สวัสดัครับ ชาว Pantip ทุกท่าน
เริ่มเลยครับ ผมอายุ 38 ปี มีประสบการณ์ประมาณ 10 ปี ในการทำงานจัดซื้อทั้งต่างประเทศและในประเทศ
สาเหตุที่ได้มาทำงานจัดซื้อเนื่องจาก จบ. มหาวิทยลัย Inter มา ภาษาอังกกษจึงถือว่าค่อนข้างดี
และงานที่แรกที่เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อต่างประเทศ หัวหน้างานเป็น ผู้หญิง แต่ผู้จัดการเป็นผู้ชาย
(ผมอยู่กะแม่มากกว่าพ่อครับ เพราะพ่อ มีอีกบ้านนึง ก็เป็นไปได้ว่า ผมอาจจะมีนิสัยไปในทาง ญ เหมือนแม่คือเห็นอกเห็นใจคน เข้าอกเข้าใจคนมากกว่า ช ทั่วไป)
ผมเปลี่ยนงานมาประมาณ 4 ที่ ที่ทำมาทั้งหมดเป็นจัดซื้อต่างประเทศ / ในประเทศหมด บางที่ไม่มีปํญหาอะไรเลยแค่ UP เงินเดือน แต่บางที่ปัญหาที่เกิดก็ซ้ำๆ เดิมๆ คือ
1. ผมเป็นคนที่มีนิสัยเป็นกันเองร่าเริงกับทุกๆคนและเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกคนและพยายามผูกมิตรกับทุกคนให้มากที่สุด
2. แต่ผมก็เป็นคนโกรธง่ายหายเร็วไม่ได้คิดอะไรมากมาย (แต่คนเราไม่เหมือนกันเราไม่คิด เค้าอาจจะคิด)
3. อีกนิสัยแย่ของผมที่กล้าพูดเลยเป็นคนไม่เก็บอารมร์ เป็นคนปากหมา ด่าเจ็บๆ เข็ดๆ แรงๆ เรียกว่าเอาแบบ สะใจกันไปเลย จัดว่าเลว 5555
4. แต่ผมถ้าไม่สุดๆ จริงก้อจะเป็นคนไม่โกรธแค้นใครง่ายๆ ชอบช่วยเหลือคนอื่น
ปัญหาที่เกิดซ้ำซากกับงานเกือบทุกที่ไปทำคือ ผมจะออกจากงานเพราะมีปัญหากับ ผู้หญิงในแผนกเสมอ เริ่มต้นดีมาก พอคุยเล่นกันดี ช่วยเหลือกันมาตลอด เงินทอง ทุกอย่าง ไปรับโนน่นี่
บางทีผมก็ถูกหลอกใช้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก้อยอมทน นิดหน่อยช่างมัน เคยขับรถไปทำงาน ฉะเชิงเทราเพราะ เพื่อนจะได้มีรถไปกินข้าวเที่ยงกัน (บางที่ที่ออกมา เป็นสาเหตุปัญหากะเพื่อนรวมงาน)
1. อยู่ดีๆ กลุ่มเพื่อน ญ ในแผนก ไม่พูดกะผม คือ พูดนะครับแต่ไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไป
2. พอผมถามก้อบอกว่าไม่มีอะไร แต่มีอาการไม่พอใจ ตึง ตลอด เช่นการพูดกระแทกเสียง ชักสีหน้า สารพัด
3. คนที่เคยดีกับผมอยู่ดีดีก้อโกรธทั้งที่ไม่ได้เคยทะเลาะกัน หาสาเหตุไม่ได้
a. ผมเชื่อว่าต้องโดนหวานล้อมให้โกรธตามกัน จากต้นต่อคนที่ไม่พอใจผม
b. บางที่ ผู้จัดการ ญ ผมเองไม่พอใจเพราะรู้ว่าผมกำลังจะได้ Promote จาก Assist Mgr เป็น Mgr เลยทำอาการตึงและหวานล้อมคนอื่นๆ ภายในแผนกให้ตึงใส่ผม เพื่อเป็นการกดดันผมให้ออก
i. ซึ่งผมก้อบ้าจี้ออกเพราะความโมโห 555 เพราะได้งานใหม่ด้วย
4. ***แต่มาที่ล่าสุด กดดันกว่าทุกที่เลย*** ผู้จัดการ ญ ผม เป็นคนที่ปมด้อยเยอะไม่มีคนชอบ แต่เป็นสามีฝ่ายบุคคล เลยไม่มีใครกล้ากับแก
แกไม่ชอบผมเพราะผมสัมภาษณ์กับ ผู้จัการ ญ อีกคน ซึ่งกำลังจะออกอีก 1 เดือน (ซึ่งผมเคารพท่านมาก ถ้าผมรู้ว่าจะออก คงจะไม่มา)
*** เรื่องมีอยู่ว่าก่อนเกิดเหตุ ***
a. แกเริ่มกัด และนินทาผม ทุกวิธีทางเช่น
i. แซวว่าเป็น ตุ๊ด
ii. เกย์
iii. หน้าเหมือนเบนชลา
iv. หน้าเหมือนอาจารย์ยิ่งศักดิ์
v. แอบชอบกระเทยในบริษัท
vi. สีโปรดปรานคือสีม่วง
vii. ล่าสุดผมจีบสาวใน facebook และนัดเจอกันไปเที่ยวและก้อจบด้วยม่ายรูดด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย....แจ๋ม ... ^-^ ผมก้อเล่าให้เพื่อนๆ ผู้หญิงในแผนกฟังว่า ไปกะสาวสวยมา…เพื่อนๆ ก้อขำ เขินกัน อยากรู้กันใหญ่ทุกรายละเอียด ผมก้อเล่าๆไป แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ แกมาได้ยินรีบทันทีทันใด แกรีบให้เล่าเลยเพราะแกต้องการเป็นที่ 1 ต้องการเด่นในทุกๆ เรื่องของทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความสวย รวย พร้อม วิธีคิด ฉลาด เรียกว่า Ms. Perfectionist ครับ ผมก้อเล่าไป อายไป
1. แกก้อด่าผม ว่า ** เทอไม่ต้องมาอายชั้นหรอกอายตัวเองเหอะ **
2. ผมก้อ สวนไป ว่า***** ด้านได้อายอดครับพี่ **** แก โกรธทันที เริ่มหางานกัดผมเรื่องอื่น
viii. บริษัทผมมีงานปีใหม่ ธีม มันต์รักลุกทั่ง ช่างกล้อง บริษัท ถ่ายรุป คนสวยสวย ไปอัดขยายใหญ่มาแจก (เพราะว่าเค้าล้างรูปจำนวนมากได้แถม อัดรูปใหญ่ฟรี)
1. แกก้อเอาเรื่องนี้มาด่าผมว่าเนี่ยดูซะ หัด Sport แบบคนอื่นเค้าบ้าง.................................
2. ผมเริ่มโกรธเล็กๆละ เลยสวนทันที ว่า เนี่ยผม Sport กับบางคนเท่านั้นครับ แกโกรธหนักหน้าคว่ำเลย
ix. ต่อมาทำให้เกิดการแตกหัก แต่สร้าง LINE GROUP แล้วตั้งชื่อกลุ้มว่า Girl Gang แล้วAdd ผม เข้าไปในกลุ่มด้วย แล้วแกก้อคุยเรื่องเค้ก เรื่อง ทุกอย่างเกี่ยวกะ ญ กรี๊ดกร๊าดกันตลอดและลงท้ายด้วยการกัดผม
1. จนล่าสุดแกส่ง รุปอักษรภาษาอังกฤษ ทายนิสัยจากชื่อเล่นให้ น้องๆ ทุกคน ซึ่ง บางคนก้อ ได้คำทายว่า หลายใจ เจ้าชู้ แรด เซ็กซ์จัด แต่ละอันก้อดูแรงแต่ไม่แย่ ผมก้อเลยดูอักษร ชื่อผมบ้างสิ ห่าเห้ย ด่าตรูนี่หว่า ****** อักษรตัว J = เอาไม่เป็น
2. ****** ผมโกรธจริงละคัยที่นี้ ผม ออกจาก การสนทนา LINE GROUP ทันทีและมีผลต่อวันต่อไปของการทำงานผมเลย
x. สงครามจิตวิทยาเริ่มเกิด
1. แก Lobby ทุกคนเท่าที่ทำได้ ให้ไม่พูดกะผม ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
a. ผมก็เลยไปถามๆ คนโนน้นคนนี้เท่าที่รู้... และอึ้งคือ คนทั้งโรงงานไม่มีใครชอบแกเลย เพราะแกเป็นคนคิดกับทุกเรื่อง ทุกคน คือแกเป็นคนมีปมสมัยเด็กและมีลูกให้สามีไม่ได้
b. ผมเลยวางแผนกะหัวหน้าเก่าของผม โดยการเรารูปถ่ายคู่ของเราขึ้น Wall paper ให้แกเห็นเวลาเดินผ่านไปมา (หัวหน้าที่ผมเล่าว่ากำลังจะออกอีก 1 เดือน ก้อเพราะ แกนี่แหละ ทำให้หัวหน้านี้ไม่อยากอยู่ แต่ หัวหน้าคนนี้มีบทบาทกะแกมาก เพราะเป็น Idol ของแก เพราะ copy ทุกอย่างการแต่งตัววิธีพูดแต่ไม่ยัก COPY นิสัย 555 )
c. พอแกให้รู้ที่โทไปหาหัวหน้าเก่าที่ออกไปแล้วว่าผมเอารูปคู่ขึ้น ระวังจะโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือ
2. แกจัดเลี้ยงวันเกิดลูกน้องตนเองมื้อเที่ยง ในโรงอาหาร โดยไม่ชวนผมและปล่อยให้ผมกินข้าวมือเที่ยงเพียงคนเดียว...
3. วันที่ผมไม่มา (ลาไปสัมภาษณ์ 555 ) มีการเลี้ยงวันเกิดอีก และถ่ายรุปลง FACEBOOK และ TAG คนอื่นที่เป็นเพื่อนผมมาให้ผมเห็น ( แกกะ ลูกทีมในแผนก ไม่ ได้เป็นเพื่อนกันใน FACE )
a. ผมก็เลยแก้เผ็ดโดยการ share คำด่าที่เค้าด่าๆ กันในเนท ประมาณว่า นินทาหลับหลังระวังกรรมจะตามทัน 5555
4. แกก้อให้ ลูกน้องแก ขึ้นตอบโต้ ด่าคนอื่นไม่ดูตัว โน่นนี่
5. ปล่อยข่าวว่าผมจีบ คนในแผนกแต่สาวไม่เล่นด้วย ผมจีบนะครับแต่ คนละแผนกกัน
6. ตอนนี้ เหตุการเริ่มบานปลายกระทบเรื่องงานละคือว่า
a. แกส่ง ลูกน้องแกไปอบรมข้างนอก โดยไม่ส่งผม
b. แกเริ่มมอบหมายงานเพิ่มให้คนอื่นโดนไม่ให้ผม
c. และดูเหมือน จะมีการลดงานเดิมที่เคยให้ผม เอาไปทำเอง(แกจะเป็นประเภท Screen งาน โชว์ Perfermace เอาไว้ทำคนเดียว)
ผมอยากจะบอกว่า ผมเป็นคนที่โดนกด โดนจิก โดนด่ามาตลอด แต่ผมไมได้ตอบโต้ไม่เคยเอาแกไปด่าลับหลัง จนผมทนไม่ไหวเริ่มตอบโต้ไป และมาระบายกะอื่นจึงได้รับรู้ว่า แกด่าว่าผมลับหลังมานานแล้ว ผมเองก้อไม่เข้าใจว่าผมไปทำอะไรผิดถึงต้องมาโดนแบบนี้ นะจะเป็นเพราะผมเคารพและปลื้มหัวหน้าคนที่ออกไปมาก
แต่ผมเองก้อมีภาระที่บ้านมากมาย กะไว้อยู่แล้วว่าทำงานที่นี่ซักปีกว่าๆ ให้ Resume มันสวยหน่อยก็จะหางานใหม่เพราะว่า ทีแรก ทำที่เก่าแต่รถรับส่งมันเลิกก้อเลยลาออกมาได้ที่นี่ ตำแหน่งน้อยกว่าเดิม เงินเดือน มากกว่าเดิม ห้าพันก้อเลยตัดสินใจทำ
แต่ผมก็มีเป้าหมายของผมตอนนี้เงินเดือน เฉลี่ยประมาณสี่หมื่น .... ผมต้องการไปให้ถึง หกหมื่นเพื่อให้ที่บ้านของผมสบาย (ผมยังโสดมีแม่คนเดียว มีแฟนแต่ยังไม่ได้อยู่และแต่งกัน)
ถามว่า จริงๆแล้ว เรื่องที่เกิดไม่จำเป็นต้องออกจากงานก้อได้ มันเป็นเรื่องไรสาระ ของ สงคราม ญ รบกวนจิตใจ แต่ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหายหรือทำทุจจริตอะไร แต่ความก้าวหน้า ตอนนี้ไม่มีแน่นอน 100% และถึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ความก้าวหน้า ก้อไม่บรรลุเป้าหมายความก้าวหน้าทางอาชีพของผมอยู่ดี
ผมเฉยๆ ไปได้เดือนนึงละคับ คิดว่าสักพักอะไรจะดีขึ้น
ขอขอบคุณผู้อ่าน ชาว PANTIP ทุกท่านที่สละเวลา และขอให้ประสบการณ์ชีวิตในการทำงานของผม เป็นข้อคิดเป็นการเรียนรู้ในการเข้าใจปัญหาเพื่อนการปรับตัวสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ไม่มากก้อน้อยครับ หากมีข้อเสนอแนะตำชมด่าทอแนะนำตักเตือน เปิดใจกว้างรับความคิดเห็น 100% เลยครับ
ขอบคุณครับ
กรรมกร Office คนหนึ่ง
ที่อยากรวยเหมือนเค้าบ้าง
ปัญหาของผู้ชาย ที่มีเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าเป็นผู้หญิงหมู่มาก (แผนกจัดซื้อ)
เริ่มเลยครับ ผมอายุ 38 ปี มีประสบการณ์ประมาณ 10 ปี ในการทำงานจัดซื้อทั้งต่างประเทศและในประเทศ
สาเหตุที่ได้มาทำงานจัดซื้อเนื่องจาก จบ. มหาวิทยลัย Inter มา ภาษาอังกกษจึงถือว่าค่อนข้างดี
และงานที่แรกที่เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อต่างประเทศ หัวหน้างานเป็น ผู้หญิง แต่ผู้จัดการเป็นผู้ชาย
(ผมอยู่กะแม่มากกว่าพ่อครับ เพราะพ่อ มีอีกบ้านนึง ก็เป็นไปได้ว่า ผมอาจจะมีนิสัยไปในทาง ญ เหมือนแม่คือเห็นอกเห็นใจคน เข้าอกเข้าใจคนมากกว่า ช ทั่วไป)
ผมเปลี่ยนงานมาประมาณ 4 ที่ ที่ทำมาทั้งหมดเป็นจัดซื้อต่างประเทศ / ในประเทศหมด บางที่ไม่มีปํญหาอะไรเลยแค่ UP เงินเดือน แต่บางที่ปัญหาที่เกิดก็ซ้ำๆ เดิมๆ คือ
1. ผมเป็นคนที่มีนิสัยเป็นกันเองร่าเริงกับทุกๆคนและเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกคนและพยายามผูกมิตรกับทุกคนให้มากที่สุด
2. แต่ผมก็เป็นคนโกรธง่ายหายเร็วไม่ได้คิดอะไรมากมาย (แต่คนเราไม่เหมือนกันเราไม่คิด เค้าอาจจะคิด)
3. อีกนิสัยแย่ของผมที่กล้าพูดเลยเป็นคนไม่เก็บอารมร์ เป็นคนปากหมา ด่าเจ็บๆ เข็ดๆ แรงๆ เรียกว่าเอาแบบ สะใจกันไปเลย จัดว่าเลว 5555
4. แต่ผมถ้าไม่สุดๆ จริงก้อจะเป็นคนไม่โกรธแค้นใครง่ายๆ ชอบช่วยเหลือคนอื่น
ปัญหาที่เกิดซ้ำซากกับงานเกือบทุกที่ไปทำคือ ผมจะออกจากงานเพราะมีปัญหากับ ผู้หญิงในแผนกเสมอ เริ่มต้นดีมาก พอคุยเล่นกันดี ช่วยเหลือกันมาตลอด เงินทอง ทุกอย่าง ไปรับโนน่นี่
บางทีผมก็ถูกหลอกใช้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก้อยอมทน นิดหน่อยช่างมัน เคยขับรถไปทำงาน ฉะเชิงเทราเพราะ เพื่อนจะได้มีรถไปกินข้าวเที่ยงกัน (บางที่ที่ออกมา เป็นสาเหตุปัญหากะเพื่อนรวมงาน)
1. อยู่ดีๆ กลุ่มเพื่อน ญ ในแผนก ไม่พูดกะผม คือ พูดนะครับแต่ไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไป
2. พอผมถามก้อบอกว่าไม่มีอะไร แต่มีอาการไม่พอใจ ตึง ตลอด เช่นการพูดกระแทกเสียง ชักสีหน้า สารพัด
3. คนที่เคยดีกับผมอยู่ดีดีก้อโกรธทั้งที่ไม่ได้เคยทะเลาะกัน หาสาเหตุไม่ได้
a. ผมเชื่อว่าต้องโดนหวานล้อมให้โกรธตามกัน จากต้นต่อคนที่ไม่พอใจผม
b. บางที่ ผู้จัดการ ญ ผมเองไม่พอใจเพราะรู้ว่าผมกำลังจะได้ Promote จาก Assist Mgr เป็น Mgr เลยทำอาการตึงและหวานล้อมคนอื่นๆ ภายในแผนกให้ตึงใส่ผม เพื่อเป็นการกดดันผมให้ออก
i. ซึ่งผมก้อบ้าจี้ออกเพราะความโมโห 555 เพราะได้งานใหม่ด้วย
4. ***แต่มาที่ล่าสุด กดดันกว่าทุกที่เลย*** ผู้จัดการ ญ ผม เป็นคนที่ปมด้อยเยอะไม่มีคนชอบ แต่เป็นสามีฝ่ายบุคคล เลยไม่มีใครกล้ากับแก
แกไม่ชอบผมเพราะผมสัมภาษณ์กับ ผู้จัการ ญ อีกคน ซึ่งกำลังจะออกอีก 1 เดือน (ซึ่งผมเคารพท่านมาก ถ้าผมรู้ว่าจะออก คงจะไม่มา)
*** เรื่องมีอยู่ว่าก่อนเกิดเหตุ ***
a. แกเริ่มกัด และนินทาผม ทุกวิธีทางเช่น
i. แซวว่าเป็น ตุ๊ด
ii. เกย์
iii. หน้าเหมือนเบนชลา
iv. หน้าเหมือนอาจารย์ยิ่งศักดิ์
v. แอบชอบกระเทยในบริษัท
vi. สีโปรดปรานคือสีม่วง
vii. ล่าสุดผมจีบสาวใน facebook และนัดเจอกันไปเที่ยวและก้อจบด้วยม่ายรูดด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย....แจ๋ม ... ^-^ ผมก้อเล่าให้เพื่อนๆ ผู้หญิงในแผนกฟังว่า ไปกะสาวสวยมา…เพื่อนๆ ก้อขำ เขินกัน อยากรู้กันใหญ่ทุกรายละเอียด ผมก้อเล่าๆไป แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ แกมาได้ยินรีบทันทีทันใด แกรีบให้เล่าเลยเพราะแกต้องการเป็นที่ 1 ต้องการเด่นในทุกๆ เรื่องของทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความสวย รวย พร้อม วิธีคิด ฉลาด เรียกว่า Ms. Perfectionist ครับ ผมก้อเล่าไป อายไป
1. แกก้อด่าผม ว่า ** เทอไม่ต้องมาอายชั้นหรอกอายตัวเองเหอะ **
2. ผมก้อ สวนไป ว่า***** ด้านได้อายอดครับพี่ **** แก โกรธทันที เริ่มหางานกัดผมเรื่องอื่น
viii. บริษัทผมมีงานปีใหม่ ธีม มันต์รักลุกทั่ง ช่างกล้อง บริษัท ถ่ายรุป คนสวยสวย ไปอัดขยายใหญ่มาแจก (เพราะว่าเค้าล้างรูปจำนวนมากได้แถม อัดรูปใหญ่ฟรี)
1. แกก้อเอาเรื่องนี้มาด่าผมว่าเนี่ยดูซะ หัด Sport แบบคนอื่นเค้าบ้าง.................................
2. ผมเริ่มโกรธเล็กๆละ เลยสวนทันที ว่า เนี่ยผม Sport กับบางคนเท่านั้นครับ แกโกรธหนักหน้าคว่ำเลย
ix. ต่อมาทำให้เกิดการแตกหัก แต่สร้าง LINE GROUP แล้วตั้งชื่อกลุ้มว่า Girl Gang แล้วAdd ผม เข้าไปในกลุ่มด้วย แล้วแกก้อคุยเรื่องเค้ก เรื่อง ทุกอย่างเกี่ยวกะ ญ กรี๊ดกร๊าดกันตลอดและลงท้ายด้วยการกัดผม
1. จนล่าสุดแกส่ง รุปอักษรภาษาอังกฤษ ทายนิสัยจากชื่อเล่นให้ น้องๆ ทุกคน ซึ่ง บางคนก้อ ได้คำทายว่า หลายใจ เจ้าชู้ แรด เซ็กซ์จัด แต่ละอันก้อดูแรงแต่ไม่แย่ ผมก้อเลยดูอักษร ชื่อผมบ้างสิ ห่าเห้ย ด่าตรูนี่หว่า ****** อักษรตัว J = เอาไม่เป็น
2. ****** ผมโกรธจริงละคัยที่นี้ ผม ออกจาก การสนทนา LINE GROUP ทันทีและมีผลต่อวันต่อไปของการทำงานผมเลย
x. สงครามจิตวิทยาเริ่มเกิด
1. แก Lobby ทุกคนเท่าที่ทำได้ ให้ไม่พูดกะผม ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
a. ผมก็เลยไปถามๆ คนโนน้นคนนี้เท่าที่รู้... และอึ้งคือ คนทั้งโรงงานไม่มีใครชอบแกเลย เพราะแกเป็นคนคิดกับทุกเรื่อง ทุกคน คือแกเป็นคนมีปมสมัยเด็กและมีลูกให้สามีไม่ได้
b. ผมเลยวางแผนกะหัวหน้าเก่าของผม โดยการเรารูปถ่ายคู่ของเราขึ้น Wall paper ให้แกเห็นเวลาเดินผ่านไปมา (หัวหน้าที่ผมเล่าว่ากำลังจะออกอีก 1 เดือน ก้อเพราะ แกนี่แหละ ทำให้หัวหน้านี้ไม่อยากอยู่ แต่ หัวหน้าคนนี้มีบทบาทกะแกมาก เพราะเป็น Idol ของแก เพราะ copy ทุกอย่างการแต่งตัววิธีพูดแต่ไม่ยัก COPY นิสัย 555 )
c. พอแกให้รู้ที่โทไปหาหัวหน้าเก่าที่ออกไปแล้วว่าผมเอารูปคู่ขึ้น ระวังจะโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือ
2. แกจัดเลี้ยงวันเกิดลูกน้องตนเองมื้อเที่ยง ในโรงอาหาร โดยไม่ชวนผมและปล่อยให้ผมกินข้าวมือเที่ยงเพียงคนเดียว...
3. วันที่ผมไม่มา (ลาไปสัมภาษณ์ 555 ) มีการเลี้ยงวันเกิดอีก และถ่ายรุปลง FACEBOOK และ TAG คนอื่นที่เป็นเพื่อนผมมาให้ผมเห็น ( แกกะ ลูกทีมในแผนก ไม่ ได้เป็นเพื่อนกันใน FACE )
a. ผมก็เลยแก้เผ็ดโดยการ share คำด่าที่เค้าด่าๆ กันในเนท ประมาณว่า นินทาหลับหลังระวังกรรมจะตามทัน 5555
4. แกก้อให้ ลูกน้องแก ขึ้นตอบโต้ ด่าคนอื่นไม่ดูตัว โน่นนี่
5. ปล่อยข่าวว่าผมจีบ คนในแผนกแต่สาวไม่เล่นด้วย ผมจีบนะครับแต่ คนละแผนกกัน
6. ตอนนี้ เหตุการเริ่มบานปลายกระทบเรื่องงานละคือว่า
a. แกส่ง ลูกน้องแกไปอบรมข้างนอก โดยไม่ส่งผม
b. แกเริ่มมอบหมายงานเพิ่มให้คนอื่นโดนไม่ให้ผม
c. และดูเหมือน จะมีการลดงานเดิมที่เคยให้ผม เอาไปทำเอง(แกจะเป็นประเภท Screen งาน โชว์ Perfermace เอาไว้ทำคนเดียว)
ผมอยากจะบอกว่า ผมเป็นคนที่โดนกด โดนจิก โดนด่ามาตลอด แต่ผมไมได้ตอบโต้ไม่เคยเอาแกไปด่าลับหลัง จนผมทนไม่ไหวเริ่มตอบโต้ไป และมาระบายกะอื่นจึงได้รับรู้ว่า แกด่าว่าผมลับหลังมานานแล้ว ผมเองก้อไม่เข้าใจว่าผมไปทำอะไรผิดถึงต้องมาโดนแบบนี้ นะจะเป็นเพราะผมเคารพและปลื้มหัวหน้าคนที่ออกไปมาก
แต่ผมเองก้อมีภาระที่บ้านมากมาย กะไว้อยู่แล้วว่าทำงานที่นี่ซักปีกว่าๆ ให้ Resume มันสวยหน่อยก็จะหางานใหม่เพราะว่า ทีแรก ทำที่เก่าแต่รถรับส่งมันเลิกก้อเลยลาออกมาได้ที่นี่ ตำแหน่งน้อยกว่าเดิม เงินเดือน มากกว่าเดิม ห้าพันก้อเลยตัดสินใจทำ
แต่ผมก็มีเป้าหมายของผมตอนนี้เงินเดือน เฉลี่ยประมาณสี่หมื่น .... ผมต้องการไปให้ถึง หกหมื่นเพื่อให้ที่บ้านของผมสบาย (ผมยังโสดมีแม่คนเดียว มีแฟนแต่ยังไม่ได้อยู่และแต่งกัน)
ถามว่า จริงๆแล้ว เรื่องที่เกิดไม่จำเป็นต้องออกจากงานก้อได้ มันเป็นเรื่องไรสาระ ของ สงคราม ญ รบกวนจิตใจ แต่ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหายหรือทำทุจจริตอะไร แต่ความก้าวหน้า ตอนนี้ไม่มีแน่นอน 100% และถึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ความก้าวหน้า ก้อไม่บรรลุเป้าหมายความก้าวหน้าทางอาชีพของผมอยู่ดี
ผมเฉยๆ ไปได้เดือนนึงละคับ คิดว่าสักพักอะไรจะดีขึ้น
ขอขอบคุณผู้อ่าน ชาว PANTIP ทุกท่านที่สละเวลา และขอให้ประสบการณ์ชีวิตในการทำงานของผม เป็นข้อคิดเป็นการเรียนรู้ในการเข้าใจปัญหาเพื่อนการปรับตัวสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ไม่มากก้อน้อยครับ หากมีข้อเสนอแนะตำชมด่าทอแนะนำตักเตือน เปิดใจกว้างรับความคิดเห็น 100% เลยครับ
ขอบคุณครับ
กรรมกร Office คนหนึ่ง
ที่อยากรวยเหมือนเค้าบ้าง