เราควรทำตัวยังไงดี เมื่อแอบรักต่างศาสนาที่มันไม่ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งเอาซะเลย !!!

ก่อนอื่นเราต้องแนะนำตัวกับทุกคนแล้วก็ฝากเอาไว้ในมือเธอด้วยนะค่ะ  เราเองเพิ่งจะหันมาสนใจพันทิปได้ไม่นานหลังจากที่ติดตามมาได้ซักระยะหนึ่ง ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่ากระทู้เราไม่มีสาระแค่หาที่ระบาย เป็นการแอบรักที่บางครั้งก็อึดอัด แล้วบางครั้งก็แฮปปี้ มันมั่ววววกันไปหมด  เริ่มเลยละกันเนาะ

เราเป็นสาวใต้ ไทยพุทธคนนึง ที่ตอนนี้เรียนจบละ ก็มีงานมีการทำเหมือนขาวบ้านชาวช่องทั่วไป ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่มีอะไรหวือหวา ไม่ใช่สาวฮอตแต่ก็ไม่ห่อเหี่ยวเรื่องผู้ชายไปเลยซะทีเดียว นิสัยส่วนมากของเราก็ห้าวๆลุยๆ แต่ก็ยังมีมุมมุ้งมิ้งอยู่บ้างตามประสาสตรีไทย  5555555  
ส่วนชายหนุ่มที่เราแอบชอบ หนุ่มใต้ อิสลาม ไม่มีดีกงดีกรีนายบงนายแบบอะไรหรอกนะค่ะ 5555 ก็คนธรรมดานิละ จะไม่ธรรมดาก็ตรงที่ มันใช่สำหรับเรา หนุ่มตาหวาน ปากสวย ชอบออกกำลังกาย หน้าคม แต่ตัวขาวไม่คลำนะค่ะ จะบอกว่าขาวกว่าเรายังได้เลย ไอ้ที่สำคัญที่สุดคือ "มีเครา" ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด เราจัดเป็นสตรีโรคจิตที่พิศวาสหนุ่มมีเครา มันไม่ได้ดูจั๊กจี้หรอกนะค่ะ แต่มันชอบเอาดื้อๆเลยก็ว่าได้ไม่มีเหตุผลอะไรปูทางมาก่อนเลย เอาง่ายๆดื้อไเลยก็คือ เป็นพ่อพันธุ์ที่ดีในอนาคตได้ค่ะ 555555

เราสองคนรู้จักกันโดยผ่านจากรุ่นน้องอีกคนนึง แต่ไม่เคยเจอกันเลยนะค่ะ เราทำความรู้จักกันผ่านทางเฟสบุ๊ค ถ้ามองๆดูก็เหมือนคนรู้จักกันทั่วๆไป แต่มันแตกต่างตรงที่ เราเจือกคุยกันรู้เรื่อง ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีอะไรมาเป็นพรมหมลิขิตให้รู้จักกัน ก็ยังดั๊นนนนมารู้จักกันจนได้  เราสองคนคุยกันมาเรื่อยๆค่ะ สนิทสนมกันมาจนเป็นระยะเวลาประมาณณณณณณณณณ (ลากเสียง) 3-4 ปี เห็นจะได้ แต่เราเพิ่งจะมาโสดจริงๆก็ตอนที่เพิ่งจบมานี่ละค่ะ
สาเหตุที่เลิกกับแฟนก็ไม่ได้มาจากเค้านะค่ะ  แต่เพราะเราเหนื่อยที่จะต้องแบกภาระช้างเท้าหน้าในการเป็นผู้นำ ผู้ชายคนนึงที่เป็นแฟนเราซึ่งทำอะไรไม่เป็นเลย แถมยังต้องคอยดูแลแล้วก็ช่วยเหลือตลอด มันเป็นความเหนื่อยที่กลายเป็นความเคยชินจนสุดทายเลยชินชานะค่ะ แล้วก็จบกันไปที่คำว่าเพื่อน (เราคบกับเค้ามา 3 ปี ไม่เคยล่วงเกินเราเลยนะค่ะ ข้อดีของมันก็คงจะเป็นตรงนี้)

หลังจากที่เราเลิกกันเราก็ใช้ชีวิตแบบสาวโสดเต็มที่ แต่ไม่ได้ปาร์ตี้หรอกค่ะดันมาโสดเอาตอนทำงานแล้วนี่ซิ   จบไปชีวิตลั้นลาของฉัน ! หลังจากที่เราโสดมันก็เป็นเหมือนช่วงที่หน้าฟีดข่าวเราจะมีแต่อะไรเพ้อเจ้อ จนวันนึง เค้าก็ทักมาค่ะ ปกติเราไม่ได้คุยกันทุกวันหรอกนะค่ะ นานๆทีจะทักมา แต่พอทักมาก็ยาวค่ะ เป็นงี้มาตลอดที่รู้จักกัน เราคุยกันได้ในแถบทุ๊กกกเรื่องเลย  ติดที่คำในประโยคว่า "เจ้" นิละค่ะ มันตะเตือนไตเราอย่างยิ่ง แต่ไม่เป็นไรค่ะ ชินละ 555555

พอเค้ารู้ว่าเราโสด แล้วเราก็รู้ว่าเค้าโสด มันเลยกลายเป็นการคุยกันแบบอัลลิมิเต็ด คือแถบทุกอย่างอะไรเข้ามาก็เล่าหมด มีไรเกิดขึ้น หมาเหยี่ยวที่ไหน บลาๆๆ ทั้งวัน แล้วก็กลายเป็นว่า วันนึงถ้าเราไม่ทักเค้าไปนิคือแปลกละ ต้องทักซักจึ้งนึง   เค้าเองเราก็ไม่รู้หรอก 5555 ไม่รู้เป็นเหมือนกันรึเปล่า เราก็เป็นอยู่แบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ เค้าค่อนข้างจะฮอต มีสาวมาหยอดตลอดเลย แต่ก็ไม่ค่อยเห็นเค้าตอบโต้อะไรกลับนะค่ะ ก็ปกติเหมือนชาวบ้านทั่วไป ไม่ดิ ไม่ปกติ บางทีก็มีมุ้งมิ้งๆจนเราสะอึกเหมือนกันค่ะ แต่ก็จบไม่อะไรมากมายต่อ จนวันนึงเลยตัดสินใจ "สารภาพค่ะว่าชอบเค้า" ก็เล่นมันง่ายๆนิละค่ะ เอ่ยชื่อละก็พูดเลย "กุชอบเนี้ย" (เราใช้คำเรียกแทนกันกวนๆแบบนี้นะค่ะมันมาจากความสนิทสนม แหะๆ) แล้วก็มาลุ้นเอา ว่าจะเป็นผีเน่าแช่อิ่มตาย รึ หมาเจอกระดูก ..... ผลสุดท้าย เป็นผีเน่าค่ะ เน่าแบบเน่าแฟะ เน่าชนิดที่โอ้โหตายเป็นผีละยังไม่พอแช่อิ่มเน่าตายในท่อน้ำทิ้งอีก เค้าดันบอกมาว่า "ยังไม่อยากคบใครเป็นแฟนเลย ไม่อยากมีแฟน อยู่กันแบบนี้ก็ดีนะ มีความสุขดี อิสระดีด้วยไม่อึดอัด" จ้าาาาาาาาา ไม่อึดอัดเลยจ้าาาาาา   หลังจากที่สารภาพไป ถึงมันจะเหมือนแย่  แต่ก็ไม่แย่ไปเลยทีเดียวนะค่ะ เราเหมือนจะยิ่งสนิทกันมากขึ้นเข้าไปอีก

มีอะไรเราก็เล่ากัน ยังงั้น กุยังงี้ ด่ากันไปกวนตีนกันไป มีอะไรก็แนะนำ ช่วยเหลือกันตลอด (เรื่องเรียนนะค่ะเค้ายังเรียนไม่จบ รุ่นน้องเนาะ) หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่ถอยออกมา เค้าไม่ได้ชอบนะเว้ย  คือ จะพูดไงดีละ หลังจากที่บอกว่าชอบไป เค้าไม่เคยไล่เราไปไหนเลยนะค่ะ จะเย็นชาใส่บางก็เวลามันติสนี่ละค่ะ ถ้าวันไหนมันติสขึ้นมา เข้าถึงแก่นแท้ของจิตวิญญาณมันยากมากค่ะ ยิ่งวันไหนมีบอล ถ้าไปกวนตีนมันตอนนั้น พายุเลยนะค่ะ หลังคาบ้านกระจุยแน่ แต่ก็ยังมีมุมมุ้งมิ้งมาให้เราบางบางครั้งนะค่ะ เราเลยไม่รู้สึกเหมือนอกหักเท่าไหร่ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน 555555 เค้าเป็นคนที่โตค่ะ มีความคิดที่โตกว่าตัวเองเยอะมาก มีเหตุผล แล้วก็รู้จักเว้นช่องว่างให้เราสงบอารมเวลาโกด เค้าไม่เคยทิ้งให้เรารู้สึกแย่นะค่ะเวลาที่เค้าปฏิเสธอะไรเรา เค้าจะปลอบใจเราเสมอเลยค่ะ พูดง่ายๆเลยว่า  แมนสัดๆ
และหลายคนก็คงตั้งคำถามอีกข้อว่าทำไมไม่จีบตื้อไปเลยเยอะๆ ... ต้องบอกก่อนเลยนะค่ะว่า เราเคารพเค้าในเรื่องของศาสนาค่ะ เพราะเราเองไม่คุ้นเคยกับศาสนาของเค้า เลยไม่กล้าที่จะเล่นอะไรพิเรนๆด้วยเยอะๆ เพราะเรากลัวจะทำให้เค้าบาป เลยค่อนข้างที่จะให้เกียรติเค้าในบางเรื่องค่ะ ถือคติที่ว่า "รักบังไม่ทำร้ายบังค่ะ" แล้วก็เป็นแบบนั้นมาจนถึงตอนนี

จนตอนนี้เราเองไม่รู้หรอกนะค่ะว่าเค้าคิดยังไงกับเรา (ใครมองออกบอกหน่อยเหอะ 555) แต่ดีใจที่เค้ายังอยู่ที่เดิม จุดเดิมแล้วก็เหมือนเดิม ไม่เย็นชาหรือตีห่างออกไปเลย ทั้งๆที่เค้าบอกว่าเค้ายังไม่อยากมีแฟน อ่อ เค้าเคยบอกนะค่ะ ว่าสาเหตุเพราะเค้ายังเรียนไม่จบ ยังไม่มีงานทำ แล้วเค้าเองก็ยังไม่อยากให้ใครทำลำบากกับเค้า ง่ายๆก็ ยังไม่อยากมีเมียเดี๋ยวเมียลำบากงี้   ก็เป็นยังงี้มาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ เราไม่รู้ว่าสถานะตอนนี้เราคืออะไร พี่สาว รึคนสำคัญแต่เป็นอะไรตอนนี้เราก็ไม่สนใจละค่ะ อะไรก็ได้ เรายอมรับแล้ว ในเมื่อเริ่มที่จะชอบเค้าก่อน ก็ยังยืนจุดเดิมต่อไป ถามว่ามีคนมาชอบเรามั๊ย มีค่ะ พอสมควรในระดับนึง แต่คุณเคนมั๊ยค่ะ เวลาที่เราชอบใครไปแล้ว ทุกอย่างมันโฟกัสไปแค่จุดนั้นที่เดียวเลย 55555 โรคจิตเนาะ ไม่รู้ว่าในอนาคตเค้าจะเปิดโอกาสให้เรารึเปล่าในวันที่เค้าอยากจะมีแฟนละ เค้าก็คงไม่ได้คุยกับเราคนเดียว 555555  (ก็หวังว่าจะได้โอกาสนั้น ) แต่ถ้าสมมุติเค้าเจอใครที่ดีกว่า เข้าใจมากกว่า แล้วมันใช่สำหรับเค้า เราก็พร้อมที่จะยินดีด้วยค่ะ ถ้าเค้าแฮปปี้ แต่พูดเลยนะค่ะ ว่างานนี้เสียใจน้ำตาเป็นทะเลอันดามันแน่ค่ะ ไม่มาแอ๊บว่าไม่เสียใจหรอกนะค่ะ ร้องกันมันส์แน่ค่ะ มั่นใจได้ แต่ทำอะไรไม่ได้นิเนาะ เราก็อยู่ในจุดของเราต่อไป ให้กำลังใจเค้าต่อไปและเป็นที่ปรึกษาให้เหมือนเดิม จนกว่าเราจะเจอคนของเราเอง

สุดท้ายต้องขอบคุณทุกคนนะค่ะที่อ่านกันจนจบ เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าจะได้เป็นแฟนกับเค้ามั๊ย  แต่ถ้าฟ้ามีตา ก้หวังนะค่ะ 5555 หวังเสมอให้เธอสนอง ก็ขอให้ได้ขอให้โดน ถ้ามีอะไรคืบหน้า จะมาเม้ามอยต่อนะค่ะ ไม่รู้จะเป็นเรื่องดี รึเรื่องแย่ แต่ก็ต้องทำใจค่ะ เรื่องมันเศร้าเหล้าก็ขมเหมือนเดิมค่ะ บ๊ายยยยยยย