ไปเที่ยวเกาะแสมสารมาแล้ววววว

วันนี้ไปเที่ยวเกาะแสมสารกับเพื่อนสาวแบบ One-day trip มาค่ะ
เลยจะมาแบ่งปันข้อมูลอัพเดตกัน (วันที่ 16 มีนาคม 2558)
รูปมีไม่มากนะคะ มีแต่ถ่ายกันเองเลยไม่กล้าเอามาลงค่ะ 555



มาเริ่มกันเลยดีกว่า
หลังจากที่อ่านกระทู้จากในพันทิปเรื่อง เกี่ยวกับการไปเที่ยวดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ลที่เกาะแสมสาร
ออยกับเพื่อนอีกคนหนึ่งจึงอยากไปตามรอยบ้าง
เลยนัดกันไปเที่ยวในวันจันทร์นี้
ด้วยความคิดที่ว่า "วันจันทร์ เขาไปทำงานกันคนน่าจะน้อย"
ปล. เห็นในกระทู้ต่างๆเตือนว่าตั๋วเต็มเร็วมาก



นัดเจอกันที่หมอชิตเพื่อขึ้นรถตู้ตอน 05.30 น.
ขึ้นคันไหนก็ไม่แน่ใจ เลยถามๆพี่ที่วิน
ถามปุ๊บบอกว่ารถคันนี้ไปทันที เสียเงินไปคนละ 160 บาท
(แพงไปหรือป่าวไม่รู้นะคะ ตอนนั้นคิดแค่ว่าขอให้ได้ไปก่อนเป็นพอ)
ได้นั่งหน้ากับพี่คนขับทันที ขึ้นรถปุ๊บรถก็ออกเลยตอนประมาณ 06.00 น.
ไอ้เราง่วงก็ง่วงแต่พี่คนขับดูง่วงกว่า เลยจำเป็นต้องชวนคุยไปพลางๆกลัวพี่เขาหลับใน
รถตู้พาเราวิ่งขึ้นทางด่วนผ่านบูรพาวิถึ ถึงชลบุรีในเวลา 07.00 น.
คิดในใจว่าเร็วกว่าที่คิดไว้ น่าจะไปทันซื้อตั๋ว แต่เอาเข้าจริงๆก็ถึงสัตหีบ ช่วง กม. 1 เกือบ 08.30 น.
พอมาถึงพี่รถตู้จอดส่งให้ที่วินมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซต์ก็เหลืออยู่ 1 คัน
ไอ้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงกลัวไปซื้อตั๋วไม่ทันเลยขอซ้อน 2 พี่มอเตอร์ไซค์ก็ให้
โดนค่าใช้จ่ายค่ามอเตอร์ไซค์ไปอีก 150 บาท (คนละ 75 บาท)



เมื่อมาถึงบริเวณพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
หรือที่ขึ้นเรือข้ามฟากไปเกาะแสมสาร ก็เห็นภาพคนกำลังต่อแถวซื้อตั๋วอย่างชุลมุน
คิดในใจว่าแย่แล้ว (พี่มอเตอร์ไซค์ใจดีมาก จอดรอเราด้วย กะว่าถ้าแห้วจะได้พาไปส่งที่อื่นต่อ)
จึงรีบเดินไปถามคนที่กำลังต่อคิวซื้อตั๋วเขาบอกว่า """คิวซื้อตัวรอบเช้าเต็มแล้ว"""
ใจเสียเลยค่ะทีนี้ คิดในใจมาเสียเที่ยวซะแล้ว ทริปแห้ว >_<!!!
(ลืมไปเลยว่าเด็กๆปิดเทอม มาเที่ยวกันเพียบ)
แต่ก็ตัดสินใจลองเดินไปถ้าที่เคาเตอร์ขายตั๋วที่กำลังวุ่นวายอีกที
ปรากฎว่ายังมีตั๋วรอบบ่ายอยู่ ทันใดนั้นตัดสินใจไม่อยากเลยค่ะ รับบัตรคิวและจอง 2 ที่ทันใด
พร้อมถามข้อมูลเรือเที่ยวกลับเพื่อที่จะได้วางแผนว่าจะได้เที่ยวกี่ชั่วโมง
พี่ที่ขายตั๋วก็แจ้งว่า นำบัตรคิวกลับมาซื้อตั๋วตอน 12.00 น.
เรือข้ามไปเกาะรอบ 13.00 น. และจะมีเรือกลับมาฝั่งตอน 16.30 น.
ได้ฟังดังนั้นก็สบายใจขึ้นมาในทันใด (เย้ๆๆๆๆ)
เกือบไม่ได้ข้ามไปเที่ยวแล้ว เดินกลับมาบอกพี่มอเตอร์ไซค์
และขอเบอร์พี่เขาไว้เผื่อตอนเย็นไม่มีรถกลับเข้าเมืองในทันที (สนใจเบอร์ขอในข้อความมานะคะ)



หลังจากเดินทางอย่างรีบเร่งก็ได้เวลาทานอาหารเช้าตอนเกือบๆ 09.30 น.
คนมาอุดหนุนกันเพียบ กับร้านอาหารภายในศูนย์
ตอนที่เราไปมีร้านอาหารตามสั่ง 2 ร้าน ราคาอยู่ที่ 40 - 50 บาท รสชาติทานได้ค่ะ
จากนั่นเราทั้งสองก็มีเวลาชิวเยอะเลยก็ถึงเวลาซื้อตั๋ว
เพื่อนจึงแวะซื้อกาแฟ ที่ร้านขายของที่ระลึกใกล้ๆที่ขายข้าว
มีของที่ระลึกเกี่ยวกับทหารเรือขายด้วย แต่เราไม่ได้ซื้อค่ะ
จากนั้นก็เดินไปสำรวจท่าขึ้นเรือ พร้อมกับถ่ายภาพที่ระลึกเก็บไว้
เดินดื่มด่ำรับลมทะเลเย็นๆสักพักก็มานั่งรอที่ห้องจำหน่ายตั๋ว
เนื่องจากเปิดแอร์เย็นสบาย รอเวลาซื้อตั๋วค่ะ



ปล. ที่นี่บริเวณเนินเขาจะมีโซนอาคารจัดแสดงนิทรรศการด้วยนะคะ
ใครสนใจก็สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมได้ค่ะ
แต่ป้า 2 คนเฒ่าแล้ว เลยขอชิวถ่ายรูปเล่นด้านล่างแทนค่ะ
ถึงเวลาซื้อตั๋วที่รอคอย คนที่มีบัตรคิวเริ่มมารอกันเพียบ
พี่ที่เคาท์เตอร์จะประกาศเรียกชื่อที่แจ้งจองไว้ เมื่อถึงชื่อเราก็ไปจ่ายเงินรับตั๋วค่ะ
ตอนนี้ราคาจะเป็นเหมาจ่าย ดำน้ำหรือไม่ดำน้ำก็ 250 บาทเท่ากันค่ะ
แต่เห็นเขาแปะป้ายประกาศว่า 1 เม.ย. 58 จะปรับขึ้นเป็น 300 บาท แล้วนะคะ



ซื้อตั๋วเสร็จออยกับเพื่อนก็ไปยืนรอที่ท่าเรือ ถ่ายรูปเล่นสักพักก็ได้เวลาขึ้นเรือค่ะ
ณ จุดๆนี้บอกได้คำเดียวว่า "เวียนหัวมาก" เนื่องจากเป็นคนที่ขี้เมาเรือสุดๆ
แต่ก็ชอบไปเที่ยวดำน้ำ ดูปะการัง (ใครมีวิธีให้ไม่เมาเรือแนะนำกันได้นะคะ)
และแล้วเรือก็มาถึงเกาะแสมสาร ดีใจมากๆๆๆๆ
เหมือนภารกิจครั้งนี้สำเร็จ น้ำใสมาก ทรายขาวสะอาด ฟินสุดๆ
เมื่อมาถึงก็เดินไปฟังพี่ทหารบรรยายรับความรู้และข้อควรปฏิบัติกลับไปด้วยซักพัก
ก็สามารถแยกย้ายไปทำกิจกรรมต่างๆได้ อาทิ ปั่นจักรยาน เล่นน้ำ เดินสำรวจธรรมชาติ ดำน้ำ นอนเล่น ถ่ายรูป ตามอัธยาศัย
ส่วนภารกิจของออยในวันนี้คือ ไปดำน้ำดูปะการังค่ะ
จริงๆที่นี่จะเปิดให้ดำน้ำ 2 จุด ได้แก่ จุดดำน้ำหาดเทียน และจุดดำน้ำหาดลูกลมค่ะ
แต่วันที่ออยมาเขาให้ดำได้แค่จุดดำน้ำหาดลูกลม
เนื่องจากอีกจุดคลื่นลมแรงกว่าค่ะ



วิธีการไปที่จุดดำน้ำ พี่ทหารก็จะมีรถรับส่งค่ะ
ขึ้นรถไปถึงก็นำบัตรประชาชนไปแลกอุปกรณ์สน็อกเกิ้ล กลุ่มละ 1 ใบ แลกสน็อกเกิ้ลกี่อันก็ได้ค่ะ
จากนั้นก็รอเรือยางมารับพาไปที่โป๊ะซึ่งอยู่ห่างจากหาดไปนิดหน่อย
ตรงหาดนี้ก็มีที่นั่งผ้าใบ เรือคายัค แล้วก็เน็ตเล่นวอลเล่บอลชายหาดด้วยนะคะ
ส่วนน้ำแล้วขนมก็ถามซื้อกับพี่ๆทหารได้เลยค่ะ
ที่นี่มีชั้นให้วางของ ส่วนของมีค่ากล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ ก็ใส่ในกระเป๋าฝากพี่ทหารเขาได้นะคะ



เมื่อพร้อมแล้วก็ใส่สื้อชูชีพ สน็อกเกิ้ล ขึ้นเรือยางไปดำน้ำกันได้เลยค่ะ
พอไปถึงที่โป๊ะกลางทะเล จะมีทุ่นวางลอนน้ำกำหนดขอบเขตพื้นที่ให้เราดำดูปะการังและมีพี่ทหารคอยดูแลด้วยค่ะ
ด้วยความที่ออยไปดำน้ำคนเดียว ส่วนเพื่อนั่งชิวที่หาด พี่ทหารใจดีจึงพาจูงไปดูปะการังด้วย
ใจดีมาก (อาจเห็นว่าดำคนเดียวไม่น่าจะรอด 555) แต่ก็สนุกมากเลยค่ะ
ถึงน้ำจะขุ่นไปหน่อย และร่างกายไม่เอื้ออำนวย เหนื่อยง่ายก็ตาม
วันนี้ได้เห็นหอยมือเสือ ดอกไม้ทะเล ปลานีโม่ ปลาเสือ และปะการังแบบต่างๆก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาก
แต่ด้วยความที่เหนื่อยง่าย เนื่องจากป้าเฒ่าแล้ว ก็เลยดำได้สักพักก็ต้องนั่งเรือยางกลับมาเข้าหาดค่ะ
นั่งพักเหนื่อยสักครู่ก็มีรถพี่ทหารมารับไปยังจุดจอดเรือ เพื่อกลับไปอาบน้ำล้างตัว และรอขึ้นเือกลับค่ะ
ปล.1 บริเวณจุดดำน้ำหาดลูกลมวันนี้มีน้ำน้อยค่ะ
ปล.2 น้ำทะเลที่นี่เค็มมาก กินไปหลายอึกตอนดำน้ำ
ปล.3 วันนี้ที่มาเที่ยวแดดไม่แรงมาก มีลมมีเมฆไม่ร้อนมาก สบายเลยค่ะ



มาถึงตอนอาบน้ำล้างตัว บริเวณอาบน้ำจะแยกเป็นชายหญิงอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ค่ะ
มีแสลนสีเขียวๆบังไว้ ทำดีอยู่นะคะ แต่ Open air ค่ะ ได้บรรยากาศมาก
อาบน้ำล้างตัวรวมกัน โดยมังน้ำใบใหญ่ใส่น้ำจืดไว้และขันน้ำให้ตักอาบ
ด้วยความที่น้ำมีน้อย จึงไม่ได้ล้างสะอาดหรือฟอกสบู่มากมาย
แค่ล้างความเค็มออกจากตัวนิดหน่อย ก็เดินมาเปลี่ยนชุด ที่พี่ทหารเอาแสลนเขียวมากั้นเป็นห้องๆไว้ Open air อีกตามเคย
ใจจริงก็เชิลนิดหน่อย แต่ ณ จุดๆนั้นก็เปลี่ยนเถอะค่ะ จะได้สบายตัว
เสร็จเรียบร้อยก็ออกมานั่งเม้าท์ริมหาดกับเพื่อนซักพัก
ทุกคนก็เริ่มทะยอยกลับมารวมตัวกันขึ้นเรือเที่ยวสุดท้ายเดินทางกลับเข้าฝั่งค่ะ



เมื่อมาถึงฝั่งซักพักก็จะมีรถสองแถวสีฟ้าวิ่งมารับผู้โดยสารภายในศูนย์
ซึ่งเป็นรถเที่ยวสุดท้ายพอดีค่ะ คนจึงอัดแน่นมากๆ
ส่วนเราสองคนก็หิวมากค่ะ เนื่องจากกินข้าวมื้อเช้าไปมื้อเดียว
จึงให้พี่คนขับช่วยจอดรถร้านอาหารให้เราด้วย
เอาร้านที่เขาแนะนำกันว่าอร่อย
สุดท้ายก็มาส่งเราที่ร้านครัวแสมสาร ในเวลา 17.00 น.ค่ะ

ร้านครัวแสมสารอยู่บริเวณเดียวกับบ้านพักรีสอร์ทที่ดูชิคๆ
เป็นห้องสีเหลืองๆ ค่ารถสองแถวคนละ 15 บาทพอดีค่ะ
ไปถึงร้านคนไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแขกที่มาพักที่รีสอร์ท
เราก็จัดการสั่งอาหารเต็มที่ 3 อย่าง
ราคาก็ไม่แพงมา อาหารมาไวใช้ได้ รสชาติดีทีเดียวค่ะ
สิ่งที่สั่งก็ได้แก่ ปลาหมึกย่าง หอยเชลล์อบเนย ต้มยำกุ้ง ข้าว 2 จาน น้ำ 2 ขวด
ค่าเสียหาย 550 บาทค่ะ
ระหว่างรออาหาร เรา 2 คนก็แอบกังวลนิดนึงว่าจะมีรถขากลับกรุงเทพมั้ย
จึงหาข้อมูลในเน็ตลองโทรถามดูส่วนใหญ่ก็แจ้งว่ารถตู้ไปหมอชิตรอบสุดท้ายมีเวลา 18.50 น.
ใจเริ่มเสียนิดๆว่าจะทันมั้ย แต่ก็คิดว่าถ้าอาหารมาเร็วก็น่าจะรอด
เลยโทรไปหาพี่มอเตอร์ไซค์ที่ขอเบอร์ไว้เมื่อเช้าว่าให้ช่วยกลับมารับเราที่ร้านนี้ด้วยตอน 18.30 น.
แต่พออาหารมาและทานกันเสร็จก็แค่ 18.00 น. ก็เลยให้พี่เขามาเร็วขึ้น
พอมาถึงเราก็ชำระเงินค่าอาหารเรียบร้อยพอดี นั่งมอเตอร์ไซค์ซ้อน 2 ตามเดิม
พี่เขาไปส่งเาที่ท่ารถ ค่าเสียหายรอบนี้ 120 บาท (คนละ 60 บาทค่ะ)
ปรากฏว่ามาทันซื้อตั๋วรถนั่งรอซักพักรถตู้ก็มาพอดี
ค่ารถตู้ขากลับก็อยู่ที่คนละ 145 บาทค่ะ
ขึ้นที่แถว บขส. บริเวณ กม. 1 นั่นเองค่ะ

รถรอบนี้มาถึง หมอชิต ประมาณ  21.30 น. พอดีค่ะ
วิ่งเส้นบูรพาวิถีและทางด่วนเช่นเดิมค่ะ

เย้..... เรื่องยาวมากสำหรับ One day trip เกาะแสมสารของสองสาว
เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียวนะคะ
แนะนำว่า "ถ้าใครมีเวลาเที่ยว 2 วัน 1 คืน น่าจะสบายกว่าค่ะ ไม่เหนื่อยเกินไป
และได้แวะชมสถานที่ต่างๆในสัตหีบเพิ่มเติมอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์เต่าทะเล หรือเรือรบหลวงจักรีนฤเบศ ด้วยค่ะ
แต่ถ้าใครอยากไปลองเที่ยวทริปแบบเราก็เตรียมตัวเตรียมใจนะคะ ว่าเหนื่อยนิดนึงค่ะ



สุดท้ายนี้ใครมีอะไรอยากแก้ไขข้อมูลหรือแบ่งปันแชร์กันมาได้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ทริปถัดไปค่ะ

สรุปค่าเสียหาย ต่อคน
ค่ารถตู้ขาไป 160
ค่ามอเตอร์ไซค์ขาไป 75
ค่าอาหารเช้า (จัดเต็ม) 100
ค่าน้ำและขนม 100
ค่าเรือและดำน้ำ 250
ค่าเช่าเก้าอี้ผ้าใบ 20
ค่ารถสองแถว 15
ค่าอาหารทะเล 275
ค่ามอเตอร์ไซค์ขากลับ 120
ค่ารถตู้ขากลับ  145
รวมทั้งสิน 1,260 บาทค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่