนไปหาหมอที่ดีที่สุดในเมืองมารักษา เป็นฉากที่หงวเฟยนอนเปลือยหน้าอกอยู่บนเตียง เเค่เหล่หางตามาคุยกับคนที่เฝ้าไข้
ฉากนี้ก็เอาไปเต็ม 10 เเล้ว คนอะไรขนาดฉากป่วยยังหล่อเลย มันเป็นดวงตาที่ดูอ่อนเเรง เเต่กลับเเฝงไปด้วยเสน่ห์ ดูเซ็กซี่อย่างไม่ต้องพยายาม
…… โอ๊ยยย นี่คือภาพที่งดงามที่สุดที่เคยปรากฏบนจอภาพยนตร์ …….
ก่อนหน้านี่ที่เคยบอกว่าดาราคนนี้ก้องั้นๆอะ ตอนนี้ขอกลับทุกคำพูดที่เคยกล่าวมา
นี่คือ สิ่งที่หาไม่ได้อีกเเล้วในวงการภาพยนตร์ ….. ( ความเพ้อเริ่มติดเครื่อง )
หลังจากเข้ารับตำเเหน่งคุณชาย 4
คนอะไรขนาดเวลาทำหน้าหลงตัวเองยังหล่อ เดินเชิดหน้าเเล้วเหล่สายตาลงมามองเเบบหยิ่งๆ
นี่มันเป็นการเสเเสร้างเป็นตัวร้ายที่น่ารักที่สุดในโลกไปเลยยยยย
ที่เหลือก้อไม่มีอะไรมากครับ จะฉากไหนๆก็เเล้วเเต่ เเค่ได้เห็นเผิงยิ้มโลกมันก็เปลี่ยนสีไปเลย เหมือนมีเเสงออร่าส่องออกมาจากจอภาพยนตร์ จนทั้งโรงมันสว่างไสว มองเห็นเเม้กระทั่งเลขที่เก้าอี้ …. พูดไปนั่น
ดูหนังจบด้วยความปลื้มปริ่ม จนถึงตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมากว่า 2 สัปดาห์เเล้ว เเต่ความรู้สึกทุกอย่างมันยังสด ใหม่
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา จขกท ก็หมดเวลาเเต่ละวันไปกับการหาข้อมูล หาสื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับเผิง ทั้งประวัติ ผลงาน คลิป บทสัมภาษณ์ ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ ( เพราะไม่เป็นภาษาจีน )
จากที่ตอนเเรกจำขื่อไม่ได้ อ่านว่าเอ็ดดี้ เป็ง มาตลอด
ตอนนี้สืบเสาะหาข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเผิงจนจะเขียนเปน report ได้ละ
รู้สึกอยากจะลุกขึ้นมาเรียนภาษาจีน ( เคยบอกญาติตัวเองที่ไปเรียนภาษาจีนเพราะบ้า F4 ว่าปัญญาอ่อน ตอนนี้ความปัญญาอ่อนนั้นกลับมาหาตัวเองเเล้วจ้าา )
กระทู้ไหนเกี่ยวกับเผิง กูอ่านหมด อ่านเเล้วอ่านอีก
มาเห็นเพจอวยไส้เเตก โอ๊ยยย เเอดมิน

บรรยายได้ถึงใจจริงๆ เข้าถึงความรู้สึกของคนเปนติ่งจริงๆ ..
หล่อ ….. censored………. หล่อวัวตาย หล่อควายล้ม หล่อจนต้องร้องขอชีวิต
เป็นการใช้คำที่ถูกต้องตามระดับภาษา ไม่มีเว่อร์ไปเลยเเม้เเต่น้อย
พอมาเห็นเพจเเม่บ้าน ยังไม่ได้ดูเรื่องลำนำ เเต่เเค่เห็น profile picture เป็นรูปเผิงติดโบสีชมพูก็ฟินเเล้ว โอ๊ยย น่ารักกก
ตามทั้ง facebook IG ทั้งเพจสากล เพจในไทย เปิดคลิปบทสัมภาษณ์เป็นภาษาจีน ฟังไม่รู้เรื่อง ก็ดูอยู่นั่น
เเค่เห็นเผิงเวลาพูดไปยิ้มไป โอ๊ยยย น่าร๊ากกกกกกกกกกก
นึกถึงหน้าเผิงทีไร อยู่ดีๆก็ยิ้มเองคนเดียว เหมือนคนบ้า
เวลานอนก็นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ คิดถึงเผิงวันละหลายๆรอบ
พอมาเปิดพันทิพ เลื่อนลงมาอ่านคอมเม้น เห้ย มีคนเป็นเหมือนกรูเลย ที่สำคัญ ……..เยอะมากด้วย
ฮุเล่ ….. กูมีเพื่อนเเล้ววววว
บ้างก้อบอกว่า รู้จักเผิงนานเเล้ว เพ้อมาก กว่าจะกลับมาสู่สภาพเดิมต้องใช้เวลานานมาก
……..นี่กรูเพิ่งเริ่มต้นนนน
สารอะดรีนารีน เอ็นดรอฟิน โดพามีน

หลังพร้อมกันจนไข้จะขึ้น เพ้อมากกก
#เสี่ยวส่งท้าย
เผิง คือความงดงามเเห่งศตวรรษที่ 21
วันนี้พอเเค่นี้ก่อน เดวว่างๆเข้ามาคุย
เเฟนคลับ eddie peng ฉบับพรรคเก้งกวาง
ออกตัวก่อนว่า จขกท เปนเกย์นะครับ ถ้าใครไม่ชอบเกย์เรียนเชิญกระทู้ถัดไปนะฮะ #ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพนะครับ เค้าเปนคน sensitiveeee T_T
หลายๆ content ในนี้เป็นงานมโน งานเพ้อเจ้อ งานพรรนณานะครับ
หวังว่าใครหลายๆคนในที่นี้คงจะเข้าใจ 55+
( เเบ่งเปน section ไว้เเล้ว ถ้าขี้เกียจอ่านความเวิ่นเว้อ ข้ามไป section ถัดไปได้เลย )
อารัมภท >>>> ก่อนจะมาเปนติ่ง
ตั้งเเต่เกิดมาไม่เคยคิดว่าสักวันตัวเองจะต้องมาเป็นติ่งดารา
เมื่อก่อนสมัยปี 1-2 เห็นเพื่อนผู้หญิงบ้าดารา นักร้องเกาหลี รู้สึกไร้สาระสุดๆ คิดในใจ
ทุกอย่างที่มันผ่านสื่อออกมา มันก็ต้องดูดีหมดเเหละ ทำอย่างกะรู้จักตัวตนของเค้าจริงๆสะงั้น
ไม่นานหลังจากนั้นก็ค้นพบความจริงอีกข้อว่า คำว่า "ติ่ง" หรือ "เเฟนคลับ" ไม่ได้มีเฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น
เพื่อนของ จขกท ที่เป็นผู้ชาย ก็บ้า SNSD มากเหมือนกัน เปิด facebook มาทีไร เห็น
เพื่อนคนเเรกโพสใน facebook ว่า “ใครไม่รักเกาหลี ไม่เข้าใจหรอก” ฟังเเล้วก็เพลีย รู้สึกตลก ใครไม่รักเกาหลี ไม่เข้าใจหรอก …..
….. ใช่ กรูเนี่ยเเหละไม่เข้าใจ = =
เเต่เเล้วใครจะคิดว่าที่เคยมองคนอื่นว่าเพ้อเจ้อ ไร้สาระ ตัวเองกลับเปนสะเอง เเถมเปนหนักด้วย
หลังจากที่ดูเรื่อง หวง เฟย หง จบ ความรู้สึกตอนที่เดินออกจากโรง มันเหมือนตัวเองกำลังเป็นตัวละครในนิยายฝรั่ง หลังจากเจอเหตุการณ์ครั้
สำคัญใชชีวิต เเล้วคนเขียนก้อบรรยาย ว่า After that, his/her would not be the same anymore ยังไงยังงั้น
พอเดินออกจากโรงป๊ป สติก้อร่องลอยหายไปที่อื่น ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
เเต่ก่อนจะเล่าถึงเรื่องหนัง ขอ intro ย้อนอดีตกลับไปในช่วงที่เห็นเผิงครั้งเเรกก่อน
#รู้จัก eddie peng ครั้งเเรก
จริงๆเหนรูปเผิงมาตั้งนานเเล้ว เห็นตามเว็บไซต์ของชาวเราเนี่ยเเหละ น่าจะประมาณ 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น เเต่ก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเผิงยังดูเด็กๆ เเว๊นๆ ไว้ผมทรงเกาหลี บทที่เล่นก็เป็นหนังรักกุ๊กกิ๊กทั่วไป
ปกติ จขกท ไม่ค่อยชอบดูหนังรัก เพราะมันรู้สึกห่างไกลจากชีวิตจริงของตัวเอง
หลังจากนั้นสักระยะ ก็เริ่มเห็นผลงานของเผิงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เรื่อง Jump Ashin, unbeatable เเล้วก็ถ่ายเเบบลง Men’s health โชว์ซิกเเพคเเละหน้าอก
....... ตอนนั้น จขกท ก็ยังรู้สึกเฉยๆนะ
ถามว่าทำไม
เพราะโดยส่วนตัวเเล้ว จขกท ให้ความสำคัญกับความกลมกลืนเเละความรู้สึกที่ไปในทางเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ( นอกเรื่องเเปป ) จขกท มองว่านิชคุณเป็นผู้ชายน่ารัก เเต่หลังๆมา นิชคุณพยายามเล่นกล้าม เเละทำรุปร่างในสมส่วนมาดเเมนขึ้น ซึ่งถูกใจใครหลายๆคน
จขกท ก็ชอบ เเต่ก็รู้สึกว่า ร่างกายกำยำ กับ ใบหน้าคิขุ เเอ๊บเเบ๊วมันสวนทางกัน
พูดง่ายๆคือ มันไม่มี market position ( >>> ความเห็นส่วนตัว อย่าโกรธกันนะจ๊ะ )
จขกทว่า ผู้ชายหน้าตาดี มันอาจ classified ได้เเบบ 2 เเบบ คือ
หล่อคมเข้ม กับ หล่อน่ารัก
โดยส่วนตัวเเล้ว จขกท เปนคนชอบผู้ชายน่ารัก
ถามว่าเผิง เป็นเเบบคมเข้ม หรือ เป็นเเบบน่ารัก ตอนนั้นก็อธิบายไม่ถูก เหมือนมันอยู่ตรงกลาง
ที่รู้สึกเฉยๆ อาจเป็นเพราะเห็นเเต่ภาพนิ่ง รู้สึกว่าหน้าเเบบนี้ ถึงเเม้ว่ามันจะเป๊ะมาก เเต่มันก็เป็นความหล่อเเบบที่เคยพบเคยเจอ หล่อเเบบเรื่อยๆ หล่อเเบบไม่น่าตื่นเต้น พูดง่ายๆคือ หล่อเเบบมองเเล้วสติยังอยู่กับเนื้อกับตัว
เเละเเล้วจุดเริ่มต้นของความประทับใจก็มาถึง
มันเป็นความประทับใจเล็กๆ ที่เพิ่มขึ้นทีละนิด
ตอนที่เปิด Facebook ขึ้นมา เเละเห็นคนเเชร์เรื่อง เผิง ดาราดังที่ยอมกินข้าวกล่องทุกมื้อเพื่อเก็บเงินให้เเม่ไปเปิดร้านอาหาร
ความรู้สึกเเรกคือ ชื่นชม จากที่เคยมองว่าเผิงคงเปนเหมือนดาราทั่วไป ที่ดังเเล้วก็ใช้ชีวิตไม่เหมือนอย่างเราๆ
ความรู้สึกที่ 2 คือ เอ๊ะ เปิดร้านอาหารที่เซียงไฮ้ต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอ
อาจจะเยอะอยู่ เพราะเปนเมืองเจริญ ค่าครองชีพสูง เเต่รายได้ของดารา (ที่ดัง ) ก้อน่าจะ afford ได้อย่างสบายๆนี่นา
ความรู้สึกที่ 3 คือ ขนาดกินเเค่ข้าวกล่องยังหล่อขนาดนี้ นี่ถ้ากินอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน สัดส่วนเหมาะสม อารมณ์ประมาณว่าผู้จัดการส่วนตัวเลือกสรรมาให้เเบบในหนัง ( ก็ว่าไป ) จะหล่อกว่านี้ขนาดไหน
เเต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจ (ส่วนตัว) จริงๆอยู่ที่ประวัติส่วนตัวของเผิงมากกว่า
……. เป็นน้องคนสุดท้อง เกิดมาตอนที่พ่อเเม่ หย่าร้าง ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ อยู่กับพี่สาว 2 คนเเละเเม่
เลยซึมซับความอ่อนโยนเเบบผู้หญิงมา …….
อ่านจบเเล้วรู้สึกว่าสิ่งนี้มันตอบโจทย์มาก ไม่รู้ว่าเกย์คนอื่นๆจะเป็นเหมือน จขกท รึเปล่า คือ รู้สึกว่าผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเพศที่มีความเเข็งกระด้าง ไม่อ่อนโยน พอมาเจอผู้ชายที่อ่อนโยน ละเอียดอ่อน ก็อดไม่ได้ที่จะหลงไหล
ความอ่อนโยน เเละบุคลิกภาพเเบบนี้สิ ที่จะเป็นตัว differentiate เเละสร้าง value ให้คนคนนั้น โดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่นในวงการ … ว่าไปนั่น
#มโนส่วนตัว
#วิจารณ์ราวกับกรูเป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเข้าสังกัด
เเละนี่คือที่มาของจุดเริ่มต้น ……
( Intro มาสะยาว )
กลับมาที่เรื่อง หวง เฟย หง นะครับ
มีอยู่วันนึง จขกท ไปดูหนังเรื่อง Kingsman มา พอออกมาจากโรงก็เห็นโปสเตอร์หนังเรื่องหง เฟย หง ที่เป็นสีเหลือง เเละก็ชะเเว็บไปเห็นพระเอก ( ซึ่งหล่อมากเลยต้องหันไปมอง ) พอหันมามอง อุ๊ย นี่มัน eddie peng นี่นา
คิดในใจ มาเล่นเรื่องนี้จะเข้ากันหรอวะ คือหน้าเค้าดู soft มากเกินไปสำหรับบทนี้
พูดง่ายๆคือ หล่อเเละ cute เกินกว่าจะเป็น หวง เฟย หง คิดในใจ ผู้จัด
เพิ่งดู kingsman จบ คงไม่ได้ดูเรื่องนี้อีกทีในเร็วๆนี้หรอก … คิดในใจ
วันที่ดู หวง เฟย หง
ตอนนั้นเป็นช่วงใกล้สอบ
อ่านหนังสือเสร็จ รู้สึกอึนๆ เวลาเหลือ เเต่เเรงไม่เหลือ อยากหาหนังดูสักเรื่องก่อนกลับบ้านเป็นการผ่อนคลาย ( ปกติ จขกท ชอบดูหนังคนเดียว ชอบดูหนังฝรั่งที่มีพล็อตเรื่องโดดเด่น หรือไม่ก็หนังที่สร้างจากเรื่องจริง )
พอเดินขึ้นมาชั้นโรงหนัง ดูโปรเเกรมฉาย ไม่มีเรื่องไหนน่าสนใจเลย เรื่องอื่นๆก็ดูหมดเเล้ว
พอดีหันมาเห็นเรื่อง หวง เฟย หง รอบตรงกับเวลาพอดี ซื้อตั๋วเสร็จเเล้วเข้าโรงได้เลย
ก็เลยตัดสินใจดูเรื่องนี้
ทั้งๆที่จริงเเล้วใจนึงก้อไม่อยากดู เพราะเป็นคนเเพ้คนหล่อ กลัวดูเสร็จเเล้วเพ้อ
เเละเเล้ว……….สิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ
#ระหว่างดู
( ฉากเเรก )
หลังจากที่หนัง
รู้สึกตื่นเต้นๆ ก่อนหน้านี้เห็นเเต่ภาพนิ่ง ตอนนี้กำลังจะได้เห็นเผิงในอิริยาบถภาพเคลื่อนไหว ( ความรู้สึกเหมือนเห็นมาริโอ้ตอนเป็นนายเเบบ เเละโผล่ออกมาฉากเเรกในรักเเห่งสยาม )
เผิงโผล่มาฉากเเรก ( ไม่นับสู้กันในซอยตอนฝนตก ) ตอนนั้นยัง ok อยู่ เป็นเเค่การหันหน้ามามองคนอื่นบนเรือ ยังไม่ได้อะไรมาก ฉากที่รับการทดสอบโดยถือถ้วยน้ำร้อนลวกก็ยัง ok อยู่ ตอนนั้นจิตอยู่กับความอยากรู้ว่า หวย เฟย หง เป็นคนยังไงมากกว่า เป็นพระเอกมันต้องเป็นคนดีสิ ทำไมไปอยู่พรรคอันตพาล ต้องการจะทำอะไร …. หวย เฟย หง จะเป็นคนดีพอมั้ย ที่เผิงอุตส่าห์ให้เกียรติมาสวมบท … 55555+ คิดไปนั่น
ตอนเเรกคิดว่า เผิงไม่เหมาะกับการเปน หวง เฟย หง เเต่ตอนนี้กลับคิดว่า หวง เฟย หง จะเหมาะพอกับการมาเป็นเผิงรึเปล่า เอ๊ะ อะไรของกรู
( ฉากต่อสู้ )
ฉากตัดหัวประมุขของอีกพรรคนึง ( ขอเข้าเรื่องเเอคชั่นสักเเปป )
เหมือนมันเปนมิติใหม่ของนักเเอ็คชั่นกังฟู …( พูดเหมือนดูมาหลายเรื่อง = = )
คือภาพมันสวย เเละสมจริงมาก มุมกล้องก้อดี เเต่ละฉากดูลงทุน ภาพสวย มีการต่อยพลาดโดนกำเเพงเป็น slow motion คือทุกอย่างถ่ายทำดีเว่อร์ เเต่ความเวอร์ที่พูดมาทั้งหมดเทียบไม่ได้เลยกับหน้าพระเอกในฉากต่อไป
( ฉากพักรักษาตัว )
นี่คือฉากที่พีคที่สุดเเล้ว หลังจากโดนเล่นงานจนสลบ พ่อบุญธณรมก็เรียกให้คนไปหาหมอที่ดีที่สุดในเมืองมารักษา เป็นฉากที่หงวเฟยนอนเปลือยหน้าอกอยู่บนเตียง เเค่เหล่หางตามาคุยกับคนที่เฝ้าไข้
ฉากนี้ก็เอาไปเต็ม 10 เเล้ว คนอะไรขนาดฉากป่วยยังหล่อเลย มันเป็นดวงตาที่ดูอ่อนเเรง เเต่กลับเเฝงไปด้วยเสน่ห์ ดูเซ็กซี่อย่างไม่ต้องพยายาม
…… โอ๊ยยย นี่คือภาพที่งดงามที่สุดที่เคยปรากฏบนจอภาพยนตร์ …….
ก่อนหน้านี่ที่เคยบอกว่าดาราคนนี้ก้องั้นๆอะ ตอนนี้ขอกลับทุกคำพูดที่เคยกล่าวมา
นี่คือ สิ่งที่หาไม่ได้อีกเเล้วในวงการภาพยนตร์ ….. ( ความเพ้อเริ่มติดเครื่อง )
หลังจากเข้ารับตำเเหน่งคุณชาย 4
คนอะไรขนาดเวลาทำหน้าหลงตัวเองยังหล่อ เดินเชิดหน้าเเล้วเหล่สายตาลงมามองเเบบหยิ่งๆ นี่มันเป็นการเสเเสร้างเป็นตัวร้ายที่น่ารักที่สุดในโลกไปเลยยยยย
ที่เหลือก้อไม่มีอะไรมากครับ จะฉากไหนๆก็เเล้วเเต่ เเค่ได้เห็นเผิงยิ้มโลกมันก็เปลี่ยนสีไปเลย เหมือนมีเเสงออร่าส่องออกมาจากจอภาพยนตร์ จนทั้งโรงมันสว่างไสว มองเห็นเเม้กระทั่งเลขที่เก้าอี้ …. พูดไปนั่น
ดูหนังจบด้วยความปลื้มปริ่ม จนถึงตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมากว่า 2 สัปดาห์เเล้ว เเต่ความรู้สึกทุกอย่างมันยังสด ใหม่
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา จขกท ก็หมดเวลาเเต่ละวันไปกับการหาข้อมูล หาสื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับเผิง ทั้งประวัติ ผลงาน คลิป บทสัมภาษณ์ ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ ( เพราะไม่เป็นภาษาจีน )
จากที่ตอนเเรกจำขื่อไม่ได้ อ่านว่าเอ็ดดี้ เป็ง มาตลอด
ตอนนี้สืบเสาะหาข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเผิงจนจะเขียนเปน report ได้ละ
รู้สึกอยากจะลุกขึ้นมาเรียนภาษาจีน ( เคยบอกญาติตัวเองที่ไปเรียนภาษาจีนเพราะบ้า F4 ว่าปัญญาอ่อน ตอนนี้ความปัญญาอ่อนนั้นกลับมาหาตัวเองเเล้วจ้าา )
กระทู้ไหนเกี่ยวกับเผิง กูอ่านหมด อ่านเเล้วอ่านอีก
มาเห็นเพจอวยไส้เเตก โอ๊ยยย เเอดมิน
หล่อ ….. censored………. หล่อวัวตาย หล่อควายล้ม หล่อจนต้องร้องขอชีวิต
เป็นการใช้คำที่ถูกต้องตามระดับภาษา ไม่มีเว่อร์ไปเลยเเม้เเต่น้อย
พอมาเห็นเพจเเม่บ้าน ยังไม่ได้ดูเรื่องลำนำ เเต่เเค่เห็น profile picture เป็นรูปเผิงติดโบสีชมพูก็ฟินเเล้ว โอ๊ยย น่ารักกก
ตามทั้ง facebook IG ทั้งเพจสากล เพจในไทย เปิดคลิปบทสัมภาษณ์เป็นภาษาจีน ฟังไม่รู้เรื่อง ก็ดูอยู่นั่น
เเค่เห็นเผิงเวลาพูดไปยิ้มไป โอ๊ยยย น่าร๊ากกกกกกกกกกก
นึกถึงหน้าเผิงทีไร อยู่ดีๆก็ยิ้มเองคนเดียว เหมือนคนบ้า
เวลานอนก็นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ คิดถึงเผิงวันละหลายๆรอบ
พอมาเปิดพันทิพ เลื่อนลงมาอ่านคอมเม้น เห้ย มีคนเป็นเหมือนกรูเลย ที่สำคัญ ……..เยอะมากด้วย
ฮุเล่ ….. กูมีเพื่อนเเล้ววววว
บ้างก้อบอกว่า รู้จักเผิงนานเเล้ว เพ้อมาก กว่าจะกลับมาสู่สภาพเดิมต้องใช้เวลานานมาก
……..นี่กรูเพิ่งเริ่มต้นนนน
สารอะดรีนารีน เอ็นดรอฟิน โดพามีน
#เสี่ยวส่งท้าย
เผิง คือความงดงามเเห่งศตวรรษที่ 21
วันนี้พอเเค่นี้ก่อน เดวว่างๆเข้ามาคุย