...คิดถึงอาม่า...:)

ผมเป็นลูกคนจีนคนหนึ่ง ตระกูลผมเป็นตระกูลใหญ่ แต่ก่อนสมัยผมยังเด็กๆเราพ่อแม่พี่น้อง20กว่าคนอยู่บ้านเดียวกันย่านลาดพร้าว เป็นบ้านของตระกูลตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น บ้านนี้หลังจากที่ก๊งของผมท่านได้เสียไป ก็ตกเป็นของพ่อผมที่รับช่วงต่อจากกิจการของท่านมาบริหารต่อ(รับเหมาก่อสร้าง) พ่อผมทำหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้านเหมือนเป็นพี่ใหญ่ของตระกูล เวลาผ่านไปสักพัก ผมเริ่มจำความได้ ผมก็อาศัยนอนห้องเดียวกับอาม่าตั้งแต่เด็กๆ ตอนผมยังเด็กยังไม่ทันเข้าอนุบาล ผมเป็นเด็กที่ดื้อมาก ขี้แงมาก ร้องไห้ไม่หยุดแบบไม่มีเหตุผลเสียด้วย จนอาม่าท่านอุ้มผมไปฝากตัวไว้กับเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นประเพณีของบ้านผม ฝากให้เจ้าแม่กวนอิมท่านรับเด็กดื้อคนนี้ไว้ดูแลด้วย

เวลาผ่านไปจนผมเข้าอนุบาล ผมก็จัดได้ว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างรั้นมากคนหนึ่ง มันจะอาละวาดทำลายข้าวของบ่อยๆ และเคยแกล้งอาม่าปาของใส่ท่าน เวลานั้นผมก็ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรทั้งสิ้นนะ5555 คือยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น ตอนนั้นคงรู้แค่ว่าที่ทำไปเพราะมันสนุกดีก็เท่านั้น

แต่ไหนแต่ไรมาผมยอมรับตามตรงว่าผมคุยกับท่านไม่ค่อยรู้เรื่อง จนถึงทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าก็ฟังที่ท่านพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ดี ท่านพูดได้แค่ภาษาจีนฮกเกี้ยนปนภาษาไทยบ้างนิดหน่อย ครอบครัวผมตั้งแต่รุ่นพ่อผมเป็นต้นไปจะคุยภาษาจีนกันในการสนทนาของคนในตระกูล ดั้งนั้นเวลาทะเลาะกัน เถึยงกันคุยไรกันย่อมไม่ใช่ธุระของผมที่จะเข้าไปฟังหรือเปิดประเด็น แต่ลูกหลานทุกคนก็พูดได้เฉพาะภาษาไทย ไม่มีใครที่ได้ภาษาจีนมาจากบรรพบุรุษสักคนเดียว นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว

มาถึงช่วงหนึ่งที่ตระกูลผมต่างแยกย้ายไปอยู่บ้านใครบ้านมัน แน่นอนว่าผมต้องแยกจากอาม่า เหตุเพราะครอบครัวผมทะเลาะกัน ไม่ลงรอยกัน และเรื่องเงินคือประเด็นหลัก ช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี การก่อสร้างชะลอตัว เป็นช่วงที่ผมอยู่ประถมแล้วแหละ

มันยังไม่มีอะไรมาก ผมยังไม่คิดถึงท่านมากมายจนกระทั่งมาจนวันนี้ ผมไม่ได้เจอหน้าท่านมาเกือบ3ปีแล้วตั้งแต่ผมเข้าเรียนมหาลัย ต้องจากบ้านมาจึงแทบไม่มีโอกาสได้เจอ วันนัดรวมญาติท่านก็ไม่ค่อยมา ท่านไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ลุกเดินยังลำบาก ไปไหนมาไหนต้องใช้ไม้เท้าหรือคนประคอง ท่านเกือบๆ90แล้ว บางครั้งพ่อผมก็เล่าให้ฟัง ผมแทบจะร้องไห้ วันดีคืนดี ท่านฝันว่าอาก๊งที่เสียชีวิตไปนานแล้วจะพาไปอยู่ด้วย ผมภาวนาให้สิ่งนี้มันเป็นเพียงความฝัน ผมยังไม่พร้อมที่จะทำใจกับการจากไปของคนที่ผูกพันมากคนหนึ่ง อยากให้ช่วงนี้มีเวลามากเหมือนตอนยังเล็กๆที่มีอาม่าคอยอุ้มไว้นั่งบนตักเหลือกินครับ ผมอยากให้อาม่ารอดูผมใส่ครุยในวันรับปริญญา รอดูวันนั้นวันที่ผมประสบความสำเร็จ ได้มั้ยอาม่า ผมจะทำงานเก็บเงินมาดูแลอาม่า ผมยังไม่พร้อมมีแฟนหรอก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มี ผมยังไม่พร้อมที่จะดูแลใครนอกจากตัวผม ครอบครัวผม และอาม่าเอง ผมขอโทษที่ตอนนั้นผมดื้อมาก หลานคนนี้ไม่ใช่เด็กดื้อเหมือนในวันนั้นแล้วนะ ตอนนี้เป็นนักศึกษาแล้ว

รอได้มั้ย อาม่า.. จนกว่าจะถึงวันนั้น ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่