ผัวของศิ (นิโคร เทริโอ้) อยู่ดีๆก็หายไปในคืนฝนตก เธอเลยไปแจ้งความและตามพี่ของผัวเธอ (พงพัฒน์ วชิรบรรจง) มาช่วย ระหว่างการตามหา ศิเริ่มสนิทสนมกับบุตร (สิริยากร พุกกะเวส) เมียของพี่ผัว
เนื้อเรื่องเป็นแนวสืบสวน-สอบสวน โดยใช้ตัวละครศิเป็นตัวเดินเรื่อง แม้จะเป็นแนวนี้หลักๆแต่หนังสามารถทำอะไรที่ดูต่างไปจากแนวสืบสวนทั่วไป สิ่งที่สัมผัสได้หลักๆคือบรรยากาศของหนัง ที่ดูจะแหม่งๆไปทางหนังอาร์ตที่ดูยาก เช่นการเดินเรื่องที่ไม่ค่อยอธิบายอะไรมาก ไม่อธิบายเวลาหรือรอยต่อของหนังที่ชัดเจน มุมกล้องที่ชอบซูมใกล้สิ่งของต่างๆแม้กระทั่งการเคลื่อนกล้องซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนภาพในแต่ละซีนของเหตุการณ์ก็ยังทำจากวัตถุที่อยู่ใกล้ ไม่ค่อยจะเห็นภาพกว้างๆในหนังเท่าไหร่ เหล่านี้เมื่อบวกกับบรรยากาศที่อึมครึม ฝนตก ลมพัด อาจชวนให้หลับได้ แต่สำหรับผมคิดว่ามันโอเคเลย มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังมันน่าติดตาม พูดง่ายคือดูเพลินเหมือนชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง(แม้หนังจะไม่มีภาพวิวทิวทัศน์สักเท่าไหร่)
ส่วนเนื้อเรื่องของหนังก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นงานโชว์บทอยู่แล้ว การวางเงื่อนงำหรือการล่อหลอกคนดูก็ทั่วไป มีทิ้งไว้บ้างตามทาง หลายคนที่ชอบเดาตอนจบก็คงเดาไม่ยากถ้าตั้งใจตะบี้ตะบันจะเดา สำหรับผมคิดว่ามันเป็นงานโชว์การกำกับที่ทำให้บทที่ธรรมดาดูมีอะไรที่น่าสนใจ จนพอดูไปกลางๆเรื่องผมเพลินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครนำหญิงสองตัวจนไม่ได้นึกถึงเนื้อเรื่องเลย และหลังจากเพลิดเพลินพอสมควรพอหนังถึงตอนเฉลยผมคิดว่ามันยังได้อยู่ ไม่โดด ด้วยความไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเฉลยให้อึ้งหรือช็อคหรือต้องอุทานคำหยาบตอนนั้น ผมแค่รู้สึกว่า เออ ก็ดี และขอชมการกำกับภาพตอนนั้นว่าแนวดี ชอบเลย
การแสดงก็ทำได้ดีทุกคน โดยเฉพานักแสดงนำทั้งสาม เอาแค่ผมเชื่อก็พอแล้วไม่ต้องถึงขนาดใส่อารมณ์เพื่อทำให้รู้สึกถึงพลังหรอก
สรุปสำหรับผมคือเพลิดเพลิน ถูกจริตพอสมควร การกำกับทำให้หนังโดดเด่นได้แม้บทจะธรรมดาๆ. ..สมราคาที่ติด 100 หนังไทยที่ควรดู
คืนไร้เงา (2546) หนังสืบสวนที่พาชมวิวข้างทาง
เนื้อเรื่องเป็นแนวสืบสวน-สอบสวน โดยใช้ตัวละครศิเป็นตัวเดินเรื่อง แม้จะเป็นแนวนี้หลักๆแต่หนังสามารถทำอะไรที่ดูต่างไปจากแนวสืบสวนทั่วไป สิ่งที่สัมผัสได้หลักๆคือบรรยากาศของหนัง ที่ดูจะแหม่งๆไปทางหนังอาร์ตที่ดูยาก เช่นการเดินเรื่องที่ไม่ค่อยอธิบายอะไรมาก ไม่อธิบายเวลาหรือรอยต่อของหนังที่ชัดเจน มุมกล้องที่ชอบซูมใกล้สิ่งของต่างๆแม้กระทั่งการเคลื่อนกล้องซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนภาพในแต่ละซีนของเหตุการณ์ก็ยังทำจากวัตถุที่อยู่ใกล้ ไม่ค่อยจะเห็นภาพกว้างๆในหนังเท่าไหร่ เหล่านี้เมื่อบวกกับบรรยากาศที่อึมครึม ฝนตก ลมพัด อาจชวนให้หลับได้ แต่สำหรับผมคิดว่ามันโอเคเลย มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังมันน่าติดตาม พูดง่ายคือดูเพลินเหมือนชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง(แม้หนังจะไม่มีภาพวิวทิวทัศน์สักเท่าไหร่)
ส่วนเนื้อเรื่องของหนังก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นงานโชว์บทอยู่แล้ว การวางเงื่อนงำหรือการล่อหลอกคนดูก็ทั่วไป มีทิ้งไว้บ้างตามทาง หลายคนที่ชอบเดาตอนจบก็คงเดาไม่ยากถ้าตั้งใจตะบี้ตะบันจะเดา สำหรับผมคิดว่ามันเป็นงานโชว์การกำกับที่ทำให้บทที่ธรรมดาดูมีอะไรที่น่าสนใจ จนพอดูไปกลางๆเรื่องผมเพลินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครนำหญิงสองตัวจนไม่ได้นึกถึงเนื้อเรื่องเลย และหลังจากเพลิดเพลินพอสมควรพอหนังถึงตอนเฉลยผมคิดว่ามันยังได้อยู่ ไม่โดด ด้วยความไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเฉลยให้อึ้งหรือช็อคหรือต้องอุทานคำหยาบตอนนั้น ผมแค่รู้สึกว่า เออ ก็ดี และขอชมการกำกับภาพตอนนั้นว่าแนวดี ชอบเลย
การแสดงก็ทำได้ดีทุกคน โดยเฉพานักแสดงนำทั้งสาม เอาแค่ผมเชื่อก็พอแล้วไม่ต้องถึงขนาดใส่อารมณ์เพื่อทำให้รู้สึกถึงพลังหรอก
สรุปสำหรับผมคือเพลิดเพลิน ถูกจริตพอสมควร การกำกับทำให้หนังโดดเด่นได้แม้บทจะธรรมดาๆ. ..สมราคาที่ติด 100 หนังไทยที่ควรดู