สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่รู้กันทั่วไป หลังถูกระเบิดปรมาณู ที่เมืองฮิโรชิมา และนางาซากิ คนญี่ปุ่นตายไปหลายแสน ญี่ปุ่นจึงประกาศยอมแพ้ แต่ยังมีข้อมูลจากนายทหารคนสนิทของนายพลแมคอาเธอร์ เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ญี่ปุ่นได้ยอมแพ้มาแล้ว...ก่อนนั้นถึงหกเดือน...
ผู้ที่ยอมแพ้...คือองค์จักรพรรดิฮิโรฮิโต ทรงพยายามที่จะสื่อไปถึงฝ่ายพันธมิตร แต่ก็ติดขัดด้วยฝ่ายทหารขัดขวาง เสียงทหารส่วนใหญ่ดึงดันให้รบต่อ จักรพรรดิต้องเดินเกมการเมืองตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ชื่อนายกันตาโร ซูสุกิ อายุ 77 ปี พยายามที่จะมีอำนาจเหนือสภา เหนือกองทัพบก เหนือกองทัพ แล้วส่งทูตพิเศษไปบอกรัสเซีย
ปลายเดือน ก.ค.2488 ฝ่ายพันธมิตรออกประกาศที่เมืองปอตสดัม วางข้อกำหนดให้ญี่ปุ่นยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข จักรพรรดิฮิโรฮิโตยอมหมด แต่ถึงกระนั้นสภาสูงสุดของญี่ปุ่น ก็ยังไม่ยอม
6 ส.ค.ระเบิดปรมาณูลูกแรก ก็ลงที่เมืองฮิโร-ชิมา ตัวเมืองหายไป คนตายไปราว 1.4 แสนคน 8 ส.ค.นางาซากิ ก็เจอปรมาณูลูกที่สอง ความเสียหายไล่เลี่ยกัน
และวันนั้นเอง รัสเซียก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น แล้วยาตราทัพเข้ายึดแคว้นแมนจูเรีย
9 ส.ค.สภาสูงสุดญี่ปุ่น ตกลงรับข้อกำหนดปอตสดัม แต่ขอยกเว้น 4 ข้อ 1. ให้สถาบันกษัตริย์คงอยู่ 2.ให้ญี่ปุ่น ไม่ต้องถูกยึดครอง 3.ให้ญี่ปุ่นถอนทหารและปลดอาวุธเอง และ 4.ให้ญี่ปุ่นจัดการกับผู้ที่รับผิดชอบในการสงครามเอง แต่กระนั้นฝ่ายทหารยังยืนยันที่จะสู้ต่อ
14 ส.ค.จักรพรรดิเรียกประชุมสภาสูงสุด แล้วร่างประกาศกระแสพระบรมราชโองการแถลงเรื่องยอมแพ้ พออัดเสียงเตรียมประกาศทางวิทยุ ทหารราวพันคน ก็บุกเข้าไปในลานพระราชวัง แต่แผ่นเสียงแถลงการณ์ก็ถูกเก็บไว้ก่อน ทหารคลั่งลุยดะ เจอใครทำท่าจะฆ่าทิ้งหมด บ้านนายกฯซูสุกิถูกเผา
14.00 น. คืนเดียวกันนั้น รัฐมนตรีกลาโหมฆ่าตัวตาย นายพลตานากา ผบ.ทหารป้องกันดินแดนภาคตะวันออก มาถึงพระราชวัง เกลี้ยกล่อมทหารกบฏให้ถอย สองนายทหารกบฏฆ่าตัวตาย นายพลตานากากลับไปฆ่าตัวตายที่ห้องทำงาน
เย็นต่อมา คนญี่ปุ่นจึงได้ฟังแถลงการณ์ยอมแพ้จากองค์จักรพรรดิ
ข่าวใหญ่ตอนนั้น รัสเซียเรียกร้องให้อเมริกา เอาตัวจักรพรรดิขึ้นศาลโลก ข้อหาอาชญากรสงคราม
ต่อมา รัสเซียก็ได้เป็น 1 ใน 11 ตุลาการศาลโลก ชำระคดีอาชญากรสงคราม ซึ่งก็ปรากฏว่าองค์จักรพรรดิรอดข้อหาไปได้
ตุลาการ 11 ชาติ มีอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา รัสเซีย ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และนิวซีแลนด์ ใช้ตึกกระทรวงกลาโหม หลังพระราชวังจักรพรรดิ นั่งพิจารคดี ชำระกันนาน เสียค่าใช้จ่ายไปราว 100 ล้านบาท กองกระดาษสำนวนเป็นภูเขาเลากา รวมน้ำหนักกว่าแสนกิโลกรัม
ระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยตายไปสองคน เป็นบ้าไปหนึ่งคน
วันตัดสินคดีอยู่ในปี 2490 ประธานตุลาการชาติออสเตรเลีย นั่งอ่านคำพิพากษา ให้จำเลยแต่ละคนฟัง คนละ 7 วัน ผลการตัดสิน จำเลยคนสำคัญ ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ 7 คน
รวมทั้งนายพลโตโจ แม่ทัพใหญ่
นักข่าวรายงานว่า ขณะอ่านคำพิพากษา ภรรยานายพลโตโจ และลูกสาว นั่งฟังอยู่ใต้ต้นไม้นอกศาล สิ้นคำตัดสินทั้งสองก็ร้องไห้
ก่อนเวลาถูกแขวนคอ...นายพลโตโจได้ตัดเล็บส่งออกมาให้ภรรยา นี่เป็นประเพณีการลาตายของคนญี่ปุ่น เสร็จแล้วก็เขียนกลอนบทหนึ่ง
“โอ ดูซี ดูดอกเชอรี่ร่วงเงียบๆ”
นายพลโตโจตายไปแล้ว ญี่ปุ่นอยู่ใต้การปกครองของอเมริกา สถานการณ์ขององค์จักรพรรดิมีเค้าดีขึ้น
ครั้งหนึ่งนายพลแมคอาเธอร์ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าองค์จักรพรรดิว่า “การที่พันธมิตรยึดญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้เป็นความผิดขององค์จักร-พรรดิเลย สงครามยืดเยื้อยาวนาน เกิดขึ้นจากเหตุ และภาวการณ์อื่นๆ เกินความสามารถของจักรพรรดิจะบังคับได้”.
Credit:http://www.thairath.co.th/content/321217
ผู้ที่ยอมแพ้...คือองค์จักรพรรดิฮิโรฮิโต ทรงพยายามที่จะสื่อไปถึงฝ่ายพันธมิตร แต่ก็ติดขัดด้วยฝ่ายทหารขัดขวาง เสียงทหารส่วนใหญ่ดึงดันให้รบต่อ จักรพรรดิต้องเดินเกมการเมืองตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ชื่อนายกันตาโร ซูสุกิ อายุ 77 ปี พยายามที่จะมีอำนาจเหนือสภา เหนือกองทัพบก เหนือกองทัพ แล้วส่งทูตพิเศษไปบอกรัสเซีย
ปลายเดือน ก.ค.2488 ฝ่ายพันธมิตรออกประกาศที่เมืองปอตสดัม วางข้อกำหนดให้ญี่ปุ่นยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข จักรพรรดิฮิโรฮิโตยอมหมด แต่ถึงกระนั้นสภาสูงสุดของญี่ปุ่น ก็ยังไม่ยอม
6 ส.ค.ระเบิดปรมาณูลูกแรก ก็ลงที่เมืองฮิโร-ชิมา ตัวเมืองหายไป คนตายไปราว 1.4 แสนคน 8 ส.ค.นางาซากิ ก็เจอปรมาณูลูกที่สอง ความเสียหายไล่เลี่ยกัน
และวันนั้นเอง รัสเซียก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น แล้วยาตราทัพเข้ายึดแคว้นแมนจูเรีย
9 ส.ค.สภาสูงสุดญี่ปุ่น ตกลงรับข้อกำหนดปอตสดัม แต่ขอยกเว้น 4 ข้อ 1. ให้สถาบันกษัตริย์คงอยู่ 2.ให้ญี่ปุ่น ไม่ต้องถูกยึดครอง 3.ให้ญี่ปุ่นถอนทหารและปลดอาวุธเอง และ 4.ให้ญี่ปุ่นจัดการกับผู้ที่รับผิดชอบในการสงครามเอง แต่กระนั้นฝ่ายทหารยังยืนยันที่จะสู้ต่อ
14 ส.ค.จักรพรรดิเรียกประชุมสภาสูงสุด แล้วร่างประกาศกระแสพระบรมราชโองการแถลงเรื่องยอมแพ้ พออัดเสียงเตรียมประกาศทางวิทยุ ทหารราวพันคน ก็บุกเข้าไปในลานพระราชวัง แต่แผ่นเสียงแถลงการณ์ก็ถูกเก็บไว้ก่อน ทหารคลั่งลุยดะ เจอใครทำท่าจะฆ่าทิ้งหมด บ้านนายกฯซูสุกิถูกเผา
14.00 น. คืนเดียวกันนั้น รัฐมนตรีกลาโหมฆ่าตัวตาย นายพลตานากา ผบ.ทหารป้องกันดินแดนภาคตะวันออก มาถึงพระราชวัง เกลี้ยกล่อมทหารกบฏให้ถอย สองนายทหารกบฏฆ่าตัวตาย นายพลตานากากลับไปฆ่าตัวตายที่ห้องทำงาน
เย็นต่อมา คนญี่ปุ่นจึงได้ฟังแถลงการณ์ยอมแพ้จากองค์จักรพรรดิ
ข่าวใหญ่ตอนนั้น รัสเซียเรียกร้องให้อเมริกา เอาตัวจักรพรรดิขึ้นศาลโลก ข้อหาอาชญากรสงคราม
ต่อมา รัสเซียก็ได้เป็น 1 ใน 11 ตุลาการศาลโลก ชำระคดีอาชญากรสงคราม ซึ่งก็ปรากฏว่าองค์จักรพรรดิรอดข้อหาไปได้
ตุลาการ 11 ชาติ มีอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา รัสเซีย ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และนิวซีแลนด์ ใช้ตึกกระทรวงกลาโหม หลังพระราชวังจักรพรรดิ นั่งพิจารคดี ชำระกันนาน เสียค่าใช้จ่ายไปราว 100 ล้านบาท กองกระดาษสำนวนเป็นภูเขาเลากา รวมน้ำหนักกว่าแสนกิโลกรัม
ระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยตายไปสองคน เป็นบ้าไปหนึ่งคน
วันตัดสินคดีอยู่ในปี 2490 ประธานตุลาการชาติออสเตรเลีย นั่งอ่านคำพิพากษา ให้จำเลยแต่ละคนฟัง คนละ 7 วัน ผลการตัดสิน จำเลยคนสำคัญ ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ 7 คน
รวมทั้งนายพลโตโจ แม่ทัพใหญ่
นักข่าวรายงานว่า ขณะอ่านคำพิพากษา ภรรยานายพลโตโจ และลูกสาว นั่งฟังอยู่ใต้ต้นไม้นอกศาล สิ้นคำตัดสินทั้งสองก็ร้องไห้
ก่อนเวลาถูกแขวนคอ...นายพลโตโจได้ตัดเล็บส่งออกมาให้ภรรยา นี่เป็นประเพณีการลาตายของคนญี่ปุ่น เสร็จแล้วก็เขียนกลอนบทหนึ่ง
“โอ ดูซี ดูดอกเชอรี่ร่วงเงียบๆ”
นายพลโตโจตายไปแล้ว ญี่ปุ่นอยู่ใต้การปกครองของอเมริกา สถานการณ์ขององค์จักรพรรดิมีเค้าดีขึ้น
ครั้งหนึ่งนายพลแมคอาเธอร์ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าองค์จักรพรรดิว่า “การที่พันธมิตรยึดญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้เป็นความผิดขององค์จักร-พรรดิเลย สงครามยืดเยื้อยาวนาน เกิดขึ้นจากเหตุ และภาวการณ์อื่นๆ เกินความสามารถของจักรพรรดิจะบังคับได้”.
Credit:http://www.thairath.co.th/content/321217
แสดงความคิดเห็น
ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันโชคดีกว่าญี่ปุ่นตรงที่เยอรมันโยนบาปให้ฮิตเลอ แต่ญี่ปุ่นทำแบบนั้นไม่ได้ใช่ไหมครับ
เยอรมันจึงโชคดีที่มีฮิตเลอรับบาปไป เพื่อนบ้านเลยไม่เกลียด